:นี่ก็จะถึงเวลาแล้วเจ้าไปเปลี่ยนชุดเถิด
:ข้าไม่อยากเปลี่ยนชุดเลยชุดนี่ไม่ได้หรือ
:นรินเจ้าจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนข้าไม่บังคับแต่นึกถึงหน้าของเผ่าเราด้วย
:ก็ได้ข้าจะไปเปลี่ยน..แล้วท่านพี่หล่ะ
:ข้ากำลังจะไปเปลี่ยนพอดีจึงได้บอกให้เจ้าไปเปลี่ยนพอดีไง
:งั้นข้าไปแล้วนะ
:อืม
ข้าและท่านพี่ได้แยกย้ายกันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแม้ว่าข้าจะตื่นเต้นมากที่จะได้เจอท่านเทพแห่งจันทราแต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าข้าตื่นเต้นที่จะได้โชว์การแสดงของข้าต่อหน้าพระพักตร์ท่านเทพองค์อื่นด้วยเช่นกันถ้าเป็นแบบนี้ข้าจะทำขายหน้ารึไม่นะ
เวลาได้ผ่านไปไวมากตัวข้าเองก็ประหม่าเพราะอีกไม่กี่ก้านธูปข้าและท่านพี่ก็ต้องเข้าไปที่ตำหนักใหญ่ของเทพแห่งจันทราแล้ว
:นรินเจ้ามัวทำอะไรอยู่
เสียงของพี่ข้าเรียกสติข้าทำให้ข้าตกใจ
:ป่าวหรอกข้าแต่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยก็เท่านั้น
:ถึงเวลาที่เราต้องไปกันแล้ว
:ตอนนี้แล้วหรือท่านพี่ไม่เร็วไปหน่อยเรอ
:ผู้ใดกันนะที่บ่นนักบ่นหนาอยสกจะมาที่นี้ให้ได้...ไปได้แล้ว
เราสองตนเริ่มเดินทางไปที่ดังกล่าวระหว่างทางใจข้าเต้นไม่หยุดทำเอาคิดไม่ออกเลยว่าแต่ละคนจะมีสิหน้าอย่างไรมีเผ่าภูติใดมาบ้างจะมีเทพกี่องค์แต่ละตนมีหน้าตาแบบใด เหล่าพวกเขาจะชอบข้ารือไม่รึจะมีผู้ใดเขามาชวนคุยหรือติชมในการแสดงที่ข้าเตรียมมาบ้างนะ
:เหม่ออีกแล้วรึนริน!
เสียงที่แทรกไปด้วยความโมโหและหงุดหงิดของพี่ข้าดึงสติข้าอีกครั้ง
:มีอะไรรือ
:ท่านเทพแห่งตะวันเข้ามาทักพวกเรานานแล้วนะ
:หาา!
:รีบคำนับเสีย
ข้าเงยหน้าขึ้นพบกับชายหนุ่มรูปงานท่านหนึ่งมีเส้นผมสีทองส้ม ดวงตาแดงฉานแต่กลับอ่อนโยน ผิวขาวเนียนเหมือนสำลี นี่หรือเทพแห่งตะวันช่างงดงานยิ่งนักเมื่อสวมอาภรณ์นี่แล้วดูสง่ามาก
^^^เสียมารยาทยิ่งนักพี่เจ้าพูดขนาดนี้แล้วยังไม่ทำตามอีกรึ:^^^
:อะ...ขอประทานอภัยข้าเพียงแต่มัวชื่นชมในความสง่าของท่านข้ามิบังอาจจะหลบหลูท่านแต่อย่างใด
ข้ารีบก้มคำนับและแก้ต่างเพื่อไม่ให้เทพตะวันเข้าใจผิดในตัวข้าแต่ด้วยนำเสียงเมื่อกี้ของเขาแล้วแลดูฟังแล้วไม่ได้เป็นการพูดเพราะหงุดหงิดแต่เพื่อตักเตือนมากกว่าเพราะน้ำเสียงนั้นนุ่มกว่าสำลีเสียอีก
^^^ช่างเถิดแต่หากเจอท่านเทพองค์อื่นเจ้าอย่าได้:^^^
^^^เหม่อแบบนี้อีกเป็นอันขาด^^^
:เจ้าค่ะข้าจะจำคำท่านไว้ขออภัยในการกระทำของข้าเมื่อครู่ด้วย
^^^ไม่เป็นไรรีบเข้าไปเถิดข้าเองก็จะเข้าไปแล้ว:^^^
หลังเขาพูดจบข้าและท่านพี่ได้คำนับเขาอีกครั้งส่วนเขาก็หันหลังเดินเข้างานทันทีเป็นเทพจำเป็นต้องงดงามถึงเพียงนนี้เลยรึ
🔻🔻🔻🔻🔻🔻🔻🔻🔻🔻🔻🔻🔻🔻
"ข้าทราบซึ้งมากที่ทุกคนมางานในครั้งนี้เดิมทีวันนี้ไม่ได้พิเศษอะไรเราจัดขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนได้มารวมตัวกันอีกครั้งในรอบ80ปีท่านใดรู้สึกไม่สบายอย่างใดสามารถบอกได้ข้าจะให้บริวารแก้ปัญหาให้บัดนี้งานได้เริ่มแล้วขอให้มุกคนเชิญสนุกกันเต็มที่ข้าจะขอดื่มเหล้าหนึ่งจอกให้พวกท่าน"
เสียงชายท่านหนึ่งพูดดังมาจากพระที่นั่งของท่านเทพจันทราทำให้ทุกท่านหันไปตามเสียงเมื่อสิ้นสุดเสียงแล้วทุกคนจึงได้ปรบมือและลินเหล้าใส่จอกตนเองข้าและท่านพี่เองก็ทำเช่นนั้นเหมือนกันทุกตนที่อยู่ในที่นี้ยกจอกเหล้ากระดกกันหมด
จากนั้นข้าก็คิดขึ้นได้ว่านั้นก็คือเทพจันทราไม่ผิดแน่แต่เมื่อข้ายิ่งจ้องกลับยิ่งรู้สึกว่าเคยเจอเขาที่ใหนสักแห่งแต่กลับจำไม่ได้ว่าเคยเจอที่ไหน
การแสดงได้เริ่มขึ้นชุดแรกเป็นการร่ายรำของภูตหมาป่าเป็นการแสดงที่งดงามมากด้วยท่าทีร่ายรำของเผ่านั้นแล้วใครกันจะสู้ได้บ้างนะต่อมาเป็นการแสดงบรรงเลงเสียงพิณภูตดอกฟูจิเพียงได้ฟังก็รู้สึกว่าสดชื่นขึ้นเห็นได้ชัดเลยสายตาข้าหันไปเห็นเทพตะวันและเทพจันทราที่นั่งข้างกันพอดี2องค์นั้นกูดูไม่ค่อยถูกกันและไม่ค่อยอินกับการแสดงเสียเท่าไหร่
ผ่านไปแล้วหลายการแสดงจากหลายเผ่าอีกไม่นานก็จะถึงเผ่าข้าแล้วคิดไม่ออกเลยว่าจะมีผู้ใดชื่นชมในการแสดงของข้าบ้าง
:นริน..นรินน...นริน!
:อะไรรึท่านพี่!?
ท่านพี่เรียกข้าอยู่หลายครั้งเป็นเพราะข้าเอาแต่จดจ่ออยู่กับการแสดงและการแสดงของตัวเอง
:เจ้าเหม่ออะไรหนักหนา...ตั้งแต่ตอนมาที่นี่แล้วการแสดงของเจ้าจะไม่มีปัญหาแน่รึ
:ไม่มีแน่ท่านพี่ข้าเตรียมมาดีแล้วข้าเป็นใคร
:อย่าให้เราขายหน้านะ
:ได้เลย
ข้าตอบอย่างมั่นใจแม้จะมีกังวนอยู่บ้างแต่ข้าก็มั่นใจในพลังของข้ามากแม้แต่เหล่าทวยเทพบางคนพลังกายภาพก็มิอาจสู้ข้ารวมถึงพลังเวทด้วยอันที่จริงมั่นใจไว้อย่างนั้นแหละการแสดงของข้าไม่ได้เกี่ยวกับพลังกายภาพกับพลังเวทหรอก
..."ต่อไปเป็นการแสดงของเผ่าจิ้งจอก"...
ข้าตาฝาดรึป่าวที่เทพแห่งตะวันที่ดูจะไม่สนใจการแสดงเมื่อได้ยินประโยคเมื่อครู่ก็หลังตรงและตั้งใจมองลงมา ณ.จุดแสดงทันที
:ข้านรินจากเผ่าจิ้งจอกการแสดงที่ข้าเตรียมมาคือร่ายรำพัดเก้าแฉกทุกท่านเชิญรับชม
หลังข้าพูดจบข้าก็ได้สบัดพัดที่อยู่ในมือทั้งสองข้างออกร่างกายเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงหูแลหางกางออกโดยธรรมชาติ มนต์ที่ร่ายกายที่รำเพิ่มพูลด้วยเสน่ห์หาแสงสีฟ้าที่จ้าจากอัญมณีแทนด้วยดวงตาของข้ากลางกลีบพัดแต่ละกลีบคอยส่องแสงดึงดูดให้ใครที่มองให้ผู้ที่ฟังให้เทพที่ดูให้แมลงที่ดมให้ภูตที่ใกล้เคียงได้หลงใหลแลชื่นชมการร่ายรำของข้าไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็ต้องชายตามองข้าผู้นี้ในที่แห่งนี้ระหว่างที่ข้านั้นร่ายรำ
^^^งดงามยิ่งนัก:^^^
^^^ข้าเองก็ไม่เคยเห็นการร่ายรำแบบนี้มาก่อนเลยช่างงดงามอะไรเพียงนี้:^^^
^^^แม้แต่เทพทั้งสองของเรายังจ้องนางมิวางตาเลย:^^^
^^^จริงด้วยการร่ายรำนี้เพียงข้าได้เห็นก็สุขสมใจมากนักงดงามเสียจริง:^^^
เสียงชื่นชมต่างๆนาๆที่เหล่าเทพและภูตต่างติชมในการร่ายรำของข้าทำให้ข้าสุขใจยิ่งนักที่อย่างน้อยการแสดงของข้าก็ทำให้พวกเขาประทับใจแลชื่นชมไม่ขาดปากด้วยมนต์เสนห์ของข้างที่ร่ายไว้ต้องดึงดูดพวกเขามากเป็นแน่แม้เป็นเทพก็ไม่วายจะแลเนตรมองในการร่ายรำของข้าเมื่อร่วมกับร่างกายที่เคลื่อนใหวอย่างอ่อนพลิ้วหากได้มองแล้วหากจะคลาดสายตาแม้เพียงนิดเดียวคงเสียดายทั้งชวิตเป็นแน่
ข้าร่ายรำระบำพัดตามใจตนเองแม้จะมั่วแต่ก็งดงามแม้จะเดาท่าร่ายรำไม่ได้แต่ก็อิสระแม้จะไม่มั่นคงแต่ก็เสรีแม้จะแตกต่างแต่ก็น่าคะนึงหาแลหลงใหล การร่ายรำระบำพัดเก้าแฉกนี้ข้าเป็นผู้คิดค้นขึ้นมาเองถึงจะงดงามแต่ก็มีข้อเสียอยู่มากหากจิตใจไม่มั่นคงจะทำให้การร่ายรำไม่น่าดูมิหน่ำซ้ำจะทำให้ผู้ที่ชมข่มขื่นจิตใจแลป่วยเป็นวันๆได้
เมื่อการแสดงร่ายรำพัดเก้าแฉกจบลงผู้ที่อยู่ในที่แห่งนี้ต่างปรบมือให้ข้ากันยกใหญ่ข้ารู้สึกพอใจมากย่างน้อยทุกเผ่าที่รวมตัวกันที่นี้็พอใจในการแสดงของข้าเมื่อข้าหันไปมองท่านพี่ของข้าท่านพี่ก็ยิ้มให้ข้าอย่างพอใจ
:ช่างเป็นการร่ายรำที่งดงามยิ่งนัก...นี่รือของดีภูตจิ้งจอก
:นั้นสิหนา..เจ้ามีนามว่าอะไรรือ...น่าชื่นชมยิ่งนักการร่ายรำเมื่อกี้ของเจ้า.......ช่างงดงามยิ่งนัก///// °// °/////
เทพตะวันกล่าวชื่นชมข้าตามด้วยเทพจันทราที่ถามนามของข้าพร้อมกับสีหน้าที่ดูไม่สู้ดี
^^^เทพสององค์นั้นสนใจนางด้วยหรือ:^^^
^^^นั้นสิตั้งแต่แม่ข้ากำเนิดข้ามาข้าพึ้งจะเห็นท่านเทพทั้งสองรู้สึกสนใจสิ่งรอบตัว:^^^
จะว่าไปแล้วข้าหูฝาดรึไม่นะที่เทพทั้งสองพึ่งทักข้าเมื่อครู่ทั้งที่ทุกการแสดงก่อนหน้าท่านเทพทั้งสองต่างก็นั้งนิ้งแทบไม่สนใจด้วยซ้ำ
:ข้ามีนามว่านริน มาจากเผ่าภูตจิ้งจอก...ตัวข้านั้นเป็นจิ้งจอกแดงเก้าหางมักอยู่แต่ในรังไม่ค่อยได้ออกมาข้างนอกบ่อยนักจึงมิค่อยได้เป็นที่รู้จักเท่าไหร่นัก ตัวข้านั้นมีความเลื่อมใสต่อเทพแห่งจันทรามากจึได้อ้อนวอนท่านแม่สุดชีวิตเพื่อมาที่นี่เจ้าค่ะ วันนี้ข้าได้เห็นท่านตัวจริงเสียทีป็นเกียรติมากเจ้าค่ะที่พระองค์ได้กล่าวชื่นชมข้าต่อหน้าแขกในที่แห่งนี้
ประโยคหลังๆข้าได้ลั่นวาจากใจจริงของข้าไปพรางมองหน้าเขาไปด้วย
:อย่างนั้นเองรึ
:เจ้าค่ะ
:เหตุใจเจ้าจึงได้เลื่อมใสข้าเช่นนั้นเล่า
:เพราะข้าชอบไปแอบมองพระจันทร์บนโลกมนุษย์เจ้าค่ะ..พระจันทร์ที่ข้าเห็นงดงามมากเจ้าค่ะข้าจึงมักชื่มชมท่านเสมอว่าหากดวงจันทร์ที่เป็นตัวแทนท่านงดงามมาขนาดนี้ตัวท่านนั้นจะงดงามถึงเพียงไหนกันนะเจ้าค่ะ
:ช่างเข้าใจเรียงคำมาเอาใจข้ายิ่งนักแม่นางท่านนี้
^^^แล้วข้าเล่าเจ้าเอาแต่ชมปั๋วตงใยจึงมิชมข้าบ้าง:^^^
ระหว่างที่ข้าและเทพแห่งจัทราคุยกันอยู่นั้นเทพตะวันได้พูดแทรกด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิดข้าเองก็ปฎิเสธไม่ได้ที่เขาพูดมันก็จริง
:ท่านเองก็งดงามมากเช่นกันเจ้าค่ะคราที่ข้าเห็นท่านครั้งแรกก็ตลึงในความงานที่อยู่บนใบหน้าท่านทำให้ข้าเสียมารยาทต่อหน้าท่านเมื่อครู่ก่อนเข้ามา
:ไม่เป็นไร ช่างน่าเอ็นดูยิ่งนักเข้าใจหาคำมาชมข้าให้ข้าพอใจเจ้าไปพักเถิด
:เจ้าค่ะ
ข้าโค้งคำนับก่อนจะเดินมานั่งที่ของข้าเหล่าแขกทั้งหลายที่อยู่ในนี้ต่างก็อิจฉาและซุบซิบนินทาที่ข้านั้นได้กล่าวบทสนทนากับเทพทั้งองค์นั้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ
หลังทุกการแสดงจบลงมหาเทพก็ได้ลงมาให้รางวัลด้วยตนเองเข้าใจว่าเทพนั้นจะมีใบหน้าที่งดงามแต่เมื่อเปรียบเทียบกับเผ่าทั้วไปแล้วก็ได้แต่สงสัยเหตุใดล่าเทพต้องมีใบหน้าที่งดงามแลพร้อมไปด้วยความสง่าอย่างเต็มเปี่ยม
:เนื่องจากงานนี้เทพแห่งจันทราปั๋วตงเป็นผู้จัดขึ้นเช่นนั้นก็ให้ปั๋วตงเป็นผู้ให้เถิด
มหาเทพได้หันไปบอกเทพแห่งจันทราต่อหน้าเหล่าแขกในที่แห่งนี้
:ในเมื่อมหาเทพพูดขนาดนี้แล้วข้าก็คงมิอาจเลี่ยงได้งั้นข้าจะเป็นผู้ให้เอง
เทพแห่งจันทราได้ลุกขึ้นแลกล่าวประโยคเมื่อครู่ก่อนที่จะลเดินไปตรงที่มหาเทพยืนอยู่แลส่งสายตาให้มหาเทพกลับไปนั้งที่ของท่านก่อนจะมีเสียงหนึ่งดังขึ้น
^^^การแสดงที่มหาเทพประทับใจมากที่สุดแลอยากตบของรางวัล:^^^
^^^มากที่สุดคือ.........^^^
🔺🔺🔺🔺🔺🔺🔺🔺🔺🔺🔺🔺🔺🔺
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments