Dungeon World ระบบพิชิตมหาดันเจี้ยน
ท่ามกลางป่าเขาในตอนเย็น ชายหนุ่มคนหนึ่งนอนแผ่อยู่บนพื้นดินเยี่ยงคนหมดแรง เขาใส่ชุดทูนิคพร้อมผ้าคลุมสีน้ำตาลขาดๆ และเนื้อตัวเปอะเปื้อนไม่ต่างอะไรจากขอทาน
ไม่นานเขาก็ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมามองท้องฟ้าอันโปร่งใส ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่งพลางใช้มือกุมหัวด้วยความมึนงง เขามองดูรอบๆ และพบว่าตัวเองอยู่ในพื้นที่โล่งกลางป่า
‘อะไรน่ะฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? จำอะไรไม่ได้เลย... แต่ความรู้สึกนี่มันอะไรกัน ที่นี่ไม่ใช่โลกเหรอ?’
ร่างอันผอมเพรียวลุกขึ้นยืนและมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาสังเกตเห็นก้อนกลม ๆ สีขาวสองดวงลอยอยู่บนนั้น
‘นั่นคือดวงจันทร์เหรอ!?’
ชายหนุ่มอ้าปากค้าง เขารู้แล้วว่าที่นี่ไม่ใช่โลกเดิมที่เขาเคยอยู่ อากาศเริ่มเย็นยะเยือก ชุดทูนิคที่ใส่ไม่ได้ช่วยทำให้เขาอุ่นขึ้นเลย...
แต่ชายหนุ่มไม่สนใจ สิ่งที่เขาอยากรู้ตอนนี้คือตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
เขาพยายามครุ่นคิดอย่างหนัก แต่น่าประหลาดนอกจากเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วเขายังลืมช่วงชีวิตที่ผ่านมา ครอบครัว เพื่อน เขาจำอะไรไม่ได้เลยยกเว้นชื่อกับอายุของตัวเอง
“ฉันชื่อเฟิงหยาง...อายุ18?”
ถึงจะคลุมเครือแต่เขาก็มั่นใจในสิ่งที่นึกออก อยู่ๆ หน้าจอประหลาดก็ปรากขึ้นมากลางอากาศข้างหน้าเขาพร้อมกับข้อความ
[สวัสดีผู้เข้าร่วมใหม่ ยินดีต้อนรับสู่<ดันเจี้ยนเวิลด์>]
เฟิงหยางขมวดคิ้ว เขาไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร แต่ในตอนที่เขากำลังจะพูดข้อความแจ้งเตือนก็แทรกขึ้นมา
[คำเตือน - ใกล้เข้าสู่ช่วงกลางคืนแล้วมอนเตอร์กำลังจะปรากฏตัว คุณไม่ได้อยู่ใน<พื้นที่ปลอดถัย> กรุณาเดินทางเข้าเมืองใกล้เคียง]
หน้าจอแสดงเส้นทางไปยังเมืองดังกล่าว ถึงจะไม่เข้าใจแต่สติของเขาก็สั่นเตือนให้ทำตามข้อความนั้น เขาวิ่งลัดเลาะผ่านป่าด้วยเท้าเปล่าๆ จนออกมาเจอถนน เขามองไปทางที่หน้าจอบอกและได้เห็นป้อมปราการขนาดใหญ่อยู่ไกลๆ
เฟิงหยางไม่รอช้าวิ่งไปที่นั่นทันที ท่ามกลางความมืดที่ค่อยๆ กลืนกินทุกอย่างรอบตัวเขา เสียงของเหล่าสัตว์ร้ายดังกึกก้องไปทั่ว เขาวิ่งไปแบบไม่คิดชีวิต
ทหารเกราะแดงที่ป้อมปราการสังเกตเห็นเขาอยู่ไกลๆ ตอนแรกพวกเขาคิดว่าอาจจะเป็นมอนสเตอร์เลยเตรียมตัวจะจัดการ แต่ด้วยความรอบคอบทหารคนหนึ่งใช้เนตรประเมินตรวจสอบและพบว่าสิ่งที่กำลังวิ่งตรงเข้ามาเป็นมนุษย์
แต่ที่น่าตกใจคือข้างหลังของเขามีมอนสเตอร์จำนวนไม่น้อยกำลังไล่ล่าเขาอยู่ ทหารคนนั้นรีบสั่งการทันที
“พลธนูรีบมาประจำที่เร็วเข้า!!”
เฟิงหยางเข้าใกล้ป้อมปราการมากขึ้นเรื่อยๆ สัตว์อสูรคล้ายค้างคาวนับสิบบินไล่ตามเขาอย่างรวดเร็ว พวกมันอ้าปากที่เต็มไปด้วยเขี้ยวอันแหลมคมพร้อมส่งเสียงแสบแก้วหูเตรียมจะฉีกกระชากเหงื่อตรงหน้า
เหล่าทหารบนป้อมปราการเรียงหน้ากระดานพร้อมกับง้างคันธนูอย่างแข็งกล้า ไม่นานพวกเขาก็ปล่อยลูกศรออกไป ทันใดนั้นลูกธรทั้งหมดก็หายไปกลางอากาศและไปโผล่อยู่ตรงหน้าของเหล่าอสูรค้างคาวพร้อมสังหารพวกมันทันที
แต่เพราะสาเหตุบางอย่างมอนสเตอร์พวกนั้นก็ไม่ได้ตายทั้งหมด พวกมันยังคงไล่ล่าชายหนุ่มอย่างไม่ลดละ ด้วยการตัดสินใจที่รวดเร็วทหารคนที่สั่งการก็ถือโล่ขนาดใหญ่และออกมาจากป้อมปราการทันที
ในตอนนั้นเฟิงหยางก็สะดุดล้มไปกองกับพื้น เสี้ยววินาทีที่คมเขี้ยวของค้างคาวจะถึงตัวทุกอย่างรอบตัวเขาก็หยุดลง ชายหนุ่มฉงน เขาหันกลับไปมองมอสเตอร์ที่หยุดนิ่งราวกับโดนหยุดเวลา จากนั้นหน้าจอก็ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าเขา
[ต้องการกำจัดมอสเตอร์หรือไม่?]
อยู่ๆ เฟิงหยางก็เผยรอยยิ้มออกมา ดวงตาสีทองเปลี่ยนเป็นสีฟ้าสว่าง เขามองไปที่มอนสเตอร์โดยไร้ซึ่งความหวาดกลัว
“เอาสิ~”
หน้าจอของระบบหายไป เฟิงหยางยื่นมือไปด้านหน้าและแสดงรอยยิ้มที่กว้างยิ่งกว่าเดิมก่อนจะดีดนิ้วหนึ่งครั้ง
“หายไปซะไอ้เพวกขยะ!!”
ค้างคาวพวกนั้นสลายหายไปทันที เวลากลับมาเดินต่อ ทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติ นายทหารที่ออกมาหยุดชะงัก เขางุนงงมากกับสิ่งที่เห็น เฟิงหยางยืนนิ่งไป หลังจากรวบรวมสติได้เขาก็รีบถามชายหนุ่มทันที
“เป็นอะไรหรือเปล่า?!”
เฟิงหยางหันมามองนายทหารด้วยดวงตาสีทองแบบปกติ เขาดูมึนงงไม่ต่างอะไรจากนายทหาร
หลังจากนั้นเฟิงหยางก็ได้พักอยู่ในป้อมปราการภายใต้การดูแลของพวกทหาร ทหารที่ออกมาก่อนหน้านี้มีชื่อว่าหลี่ฮงเป็นหัวหน้าของเหล่าทหารบนป้อมปราการ ดูเหมือนเขากับทหารจำนวนหนึ่งกำลังคุยอะไรกันอยู่
“อยู่ๆ พวกค้างคาวก็หายไป...เป็นฝีมือของเด็กคนนั้นเหรอครับ?”
ทหารคนหนึ่งถามหลี่ฮง หัวหน้าทหารมองกลับไปที่ชายหนุ่มด้วยความสงสัยแต่เมื่อเห็นท่าทีของเขาหลี่ฮงก็ตอบกลับ
“ฉันว่าไม่ใช่หรอก เด็กคนนั้นก็ตกใจไม่ต่างจากเรา คงเป็นฝีมือคนอื่นนั่นแหละ...ส่วนเรื่องที่ว่าจะเอายังไงกับเขาเดี๋ยวฉันจัดการเอง”
หลี่ฮงและพวกทหารก็พากันมาหาชายหนุ่ม
“ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?” หลี่ฮงเอ่ยถาม
“ไม่เป็นอะไรแล้วครับ ขอบคุณมากที่ช่วย...” เฟิงหยางตอบกลับแบบเรียบนิ่ง หัวหน้าทหารพยักหน้าอย่างโล่งอก เขาถามเฟิงหยางอีกครั้ง
“นายเป็นใครล่ะ? แล้วทำไมถึงมีสภาพแบบนี้?”
ชายหนุ่มคิดหนัก เขาต้องหาข้ออ้างเพื่อไม่ให้ใครสงสัยว่าตัวเองมาจากต่างโลก
“คะ คือว่าผมเป็นพวกเร่ร่อนแล้วก่อนหน่านี้ตอนที่กำลังเดินทางผมเกิดหลงขึ้นมาน่ะครับ”
เฟิงหยางหลบสายตาด้วยความเลิ่กลั่กหัวหน้าทหารกอดอกจ้องเขาเขม็งและใช้เนตรประเมินตรวจเช็คค่าสถานะของชายหนุ่ม
แต่ทุกอย่างปกติ เฟิงหยางไม่ได้มีค่าสถานะที่น่าสงสัย รู้แบบนั้นหัวหน้าทหารก็พูด
“ตอนนี้เรารับนายเข้ามาในฐานะผู้ลี้ภัย ยินดีต้อนรับสู่เมืองลั่วหยาง นายสามารถใช้ชีวิตที่นี่ได้แต่ห้ามสร้างความเดือดร้อนให้ใคร ฉันจะให้ทหารพานายไปเข้าเมืองก็แล้วกัน”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 15
Comments
Ritsu-4
คุมไม่ไหวแล้วนะคะ อ่านไม่อยู่นานเลย นิยายดีสุดๆ✨😩⏰💫
2024-01-04
1