ตอนที่ 2 การพบเจอ

สิ่งที่ผมเห็นนี้ มันไม่ได้เกิดขึ้นกับผมเป็นครั้งแรกหรอก  มีเห็นสิ่งเหล่านี้ตั้งแต่เด็ก

ตั้งแต่ผมจำความได้ ผมก็เห็นผู้หญิงที่มีรอยยิ้มที่อบอุ่น

และเสียงกล่อมที่ไพเราะมาเลี้ยงผมตั้งแต่เล็ก มีหลายคนอาจเรียกเธอว่า แม่ซื้อ

เมื่อโตขึ้น ผมก็มักจะเห็นสิ่งเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา

ผมจำเป็นต้องทำตัวให้ปกติที่สุดในการดำรงชีวิต ไม่เช่นนั้นชีวิตผมคงวุ่นวายน่าดู

**                ผม ปราณภพ วิศวกรที่อยากใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดา**

แต่เบื้องบนก็กลั่นแกล้งให้ผมต้องเห็นสิ่งที่คนทั่วไปไม่เห็น ผมเป็นเด็กกำพร้า

ที่พ่อและแม่บุญธรรมเก็บมาเลี้ยง ท่านทั้งสองเลี้ยงดูผมด้วยความรักและเอ็นดู

ผมแทบจะไม่ขาดความรักหรือความอบอุ่นเลย ผมมักจะชอบเห็นภาพใบหน้าของหญิงวัยกลางคนที่มีดวงตาที่แสนจะเศร้าสร้อย

เธอมีรอยเหี่ยวย่นแห่งความทุกข์แปดเปื้อนบนใบหน้า บอกไม่ถูกเหมือนกันว่า

ทำไมเวลาที่ผมเห็นใบหน้าเธอในห้วงความคิด ผมรู้สึกถึงความเศร้า และหดหู่ตลอดเวลา

ทั้งที่ผมไม่เคยรู้จักเธอมาก่อน ภาพของเธอค่อนข้างชัดเจนเมื่อตอนที่ป่วยหนักในวัยเด็ก

ตอนนั้น ผมเป็นไข้สูงมาก ตอนนั้นผมเผลอหนักมาก

จนพ่อและแม่บุญธรรมของผมจะพาไปโรงพยาบาล  แต่ในคืนนั้น ผมเห็นใบหน้าของหญิงวัยกลางคนนี้ กำลังร้องไห้ และเข้ามาโอบกอดผมให้แน่น

ความรู้สึกผมในตอนนั้น มันคือความรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นสบาย พิษไข้ที่ทำให้ผมร้อนรุ่ม

มันจืดจางหายไปอย่างน่าเหลือเชื่อ

และสิ่งที่ทำให้พ่อแม่บุญธรรมของผมประหลาดใจมากก็คือ พิษไข้ของผมหายเป็นปลิดทิ้ง

และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ใบหน้าของเธอก็อยู่ในความคิดของผมตลอดเวลา  ขณะที่ผมกำลังปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปกับความฟุ้งซ่าน

แสงสีทองของดวงอาทิตย์ก็ค่อยๆ สาดส่องเข้ามาในห้องของผม  เสียงเคาะประตูเบาๆ ดังขึ้น

**                “ปราณลูก**

ตื่นหรือยัง?” เสียงแม่บุญธรรมของผมเรียก

ความคิดผมหยุดชะงักลงพร้อมกับเสียงของแม่ “ครับแม่ ตื่นแล้วครับ” ผมตอบ พร้อมเอื้อมมือปิดโคมไฟที่หัวเตียง และลุกจากที่นอน

ผมทำธุระส่วนตัวประมาณ 20 นาที ก่อนจะลงไปทานอาหารเช้า แม่กำลังตักข้าวผัดใส่จาน

พ่อนั่งดื่มกาแฟ          มีจานขนมปังปิ้งวางอยู่ข้างๆ

แม่วางจานข้าวผัดกุ้งลงตรงหน้าผม พร้อมวางมือลงบนหัวผมเบาๆ พร้อมลูบเบาๆ  ผมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะตักข้าวผัดกิน

**                “ดูสีหน้าลูกวันนี้ไม่ค่อยสดชื่นเลยนะ**

เมื่อคืนนอนไม่หลับเหรอ?” แม่ถาม

**                ผมค่อยๆ**

กลืนข้าวผัดลงคอช้าๆ คิดไปถึงภาพความฝันที่เป็นจุดเริ่มต้นของความเศร้าโศก “ครับ

ผมนอนไม่ค่อยหลับ” ผมตอบแม่เบาๆ

**                แม่เงียบอยู่ครู่ใหญ่**

ก่อนจะหันหน้ามองพ่อที่ทำหน้าเคร่งขรึมอยู่ ทั้งสองสบคามอง และพยักหน้าพร้อมกัน

แม่ลุกเดินเข้ายังห้องนอนอยู่พักใหญ่ ก่อนจะออกมาพร้อมกล่องไม้เก่าๆ ในมือ

แม่วางมันลงตรงหน้าผม ก่อนที่แม่จะเปิดกล่องไม้ขึ้นช้าๆ สิ่งที่อยู่ข้างในคือ

สร้อยคอเงิน ที่มีจี้ที่เหมือนลูกเหล็กกลม ขนาดเท่าเหรียญ 50 สตางค์

เคลือบไว้ด้วยพลาสติกใส บนลูกเหล็กกลมมียันต์อักขระสลักเป็นไว้รอบ ผมเงยหน้ามองแม่

**                “พ่ออยากให้ลูกสวมมันไว้”**

พ่อเอ่ยขึ้น

**                ผมหันหน้ามองพ่อ**

“มันคืออะไรครับ?” ผมถามด้วยความใคร่รู้

**                “ปรอทกรอ”**

พ่อตอบ

**                ผมหรี่ตาลงมองสร้อยที่อยู่ในกล่องไม้**

พร้อมหยิบมันขึ้นมาช้าๆ

“สิ่งนี้จะช่วยคุ้มครองลูก” พ่อกล่าว

ผมเงยหน้ามองแม่  แม่ยิ้ม “เชื่อพ่อเถอะลูก”

ผมถอนหายใจเบาๆ พร้อมกับสวมใส่สร้อยนั่นลงบนคอ

**เพื่อให้พ่อและแม่สบายใจ **

ผมยกน้ำขึ้นดื่ม ก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายข้าง

“ผมไปทำงานก่อนนะครับ”

ผมเสียบกุญแจรถโตโยต้าสีเงิน

เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้น  ผมขับรถออกจากบ้าน

ในการเดินทางจากบ้านไปยังที่ทำงานของผมทุกวันจะเดินทางในเส้นทางเดิมๆ

ซึ่งระยะทางไม่ไกล ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 20 นาที วันนี้ก็คงเป็นเหมือนเช่นทุกๆวัน  ผมค่อยๆ เหยียบตรงแยกไฟแดง รถจอดต่อติดไฟแดงเป็นเส้นยาวเหยียด

ผมถอนหายใจยาว พร้อมได้ยินเสียงกระพรวนดังแว่วมาแต่ไกล เสียงกระพรวนทำให้ผมหันมองออกไปยังนอกหน้าต่าง

แล้วสายตาของผมก็ต้องสะดุดกับสิ่งหนึ่งคือ นุช หญิงสาวในความฝันของผม

ใบหน้าที่เป็นรอยไหม้ทั้งใบหน้า ผมที่แหว่งเป็นหย่อมๆ เสื้อผ้าที่ขาดรุ่ยด้วยรอยไหม้

เธอกำลังยืนอยู่ข้างหลังของผู้หญิงสาวคนหนึ่ง ที่กำลังจะรอข้ามถนน สายตาของนุชดูเต็มไปด้วยความแค้นเคืองอย่างมาก

นุชค่อยยกมือที่ผิวหนังหลุดลอกจนเห็นถึงชั้นไขมัน แขนที่อาบโชกไปด้วยเลือด

เธอยกมือขึ้นปิดตาหญิงสาวผู้นั้น  หญิงสาวหันซ้ายหันขวา เท้าข้างซ้ายของเธอค่อยๆ ก้าวไปข้างหน้าช้าๆ

ผมอ้าปากค้าง ไม่ทันที่จะตะโกนอะไรออกไป มือผมรีบเปิดประตูรถอัตโนมัติ

และรีบวิ่งตรงเข้าไปหาเธออย่างรวดเร็ว ทันทีที่ผมถึงตัวเธอ

รถบรรทุกคันใหญ่วิ่งตรงมาด้วยความรวดเร็วทะลุผ่านร่างวิญญาณของนุช

เพียงแค่คืบเดียวรถบรรทุกพร้อมจะปะทะร่างเธอ

ผมรีบคว้าต้นแขนเธอดึงเข้ามาอย่างรวดเร็ว วิญญาณนุชสลายหายไปทันที ร่างเธอกระแทกเข้าหน้าอกผมอย่างจังทำให้ตัวผมเซถลาล้มลง

ร่างหญิงสาวล้มอยู่บนร่างผม ผมสังเกตเห็นกำไลที่เธอสวมใส่นั้น

มีกระพรวนสีเงินและสีทองห้อยติดอยู่  เสียงกระพรวนทำให้ผมมีสติขึ้น

“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย?” ผมถาม

เธอพยายามผลักออกจากตัวผม สีหน้าเธอกำลังตกใจ

“มันเกิดอะไรขึ้น  ฉันมองไม่เห็นรถบรรทุกนั้นเลยนะ”

แน่นอนว่าผมคงไม่กล้าที่จะบอกเธอว่า

เธอโดนผีบังตา ผมพยายามเรียบเรียงคำพูดให้ดูดีที่สุด “รถคงขับมาเร็วจนคุณมองไม่ทันเห็น”

เธอปรับสีหน้าผ่อนคลายลง “ขอบคุณมากนะค่ะ”

เธอกล่าว

ไม่ทันที่ผมจะเอ่ยคำพูดอะไรต่อ เสียงแตรรถ 2-3

คันดังขึ้น ผมมองไปยังไฟสัญญาณจราจรที่เป็นไฟเขียวแล้ว

ผมรีบคว้าแขนหญิงสาวขึ้น  “ขึ้นรถก่อนคุณ

เดี๋ยวผมไปส่ง”

เธอลังเลเล็กหน่อย

“คุณไม่ต้องลังเลแล้ว ไม่เห็นหรือว่า

รถเขาบีบแตรไล่อยู่นั่น แล้วรถก็ติดเพราะผมลงมาช่วยคุณนะ”

เธอยอมขึ้นรถมากับผม

รีบออกรถทันทีก่อนที่ผมจะจราจรมาเขียนใบสั่ง โทษฐานทำการจราจรติดขัด

“คุณไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม?”

มองเหลือบมองเธอผ่านๆ ใบหน้าที่เรียวกลม ดวงตากลม นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน เข้ากับผมสีดำที่ยาวเลยไหล่ลงมา

สีหน้าเธอยังเป็นกังวลอยู่ มือทั้งสองบีบไว้แน่น

เธอเงียบ

“คุณ.....คุณ” ผมเรียกดังขึ้น

เธอสะดุ้งเล็กน้อย “อ๋อ ขอโทษค่ะ

ฉันยังไม่หายสงสัยว่า ฉันไม่เห็นรถได้ยังไง” เธอพึมพำเบาๆ

“คุณอย่าคิดมากเลย รอดมาได้ก็ดีแล้ว”

“ขอบคุณคุณมากเลยนะค่ะ ถ้าไม่ได้คุณ ฉันคง....”

เสียงเธอเงียบหายไป

“อย่าคิดมากเลยนะคุณ ว่าแต่คุณชื่ออะไร?” ผมถาม

“ฉัน ปิ่นเนตร ค่ะ”

หญิงสาวตอบเบาๆ

“ผมปราณภพครับ เรียกผม ปราณก็ได้นะ”

ผมแนะนำตัวอย่างสุภาพ “ว่าแต่คุณจะไปไหน ผมจะไปส่ง”

“เดี๋ยวคุณจอดแยกข้างหน้าก็ได้ค่ะ ร้านฉันอยู่ไม่ไกลค่ะ”

เธอกล่าว

ผมลดความเร็วลงจอดรถตรงทางแยก  ปิ่นมองหน้าผม เธอยิ้ม “ขอบคุณมากนะค่ะ คุณปราณ”

ผมยิ้มตอบ “ไม่เป็นไรครับ”

‘อย่าคิดว่าแกจะช่วยมันได้ตลอดนะ’ เสียงนุชแว่วเข้ามาในหูผม

ถึงแม้เสียงจะแผ่วเบา แต่ถ้อยคำที่ผมได้ยินกลับชัดเจน

ปิ่นกำลังเปิดประตู กำลังจะลงรถ

“เดี๋ยวครับ!” ผมพูดโพลงขึ้น

ปิ่นหันมามอง “มีอะไรค่ะ?” เธอถาม

ผมถอดสายสายสิญจน์ ที่ผูกติดข้อมือของผมยื่นให้เธอ

ปิ่นมองหน้าผมอย่างงุนงง

“ผมอยากให้คุณใส่ไว้ อย่างน้อยมันอาจช่วยคุณได้”

ปิ่นเม้มริมฝีปากก่อนที่จะยื่นมือมารับสายสิญจน์จากมือผม

“ขอบคุณมากค่ะ”

“คุณสัญญานะว่าจะใส่” ผมย้ำ

ปิ่นยิ้ม “ค่ะ” เธอตอบ พร้อมลงจากรถ

และเดินเข้าไปในร้านขนม ที่มีป้ายชื่อหน้าร้านว่า ‘P.SWEET’

ผมถอนหายใจ

หวังว่าสิ่งที่ผมให้เธอจะช่วยคุ้มครองเธอจากวิญญาณนุชได้ แต่สิ่งที่ผมแปลกใจคือ

ทำไมวิญญาณของนุช หญิงสาวที่ถูกไฟคลอกจากเหตุการณ์ที่ผมฝันถึงตามทำร้ายปิ่น

หญิงสาวที่ดูไม่มีพิษภัยอะไร สายตาผมเลื่อนไปมองนาฬิกาที่ข้อมือ บอกเวลา 8.30 น.

ผมดึงสติกลับมา ผมสายมากแล้ววันนี้  ผมรีบขับรถไปทำงานก่อนที่จะไปทำงานสายกว่านี้

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!