'พี่ต้องไปแล้ว ดูแลตัวเองดีๆนะ'
'อืม'
'แล้วไว้พี่จะโทรหา'
'...' ใบหน้าสวยของหญิงสาววัยยี่สิบในตอนนั้นพยักหน้ารับรู้ตอบกลับก่อนจะมองแผ่นหลังกว้างของอดีตแฟนหนุ่มที่ค่อยๆเดินตรงเข้าไปยังด้านในสนามบินขนาดใหญ่ด้วยแววตาเรียบนิ่งทว่าเต็มไปด้วยความรู้สึกเศร้าหมองกว่าทุกครั้ง ทัต แฟนหนุ่มรุ่นพี่อายุห่างกันสองปีของหญิงสาวที่เพิ่งเลื่อนสถานะจากรุ่นพี่มาเป็นคนรักได้ไม่นาน ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ต้องจบลงเมื่อรุ่นพี่หนุ่มต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศหลังจากที่เรียนจบมหาวิทยาลัยที่พวกเขาเรียนอยู่ด้วยกัน ทัตไม่สามารถที่จะขัดต่อความปรารถนาของครอบครัวได้ ทำให้วีนัสตัดสินใจลดความสัมพันธ์กลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมเพราะรู้ดีว่ายังไงความรักที่ทั้งสองมีก็สู้ความห่างไกลไม่ได้ ทัตเองก็ไม่ได้โต้เแย้งอะไรเคารพการตัดสินใจของอดีตคนรัก
"วีนัส" เสียงหวานของร่างเล็กที่เดินเข้ามาขณะที่หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยกำลังนั่งเหม่อลอยอยู่ดังขึ้น ทำให้ดวงตากลมสวยหันไปมองตามเสียง ก่อนจะพบว่าคนที่เข้ามาใหม่ก็คือไลลาเพื่อนสนิทตัวเล็กของเธอนั่นเอง
"ทำไมดูนั่งเหม่อๆจัง เป็นอะไรหรือเปล่า" ไลลาเอ่ยถามเสียงใส
"ฮ ฮะ"
"วีนัสน่ะ เหม่อคิดอะไรอยู่"
"อ๋อ เปล่าหรอก ไม่มีอะไร" ใบหน้าสวยยิ้มตอบกลับคนเป็นเพื่อนไปอย่างปัดๆ ไลลาก็พยักหน้ารับรู้ไม่เซ้าซี้ถามอะไรต่อ โดยไลลาก็คือเพื่อนสนิทของวีนัสที่มหาวิทยาลัย เป็นลูกสาวนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตระกูลดังผู้ทรงอิทธิพลอันดับต้นๆของประเทศ มีพี่ชายและน้องชายแท้ๆก็คือแทนไทและไทก้า ไลลาเป็นคนที่อัธยาศัยดี เป็นมิตรกับทุกคน แถมยังยิ้มง่าย มีใบหน้าที่น่ารักราวกับตุ๊กตาจนได้รับฉายา "บาร์บี้แห่งคอสตัน" ซึ่งก็คือชื่อมหาวิทยาลัยที่พวกเธอเรียนอยู่ วีนัสกับไลลาเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยคอสตัน คณะนิเทศศาสตร์ สาขาวิชาการแสดงและศิลปะการแสดงปีสองกำลังจะขึ้นปีสาม ทั้งสองรู้จักกันและเป็นเพื่อนกันได้จากการเข้ากิจกรรมรับน้องแล้วได้อยู่กลุ่มเดียวกัน ด้วยความที่วีนัสเป็นคนเก่ง กล้าแสดงออก ทำให้ไลลารู้สึกปลอดภัยที่ได้อยู่กับเพื่อนคนนี้ ทั้งสองจึงสนิทกันอย่างรวดเร็ว โดยจริงๆแล้วนั้นมันไม่ได้มีแค่วีนัสกับไลลา
"เหงาเหมือนกันเนอะ ปลายฟ้าไม่อยู่เนี่ย..." เรียวปากบางอมชมพูของไลลาที่ไม่รู้เรื่องอะไรกับใครเอ่ยขึ้น
"...อยู่ๆก็ส่งข้อความมาบอกว่าคงไม่ได้เจอกันอีก ขอโทษสำหรับทุกอย่าง..."
"...ขอโทษอะไรกัน แล้วหายไปไหนก็ไม่ยอมบอก" สิ้นเสียงหวานบ่นอุบ วีนัสก็ชะงักนิ่งเมื่อนึกถึงเพื่อนอีกคนที่ไม่เคยมองว่าไลลาเป็นเพื่อน ปลายฟ้าเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาตั้งแต่แรกที่เข้ากิจกรรมรับน้อง ทั้งสามอยู่ด้วยกันอย่างสนิทสนม โดยที่วีนัสกับไลลาไม่เคยรู้เลยว่าภายใต้รอยยิ้มดูเอ็นดูไลลานั้นมันแฝงไปด้วยความอิจฉาริษยาเพื่อนกันเอง วีนัสได้รู้ความจริงบางอย่างจากรุ่นพี่คนสนิทเกี่ยวกับการกระทำต่างๆของปลายฟ้าที่คิดร้ายกับไลลา จนในที่สุดปลายฟ้าก็ถูกคามิลแฟนหนุ่มจอมเย็นชาของไลลาในตอนนี้พาไปจัดการที่ไหนสักที่ ที่ๆวีนัสเองก็ไม่รู้ ส่วนไลลาก็ยังคงไม่รู้เรื่องอะไรกับใคร เพราะทุกคนอยากที่จะเซฟความรู้สึกของคนตัวเล็กหัวใจเปราะบางเอาไว้ ไลลาเองก็รักและให้ใจไปกับปลายฟ้าอยู่ไม่น้อย
"สงสัยถูกส่งกลับไปบ้านเก่าแล้วมั้ง" วีนัสเอ่ย
"หื้อ?"
"ก็...อาจจะต้องกลับบ้านกะทันหันอะไรแบบนี้ไง เธออย่าไปสนใจเลย"
"จะไม่สนใจได้ยังไง เพื่อนเราทั้งคนนะ..."
"ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเห็นเธอเป็นเพื่อนหรอกนะ"
"ห หื้อ?" ดวงตากลมมองหน้าถามเพื่อนสีหน้าสงสัยงุนงง
"ช่างเถอะ เอาเป็นว่า อย่าเชื่อใจใครง่ายๆ อย่าไว้ใจคนจนเกินไป..."
"...ใจแลกใจของเธอ ใช้กับทุกคนไม่ได้" เมื่อเห็นว่าไลลายังคงมีสีหน้าไม่เข้าใจในคำพูดของตัวเอง วีนัสก็ตัดสินใจที่จะไม่พูดอะไรออกไปอีกเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อให้คนตัวเล็กเลิกสนใจเรื่องของอดีตเพื่อนอย่างปลายฟ้า
"แล้วนี่เลิกเรียนกลับยังไง"
"วีนัสก็ต้องไปส่งเราน่ะสิ"
"แล้วพี่คามิล?"
"น่าจะติดเข้าเวรน่ะ วีนัสไปส่งเราหน่อยนะ แล้วก็...แวะกินสุกี้ที่ห้องเรากัน"
"ห้องเธอหรือห้องพี่คามิลกันแน่"
"ห้องเราสิ ห้องเราจริงๆ ห้องที่เราเคยอยู่ไง"
"อ้าว ไหนว่าพ่อเธอประกาศขายไปแล้ว"
"ปะป๊าแค่บอกไปแบบนั้นแหละ จริงๆยังอยู่"
"อ๋อ"
"ตกลงไปกินสุกี้ที่ห้องเรานะ ไปนะ~" เรียวปากเล็กอ้อนคนเป็นเพื่อนด้วยสีหน้าท่าทางชวนเอ็นดู วีนัสที่เห็นแบบนั้นก็ยิ้มพยักหน้าตอบกลับ
"โอเค"
"เย้! งั้นเดี๋ยวตอนกลับเราแวะซื้อเต้าหู้ชีสกันนะ~"
ตึกตึก...
เสียงสองเท้าบางของหญิงสาววัยยี่สิบเอ็ดเจ้าของความสูงร้อยหกสิบห้าเซนติเมตรใบหน้ารูปไข่เดินตรงเข้าไปยังบริเวณด้านในห้องเพื่อนสนิท
"ห้องยังดูสะอาดอยู่เลย"
"อ๋อ ปะป๊าให้คนคอยแวะเข้ามาทำความสะอาดอยู่ตลอดน่ะ ห้องก็เลยสะอาดแบบนี้" เรียวปากเล็กของไลลาตอบกลับ วีนัสจึงพยักหน้ารับรู้ก่อนที่ทั้งสองจะพาหยิบของสดที่ซื้อมาเดินไปล้างทำความสะอาดเพื่อที่จะนำมาทำอาหารกิน ทว่าขณะที่สองสาวกำลังยืนพูดคุยทำความสะอาดและหั่นของสดอยู่นั้น เสียงออดห้องของไลลาก็ดังขึ้นทำให้มือเล็กผละออกจากสิ่งของที่กำลังทำอยู่เดินตรงไปยังประตูห้องคอนโดตัวเองเพื่อเปิดให้คนที่อยู่ด้านนอกเข้ามา
แอดด~
"ทำไมมาถึงเร็วจัง" เสียงหวานของไลลาเอ่ยถามคนเป็นน้องชายขึ้นสีหน้าประหลาดใจ
"รถไม่ติด" เจ้าของใบหน้าหล่อของเด็กหนุ่มมัธยมปลายปีสุดท้ายสูงกว่าร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรที่อยู่ในชุดลำลองตอบกลับพร้อมกับเดินไปวางกระเป๋าโน้ตบุ๊กราคาแพงไว้ยังภายในห้องคอนโดใจกลางเมือง โดยในตอนนั้นเอง เสียงทักทายของวีนัสที่ยืนอยู่ในครัวก็ดังขึ้น
"หวัดดีไทก้า" ร่างสูงที่ถูกทักทายหันมองไปตามเสียงก่อนจะเห็นเพื่อนคนสนิทของพี่สาวกำลังยืนหั่นผักอยู่บริเวณด้านในห้องครัว
"สวัสดีครับ" ปากหนายิ้มบางๆ ตอบกลับสาวรุ่นพี่ด้วยท่าทียิ้มง่ายเหมือนกับคนเป็นแม่และพี่สาวของเขา
"กินข้าวมาหรือยัง กินสุกี้ด้วยกันไหม" วีนัสถาม โดยยังไม่ทันที่หนุ่มมัธยมปลายจะได้ตอบ
"อยู่กินสุกี้ด้วยกันก่อนสิไทก้า ไลลากับวีนัสซื้อเยอะเลย มีเต้าหู้ชีสด้วยนะ~"
"เต้าหู้ชีสอีกแล้ว" ไทก้าเอ่ยอย่างรู้ทันในของโปรดของคนเป็นพี่
"ก็มันอร่อยนี่หน่า~" ไลลาตอบกลับเสียงใส ก่อนที่คนตัวสูงจะพยักหน้าตอบกลับ อยู่กินสุกี้ตามคำเชิญชวนของสองสาว
"โอ๊ะ ได้เวลาลงไปเอาเค้กแล้วนี่" ริมฝีปากบางอมชมพูเอ่ยหลังจากที่นึกอะไรบางอย่างได้ เธอสั่งเค้กไว้กับร้านที่อยู่ใต้ตึกคอนโดราคาแพง
"จะไปไหน" เสียงทุ้มของหนุ่มมัธยมปลายถามคนเป็นพี่ขึ้น
"เดี๋ยวไลลาต้องลงไปเอาเค้กก่อน..."
"ที่ไหน"
"ข้างล่างไง ข้างๆ ทางเข้าล็อบบี้"
"เดี๋ยวไปเอาให้" ไทก้าบอก ทว่าไลลาก็ส่ายหน้าตอบกลับ
"ไม่ได้ ไลลาจะไปดูด้วยว่าเรื่องอะไรบ้าง สั่งมาแค่สามชิ้นเอง กลัวไม่พอ"
"..." ร่างสูงก็นิ่ง
"ไลลาไปละ ไทก้าอยู่ช่วยวีนัสหั่นผักทำความสะอาดเถอะ" เรียวปากเล็กบอกพร้อมกับทำท่าจะเดินออกไป แต่ก็ต้องชะงักเท้าบางไว้เมื่อได้ยินเสียงน้องชายตัวเอง
"เดี๋ยว"
"..." ดวงตากลมโตมองหน้าน้องชายสีหน้างุนงง ไทก้าก็เงียบไม่ได้พูดอะไรต่อ เดินไปหยิบเสื้อคลุมๆ ให้คนตัวเล็ก
"เดินไปดีๆ ดูรอบๆ ข้างด้วย"
"รู้แล้วน่า ไลลาไม่ใช่เด็กนะ" ใบหน้าใสตอบกลับทำหน้ายู่ใส่คนเป็นน้องก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายเดินออกจากห้องไป ไทก้าก็ไม่ได้พูดอะไร เดินตรงเข้าไปยังวีนัสที่กำลังยืนหั่นของสดอยู่
"ให้ผมช่วยอะไรไหมครับ" หนุ่มมัธยมปลายเจ้าของความสูงกว่าร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรถามขึ้น
"อ๋อ ไม่เป็นไรหรอกไทก้า พี่ทำคนเดียวได้ เราไปนั่งรอเถอะ"
"ไม่เป็นไรครับ ผมอยากช่วย" ปากหนาเอ่ย
"เอางั้นเหรอ" ใบหน้าสวยของรุ่นพี่สาวหันถามน้องชายเพื่อนสนิท
"ครับ" คนตัวสูงพยักหน้าตอบ
"โอเค งั้นเรา...ล้างผักที่เหลือแล้วกัน ตรงนั้นยังไม่ได้ล้างเลย"
"ครับ" ไทก้ายิ้มตอบสาวเท้าเดินเข้ามายืนล้างผักอยู่บริเวณด้านข้างวีนัสที่กำลังยืนหั่นเนื้อหมูอยู่ ทว่าขณะที่กำลังยืนหั่นเนื้อหมูอยู่นั้น ดวงตากลมสวยก็เหลือบไปเห็นแขนหนาของเด็กมัธยมปลายด้านข้างที่ถลกเสื้อแขนยาวขึ้นจนเผยให้เห็นรอยสักขนาดใหญ่พอสมควร
"นี่เรา...สักด้วยเหรอ" เรียวปากบางอดที่จะถามน้องชายเพื่อนออกไปไม่ได้
"อ๋อ ครับ" รอยยิ้มบางๆ ฉายขึ้นบนใบหน้าหล่อของเด็กหนุ่มวัยสิบแปดย่างสิบเก้า
"โอ้ ไม่น่าเชื่อ" วีนัสตอบกลับด้วยสีหน้ารู้สึกประหลาดใจอยู่ไม่น้อย เพราะเธอคิดว่าไทก้าไม่น่าจะชอบอะไรแนวนี้ แม้ว่าทั้งพ่อและพี่ชายของเขาจะออกแนวไปทางแบดบอย
"ทำไมครับ ผมไม่เหมาะกับรอยสักนี้เหรอ" เรียวปากหนายิ้มถามเพื่อนพี่สาว
"กะ ก็...ไม่เชิงว่าแบบนั้นหรอก พี่แค่คิดว่าเราดูไม่ค่อยออกแนวนี้เท่าไหร่"
"อ๋อ" ไทก้ายังคงยิ้ม
"ไม่เจ็บเหรอ" วีนัสถาม
"เจ็บมากครับ อยากร้องไห้เลย" เด็กหนุ่มมัธยมปลายตอบกลับพร้อมกับทำหน้าตาออกมาราวกับรู้สึกเจ็บกับสิ่งที่บอกจริงๆ
"เฮ้อ ก็ไปหาเรื่อง..." รุ่นพี่สาวส่ายหัวเอ่ย คิดว่าอีกคนไม่น่าซ่าไปหาเรื่องเจ็บตัวเลย ทั้งที่อยู่แบบปกติก็ดีอยู่แล้ว ผิดกับไทก้าที่ยืนยิ้มออกมาแม้ว่าแววตาจะดูเรียบนิ่งขัดกับรอยยิ้มที่ฉายอยู่
ครืดดด ~
เสียงโทรศัพท์ของคนตัวสูงดังขึ้นทำให้ดวงตาคมที่ล้างผักเสร็จพอดี จัดการเช็ดทำความสะอาดมือ เลื่อนมือลงไปหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมา
ข้อความ
เป็ด : ไอ้ก้า
เป็ด : พรุ่งนี้มึงว่างปะวะ
เป็ด : กูจะไปเติมอีก ไปเป็นเพื่อนกูหน่อย
เป็ด : เจ็บฉิบ อยากทนได้แบบมึงว่ะไอ่สัส ทีเดียวจบ ไม่ร้องสักแอะ
ไทก้ายืนมองข้อความที่เพื่อนสนิทส่งเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง รอยสักโง่ๆ พวกนี้น่ะเหรอ จะสามารถทำให้คนอย่างเขารู้สึกอะไรได้
แอดดด
"กลับมาแล้ว~" เสียงเล็กของไลลาเอ่ยขึ้นเสียงใสพร้อมกับเดินถือถุงขนมเค้กมากมายเข้ามาภายในห้องด้วยสีหน้าท่าทีมีความสุข
"ทำไมซื้อมาเยอะจัง" วีนัสถามเพื่อนตัวเล็ก
"ก็ซื้อมาเผื่อให้วีนัสกับไทก้าด้วยไง"
"ฉันไม่ชอบกินของหวานนะ เธอก็รู้นี่ แล้วซื้อมาเยอะแบบนี้จะกินกันหมดเหรอ"
"หมดสิ มีไทก้าอยู่ด้วยทั้งคนเลยนะ" ใบหน้าเรียวใสยิ้มหวานตอบกลับ ทำเอาวีนัสหันไปมองหน้าเพื่อนตัวเองสีหน้างุนงง
"ไทก้าก็ชอบกินเค้กเหมือนเรานี่แหละ แถมยังกินเยอะกว่าชอบแย่งเรากินด้วย" ว่าแล้ว ร่างบางก็หันไปทำหน้ายู่ใส่น้องชาย ไทก้าจึงหัวเราะยิ้มออกมาในท่าทีของพี่สาวตัวเล็ก
"อ๋อ เราชอบกินของหวานด้วยเหรอ" วีนัสมองหน้าถามเด็กหนุ่มมัธยมปลายที่ยืนอยู่แววตาสงสัย
"ครับ" เจ้าของใบหน้าหล่อดูดีพยักหน้าตอบกลับ
"น่าแปลกนะเนี่ย ปกติพี่ไม่ค่อยเจอผู้ชายชอบกินของหวานมาก่อน..." วีนัสยิ้มบอกออกไปตามตรง ไทก้าก็ไม่ได้ตอบกลับอะไรเอาแต่ยิ้มบางๆส่งกลับไปให้คนเป็นเพื่อนพี่
"...แต่ก็นะ เด็กวัยกำลังโตนี่เนอะ" ใบหน้าสวยยิ้มเอ่ยก่อนจะเริ่มหยิบบรรดาของกินเดินเข้าไปวางลงยังโต๊ะกลางด้านหน้าโซฟาราคาแพงในห้องรับแขก ซึ่งไลลากับไทก้าที่เห็นแบบนั้นก็ต่างพากันเดินเข้าไปช่วยหญิงสาว
ไม่นานทั้งสามก็นั่งกินสุกี้ไปโดยมีเสียงหวานของไลลาที่คอยนั่งพูดนั่นพูดนี่ไม่หยุด
"ถามจริง พี่คามิลไม่พูดอะไรบ้างเหรอ" วีนัสหันถามไลลาที่นั่งคุยแจ๋วแหววอยู่ขึ้น
"พูด? พูดอะไรเหรอวีนัส" ดวงตากลมโตมองคนเป็นเพื่อนสีหน้างุนงง
"ก็ที่เธอพูดมาก พูดไม่หยุดแบบนี้ไง อยู่กับพี่เขาได้เหรอ พี่เขาเล่นไม่พูดอะไรเลย" สิ้นเสียงวีนัสเอ่ย ไทก้าที่ได้ยินแบบนั้นก็หลุดหัวเราะออกมา ต่างจากไลลาที่มองค้อนหันไปมองหน้าเพื่อน
"วีนัส!"
"ก็จริงนี่ เธอเล่นพูดไม่หยุดเลย ส่วนพี่คามิลก็เหมือนป่าช้า"
"พี่เขาก็ไม่ได้เงียบขนาดนั้นซะหน่อย..."
"แต่ก็เงียบกว่าเธอเยอะเลยนะ"
"วีนัส!" ใบหน้าใสทำปากขมุบขมิบมองหน้าเพื่อนด้วยแววตาสีหน้าเอาเรื่อง วีนัสก็หัวเราะออกมาเมื่อได้เห็น ขณะที่ไทก้าก็หลุดหัวเราะอย่างไม่ต่างกัน
"เราไม่คุยกับวีนัสแล้ว นิสัยไม่ดี ว่าเรา"
"ที่พี่วีนัสพูดก็เรื่องจริง" เสียงทุ้มของเด็กหนุ่มมัธยมปลายพูดขึ้น ดวงตากลมจึงหันไปมองหน้าน้องชายตัวเองสีหน้าโมโหเอาเรื่องพอๆกับที่ทำกับเพื่อน
"ไทก้า!!"
"ฮ่าๆ" ใบหน้าหล่อหัวเราะยิ้มออกมาทันทีที่ได้เห็นหน้ายู่ของพี่สาวตัวเล็ก
"ไลลาไม่รักไทก้าแล้ว!"
"ใช่สิ เอาแต่รักหมอแล้วนี่"
"ไม่ต้องมาล้อไลลาเลยนะ นิสัยไม่ดี ไลลาจะฟ้องปะป๊า"
"ฮ่าๆ พอได้แล้วสองพี่น้อง..."
"...เอ่อ ไทก้ากินไข่ตุ๋นไหม" เสียงวีนัสหันเอ่ยถามน้องชายเพื่อนเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้
"ไข่ตุ๋นทรงเครื่องที่วีนัสชอบทำน่ะเหรอ" เรียวปากบางอมชมพูของไลลาแทรกถามขึ้น
"อืม" วีนัสยิ้มพยักหน้าตอบกลับ เพราะเธอแอบทำไว้ในตอนที่กำลังหั่นของสดอยู่
"อ้ายยย เรากิน!..." ไลลาตอบกลับคนเป็นเพื่อนพร้อมกับหันไปบอกน้องชายตัวเองสีหน้าออกรส
"...ไข่ตุ๋นทรงเครื่องฝีมือวีนัสอร่อยมากๆเลยนะไทก้า ถ้าไม่ได้กิน จะถือว่าพลาดมาก"
"ขนาดนั้นเลย?"
"ใช่! ไลลานะ ชอบกินมากๆเลย" ใบหน้าใสเอ่ยบอกน้องชายยิ้มแย้มบ่งบอกได้ถึงความชอบกินไข่ตุ๋นฝีมือเพื่อนสนิทมากๆ
"ลองดูไหม พี่ทำเผื่อไว้ให้เราด้วยนะ" วีนัสยิ้มถามเด็กหนุ่มร่างสูง
"ครับ ลองดูก็ได้ครับ" เรียวปากหนาตอบกลับทำให้วีนัสลุกขึ้นไปหยิบไข่ตุ๋นทรงเครื่องที่ทำให้เดินเอามาให้ยังสองพี่น้องที่นั่งอยู่ด้วยรอยยิ้มอบอุ่นใจดี
"มีเหลืออยู่อีกถ้วยนะ เผื่อใครติดใจ" สิ้นเสียงหวานบอก ไลลาก็ยิ้มเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดี
"ก็ต้องเป็นของเราอยู่แล้ว~"
"หึ" ไทก้าทำเสียงยิ้มออกมากับความน่ารักกินเก่งของพี่สาว ทว่าทันทีที่มือหนาได้สัมผัสเข้ากับไข่ตุ๋นตรงหน้า ใบหน้าหล่อก็แสดงสีหน้าพอใจออกมากับรสชาติ
"อร่อยจริงๆด้วยครับ"
"จริงเหรอ" วีนัสยิ้มถามน้องชายเพื่อน
"ครับ พี่วีนัสดูทำอาหารเก่งจังเลยนะครับ"
"พอดีพ่อพี่เป็นเชฟน่ะ ก็เลยติดฝีมือของพ่อมาบ้าง"
"อ๋อ ดีจังเลยนะครับ"
"..." ร่างสวยหุ่นดียิ้มตอบกลับเด็กหนุ่มมัธยมปลายไปด้วยความเอ็นดู โดยไทก้าก็นั่งตักไข่ตุ๋นเข้าปากอย่างรู้สึกถูกปากเป็นอย่างมากกับรสชาติที่กำลังได้ลิ้มลอง
"จะกลับกันแล้วเหรอ..." ร่างเล็กเจ้าของห้องเอ่ยถามน้องชายกับเพื่อนสนิทขึ้น
"ใช่ นี่ก็เริ่มมืดแล้ว เดี๋ยวหาแท็กซี่ยาก" วีนัสบอก
"แท็กซี่เหรอครับ?" ไทก้าหันถามเพื่อนพี่ขึ้น
"อ่าใช่ พอดีตอนที่พี่ขับมาส่งไลลาที่นี่ รถพี่เกิดมีปัญหาระหว่างทางขึ้นพอดี ตอนนี้น้องเลยได้ไปอยู่ศูนย์แล้ว" ใบหน้าสวยยิ้มตอบกลับน้องชายเพื่อนด้วยความปลงกับเหตุการณ์ก่อนหน้าที่ตอนแรกรถของเธอก็ดูปกติดี แต่ว่าก็ดันมามีปัญหาระหว่างทางซะงั้น
"ถ้างั้นให้ผมไปส่งพี่ไหมครับ" เด็กมัธยมปลายเอ่ยถามร่างสวยตรงหน้า
"ไม่เป็นไรเกรงใจ วันนี้พี่ว่าจะกลับบ้านด้วย"
"ไม่เป็นไรครับ ผมไปส่งได้"
"แต่..."
"ให้ไทก้าไปส่งเถอะวีนัส ทางบ้านของวีนัสก็ทางกลับทางเดียวกับบ้านเราอยู่นะ" ไลลาพูดขึ้นอย่างเห็นด้วยในความคิดของน้องชาย
"อืม ก็ได้" สุดท้ายวีนัสก็พยักหน้าตอบอย่างไม่คิดจะปฏิเสธต่ออีก เพราะรู้ว่าหากเธอยืนยันที่จะไม่ให้ไทก้าไปส่ง ไลลาก็จะยังคงไม่จบในการคะยั้นคะยองอแงเป็นแน่
"เย้! วีนัสนี่ไม่เคยดื้อกับเราเลย~" เรียวปากเล็กยิ้มหวานเอ่ยด้วยสีหน้าท่าทีอารมณ์ดี วีนัสจึงได้แต่ยิ้มบางๆส่ายหัวออกมากับความน่ารักของเพื่อนตัวเล็ก
"งั้นกลับกันเลยไหมครับ" เสียงทุ้มของเด็กหนุ่มมัธยมปลายเอ่ยถามขึ้น
"อืม" เจ้าของใบหน้าสวยพยักหน้าตอบ ทำให้ร่างบางเจ้าของห้องหันเอ่ยบอกน้องชายตัวเองเสียงใส
"ฝากส่งวีนัสด้วยนะไทก้า"
"อืม" สิ้นเสียงตอบกลับรับรู้ วีนัสกับไทก้าก็พากันเดินออกจากห้องคอนโดใจกลางเมืองของไลลาไปตามปกติ โดยระหว่างทั้งสองก็มีการพูดคุยกันอยู่บ้างตามประสาคนรู้จักกัน กระทั่งขึ้นมาบนรถสปอร์ตราคาแพง
"เด็กม.ปลายขับรถหรูขนาดนี้เลยสินะ" เสียงวีนัสเอ่ยยิ้มแซวขึ้นเมื่อได้เข้ามานั่งในรถที่ถูกออกแบบมาอย่างดี เธอเองเพียงแค่พูดแซวออกไปอย่างไม่ได้คิดอะไร เพราะเห็นรถของไทก้าอยู่หลายครั้งที่ขับมารับเพื่อนสนิท วีนัสรู้ดีว่าฐานะทางบ้านของครอบครัวนี้มีเงินมากมายมหาศาลขนาดไหน บ้านของเธอนี่...เทียบไม่ติดเลยสักนิด เพราะจัดอยู่ในฐานะปานกลาง ไม่ได้ร่ำรวยอู้ฟู่ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นต้องลำบาก และถึงบ้านของไลลาจะร่ำรวยมากแค่ไหนแต่วีนัสเองก็ไม่เคยคิดอิจฉาหรือริษยาคนเป็นเพื่อนเลยแม้แต่น้อย
"..." ไทก้าไม่ตอบแต่เลือกที่จะส่งยิ้มบางๆให้เพื่อนพี่ ก่อนที่คนตัวสูงจะขับเคลื่อนรถราคาแพงออกไปตามเส้นทางที่รุ่นพี่สาวบอก
"ถ้ารถติดมาก เดี๋ยวพี่นั่งแท็กซี่ต่อเข้าไปก็ได้นะ" เรียวปากสวยเอ่ยบอกน้องชายเพื่อนอย่างรู้สึกเกรงใจ
"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไปส่งถึงบ้านพี่เลย ว่าแต่...ผมเหมือนเคยได้ยินว่าพี่อยู่คอนโดไม่ใช่เหรอครับ"
"อ๋อ จริงๆพี่ก็อยู่คอนโดนั่นแหละ แต่วันนี้พ่อพี่เขาคงคิดถึงลูกสาวคนเดียวละมั้ง เลยโทรตามให้กลับไปนอนที่บ้าน"
"พี่กลับบ้านไม่บ่อยเหรอครับ"
"ถามว่าบ่อยไหม...ก็ไม่บ่อยหรอก เทอมหนึ่งกลับไม่กี่ครั้งเอง เพราะว่าปีสองงานเยอะมาก แล้วนี่ก็จะสอบไฟนอลอีก"
"อ๋อ"
"แล้วเราล่ะ เล็งมหา’ลัยที่ไหนไว้ อีกไม่กี่อาทิตย์ก็เรียนจบเตรียมเข้ามหา’ลัยแล้วนี่" เจ้าของใบหน้าสวยหันถามน้องชายเพื่อนสนิทขึ้นอย่างชวนคุย
"ผมยังไม่แน่ใจเลยครับ เลยว่าจะลองหาดูข้อมูลแต่ละคณะกับมหา’ลัยไปก่อน"
"เราอยากเรียนคณะอะไร"
"ผมเล็งวิศวะกับบริหารธุรกิจไว้ครับ"
"โอ๊ะ ไม่สนใจนิเทศศาสตร์บ้างเหรอ"
"ไม่เลยครับ หัวผมไม่ค่อยชอบทางนี้"
"ก็นะ แต่ดีแล้วแหละ บ้านทำธุรกิจใหญ่โตแบบนั้น เล็งสองคณะที่ตอบโจทย์การทำงานก็ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีมากเลย" วีนัสยิ้มบอกรุ่นน้องหนุ่มไปอย่างรู้สึกว่าอีกคนไม่ได้โตแต่ตัว ทว่าความคิดกับวุฒิภาวะก็ค่อนข้างเติบโตมาอย่างมีคุณภาพ แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้วีนัสรู้สึกแปลกใจสักเท่าไหร่ เนื่องจากเธอมักจะเห็นไทก้าคอยดูแลไลลาอยู่หลายครั้ง รวมถึงลักษณะภายนอกที่ดูสุภาพตั้งใจเรียน
"เอ่อ พี่ว่าจะถามอะไรเราอยู่"
"ครับ?"
"ปีนี้เราสูงขึ้นหรือเปล่า ทำไมพี่รู้สึกเหมือนเราสูงขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย" เรียวปากสวยหันถามเด็กหนุ่ม
"อ๋อครับ ผมสูงขึ้น"
"สูงเท่าไหร่แล้วเนี่ย"
"ร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรแล้วครับ"
"โอ้โห! อายุสิบแปดยังสูงขนาดนี้แล้วเนี่ยนะ" ร่างบางเผลอเอ่ยออกมาสีหน้าตกใจกับความสูงของน้องชายเพื่อนที่ได้ยิน
"..." ไทก้ายิ้มตอบกลับ
"พี่ว่าไม่แน่เราอาจจะสูงกว่าพี่แทนไทกับอาธามก็ได้นะเนี่ย อายุแค่สิบแปดยังสูงมากๆขนาดนี้เลย"
"ผมไม่อยากสูงไปกว่านี้แล้วครับ" เด็กหนุ่มมัธยมปลายเอ่ย
"อ้าว ทำไมล่ะ สูงเหมือนนายแบบๆนี้ ไม่ดีเหรอ"
"ไม่ดีครับ ผมปวดคอ"
"หื้อ?"
"เวลาที่ต้องคุยกับแม่กับไลลา ผมปวดคอตลอดเลย" สิ้นเสียงทุ้มของคนด้านข้างเอ่ย ใบหน้าเรียวสวยก็ระเบิดหัวเราะออกมาทันที
"ฮ่าๆ อย่าไปพูดแบบนี้ให้ไลลาได้ยินนะ เดี๋ยวก็โกรธตุ๊บป่องอีก" วีนัสยิ้มบอกอย่างรู้สึกขบขันไปกับคำพูดของน้องชายเพื่อนสนิทด้วยสีหน้าเอ็นดูเมื่อนึกไปถึงสีหน้าของไลลาที่หากมาได้ยินก็คงโกรธคนเป็นน้องอย่างเป็นแน่ โดยมีสายตาของไทก้าที่ลอบมองท่าทีของคนด้านข้างนิ่ง
"ขอบคุณนะครับ" อยู่ๆเรียวปากหนาก็เอ่ยออกมา ทำเอาเจ้าของใบหน้าสวยหันไปมองหน้าเด็กหนุ่มสีหน้างุนงง
"หื้อ?"
"ที่พี่เอ็นดูไลลาจริงๆแล้วก็คอยปกป้องพี่สาวผมมาตลอด"
"..." วีนัสชะงักนิ่ง
"เรื่องพี่ปลายฟ้า ผมเห็นทุกอย่างทั้งหมดที่เกิดขึ้นวันนั้นครับ"
"งั้นเหรอ..."
"ขอบคุณนะครับที่คอยช่วยกันดูแลและปกป้องไลลา"
"เราไม่เห็นจำเป็นที่จะต้องขอบคุณอะไรพี่เลย มันก็เป็นหน้าที่ของพี่เหมือนกัน พี่เป็นเพื่อนไลลาก็ต้องคอยปกป้องไลลาสิ" วีนัสยิ้มบอก ทำเอาไทก้าที่ได้ยินประโยคที่ฟังดูก็รู้ว่ามาจากใจพวกนั้นเผยรอยยิ้มบางๆขึ้นมาอีกครั้ง อย่างน้อยพี่สาวตัวน้อยที่ไม่ค่อยจะทันคนอย่างไลลาก็ยังมีเพื่อนที่แสนดีแบบวีนัสคอยอยู่ปกป้องอยู่ข้างๆ คนตัวสูงก็รู้สึกอุ่นใจ ใช้เวลาไม่นานรถสปอร์ตราคาแพงก็ขับเข้ามาจอดยังบริเวณหน้าบ้านขนาดพอดีของรุ่นพี่สาว
"ขอบคุณนะที่มาส่งพี่ ไว้เจอกัน"
"ครับ" หลังจากที่เด็กหนุ่มพยักหน้ายิ้มตอบกลับ วีนัสก็ลงจากรถเดินตรงเข้าไปยังภายในบ้านของตัวเองทันที ทว่าขณะที่ไทก้ากำลังจะเหยียบคันเร่งเคลื่อนรถออกไป
ครืดดด ~
เสียงโทรศัพท์ร่างสูงดังขึ้นทำให้มือหนาเอื้อมลงไปหยิบดู
ข้อความ
เฟย : ที่เดิม
เฟย : มาดิ
"ไง ยังจำทางกลับบ้านได้อยู่อีกเหรอ" เสียงวดีเอ่ยถามลูกสาวเพียงคนเดียวของตัวเองขึ้นหลังจากที่ร่างบางเดินเข้ามาภายในบ้าน
"แม่ก็..."
"...หนูไม่ได้ ไม่กลับบ้านเลยสักหน่อย ชอบแซวเนี่ย" เรียวปากสวยตอบ ก่อนจะเลื่อนสายตาไปมามองหาใครบางคน
"พ่อล่ะคะ" ใบหน้าสวยเอ่ยถาม
"อยู่ในครัวนั่นแหละ พอแกบอกว่าจะกลับ ก็รีบเข้าครัวไปเตรียมอาหารรอ"
"จริงเหรอแม่ แต่หนูเพิ่งกินข้าวมานะ"
"ก็ซวยแกไป รู้ว่าที่บ้านมีเชฟรอ จะไปกินก่อนมาทำไม"
"ก็ไลลาชวนนี่ ตอนแรกหนูก็ไม่ได้คิดว่าจะกลับบ้านด้วย" วีนัสตอบกลับคนเป็นแม่ไป โดยนี่เป็นการพูดคุยแบบปกติของทั้งสอง วดีกับวีนัสมักจะใช้คำพูดที่ฟังดูเรียบง่ายแบบนี้คุยกันเพื่อที่จะไม่เกิดช่องว่างระหว่างอายุมากีดกัน ทำให้วีนัสเวลามีอะไรที่ไม่สบายใจก็มักจะปรึกษาพูดคุยกับแม่ตัวเองทุกเรื่อง ไม่เว้นแม้แต่...เรื่องความรัก
"แล้วยังติดต่อมาอยู่หรือเปล่า"
"หื้อ?"
"แฟนเก่าแกน่ะ" ทันทีที่วดีถามจบ ร่างสวยหุ่นดีที่ได้ยินแบบนั้นก็ชะงักนิ่งไป
"ไม่ค่อย..."
"ฉันไม่ได้อยากจะตอกย้ำอะไรแกหรอกนะวีนัส แต่...บ้านเขากับเรามันต่างกัน แกเข้าใจที่แม่พูดใช่ไหม"
"อืม หนูรู้" เรียวปากสวยตอบกลับอย่างรู้ดีในความหวังดีที่แม่เธอพยายามบอกอยู่ตลอด นี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่วีนัสตัดสินใจยุติความสัมพันธ์กับทัต เนื่องจากฐานะทางบ้านของเขากับเธอค่อนข้างแตกต่างกันพอสมควร ทัตเป็นลูกชายนักธุรกิจที่มีฐานะ มีหน้ามีตาในสังคมอยู่ในระดับหนึ่ง ขณะที่บ้านของวีนัสเป็นเพียงชนชั้นกลาง ที่ถึงพ่อเธอจะเป็นเชฟที่มีเงินเดือนหลักแสนต่อเดือน ทว่าก็ไม่สามารถที่จะไปเทียบเท่ากับฐานะกับทางบ้านของทัต อดีตแฟนหนุ่มรุ่นพี่ของเธอได้
แม้ว่าทัตจะไม่ได้สนใจอะไรในเรื่องพวกนี้ แต่ที่บ้านเขาก็อาจจะไม่โอเค วีนัสคิดและทบทวนทุกอย่างมาเป็นอย่างดี จนสุดท้ายเธอก็เลือกที่จะจบความสัมพันธ์กับรุ่นพี่หนุ่มลงเพื่อให้เขาได้ไปเติบโตอย่างที่ทางบ้านเขาคาดหวังเอาไว้
"วีนัส" เสียงพงศ์ศักดิ์เดินเข้ามาเอ่ยเรียกลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของตัวเองขึ้นพร้อมกับนำจานอาหารเข้ามาวางลงบนโต๊ะห้องครัวภายในบ้าน
"แล้วนี่มายังไง นั่งแท็กซี่มาเหรอลูก" ชายวัยกลางคนมองหน้าถามคนเป็นลูกน้ำเสียงห่วงใยอบอุ่น
"ไม่ใช่แท็กซี่นี่ ว่าจะถามอยู่ ฉันเห็นเหมือนมีรถมาส่งแกเลยแต่ไม่ใช่แท็กซี่"
"อ๋อ ไทก้าน่ะค่ะ"
"ไทก้า?" พงศ์ศักดิ์ถามขึ้นด้วยความรู้สึกคุ้นในชื่อที่ได้ยิน
"น้องชายไลลาน่ะค่ะ พอดีหนูไปห้องไลลามาแล้วรถเสียนั่นแหละ น้องเลยอาสามาส่ง"
"อ๋อ" วดีพยักหน้ารับรู้ แล้วชายหญิงวัยกลางคนสองคนก็ไม่ได้เซ้าซี้ถามอะไรลูกสาวคนเดียวต่อ พวกเขานั่งคุยเล่นกันไปตามประสาครอบครัวขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น โดยมีรอยยิ้มของวีนัสที่ฉายออกมาไม่หยุดทุกครั้งที่ได้กลับมานอนที่บ้าน
อีกด้าน
ตึก
ตึก...เสียงสองเท้าหนักของเด็กหนุ่มมัธยมปลายเดินตรงเข้าไปยังด้านในร้านลับที่ภายนอกดูเหมือนอาคารห้องเช่าปกติ ทว่าบริเวณด้านในนั้นกลับเต็มไปด้วยโต๊ะสนุ๊กและสิ่งที่ไม่ดี
"มาแล้วว่ะ..." เสียงทุ้มของใครบางคนที่นั่งสูบบุหรี่อยู่เอ่ยขึ้นหลังจากที่เห็นเพื่อนสนิทตัวสูงของตัวเองเดินเข้ามายังโต๊ะสนุ๊กที่พวกเขากำลังเล่นกันอยู่
"...ไง" เฟย เอ่ยทักทายคนที่เข้ามาใหม่ด้วยท่าทีสนิทสนม โดยเฟยก็คือหนึ่งในเพื่อนสนิทของไทก้า เขามีเพื่อนสนิทอยู่สองคน ซึ่งก็คือเฟยกับเป็ด
"ไอ้เป็ดไปไหน" ไทก้าถามพร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ด้านข้างเพื่อนสีหน้าเรียบนิ่ง
"ไม่รู้แม่ง แอบไปเย็บใครอีกแล้วมั้ง" ทันทีที่เฟยพูดจบ ไทก้าก็นั่งนิ่งพยักหน้ารับรู้กับคำบอกเล่าของเพื่อน
"สักมวนไหม" เฟยถามพร้อมกับยื่นซองบุหรี่ไปยังร่างสูงที่นั่งอยู่
"ไม่ดีกว่า เดี๋ยวกูต้องไปรับแม่"
"มึงก็อมลูกอมที่พกติดตัวไว้ไง"
"ไม่ล่ะ แม่กูเร็วเรื่องแบบนี้" เจ้าของใบหน้าหล่อตอบกลับ เฟยจึงไม่เซ้าซี้อะไรต่อ นั่งสูบบุหรี่ในมือของตัวเองไป กระทั่ง...
"มาแล้วเหรอวะ" เสียงเป็ดเดินเข้ามาทักทายเพื่อนทั้งสองด้วยสภาพชุดหลุดลุ่ยไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทำอะไรมา
"ไปล่อเด็กที่ไหนอีกล่ะไอ้นี่"
"เด็กอะไร รุ่นพี่เว้ย"
"ใคร?"
"พี่พลอย ดาวมหา’ลัยเอชปีสาม...เด็ดสัส"
"หึ" เฟยทำเสียงส่ายหัวออกมากับคำพูดของเพื่อน
"เด็ดจริงนะเว้ยไอ้เฟย กูไม่คิดเลยว่าเอารุ่นพี่ แม่งจะมันขนาดนี้ สุดยอด โยกโคตรเก่ง แถมยังฟิต..."
"พอสักทีเถอะไอ้สัส จะเล่าจนถึงตอนมึงกระแทกเข้าไปเลยไหม" เฟยมองหน้าถามคนเป็นเพื่อน เป็ดจึงได้ยักไหล่ตอบกลับหันไปเอ่ยชวนเพื่อนอีกคนที่นั่งอยู่
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments