:ผู้นั้นคือ นริน...จากเผ่าภูตจิ้งจอก
เสียงปรบมือของทุกๆเผ่าที่อยู่ทีนี่ดังสนั่นทำข้าสุขใจแลใจข้าเต้นแรงนักข้าทำอะไรไม่ถูกนอกจากลุกเดินไปรับของรางวัลกับเทพจันทรา
ก่อนหน้านี้เพราะข้าอยู่ไกลเลยเห็นหน้าท่านเทพไม่ชัดนักแต่ตอนนี้เห็นชัดมากเพราะในตอนนี้ข้าและท่านเทพยืนชิดกันมากเมื่อได้เห็นใบหน้าอันงดงามของท่านเทพใกล้แล้วใบหน้าของเขาช่างงดงามยิ่งนักจะมีผู้ใดที่งดงามได้เพียงนี้อีกกันเล่า
:เจ้าจ้องข้านานเกินไปแล้วหนามีอะไรติดอยู่ที่หน้าข้ารึ
:ไม่มีเจ้าค่ะเพียงแต่ข้านั้นกำลังชื่นชมท่านในใจอยู่ความงามบนใบหน้าท่านหากแบ่งปันให้ข้าได้บ้างสักนิดก็คงดีไม่น้อย
:ใยข้าต้องแบ่งปันความงามให้เจ้าเพียงเท่านี้เจ้าก็งามเลิศมากแล้ว
:แต่หากข้างามได้ครึ่งนึงของท่านได้คงดี
:ชมข้าถึงเพียงนี้เจ้าจำข้าไม่ได้รือ
:เราเคยพบด้วยหรือ?
ในขณะที่ข้ากล่าวชมท่านเทพจันทราอยู่นั้นท่านเทพเขาก็ได้พูดประโยคนึงทำให้ข้าชะงักอยู่ครู่หนึงก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าคนที่ข้าเดินชนเมื่อเช้านั้นหน้าตาช่างละม้ายคล้ายกับขายิ่งนัก
:!!!ท่านคือคนที่เดินชนข้าเองรึ
:ใช่แล้วคิดไม่ถึงเลยรึว่าข้าจะเป็นเทพที่เจ้าเลื่อมใส
:เจ้าค่่ะ
:ข้าเองก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าผู้ที่ไม่สนใจใครอย่างเจ้าจะคลั่งไคล้ข้าถึงเพียงนี้.....เอาอย่างนี้เจ้าอยากได้สิ่งใดว่ามาข้าจะเอามาให้เจ้าเอง
:เรียนท่านเทพข้าน้อยไม่อยากได้อะไรเลยเพคะเพียงได้พูดคุยกับท่านเช่นนี้สมใจข้าแล้วเจ้าค่ะ
:พูดได้ดีเฉิงตงจ้าว่านางควรจะได้อะไรเป็นรางวัลรือ
ท่านเทพจันทราได้หันไปถามเทพตะวันด้วยความชอบใจทำเอาเทพตะวันคิดหนักไม่น้อยบางทีท่านทั้งสองไม่ต้องคิดหารางวัลมาให้ข้าก็ได้เมื่อเห็นว่าท่านเทพทั้งสองเป็นเช่นนี้แล้วก็ทำเอาข้าหนักใจแทนมิน้อย
:แล้วแม่นางชอบอะไรรือ
เทพแห่งตะวันถามข้าด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลไพเราะน่าฟังทำเอาข้าอยากจะฟังเสียงของเขาไปเรื่อยๆเลย
:ถ้าชอบมากที่สุดนับพระจันทร์ด้วยรึไม่เจ้าคะ
:จะต้องไม่นับอยู่แล้ว
ข้าถามกลับไปอย่างตรงๆเทพแห่งตะวันก็ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
:ข้าชอบกระดิ่งเจ้าค่ะข้าชอบเสียงของมันแม้ผู้ใดจะบอกว่ามันน่ารำคาญแต่ข้าชอบเสียงของมันมากเจ้าค่ะกจากกระดิ่งข้ายังชอบหิมะด้วยเจ้าค่ะข้าอยากจะบังอาจขอในสิ่งที่เป็นไปมิได้ดูเจ้าค่ะ
ข้าพูดไปอย่างซื่อตรงตามนิสัยเหล่าแขกที่อยู่ในนี้ต่างหันมาให้ความสนใจมากขึ้นและลุ้นว่าข้าจะขออะไรจากเทพแห่งจันทรา
:ได้สิเจ้าลองพูดออกมาข้าะพิจารณาให้
:ข้าอยากเข้าไปเล่นหิมะในหอเยือกเย็นเจ้าค่ะได้รึไม่เจ้าคะ
:ได้สิ...ทุกท่านในที่แห่งนี้โปรดเป็นพยานและรับรู่้ไว้ว่านางผู้นี้สามารถเข้าออกหอเยือกเย็นของข้าได้ตามสะดวก
ท่านเทพจัทราพูดออกมาต่อหน้าเหล่าแขกมากมายทำให้ทุกท่านที่อยู่ที่นี่ต่างฮือฮาบ้างก็กล่าวว่าข้าช่างโชคดีบ้างก็กล่าวว่าข้าล่อลวงบ้างกล่าวว่าข้ามาจากที่ใดกันแน่
:ในเมื่อเจ้าชอบกระดิ่งข้าจะขอมอบกำไลนี้ให้เจ้ามันจะช่วยคุ้มครองเจ้าจากภัยอันตรายทั้งปวงแลมีกระดิ่งมากมายห้อยอยู่เมื่อใครที่ได้ยินเสียงนี้จะรู้ทันทีว่าเป็นเจ้า
ท่านเทพตะวันได้ลุกขึ้นแล้วกล่าวคำข้างต้นออกมาพร้อมเสกของกำไลวงนึงออกมาเมื่อข้าได้เห็นก็เกิดความโลภอยากจะครอบครองยิ่งนักเหมือนมันเป็นของข้าอยู่แล้วยิ่งมองยิ่งผูกพันธ์นัก
:ขอบพระทัยมากเจ้าค่ะ
ข้าก้มคำนับอย่างน้อบน้อมและเผลอแสดงสีหน้าที่พึงพอใจออกมา
:เพียงเท่านี้พอจะสุขสมดั่งใจเจ้าแล้วรือไม่
เทพแห่งจันทราถามข้าพร้อมกับหยกก้อนหนึ่งที่เขาหยิบออกมาจากใต้แผ่นผ้าตรงหน้าอกของเขาและยื้นให้กับข้า
:นี่คือหยกที่ข้าสลักเองมีลวดลายเฉพาะแลมีเพียงข้าที่สลักได้เพียงผู้เดียวข้าให้เจ้าเมื่อใดที่เจ้าจะเข้าหอเยือกเย็นก็จงใช้หยกชิ้นนี้เป็นหลักฐานยืนยันกันมีผู้ใดปลอมแปลงเป็นเจ้า
:เจ้าค่ะ
ข้ายิ้มให้ท่านเทพด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแลสดใจแม้ภายในใจลึกๆของข้าแอบสงสัยง่าเหตุใดท่านเทพทั้งสองดีกับข้าถึงเพียงนี้
ข้ารับของจากเทพทุกองค์ก่อนจะกลับที่ไปนั่งข้างๆพี่สาวข้า ทุกสายตาที่จ้องมาทางข้าทำให้ข้าทำตัวไม่ค่อยถูกเท่าไรนัก
:ข้าบอกแล้วไงเล่าว่าข้าไม่ทำให้ขายหน้าแน่นอน
:ข้าเห็นแล้วเจ้าไปแอบซ้อมการร่ายรำแบบนั้นต้ังแต่เมื่อไหร่กัน
:เอาน่าท่านไม่ต้องรู้หรอก
ข้าคุยกับท่านพี่อยู่สองสามประโยคก่อนที่จะดื่มด่ำกับรสชาติสุราและบรรยากาศของงานเล้ยงในค่ำคืนนี้ต่อ
:ท่านพี่วันนี้ข้าดื่มเยอะไปรึไม่...ข้าดื่มต่อไม่ไหวแล้ว..อึก
:ข้าก็เช่นกันเราลากลับกันเถอะ
:นั้นสินพี่เรากลับกันเถอะ
ข้าละท่านพี่ลุกขึ้นก่อนจะคาราวะลาเหล่าแขกทั้งหมดแม้จะมีสติอยู่บ้างแต่เหมือนปรัสาทการรับรู้ของข้าหมือนจะต้องารให้ข้าพักแล้ว
:ไหวรึไม่
เสียงของท่านเทพจันทราดังขึ้นันพลันนึกขึ้นได้หากแต่ตอนนี้เทพก็คงจะต้องอยู่ในงานเลี้ยงไม่มีทางจะออกมาทักข้าได้หรอก
:ไหวเจ้าค่ะ
พี่ข้าตอบไปดวยน้ำเสียงที่เรียบเผื่อไม่ให้รู้ว่ากำลังเมาอยู่ต่แม้จะเก็บอาการมากแค่ไหนหน้าก็ยังเก็บไม่ไหวอยู่ดี
:ให้ข้าไปส่งเจ้าเถิดเจ้าทั้งสองไม่ไหวแล้วหนา
:ไหวเจ้าค่ะเหตุใดจึงบอกว่าเราไม่ไหวเล่าเจ้าคะ
:สีหน้าเจ้าอย่างไรเล่าหูแลหางของเจ้าโผล่ออกมาไม่รู้ตัวเลยหรือ
ข้าตอบท่านนั้นไปอย่างไม่ได้คิดอะไรแต่เมื่อเขาตอบมาแค่ประโยคเดียวทำข้าแลพี่ข้าสับสนใหญ่แลรีบเก็บหางอย่างไว
:ขออภัยเพคะข้าแลน้องสาวเสียมารยาทต่อหน้าพระพักตร์แล้ว
:ไม่เป็นไร
ท่านพี่รีบก้มคำนับแลรีบกล่ขออภัยทันทีเมื่อได้สติแต่ข้ายังคงดำดิ่งกับพิษราอยู่อย่างนั้นนี่คือสุราอะไรกันแน่ผู้ใดเป็นผู้กลั่นขึ้นมากันแน่หากแต่ข้าหยุดดื่มแล้วแต่เหตุใดจิตใจข้ายิ่งดำดิ่งไปกับความเมาถึงเพียงนี้สติของข้าค่อยๆหลุดหายไป
🔻🔻🔻🔻🔻🔻🔻🔻🔻🔻🔻🔻🔻🔻
ข้าตื่นขึ้นมาในห้องของใครไม่รู้เมื่อข้ามองรอบๆห้องก็พบว่าห้องนี้ประดับไปด้วยของตกแต่งโทนขาวเทาพลันรู้สึกว่ามีอะไรทับมือข้าอยู่ข้าจึงก้มไปมอง
:!!!!
ท่านเทพจันทราได้นั้งหลับข้างๆเตียงที่ข้านอนอยู่ทำเอาตกใจจนรีบดึงมือออกจากมือ่านเทพที่กำลังจับอยู่ึงทำให้เขาตกใจตื่นขึ้น
:ตื่นแล้วรึ
:เหตุใดท่านเทพจึงไม่ไปนอนนห้องท่านหล่ะเจ้าคะ?!
:ก็นี่แหละห้องของข้า
:แล้วเหตุใดจึงไม่ไปนอนห้องอื่นเล่าเจ้าคะ
:ก็เจ้าเอาแต่รั้งข้าไว้มิให้ข้าไปไหนดึงมือข้าอยู่นั้นแถมขู่จะตัดมือข้าหากข้าไม่อยู่ด้วย
:แล้วท่านพี่เล่าเจ้าคะ
:พี่เจ้ามีสติอยู่บ้างแต่ฝากเจ้าไว้กับข้านี้แหละ
:เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้างเจ้าคะ
:เจ้าก็นึกเองเถิด...เหล้าที่เจ้าดื่มเมื่อคืนเป็นเหล้าซูอวี๋
:เหล่าอะไรเจ้าคะ
:เป็นเหล้าที่ดื่มไปแล้วจะออกฤทธิ์หลังจากดื่มแลทวีคูณฤทธิ์เล่าขึ้นเรี่อยๆจนครบหนึ่งชั้วยาม
:เป็นเช่นนี้นี่เอง...ข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะรบกวนท่านแล้วข้าจะรีบจัดการตัวเองแลรีบกลับเผ่า
:อยู่ต่ออีกหน่อยไม่ได้รือ
:ไม่ได้เจ้าค่ะท่านแม่ข้าห่วงแย่
:เดี๋ยวข้าไปส่งก็ได้
:เหตุใดท่านจึงอยากให้ข้าอยู่ต่อเล่า
:ไม่มีอะไร....
:ข้าขอตัวเจ้าค่ะ
หลังข้าพูดจบก็ได้ได้เดินสวนท่านเทพออกมาและออกจากห้องนั้นข้าประหม่ามากไม่ใช่ข้าไม่อยากอยู่ต่อแต่หากมีผู้ใดมารู้เห็นก็คงจะไม่ดีเอาเป็นแน่ ก่อนที่ข้าจะกลับก็ไม่ลืมจะไปลาท่านเทพจันทราก่อน
:หรือผู้ที่บอกว่าเลื่อมใสข้าหนักหนาเหตุใดจึงรีบกลับเช่นนี้เล่า
:ข้าเกรงว่าถ้ามีผู้ใดมารุ้เห็นเข้าคงไม่ดีเป็นแน่เจ้าค่ะ
:งั้นข้าขอปส่งเจ้าได้รึไม่
:ได้สิเจ้าค่ะ
:ไม่ต้องเคร่งมารยาทต่อหน้าข้าหรอก...เรียกข้าว่าปํ๋วตงเถอะ
:เป็นอย่างนั้นได้เช่นไรเล่าเจ้าค่ะข้ามิได้สนิทกับท่าน
:แต่ข้าอยากสนิทกับเจ้า..นริน
:เช่นนั้นข้าก็มิอาจเกรงในท่านแล้วนะ
:ได้สิ
ข้าเริ่มพูดคุยกับเขาได้ลื่นขึ้นสายตาของเขาแลดูแพรสพราวทุกครั้งชั่งน่าดึงดูดเสียจริงหากข้าได้มีวาสนาก็อยากจะจับต้องเขาสักครั้ง"ท่านปั๋วตง"
หลังจากนั้นเขาก็ได้ไปส่งข้าที่เผ่าภูตจิ้งจอกด้วยประตูมิติของเขานตอนที่ข้ากำลังจะเดินเข้าบ้านเสียงของท่านแม่ก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
:กลับมาแล้วหรือ
:ท่านแม่คือว่าข้าเมามากท่านเทพแห่งจันทราเลยให้ข้านอนที่นั้นเสียก่อน
:แล้วเหตุใด้เจ้าจึงไม่กลับมาพร้อมพี่เจ้าเล่า
:คือว่าท่านแม่.....
แย่เสียแล้วสิข้าต้องโดนท่านแม่ดุตายแน่ๆทำอย่างไรดีทำอย่างไรดีปั๋วตงทำอะไรสักอย่างสิขอร้องละช่วยข้าหน่อยข้าส่งสายตาขอความช่วยเหลือให้ท่านถึงเพียงนี้แล้วหนา
:เรียนท่านฮูหยินแห่งภูตจิ้งจอกเหล้าที่นางดื่มเข้าไปเป็นเหล้าซูอวี๋เลยทำให้นางขาดสติอย่างหนักข้าเลยให้พำนักที่ตำหนักข้าเสียก่อน
:ข้าน้อยคาราวะท่านเทพออภัยก่อนหน้านี้ข้าไม่ห็นท่านเลยไม่คิดว่าท่านจะมาด้วย
:มิเป็นไรหรอก...แล้วเจ้าหล่ะนรินตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
ปั๋วตงหันมาถามข้าแลส่งสายตาที่ำลังจะบอกข้าผ่านสายตามาว่าเขาช่วยข้าจัดการแล้วนะต่อจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับข้า
:ตอนนี้ข้าดีขึ้นแล้วขาขอบคุณท่านมากปั๋วตง
:!!!!...เหตุใดเจ้าจึงเรียกท่านเทพแบบนั้น...ลูกของข้าเสียมารยาทแล้ว
ท่านแม่ของข้าดูตกใจกับคำพูดของข้ามากแลรีบขอโทษปั๋วตงทันทีแต่สีหน้าของปั๋วตงแลดูชอบใจนัก
:มิเป็นไรหรอกหนาท่านฮูหยินข้าเป็นคนขอให้นางเรียกแบบนั้นเอง
สีหน้าของท่านแม่ข้าแลดูจะไม่สู้ดียิ่งกว่าเดิมเสียอีกปั๋วตงเองก็รู้เช่นกันว่าควรทำอย่างไรต่อไป
:เอาเป็นว่าข้าแค่มาส่งนางเฉยๆ...นี่คือของขวัญจากเฉิงตงที่จะมอบให้เจ้าข้าขอตัว...
หลังจากที่ท่านเทพพูดจบก็รีบเอากำไลวงนั้นให้ข้าและเปิดประตูวาร์ปกลับทันทีเพราะกลัวว่าสถานการณ์จะแย่กว่านี้
:นรินแม่มีเรื่องจะถามเจ้า......
🔺🔺🔺🔺🔺🔺🔺🔺🔺🔺🔺🔺🔺🔺
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments