ทุกคนอึ้งตาค้างไม่เว้นแม้แต่เฟิงหยาง ความเงียบเข้าปกคลุมชั่วขณะก่อนที่เสียงของพนักงานสาวจะดังขึ้น
“คะ คะ คะ คุณเป็นตัวอะไรน่ะ?!!!”
หลินหลินชี้หน้าเฟิงหยางพร้อมถอยหลังด้วยความหวาดกลัว เสียงอันกึกก้องของเธอทำลายความเงียบอย่างสมบูรณ์แบบ
คนที่ต่อหลังชายหนุ่มพากันหนีอย่างหวาดผวา เหล่าฮันเตอร์หยิบอาวุธของตัวเองออกมาและเข้าล้อมเฟิงหยางทันที ชายหนุ่มยกมือทั้งสองข้างขึ้นด้วยความตกใจ
“เผยตัวซะเจ้ามอสเตอร์!!!”
คำถามสุดฉุนเฉียวออกมาจากปากของหนึ่งในสมาชิก สายตาของเหล่าฮันเตอร์กำลังจับจ้องเขาด้วยความหวาดระแวง เฟิงหยางไม่เข้าใจ เขาเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยก่อนจะพูด
“ใจเย็นๆ ก่อน เหมือนทุกคนกำลังเข้าใจผิด ผมไม่ใช่มอนสเต-”
“หุบปากไปเลยไอ้สัตว์ประหลาด!!”
เสียงอันหนักแน่นดังมาจากชั้นสอง เฟิงหยางมองขึ้นไปตามเสียง ที่ระเบียงด้านบนมีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังยืนเท้าเอวมองเขาอยู่ เธอมีผมสีขาวยาวสลวยและดวงตาสีม่วงเข้ม
เฟิงหยางตกใจทันทีที่เห็น เธอสวยไม่ต่างจากนางฟ้า ชุดที่เธอใส่เป็นชุดชั้นในและกางเกงหนังขาสั้น นอกจากนี้เธอยังสวมเกราะเหล็กแค่ส่วนแขนและขาเท่านั้น
เฟิงหยางเหม่อมองร่างอันผอมเพรียวของเธอจนลืมสถานการณ์ไปชั่วขณะ แต่ไม่นานเธอก็ชี้หน้าเขาและพูดด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว
“อย่างแกน่ะฉันจะเป็นคนบดขยี้เอง!!”
หญิงสาวคนนั้นโดดจากระเบียงชั้นสองทะยานขึ้นไปและดิ่งลงมาหาเฟิงหยางอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มรีบยกแขนสองข้างขึ้นปกป้องตามสัญชาตญาณ
หญิงสาวม้วนหน้าอย่างรวดเร็วหลายตลบและใช้ส้นเท้าเหวี่ยงโจมตีใส่เฟิงหยางอย่างรุนแรง พลังกระแทกอันมหาศาลทำให้ชายหนุ่มเข่าหลุดและส่งแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว พื้นไม้ที่เฟิงหยางเหยียบยุบพังลงไป
ในวินาทีนั้นหญิงสาวและทุกๆ คนต่างก็หน้าเสีย เธอแทบไม่เชื่อสายตาของตัวเอง การโจมตีสุดทรงพลังนั่นทำได้แค่เพียงให้ชายหนุ่มเข่าทรุดลงไปเท่านั้น
‘ใช้ท่อนแขนเปล่าๆ รับการโจมตีที่มีเวทมนตร์เนี่ยนะ?! มอนสเตอร์นี่ทรงพลังอะไรขนาดนี้?!’
ขาของเธอยังคงกดค้างไว้แบบนั้น เฟิงหยางเหลือบสายตาขึ้นและใช้แรงอันเหนือมนุษย์ค่อยๆ ดันเท้าขึ้นไป
“บอกว่าให้ใจเย็นๆ ก่อนไงเล่า!!”
เฟิงหยางผลักหญิงสาวออกไป เหล่าสมาชิกช่วยกันรับตัวเธอไว้ ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนหน้าตาเฉย ด้วยความไม่สบอารมณ์หญิงสาวก็จะเอาเรื่องต่อ
“เก่งนักนะแก! ครั้งต่อไปไม่รอดแน่!!”
หญิงสาวยกขาข้างหนึ่งขึ้นตั้งท่าเตรียมโจมตี เฟิงหยางพยายามพูดแต่เธอไม่ฟัง ไม่มีใครที่นั่นคิดจะยั้งมือ พวกเขาพร้อมจะปลิดชีวิตของชายหนุ่ม
แต่ในตอนที่สถานการณ์กำลังแย่ลงเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น?!” ทุกคนชะงัก พวกเขาหันไปมองยังทางเข้าซึ่งเป็นที่มาของเสียง
“หัวหน้ากิลด์!!” ที่ทางเข้านั้นมีชายชราผมขาวในชุดโค้ทสีดำพร้อมกับสมาชิกกิลด์อีกหยิบมือ พวกเขาพึ่งกลับมาจากการทำธุระ พนักงานสาวที่อยู่ในอาการหวาดกลัวรีบพูดทันที
“หะ หัวหน้าคะ!! ขะ เขาเป็นมอนสเตอร์ค่ะ!!”
ชายชราและคนติดตามตกใจ ชายร่างใหญ่หนึ่งในสมาชิกที่พึ่งกลับมารีบเข้าล็อคตัวเฟิงหยางอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มที่ไม่ทันตั้งตัวโดนกดล็อคไว้กับพื้น
“ก็บอกว่าฉันไม่ใช่มอนสเตอร์ไงเล่า!!”
สาวผมขาวแย้งขึ้นมา
“อย่าไปเชื่อมัน!! มันไม่มีพลังเวทแถมยังรับการโจมตีของฉันได้ แบบนี้มันใช่คนซะที่ไหน!!”
ได้ยินแบบนั้นชายร่างใหญ่ก็กดเฟิงหยางแน่นกว่าเดิม ชายชราผู้เป็นหัวหน้ากิลด์เดินผ่านเหล่าสมาชิกเข้ามาดูหน้าเฟิงหยางชัดๆ หลังจากเห็นท่าทีของชายหนุ่มเขาก็ใช้เนตรประเมินตรวจสอบ
“...เขาเป็นมนุษย์” ทุกคนตกใจ พวกเขาไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน ด้วยความโกรธเกรี้ยวเฟิงหยางสลัดชายร่างใหญ่ออกไปและลุกขึ้นพูด
“ผมก็แค่จะมาสมัครเป็นฮันเตอร์เพราะจะหาเงินมาเลี้ยงปากท้อง! ไอ้เรื่องที่ไม่มีพลังเวทผมก็พึ่งรู้เหมือนกันนั่นแหละ!”
เหล่าสมาชิกจับจ้องเฟิงหยางอย่างหวาดระแวง หัวหน้ากิลด์เข้าใจสถานการณ์อย่างรวดเร็ว เขาเอ่ยขึ้น
“เราไปคุยกันที่ชั้นบนดีกว่า... หลินหลินเธอก็ตามมาด้วย”
ชายชราผ่านเหล้าสมาชิกขึ้นบันไดไปที่ชั้นสอง พนักงานสาวรีบตามไปติดๆ เฟิงหยางเดินตามไปเช่นกัน
ทั้งสามมาคุยกันที่ห้องของหัวหน้ากิลด์ซึ่งมีแค่โต๊ะและเก้าอี้ยาวสองตัว เฟิงหยางนั่งและชายชรานั่งเก้าอี้ ส่วนหลินหลินออกไปอยู่หน้าห้องตามคำสั่ง ไม่นานชายชราก็เริ่มพูด
“ผมชื่อหนานโจวเป็นหัวหน้ากิลด์และผู้นำของเมืองลั่วหยางแห่งนี้ ผมและสมาชิกบางส่วนเพิ่งกลับมาจากการไปเยี่ยมเยียนเมืองอื่น... ก่อนอื่นเลยทางเราต้องขอโทษสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย สมาชิกกิลด์คงเข้าใจผิด”
ชายชรากล่าวอย่างนอบน้อม ถึงจะหงุดหงิดอยู่บ้างแต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้ถือโทษแต่อย่างใด กลับกันเขาอยากรู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น
“ผมชื่อเฟิงหยาง... แล้วทำไมแค่ไม่มีพลังเวททุกคนถึงอยากทำร้ายผมล่ะครับ?”
ชายชรามองเขาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมก่อนจะตอบกลับ
“ปกติแล้วในโลกแห่งนี้น่ะ ต่อให้พึ่งเกิดเป็นเด็กทารกก็จะมีพลังเวทแน่ๆ ไม่มากก็น้อย ทั้งที่เธอเป็นมนุษย์แต่กลับไม่มีพลังเวท...ถึงจะไม่รู้ว่าเป็นไปได้ยังไงก็เถอะ... แต่ก่อนจะบอกสาเหตุที่สมาชิกทุกคนมีท่าทีแบบนั้น เธอต้องรู้จักพวกมนุษย์ดันเจี้ยนเสียก่อนเจ้าหนู...”
เฟิงหยางเลิกคิ้วขึ้น ชายชราเริ่มอธิบาย
“พวกมันคือมอนสเตอร์ระดับสูงที่ถูกสร้างโดยมหาดันเจี้ยน พวกมันทั้งอันตรายและเจ้าเล่ห์ มีความรู้สึกนึกคิด มีสติปัญญาพอที่จะพูดคุยสื่อสารได้เหมือนมนุษย์... ที่สำคัญพวกมันชั่วร้ายและมีพลังที่บ้าคลั่งมากจนเขตแดนทำอะไรไม่ได้...”
เฟิงหยางฟังด้วยความละตึง เขาไม่เคยเจอพวกมันมาก่อน แต่จากที่ฟังพวกมันคงอยู่แค่ในมหาดันเจี้ยน...หรือเปล่า? หลังจากเว้นช่วงครู่หนึ่งหนานโจวก็พูดอีกครั้ง
“ที่ผ่านมาเราหาวิธีที่จะแยกแยะระหว่างพวกมันกับคนปกติจนได้มาสองวิธีคือใช้เนตรประเมินและตรวจสอบระดับพลังเวท ถ้าเกิดเป็นมนุษย์ดันเจี้ยนพวกมันจะไม่มีพลังเวท...”
เฟิงหยางเข้าใจ ตอนนี้เขารู้แล้วทำไมทุกคนถึงมีท่าทีแบบนั้น หัวหน้ากิลด์มองชายหนุ่มตรงหน้าเล็กน้อยก่อนจะพูด
“เฟิงหยาง...เธออยากสมัครเป็นฮันเตอร์ใช่ไหม? ถ้าเป็นปกติฉันคงไม่รับเธอหรอกแต่ฉันเห็นในความสามารถของเธอ ฉันจะรับเข้ามาเป็นสมาชิกก็แล้วกัน หลินหลินเข้ามา”
พนักงานสาวเข้ามาในห้องตามคำสั่ง
“ไปทำบัตรสมาชิกให้เด็กคนนี้ซะ เขาชื่อเฟิงหยาง”
หลินหลินตอบรับและออกจากห้องไปอย่างไม่เต็มใจ ชายชราพูดอีกครั้ง
“เรื่องอื่นฉันจะมาถามทีหลัง ตอนนี้ฉันมีงานเหลืออีกเยอะ ถ้าได้บัตรสมาชิกเมื่อไหร่เธอก็หาปาร์ตี้ในกิลด์ไปลงดันได้ สงสัยอะไรก็ถามหลินหลินได้เลย”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 15
Comments