ดวงตาโค้งงามดุจจันทร์เสี้ยว เงาของขนตางอนงามสั่นไหวเล็กน้อยยามสำผัสถึงแสงตะวันอ่อนแห่งวันใหม่ สาวน้อยนามฮวนหลิน ลุกขึ้นอย่างกระฉับกระเฉง หันมองทั่วที่พำนัก ต่อมาความอ้างว้างวาบผ่านหัวใจเธอ
แน่ล่ะ เพราะในร่างกายของฮวนหลินยามนี้คือวิญญาณนักฆ่าจากนิกายมาร หาใช่สาวน้อยผู้อ่อนโยนคนนั้น
ความรู้อ้างว้างเปล่าเปลี่ยวเกิดขึ้นเมื่อยามนี้ไม่เห็นศิษย์พี่ศิษย์น้องที่คุ้นเคยเหมือนครั้งก่อนๆที่ลืมตาในทุกๆเช้า
เธอพยายามปลอบใจตัวเอง ว่า เธอคือคุณหนูหลี่ฮวนหลิน บุตรสาวอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้าย แห่งจักรวรรดิซีเป่ย หลี่เจิ้งชุน หาใช่ศิษย์ของตำหนักกู่ปิงอีกแล้ว
ไม่นานก็มีสาวรับใช้สามคนเข้ามาปรนนิบัติอาบน้ำแต่งตัวให้ หย่าซินอดขนลุกไม่ได้ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยให้ใครถูกเนื้อต้องตัวเช่นนี้มาก่อน ทุกการใช้ชีวิตย่อมพึ่งพาตนเอง และคอยระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา
ถึงแม้ยามนี้เธอจะเป็นคุณหนูฮวนหลิน เเล้วทว่าสัญชาตญาณความระวังต่อยังคงทำงานอยู่
ระหว่างทำกิจยามเช้าเธอล้วนลอบสังเกตุสาวใช้ทุกคนที่ผ่านตา และได้รู้ว่าว่าพวกนางนามว่า หนิงเอ๋อ ซูฉี และ ม่านม่าน ล้วนแต่มีพลังวิญญาณกันทั้งสามคน สมเป็นสาวใช้คฤหาสน์อัครเสนาบดี
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเธอก็มานั่งส่องกระจกทันทีที่เห็นใบหน้าที่สะท้อนเธอก็ชะงักไป
นี่..นี่ไม่ใช่ใบหน้าของเธอหรอกหรือ ใบหน้าเก่าของเธอคือโฉมงามคนหนึ่งทั้งตาจมูกปาก ล้วนแต่สมบูรณ์แบบไม่ต่างจากใบหน้านี้เลย
หรือนางคือฝาแฝดที่พลัดพรากกับเธอ เป็นไปไม่ได้ เธอถูกเก็บมาจากจักรวรรดิฟงหนาน และพวกเขาไม่เคยบอกว่าเธอมีฝาแฝด
แต่นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปกระมัง กระนั้นเธอในอดีตไม่เคยประดิษฐ์ประทินโฉมทั่วร่างให้งดงามปานนี้มาก่อน ปฏิเสธไม่ได้ว่างดงามยิ่ง! ไม่แปลกที่องค์รัชทายาทจะหมั้นหมายกับเธอ ในนามพระชายาเอก
พวงแก้มเนียนอมเลือดฝาด ริมฝีปากแดงที่ดูอิ่มน้ำ ซ้ำยังดวงตาคู่นี้ที่งดงามยิ่งกว่าส่วนใด ใครเห็นจะต้านทานความงามนี้ได้เล่า
หย่าซินที่พินิจใบหน้าตนเองอยู่เป็นเวลานาน ก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงบานประตูที่ถูกเปิดเข้ามา
ชายวัยกลางคนในชุดเขียวเข้ม ใบหน้าคล้ายกับเธอสองส่วน "หลินเอ๋อ! หลินเอ๋อ พ่อคิดว่าจะไม่ได้พบหน้าลูกตลอดกาลเสียแล้ว เจ้าเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว หากแม่เจ้าบนสรวงสวรรค์รู้เข้าพ่อจะทำอย่างไร เหตุใดถึงไม่ห่วงใยตัวเองเช่นนี้"
ชายวัยกลางคนโผล่เข้าโอบกอดเธอด้วยความรักใคร่ห่วงใย หย่าซินชะงักไปพักหนึ่ง ในหัวประมวลผลอย่างรวดเร็ว
จากนั้นจึงทำท่าโอบกอดคนแปลกหน้าเบื้องหน้าตอบสนองอย่างสนิทสนม พลางเอ่ย" ท่านพ่อ ข้าไม่เป็นไรแล้วเพคะ ท่านพ่ออย่าได้กังวลไปเลย องค์รัชทายาทรักษาอาการบาดเจ็บและช่วยข้าไว้ ไม่มีตรงไหนบาดเจ็บอีกแล้ว"
เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ริมฝีปากแย้มยิ้มสอดรับกับแสงแดดอ่อนๆที่สาดส่องเข้ามา ทำให้ใบหน้านี้ดูน่ารักใคร่เอ็นดูมากยิ่งขึ้น
หลี่เจิ้งซุยมองดูลูกสาวอย่างรักใคร่ถวิลหา
"ไปเถิด พ่อจะพาเจ้าเข้าวังไปขอบพระทัยฝ่าบาท ยิ่งไปกว่านั้นวันนี้ยังมีงานเลี้ยงพระราชสมภพขององค์จักรพรรดิ ดูเหมือนว่าเจ้าจะฟื้นมาตรงเวลายิ่งนักหากพระองค์รู้ต้องพอพระทัยเป็นแน่"
เเต่เมื่อพูดจบเขาก็ขะงักไปครู่หนึ่ง หลี่เจิ้งชุนเป็นข้าราชสำนักของจักรพรรดิมาเนิ่นนานย่อมรู้ว่าจักรพรรดิชอบคนแบบไหน แต่ลูกสาวของเขาในยามนี้กลับกลายเป็นคนไร้พลังวิญญาณไปเสียแล้ว
ตลอดการเดินทางภายในรถม้าล้วนเจื้อยเเจ้วด้วยเสียงสนทนาของสองพ่อลูก
หย่าซินย่อมเข้าใจเขาดี ลูกสาวเพียงคนเดียวกลายเป็นร่างไร้วิญญาณนานเป็นปี ในเมื่อได้พบหน้ากันเขาต้องดีใจเป็นธรรมดา เเละเมื่อมนุษย์มีความสุขก็จะพูดมากเช่นนี้แหล่ะ เธอจึงคุยกับเขาอย่างใจกว้าง
ข้อมูลของฮวนหลินคร่าวๆหยางเสวี่วได้บอกเธอเอาไว้หมดแล้วจึงพูดคุยได้อย่างไม่มีพิรุจ แต่บางเรื่องที่เธอไม่รู้จริงๆก็โกหกไปว่าความทรงจำหายไปบางส่วน ด้วยสีหน้าและท่าทางที่เป็นธรรมชาติแนบเนียนทำให้หลี่เจิ้งชุนไม่สงสัยเธอมากนัก
ในที่สุดขบวนรถม้าก็มาถึงวังหลวง แคว้นใหญ่แห่งจักรวรรดิซีเป่ย 'เเคว้น7สี' ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิซีเป่ย
รอบวังหลวงทหารอารักขาอย่างเป็นระบบระเบียบ หย่าซินอดชื่นชมมิได้ว่านี่เป็นสถานที่ที่งดงามที่สุดที่เธอเคยมา
ทว่าก็ไม่ได้น่าตกใจอะไรปานนั้นเนื่องจากตัวเธอเองไม่เคยได้ไปสถานที่อื่นๆ นอกจากไปทำภารกิจแล้วก็ไม่ได้ออกไปไหนจึงเป็นธรรมดาที่จะไม่ค่อยได้พบเห็นสถานที่ที่แปลกออกไป ยามนี้สายตาเธอจึงพร่างพราวตลอดทางเดิน
บรรยากาศภายในงานนั้นเต็มไปด้วยไอมงคล พระราชวังโถงหลวงถูกประดับประดาด้วยดอก
เหมยฮวา
กอปรกับผู้ทรงอำนาจอิทธิพลทั้งหลายที่มาร่วมงาน ทำให้ไอมงคลให้กับที่แห่งนี้ตลบอบอวลทั่วทั้งราชวังมากขึ้นกว่าเดิม
มองไปทางไหนก็เจอแต่บุคคลยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม
จนกระทั่งสายตาเธอไปหยุดที่รถม้าคันหนึ่งซึ่งดูหรูหราและปราณีตกว่าปกติ
ทันทีที่เห็นคนที่ก้าวลงมาจากรถม้าคันนั้น เธอก็อดอึ้งไม่ได้ ประสาทสัมผัสของเธอผู้ทรงอำนาจคนนั้นอย่างน้อยต้องเป็นผู้บำเพ็ญระดับ5เป็นแน่
เธออดกวาดสายตามองพระราชวังใหญ่โตแห่งนี้ไม่ได้พลางคิดว่าแม้แต่พันธมิตรยังแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ เเล้วจักรพรรดิซีเป่ยเล่าเขาจะเป็นผู้บำเพ็ญขั้นใด ?
เธอยังไม่เคยเห็นหน้าพระพักตร์ของจักรพรรดิจึงทำได้เพียงคาดเดา
ตลอดทางเดินเข้าสู่งานเลี้ยงตกแต่งด้วยม่านผ้าไหมแดงและแร่อัญมนีราคาสูง เป็นทัศนียภาพที่งดงามที่สุดที่เธอเคยเห็น จนกระทั่งเข้ามาภายใน หลี่เจิ้งชุนบิดาของเธอก็ไปนั่งตำแหน่งเสนาบดีถัดจากบัลลังก์จักรพรรดิเพียงสองขั้น
หย่าซินที่เดินตามเขามาก็ถูกสายตาของคนในงานบางส่วนจ้องมองอย่างสงสัย แต่เธอไม่ได้สนใจมากนัก
เป็นระยะเวลานานที่เธอเฝ้าสังเกตุผู้คนที่แห่เข้ามา คนเหล่านั้นมีทั้งคุณชายจากต่างแคว้นที่แต่งตัวประหลาดต่างจากชาวซีเป่ย
มีทั้งผู้อาวุโสที่ดูมีอายุ พวกเขาเหล่านั้นบ้างก็พูดคุย บ้างก็นั่งเงียบๆ หย่าซินเพียงเฝ้ามองอย่างเงียบๆ
และในที่สุดเธอก็ได้เห็นรูปโฉมของรัชทายาทคู่หมั้นของเธออย่างชัดเจนเสียที
ท่ามกลางสายตาคนนับสิบ ร่างกายสมบูรณ์แบบไร้ที่ติไอพลังวิญญาณที่เล็ดลอดออกมาจากทุกอณูของร่างกายเขาช่างน่าเกรงขามและเปี่ยมด้วยบารมี เขาย่างเข้ามาภายในพระราชวังโถงหลวงอย่างมั่นคงและนั่งลงข้างตำแหน่งที่ว่างของจักรพรรดิ
ต้องยอมรับว่าเขาสง่างามมาก คิ้วดกหนาเป็นทรงดุจคันธนู ดวงตาเรียวยาวช่างดึงดูดใจคนวันนี้เขาสวมชุดสีขาวลายมังกรทอง ขับเน้นรัศมีทรงสง่า
ราวกับรับรู้ได้ถึงสายตาหลงใหลที่มองมา องค์รัชทายาทหวงอี้เทียน เคลื่อนสายตามาประกบกับเธอ
ทั้งสองประสานสายตากันอยู่สักพักก็ได้ยินเสียงของขันทีดังมา "ฝ่าบาทเสด็จฮองเฮาเสด็จ!"
ทุกคนลุกขึ้นยืนทำความเคารพต้อนรับ รวมถึงเธอด้วย หย่าซินลอบพินิจทั้งสองแทบจะตลอดเวลา เธอคิดว่า
สมเป็นหงส์เคียงมังกรโดยแท้ จักรพรรดินีเฟิ่งฉายามารดาแห่งซีเป่ย ถึงแม้จะอายุ45พรรษาแล้วทว่าไม่รู้ว่าเพราะฝึกวิชาหรือเหตุผลอันใดทำให้รูปโฉมยังเยาว์วัยดุจโฉมตรูวัย20ปี
เมื่อเดินเคียงคู่กับจักรพรรดิซีเป่ยคนนั้นแล้ว ยิ่งขับเน้นทำให้นางดูมีบารมีมากขึ้น
เมื่อเคลื่อนสายตาไปยังชายวัยกลางคนข้างๆนัยตาของหย่าซินสั่นไหวเล็กน้อย
เขา..เขาคือจักรพรรดิซีเป่ยงั้นหรือ? ดวงตาเธอเป็นประกาย
คนผู้นี้เป็นผู้ฝึกเซียน! มิน่ากองทัพปีกทองถึงให้การสนับสนุนเขา ที่แท้จักรวรรดิซีเป่ยก็มีผู้นำที่แข็งแกร่งเพียงนี้
ในโลกนี้หากจะหาผู้บำเพ็ญระดับ5ขึ้นไปนับว่าหาได้ยากแล้ว ทว่าผู้บำเพ็ญระดับเซียนนั้นหาได้ยากยิ่งกว่า
เมื่อเธอนึกถึงภารกิจของตำหนักกู่ปิงที่ไม่มีในพื้นที่ของจักรวรรดิซีเป่ยเลยยามนี้ถึงได้ตกผลึกว่าแม้แต่ตำหนักกู่ปิงก็ไม่อาจกระเทาะเปลือกของจักรวรรดิซีเป่ยแห่งนี้ได้
สายตาของเธอลู่ลง กำลังวิเคราะห์เรื่องราวต่างๆในใจ โดยไม่รู้ว่า ยามนี้สายตาของจักรพรรดิซีเป่ยกำลังจับจ้องมาที่เธอแวบหนึ่ง
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments