"ท่าน! ท่านต่างหากที่...ที่...ท่านต่างหากเล่าที่จูบข้า!" เยว่ชิงว่าให้เขาอย่างได้รับความอยุติธรรม
ขณะที่ทั้งสองกำลังเถียงกันไปเถียงกันมา อาจเพราะความหวานซึ้ง ที่สื่อระหว่างพวกเขาทำให้ผู้ฝึกพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งอย่างพวกเขาไม่อาจรับรู้ได้ถึงการมาของบุคคลที่สามในยามนี้
ทว่าบุคคลผู้มาหลังนั้นกลับได้ยินบทสนทนาแจ่มชัด
ทุกประโยค ตั้งแต่ประโยคที่ว่าจูบอะไรนั่น ทำเอานิ้วมือทั้งสิบในแขนเสื้อสีครามเข้มกำแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน ดวงตาของคนผู้นั้นปิดลงอย่างอดทนอดกลั้น
ในบรรดาสกุณาน้อยที่เกาะบนกิ่งก้านอยู่รับรู้ได้ถึงไอสังหารที่พรั่นพึงเบื้องล่าง นกทั้งหลายต่างพากันบินออกห่างจากต้นไม้ต้นนั้นอย่างแตกตื่น
เยว่ชิงและหวังโม่หยวนที่ได้ยิน ก็สัมผัสได้ถึงอันตรายจากทิศทางนั้นเเล้วเช่นกัน พวกเขามองหน้ากันแล้วลุกขึ้น
หวังโม่หยวนจัดแจงอาภรณ์ลายมังกรทองและเหลือบตาหันไปทิศทางนั้น
"ท่านผู้อาวุโสในเมื่อ มาแล้วเหตุใดถึงยังไม่แสดงตัว เล่า หรือว่าท่านชื่นชอบการถ้ำมองข้ากับพระชายา?"
สิ้นเสียงก็มีใบมีดลมที่ผากผ่านอากาศ พุ่งตรงไปยังคอของรัชทายาทด้วยความเร็ว ใบมีดที่ก่อขึ้นจากพลังวิญญาณนั้นรุนแรงและเต็มไปด้วยไออาฆาตที่โหดเหี้ยม ราวกับค้องการเอาชีวิตเขาในการโจมตีเดียว
เยว่ชิงรับรู้ได้ทันและเรียกกระบี่ประจำกายออกมาฟาดฟันกับใบมีดลมเหล่านั้น เบื้องหน้า
สายตาของเธอพลันมืดทมืนลง กระบี่หมื่นภพถูกเรียกออกมาในมือแล้ว แน่นอนว่าเธอย่อมรับรู้ถึงความสูงส่งของวรยุทธคนผู้นั้น ในยามปกติจะไม่มีใครสามารถบีบให้เธอใช้มันได้ไวเพียงนี้
คนที่ทำให้เธอรู้สึกได้ถึงอันตรายเช่นนี้ในโลกนี้มีเพียงผู้เดียว 'เจ้าวิหารโลหิต' อาจารย์ของเธอ
เยว่ชิงหันไปหาหวังโมหยวนสีหน้าเคร่งเครียด เห็นคิ้วที่ขมวดย่นของเขา และเหงื่อที่ผุดขึ้นตามกรอบหน้าเธอเอ่ยอย่างจริงจัง
" องค์รัชทายาท ขอเพียงผ่านหุบเขานี้ไปก็ถึงนิกายสุริยัญแล้ว ท่านรีบไปเถิด "
หวังโม่หยวนเรียกสติจากความตระหนก แล้วสบตาเธอเอ่ยถามอย่างสับสน
"แล้วเจ้าล่ะ เจ้าไม่ไปด้วยกันหรือ?"
" ไม่ต้องห่วงหม่อมฉัน ขอเพียงท่านปลอดภัย เราจะต้องได้พบกันอีกแน่นอน ส่วนคำถามของท่านเมื่อครู่ รอท่านไปถึงนิกายสุริยัญ ข้าจะตามไปให้คำตอบ" เยว่ชิงยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน ถึงแม้ในใจจะไม่ได้เป็นไปดังที่แสดงออกก็ตาม
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments