หนึ่งเดือนต่อมา
หลังจากที่บ้านและกำแพงถูกซ่อมเสริม มันช่วยทำให้มองเป็นบ้านขึ้นมาทันที ทั้งบ่อน้ำเล็กๆสำหรับเลี้ยงปลา และโต๊ะหินอ่อนใต้ร่มไม้ที่ร่มรื่น
และ แม่นางฝูไป๋ที่มักมานั่งดื่มชาช่วงบ่ายเป็นประจำ นับตั้งแต่ที่ข้าเริ่มทำการซ่อมแซม ก็ได้แม่นางช่วยในการทำอาหารและเครื่องดื่มให้กับช่างก่อสร้าง ทำให้การสร้างเสร็จเร็ว
และด้วยเหตุนั้นทำให้ข้าเลี้ยงอาหารแม่นางเป็นการตอบแทน และนับจากนั้นนางก็มาเล่นที่นี้ทุกครั้งที่มีเวลา และมาทานอาหารด้วยกัน โดยนางจะแบ่งเงินในส่วนของนางและช่วยเตรียมวัตถุดิบ
ในบรรดาเพื่อนบ้านมีเพียงแม่นางแล้วละที่ข้ารู้จัก นางช่างเป็นเหมือนเทพธิดาโดยแท้ และแน่นอนในบางครั้งข้าก็มักไปที่โรงน้ำชาของนางเพื่อสงบจิตใจ
แม่นางฝูไป๋ นางเป็นเจ้าของโรงน้ำชาและร้านอาหารของที่นั้น ด้วยเพราะนางไม่เคยปรากฏตัวจึงทำให้น้อยคนที่จะรู้จักฐานะของนาง
และข้าเคยช่วยชีวิตนางและช่วยสืบคดีให้นางในตอนนั้น แต่นางคงไม่รู้จักข้าเพราะตอนนั้นข้าสวมเครื่องแบบปิดบังตัวตนหนาแน่น นางไม่อาจรู้ว่าเป็นข้าแน่นอนเว้นเสียแต่... ไม่หรอกมั้ง
-เฟิง นั่งอ่านหนังสือใต้ร่มไม้อย่างเงียบๆ สายลมอ่อนๆที่หอบกลิ่นดินกลิ่นหญ้า ทำให้รู้สึกสดชื่น และทำให้รู้สึกอยากทำตัวขี้เกียจ ทว่าเฟิงก็ยังคงนั่งอ่านหนังสืออยู่เงียบ
ฝูไป๋: สวัสดี เจ้าอ่านนิยายด้วยหรือ ข้าคิดว่าเจ้าไม่มีสิ่งที่สดใจเสียอีก
-ท่ามกลางสายลมนั้นก็ได้หอบกลิ่นหอมอ่อนๆและมาพร้อมเสียงทักทายที่ไพเราะ ก่อนที่เจ้าของเสียงจะมานั่งฝั่งตรงข้ามและหยิบอาหารออกมาวางไว้บนโต๊ะ
เฟิง: ไม่ขนาดนั้นหรอก ข้าเพียงสนใจในเรื่องราวของนิยายนะ มันช่วยให้ข้ารู้สึกนุกสนานเวลาที่ได้อ่านมันขอรับ
-เฟิงวางหนังสือลง และมองดูอาหารที่วางมากมายบนโต๊ะ พลางหางตาเหลือบไปเห็นช่วงอกที่เผยออกมา แม้จะเพียงเล็กน้อยแต่ เฟืงเฟิงไม่สนใจ แม้สิ่งนั้นจะทำให้ใจเต้นอย่างบ้าคลั่งก็ตาม
สำหรับแม่นางฝูไป๋ ในสายตาเฟิง นางเป็นสตรีใบหน้าเรียวผมเงายาวดวงตาที่ราวกับมีดวงดาราส่องสว่างในนั้น ผิวพรรณที่ขาวนวล ริมฝีปากชมพูอ่อน และชุดที่เผยทรวดทรงที่เว้าโค้งสวยงาม
และด้วยใบหน้าและความนิ่งสงบในบางครั้ง มันก็ทำให้เฟิงมองว่านางเป็นมากกว่าเพื่อนบ้าน แต่ก่อนที่ความคิดจะถลำลึกมากเกินไป เฟิงก็ได้รีบดึงสติกลับมาเสียก่อน
เฟิง:บุรุษที่ดีต้องไม่มีพิษภัยต่อสตรี
ฝูไป๋:ท่านพูดอะไรหรือเปล่า.?
เฟิง:ไม่มีอะไรขอรับ ข้าเพียงนึกถึงอะไรเรื่อยเปื่อย
ฝูไป๋:ข้าขอถามท่านซักหนึ่งคำถามได้หรือไม่
เฟิง:เชิญท่านกล่าว
ฝูไป๋:เหตุใดช่วงนี้ท่านจึงไปที่หอนางโลมบ่อยจัง
เฟิง: แค่ก แค่ก ข้าไปทานอาหารนะ เพราะบางครั้งข้าก็ชอบทำอะไรง่ายๆจึงไปที่นั้นและสั่งอาหารที่นั้นทาน
ฝูไป๋: ท่านก็บอกข้าสิ เดี๋ยวข้าจะนำอาหารมาให้ท่าน
เฟิง:แม่นาง ระหว่างเราเป็นเพียงเพื่อนบ้าน หากข้ารบกวนท่านเกินไปเช่นนั้นคนอื่นจะมองว่าอย่างไรเล่า มันก็คงไม่พ้นคำนินทาที่ว่าข้าเกาะท่านกิน
-หญิงสาวนั่งเม้มปากก่อนจะพองแก้มและหันหน้าหนี
ทว่าเฟิงนั้นไม่เข้าใจ เพราะเมื่อก่อนก็มักถูกพาไปทานข้าวที่หอนางโลมเป็นประจำทำให้เฟิงไม่เข้าใจความรู้สึกของหญิงสาว
เหยียนอี้: เฟิงอยู่ไหม....
- สตรีสวมชุดองครักษ์สีดำยืนถือกระบี่ตะโกนเรียกเฟิง อยู่นอกบ้าน หลังจากที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามา
ฝูไป๋: เหยียนอี้ไม่ได้เจอกันนานเลย สบายดีไหม
เฟิง:พวกท่านรู้จักกันหรือ
เหยียนอี้:ใช่แล้วละ หรือจะว่าสนิทกันดีละ จะว่าไปเฟิง เจ้าไม่อยากลองไปเป็นองครักษ์ราชวงศ์ดูหรอ ความสามารถของเจ้าน่าจะผ่านได้สบาย
เฟิง: แค่ตำแหน่งผู้ตรวจการอย่างท่านยังแทบไม่มีเวลาพัก หากข้าเข้าไปเป็นองครักษ์ ข้าคงไม่อาจมีวันหยุด แล้วก็เข่าเรื่องเถอะ
เหยียนอี้:ปิดบังเจ้าไม่ได้จริงๆ ข้าต้องการความช่วยเหลือจาก นกฮูก ในการทำภาระกิจกวดล้างนะ
เฟิง:แล้ว อาหาร นกละ
เหยียนอี้: มี
-ฝูไป๋นั่งมองทั้งสองคุยกันเรื่องนกและวนกลับมาเรื่ออาหารด้วยความรู้สึกงุนงง ด้วยปฏิกริยาของเหยียนอี้ที่ดูสนิทสนมกับเฟิงแล้ว ทำให้นางมีความรู้สึกอยากเอาชนะขึ้นมา
นางก้มลงมองหน้าอกของตนก่อนจะมองไปที่เหยียนอี้และยิ้มออกมาอย่างผู้ชนะหนึ่งส่วน
ฝูไป๋:ข้าไม่เชื่อหรอกว่าหน้าอกข้าจะสู้พื้นที่ราบเรียบของเจ้าไม่ได้
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 6
Comments