ทหารคนหนึ่งนำทางเฟิงหยางออกจากป้อมปราการพร้อมแนะนำโรงแรมให้ หลังจากผ่านป้อมกำแพงสูงใหญ่มาเฟิงหยางก็ต้องตกใจ
ถึงนอกเมืองจะมืดมิดและอันตรายแต่ในตัวเมืองนั้นตรงกันข้าม ตึกราวบ้านช่องดูมีชีวิตชีวาและมีบรรยากาศที่ครึกครื้น มีผู้คนและร้านค้ามากมายอยู่ตามทาง พวกเขาบางส่วนแต่งตัวและมีอาวุธเหมือนกับนักผจญภัย ดูแล้วที่นี่ก็เหมือนเมืองการค้ายังไงอย่างงั้น
เขาเดินดูรอบๆ อย่างสนอกสนใจ แต่ไม่นานเฟิงหยางก็ไปที่โรงแรมซึ่งอยู่ไม่ไกลจากป้อมปราการ
จากภายนอกหรือภายในโรงแรมนี้ก็เก่าพอสมควรเลย เขาเข้าไปเลือกห้องพักและขึ้นบันไดไปที่ชั้นสองทันที โรมแรมนี้มีคนน้อยมากสมกับความเก่าของมัน สภาพห้องที่เขาอยู่ไม่ต่างอะไรจากตัวโรงแรม
ห้องทำจากไม้ผุๆ โคมไฟแค่ดวงเดียวพร้อมกับเตียงโทรมๆ อีกหนึ่ง เฟิงหยางไม่ได้สนใจเรื่องสถาพห้อง เขานั่งลงบนขอบเตียงก่อนจะเริ่มครุ่นคิดทีละอย่าง...
อย่างแรกเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้? สิ่งที่เขาจำได้รางๆ คือมีหน้าจอขึ้นมาแล้วสติของเขาก็ดับวูบไป... รู้ตัวอีกทีค้างคาวพวกนั้นก็หายไปหมด เขาไม่เข้าใจเลยว่ามันคืออะไร แต่นึกไปก็ไม่มีอะไรในหัว
เฟิงหยางตัดสินใจเปิดข้อมูลของตัวเองเพื่อจะนึกอะไรออก
“ระบบเปิดข้อมูลของฉัน”
ระบบตอบรับคำสั่ง หน้าจอปรากฏขึ้นมากลางอากาศตรงหน้าเขา
ชื่อ: [เฟิงหยาง]
เลเวล: [1/100]
สถานะ: [หมุษย์จากต่างแดน]
สื่อกลางเวทมนตร์: [???]
ฉายา: [ผู้ถูกเลือกโดยระบบ]
เฟิงหยางมึนงง ข้อมูลพวกนี้ไม่ได้ทำให้เขานึกอะไรออกเลย หลังจากนี้สามวันเขาก็ต้องหาเงินมาเตรียมจ่ายค่าห้อง แล้วไหนจะเรื่องอาหารอีก เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องหาเงินยังไงในต่างโลก
ชายหนุ่มล้มตัวนอนและเริ่มคร่ำครวญอย่างสิ้นหวัง แต่อยู่ๆ เสียงจากระบบก็ดังขึ้น
[“เรามีทางเลือกให้คุณ”]
เฟิงหยางเด้งตัวลุกขึ้นนั่งทันควัน เขามองหน้าจอด้วยความสงสัย
“มีเสียงด้วยเหรอ! แล้วที่พูดเมื่อกี้หมายความว่ายังไงน่ะ?”
หน้าจอขยายใหญ่ขึ้นเล็กน้อยก่อนที่ข้อความจะปรากฎพร้อมกับเสียง
[“คุณต้องรู้จัก<ดันเจี้ยนเวิลด์>เสียก่อน ที่นี่คือโลกใบใหม่ที่คุณยังไม่คุ้นเคย มันมีระบบการพัฒนาตัวเองของผู้คนด้วยการฟาร์ม ถ้าหากคุณอยากแข็งแกร่งขึ้นคุณต้องจัดการกับมอนสเตอร์เพื่อเพิ่มเลเวลและค่าสเตตัสต่างๆ ทั้งหมดนั่นก็เพื่อที่จะพิชิต<มหาดันเจี้ยน>”]
ชายหนุ่มประหลาดใจ เขาเอ่ยถามทันที
“มหาดันเจี้ยน...มันคืออะไรน่ะ?”
ข้อความในจอรีเช็ตและเริ่มเขียนอีกครั้ง
[“<มหาดันเจี้ยน>คือแหล่งกำเนิดขนาดยักษ์ของสัตว์ประหลาดที่เป็นปัญหาต่อผู้คนบนดาวดวงนี้ การมีอยู่ของมันทำให้ทุกยามค่ำคืนจะมีมอนสเตอร์เกิดออกเป็นจำนวนมากแลจะโจมตีมนุษย์ทุกคนที่ไม่ได้อยู่ใน<โซนปลอดภัย> ถ้าหากมหาดันเจี้ยนถูกทำลายมอนสเตอร์ทั้งหมดก็จะหายไป ทำให้มนุษย์บนดางดวงนี้สร้างอาชีพที่มีชื่อว่าฮันเตอร์ขึ้นมาเพื่อจำกัดมอนสเตอร์และปลุกปั้นผู้ที่แข็งแกร่งพอจะพิชิต<มหาดันเจี้ยน>”]
เฟิงหยางฟังด้วยความตะลึง ตอนนี้เขามาอยู่ในโลกที่อันตรายเสียแล้ว... แต่ถึงยังไงเขาก็ต้องสนใจเรื่องปากท้องก่อน
“แล้วถ้าจะหาเงินฉันต้องทำยังไงบ้าง?”
ข้อความในจอหายไปชั่วครู่ ไม่นานระบบก็ตอบกลับ
[“ที่นี่คือเมืองลั่วหยางซึ่งมีกิลด์สำหรับอาชีพฮันเตอร์โดยเฉพาะ คุณสามารถสมัครเป็นฮันเตอร์และหาเงินจากที่นั่นได้ แต่เพื่อว่าคุณยังไม่มีแรงจูงใจมากพอ ถ้าหากสามารถพิชิต<มหาดันเจี้ยน>ได้คุณอาจจะได้ความทรงจำกลับคืนมา หรือมากกว่านั้นคุณอาจจะหาทางกลับบ้านได้”]
เฟิงหยางลุกขึ้นพรวดด้วยความตกใจ
“จริงเหรอ?! เข้าใจแล้ว! พรุ่งนี้เช้าฉันจะไปที่กิลด์!”
ชายหนุ่มตัดสินใจนอนพักผ่อนก่อน ตอนนี้เขาพบวิธีที่จะคลี่คลายปัญหาแล้ว รอแค่พรุ่งนี้เท่านั้น!
ต่อมาในตอนเช้าตรู่เฟิงหยางออกจากโรงแรม ตำแหน่งของกิลด์อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมนัก
ไม่นานเขาก็เดินมาถึง จากภายนอกมันเป็นอาคารขนาดใหญ่ที่ดูหรูหราไม่น้อย มีไฟและพืชพันธุ์ประดับอย่างมีเสน่ห์ แต่ที่น่าประหลาดคือมีคนอยู่เยอะมากแม้จะเช้าขนาดนี้ แค่ที่หน้าทางเข้าก็มีเหล่านักผจญหรือฮันเตอร์คุยกันอยู่ไม่น้อยแล้ว
‘นี่พวกเขาไม่นอนกันหรือไงนะ...’ เฟิงหยางเตรียมใจก่อนจะเดินเข้าไปถามฮันเตอร์กลุ่มหนึ่ง
“คือว่า...” ฮันเตอร์สามคนหันมาตามเสียง เมื่อเห็นเฟิงหยางพวกเขาก็มีท่าทีประหลาดใจ
“ที่นี่คือกิลด์ของฮันเตอร์หรือเปล่าครับ?”
พวกเขาอ้ำอึ้งและเงียบไป เฟิงหยางถึงกับเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ ไม่นานหนึ่งในนั้นก็ตอบกลับ
“ชะ ใช่ที่นี่คือกิลด์ของฮันเตอร์ ถ้าอยากมาสมัครก็เข้าไปด้านในได้เลย”
เฟิงหยางกล่าวขอบคุณก่อนจะเดินเข้าไปด้านในผ่านสายตาของเหล่าฮันเตอร์ที่มองเขาอย่างไม่วางตา
เมื่อเข้าไปเฟิงหยางก็ชะเง้อมองไปรอบๆ ด้วยสีหน้าที่เฉยชาและแอบทึ่งหน่อยๆ ภายในอาคารมีการประดับอย่างหรูหราไม่ต่างจากข้างนอก เหล่าสมาชิกกิลด์กำลังพูดคุยอย่างเป็นกันเอง บางส่วนกำลังมุงดูเควสบนบอร์ดอย่างกระตือรือร้น
เฟิงหยางมองไปเห็นเคาเตอร์กิลด์ที่อยู่ไม่ไกลนัก ที่นั่นมีผู้คนไม่น้อยกำลังต่อแถวสเตรียมมัครงาน ชายหนุ่มเดินไปที่เคาเตอร์ผ่านการเฝ้าดูของฮันเตอร์มากหน้าหลายตาที่เหมือนจะสนใจเขา
ถึงสภาพเขาตอนนี้จะไม่ต่างอะไรจากขอทานแต่สำหรับคนที่นี่เฟิงหยางเหมือนนักพเนจรที่พึ่งรบมายังไงอย่างงั้น ต้องยอมรับว่าผมสีขาวและดวงตาสีทองของเขามันดูโดดเด่นแปลกตา ผนวกกับสีหน้าและท่าทีที่เคร่งขรึมทำให้เขาดูมีออร่าสุดๆ !
หลังจากต่อแถวได้ไม่นานก็ถึงคิวของเขา
“สวัสดีค่ะ! ฉันชื่อหลินหลินเป็นพนักงานของที่นี่! ยินดีต้อนรับสู่กิลด์ฮันเตอร์ของเรานะคะ!”
พนักงานสาวกล่าวทักทายเขาด้วยรอยยิ้มที่แสนสดใส เธอเป็นสาวตัวเล็กมีผมสีน้ำตาลสั้นประบ่าและมีดวงตาสีส้มสุดน่ารัก
เฟิงหยางบอกจุดประสงค์ของตัวเองแบบเรียบนิ่ง
“ผมอยากสมัครเป็นฮันเตอร์น่ะครับ...ต้องทำยังไงบ้าง?”
พนักงานสาวอธิบาย
“มีขั้นตอนไม่เยอะหรอกค่ะ! แต่ก่อนอื่นเราต้องตรวจสอบระดับพลังเวทก่อน ถ้าเกิดพลังไม่ถึงเกณฑ์ทางกิลด์ของเราก็รับเข้าทำงานไม่ได้หรอกนะคะ แค่วางมือบนลูกแก้วนี่มันก็จะแสดงค่าพลังเวทของคุณค่ะ!”
พนักงานสาวพูดอย่างร่าเริงพลางชี้ไปที่ลูกแก้วบนโต๊ะด้านหน้า เฟิงหยางทำตาม เขาค่อยๆ ยื่นมือไปที่ลูกแก้วท่ามกลางสายตาของเหล่าสมาชิกกิลด์ที่มองเขาอย่างสนอกสนใจ ทันทีที่มือของเขาสัมผัสกับลูกแก้วมันก็เปล่งแสงจ้าออกมา
ทุกคนรอดูอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อแสงนั้นหายไปลูกแก้วก็เผยค่าพลัง
[ไม่มีพลังเวท]
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 15
Comments