อารายม่ายรุ้
“พรีม”
“พรีม!”
“พรีม!!”
“ขา~ มีอะไรคะ” ฉันรีบวิ่งแจ้นจากหน้าเตาไปตามเสียงหล่อ ๆ วิ่งผ่านห้องนั่งเล่นทะลุทะลวงผ่านทุกห้องในคอนโดที่ใหญ่กว่าบ้านฉันห้าเท่าไปที่ห้องมาสเตอร์เบสรูมเพราะเสียงหล่อมาก~กำลังเรียกหา~
ผลัก!
ไปถึงที่ที่มีเสียงหล่ออยู่ข้างในนั้นฉันก็ผลักประตูเข้าไปเต็มแรงแล้วก็ได้เจอกับพ่อหนุ่มรูปงามนามปีศาจยืนนุ่งผ้าเช็ดตัวสีขาวสภาพจะหลุดแหล่มิหลุดแหล่โชว์ซิกแพคแน่น ๆ
“ว่าไงคะ~” ฉันยิ้มแฉ่งถามเขาที่ยืนจังก้าชูมือข้างหนึ่งขึ้นแล้วปลายนิ้วเรียวยาวก็มี...จีสตริงสีแดงเพลิงอยู่ในมือ
“นี่คือ?”
“จีสตริงไงคะ” ฉันตอบเสียงสดใสเหมือนเดิม ยิ้มแฉ่งด้วยเพราะเศษผ้าในมือเขามันเป็นอะไรอย่างอื่นไม่ได้แล้วในเมื่อสภาพมันชัดเจนขนาดนั้น พอได้คำตอบเขาก็จ้องหน้าฉันแล้วยกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง
“ของ?”
“ก็ของคู่นอนคุณเพลิงไงคะ” ฉันยังตอบชัดเจนเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแต่เขากำลังเส้นเลือดที่ขมับกระตุก
“แล้วจะเอามาใส่ในตู้เสื้อผ้าฉันทำไมวะ!”
“เอ้า! แล้วจะให้พรีมเอาไปใส่ในตู้พรีมรึไงคะ”
“พรีรตา!”
แป๊ะ!
“คุณเพลิง!!” ฉันโวยวายบ้าง โวยวายดังกว่าเขาอีกเพราะว่าเขา...ตัวนั้นมาเกือบโดนหน้าฉัน ไม่ใช่สิ! มันโดนแล้ว มันเฉียดแก้มฉันหน่อยนึงแต่ถ้าหลบไม่ทันรับรองว่ามันประทับตาลงที่หน้าฉันแน่!
“คุณเพลิงทำแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย!” ฉันจ้องเขาด้วยความเดือดดาลแต่คนทำก็จ้องหน้าฉันไม่ต่างกัน
“อย่าโวยวาย แล้วจำไว้คราวหลังอย่าเอากางเกงในผู้หญิงคนไหนมาไว้ในตู้ฉัน” เขาพูดจบก็ชี้หน้าทำท่าทางสั่งการส่วนฉันก็ยืนจ้องเพราะอยากกินเลือดกินเนื้อ
“...”
“แล้วนี่ซักรวมรึเปล่า”
“จะไปรู้เหรอ” ฉันตอบแบบขอไปทีแล้วก็เอาเท้าเขี่ยจีสตริงที่กองอยู่ที่เท้าให้พ้นทาง
“พรีม ตอบดี ๆ” น้ำเสียงดุดันกดดันออกมาฉันก็กรอกตามองบนทันที
“...พรีมไม่รู้ค่ะ” ฉันไม่รู้จริง ๆ เพราะไม่ได้มีหน้าที่ซักผ้า ฉันแค่รับเสื้อผ้าจากร้านซักรีดมาเก็บใส่ตู้ให้เขาก็แค่นั้น
“ถ้างั้นมีตัวไหนบ้างที่รับมาพร้อมกัน ไปเก็บมาทิ้งขยะเดี๋ยวนี้”
“โหคุณเพลิง จะรังเกียจอะไรขนาดนั้นคะ” ฉันเผลอใช้น้ำเสียงแขวะนิดหน่อย
“ฉันไม่ใส่เสื้อผ้าที่ซักรวมกับคนอื่น ก่อนส่งซักให้เอาเสื้อผ้าที่ไม่ใช่ของฉันทิ้งไป เคยบอกแล้วมีสมองก็จำบ้างสิวะ”
“ถ้างั้นทำไมไม่ให้เอาผู้ปูที่นอนทิ้งทุกวันไปเลยล่ะคะ มีคนมานอนด้วยทุกคืนไม่เห็นจะรังเกียจเลย ย้อนแย้ง”
“อย่ามาเถียง!”
“...” เหอะ! ฉันหุบปากตามที่เขาสั่งว่า อย่ามาเถียง! แต่ก็ไม่วายแอบเบ้ปากจนคุณเพลิงเส้นเลือดกระตุกอีกรอบ
“เธอ...”
“...” เขาชี้หน้า ท่าทางเข่นเขี้ยวเหมือนอยากด่า ขยับมือเตรียมชี้หน้าด่าด้วยแต่สุดท้ายก็ลดมือลงแล้วยืนท้าวสะเอว
“รีบไปเก็บเสื้อผ้าออกมาทั้งหมดแล้วไปทำกับข้าวไป”
“ทำอยู่ค่ะแต่คุณเพลิงเรียกให้มะ...กรี๊ด!!!!!” ฉันนึกอะไรขึ้นได้ก็กรี๊ดออกมาลั่นห้องพร้อมกับขาของตัวเองที่วิ่งสับกลับไปที่เดิมในวินาทีแรกที่นึกอะไรขึ้นได้!
กลิ่น! ตอนแรกไม่ได้กลิ่นแต่พอนึกได้กลิ่นก็ลอยคละคลุ้งมาเลย!
ตึง ๆๆๆ
“ซวย! ซวยแน่ ๆ ซ๊วย!!!”
ฉันวิ่งไปที่ครัวหน้าตื่น วิ่งจนเกิดเสียงดังแล้วก็มีเสียงคนวิ่งตามหลังมาด้วย พอถึงครัวเท่านั้นแหละขาที่เคยวิ่งสับเหมือนนักวิ่งเคนย่าก็หยุดกึกเป็นหุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซทันที!
“กรี๊ด!!!! ทำยังไงดี ๆๆๆ” ฉันมองภาพตรงหน้าด้วยสภาพที่นิ่งอึ้งประมาณ 999,999 ไมโครวินาที! แล้วก็กระโดดโลดเต้นมือก็สะบัดไปสะบัดมาเพราะทำอะไรไม่ถูกแล้วโว๊ย!!!
“ทำห่าอะไรของเธอวะ!” เสียงข้างหลังดังลั่นฉันเลยหันไปมอง
“ก็ทำกับข้าวไงคุณเพลิง!”
“อ่าส์! มันใช่เวลามาเถียงไหมยัยบ้านนอก!” เขาตะโกนด่าแล้วก็วิ่งผ่านหน้าฉันไปแล้วก็จัดการพุ่งไปปิดแก๊สทันที
“อ๊าส์! / กรี๊ด! คุณเพลิงระวัง!” ฉันร้องประสานเสียงกับเขา เสียงกรี๊ดที่แหลมเพราะตกใจกับเสียงทุ้มใหญ่ที่ร้องเพราะมือเขาน่าจะโดนเปลวไปดังไปลั่นห้องก่อนที่เขาจะทนความเจ็บ (มั้ง) แล้วเอื้อมมือฝ่าความร้อนไปปิดแก๊สต่อจนสำเร็จ
พรึ่บ!
“...ฟู่ว์~ แค่ก ๆๆ” ไฟจากเตาแก๊สที่กำลังลุกท่วมกระทะดับลงเหมือนถูกกลืนหายลงไปในเตาทำให้ฉันพ่นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งแต่ควันมันก็โขมงออกมาจนสำลักควัน
“...”
“แค่ก ๆๆ อะ...อะไรคะ พรีม...พรีมไม่ได้ตั้งใจนะคุณเพลิง” ฉันสำลักเอาเป็นเอาตายแต่อีกคนไม่มีอาการเหมือนกันเลยสักนิด เขาเอาแต่จ้องมาที่ฉันทำให้อาการสำลักหายไปในบัดดลคล้ายคนโดนจี้เอวตอนสะอึก พอเห็นหน้าเขาที่น่าจะร้อนกว่าที่ลุกไหม้กระทะเมื่อกี้ฉันก็รีบหุบปากที่เอาแต่ไอเพราะสำลักแล้วก็เอ่ยอะไรออกมาบ้างทันทีเพื่อให้เขารู้ว่าฉันไม่ได้ตั้งใจจะวางเพลิงครัวของเขา...อีกแล้ว
“ไม่ได้ตั้งใจ? หึ! ก็ไม่ได้ตั้งใจตลอดนั่นแหละ...ไม่ได้ตั้งใจสร้างความฉิบหาย!”
“ก็... / หุบปาก! ฉันแม่งไม่น่าเอาเธอมาอยู่ด้วยเลยว่ะ เถียงเก่ง ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ เก่งที่สุดก็คือสร้างความฉิบหาย! เมื่อไหร่จะไปให้พ้น ๆ จากฉันสักทีวะ!”
“แค่ก ๆๆ อะ...อะไรคะ พรีม...พรีมไม่ได้ตั้งใจนะคุณเพลิง”
“ไม่ได้ตั้งใจ? หึ! ก็ไม่ได้ตั้งใจตลอดนั่นแหละ...ไม่ได้ตั้งใจสร้างความฉิบหาย!”
“ก็... / หุบปาก! ฉันแม่งไม่น่าเอาเธอมาอยู่ด้วยเลยว่ะ เถียงเก่ง ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ เก่งที่สุดก็คือสร้างความฉิบหาย! เมื่อไหร่จะไปให้พ้น ๆ จากฉันสักทีวะ!”
“...” ไม่เห็นต้องพูดแรงขนาดนี้เลย
แล้วดูสิ พูดจบก็เดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงกลับห้องตัวเองไปเลย จะไปเลยก็ไม่แปลกจะอยู่ต่อทำซากอะไรก็ได้ระบายอารมณ์แล้วไง ได้พูดเพื่อปลดปล่อยความโกรธ ความโมโห ความอะไรต่อมิอะไรออกมาส่วนคนที่พึ่งใบบุญคนอื่นแบบ พรีรตา น่ะเหรอ?
“...เหอะ! อยากอยู่ด้วยตายแหละไอ้คุณเพลิงนรกบรรลัยกัลป์!”
ฉันเบ้ปากไล่หลังเขาแล้วก็หันกลับมาดูซากอารยธรรมประติมากรรมจิตรกรรม ฯลฯ ของสิ่งที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติครึ่งหนึ่งและมนุษย์สร้างขึ้นครึ่งหนึ่ง
ไฟ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองได้ตามธรรมชาติ แต่ไฟที่เกิดจากเตาแก๊สเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น แล้วซากอารรยาธรรมการทำอาหารก็เป็นสิ่งที่เกิดจากฝีมือฉันโดยที่มีเขาเป็นตัวแปรต้น
กำลังทำอาหารเช้าให้แต่ดันตะโกนเรียกลั่นห้องเหมือนตื่นมาแล้วพบว่าตัวเองหายไปซะขนาดนั้นใครจะไม่ตกใจแล้วรีบวิ่งไปหากันล่ะเจ้านาย!
แล้วดูสิ ดูผลของการรีบวิ่งไปหาสิ ก็พรีรตามันตกใจไงเลยรีบวิ่งไปโดยที่ลืมปิดเตาแก๊ส ความผิดใครวะ? เออ! ฉันมันสะเพร่าแต่มันเป็นความสะเพร่าเพราะเขาทำให้รีบไม่ใช่รึไง!
“เมื่อไหร่จะไปให้พ้น ๆ จากฉันสักทีวะ!”
ไม่ต้องห่วงหรอกเดี๋ยวไปแน่ หาผัวรวย ๆ ก่อน!
แต่ก่อนหาผัวรวยก็คงต้องทำความสะอาดให้เรียบร้อย ฉันรู้ว่าอีกไม่เกิน 15 นาทีไอ้คุณเพลิงที่แสนจะเนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าแถมยังเป็นคนที่เจ้าระเบียบตรงเวลามาก ๆ จะออกมาเพื่อกินข้าวแล้วไปทำงาน ฉันต้องรีบทำกับข้าวใหม่พร้อมกับทำความสะอาดครัวที่ตอนนี้เละไม่เป็นท่าให้เรียบร้อย
สู้! สู้ ๆ นะไอ้พรีม! ก็แค่ขัด ๆ ถู ๆ เหมือนทุกรอบที่แกเกือบทำไฟไหม้ครัวเขานั่นแหละ !
อ้อ สวัสดีค่ะฉันชื่อ พรีม นะคะ ชื่อจริงชื่อ พรีรตา เป็นเด็กปี 2 คณะคุรุศาตร์ที่มาจากหมู่บ้านเล็ก ๆ ของจังหวัดในประเทศไทย เป็นคนไทยแท้ที่บ้านจนยากแค้นแสนเข็นแต่วันหนึ่งได้จับพลัดจับพลูไปเจอกับคุณแม่ของไอ้คุณเพลิง คุณหญิงท่านเป็นประธานมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์พิการที่เดินทางไปช่วยทำหมันและรักษาน้องหมาจรจัดที่อาศัยอยู่ที่หลุมขยะขนาดใหญ่ใกล้บ้านฉัน ตอนนั้นฉันเป็นแค่เด็กม. 4 ไม่รู้หรอกว่าเขาทำอะไรกันแค่บังเอิญได้ผ่านไปแถวนั้นเพราะย่าใช้ให้เอาเศษอาหารจากวัดไปให้อีแดงหมาแม่ลูกอ่อนที่คลอดลูกแถวนั้นพอดี คุณหญิงท่านเห็นเลยให้คนเรียกให้ไปหาแล้วก็ถามว่ามาทำอะไรพอบอกเหตุผลของการไปที่หลุดขยะในตอนนั้นท่านก็รู้สึกเอ็นดูมาก~ ถามถึงชีวิตของฉันจนได้รู้ว่าฉันเป็นเด็กกำพร้าอาศัยอยู่กับย่าแล้วก็ป้าคุณหญิงเห็นนางสาวพรีรตาเป็นเด็กบ้านนอกตาใส ๆ ตัวคล้ำ ๆ ที่จิตใจดีมีเมตตาจากที่ท่านแค่ช่วยเหลือสัตว์พิการก็เลยแบ่งความเมตตามาอุปการะให้การศึกษาพาฉันย้ายมาเเรียนที่กทม. ตอน ม.5 ให้ที่อยู่ ให้ข้าวให้น้ำฉันด้วย
“แม่จะเอาเด็กนี่มาอยู่กับผมทำไมครับ ไม่กลัวรึไง”
“แม่ต้องกลัวอะไร?”
“ก็กลัวผมทำมิดีมิร้ายเด็กแม่นี่ไง”
“ฮ่า ๆๆ แม่เป็นแม่แกนะตาเพลิง สภาพแบบนี้แกคงทำอะไรหรอกมั้ง เมาไม่ได้สติแม่ยังเชื่อเลยว่าแกทำอะไรไม่ลง ช่วยแม่หน่อยน่าเด็กคนนี้ไม่มีญาติที่นี่ ไม่เคยมากรุงเทพเลยด้วยซ้ำถ้าให้อยู่หอคนเดียวจะอยู่ยังไง”
“ผมอยากอยู่เป็นส่วนตัวแม่ก็รู้”
“เด็กก็อยู่ส่วนเด็ฏแกก็อยู่ส่วนแก ดูแลให้แม่บ้างนิด ๆ หน่อย ๆ ก็แค่นั้นเอง เด็กคนนี้จะได้ช่วยงานบ้านแกไม่ต้องคอยจ้างแม่บ้านมาวุ่นวายหลายคนไง”
“อ่าส์! สรุปไม่ว่ายังไงผมก็ต้องยอม?”
“แหม~ ลูกรัก ลูกไม่น่าถามเลยนะจ๊ะ”
“หึ! อย่าสร้างปัญหาให้ฉันล่ะ...ยัยบ้านนอก”
นั่นคือบทสนทนาระหว่างคุณหญิงกับคุณเพลิงนรกที่ฉันจำได้ เขาแสดงออกว่าไม่ต้อนรับฉันตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้ากันแต่ก็ขัดคุณหญิงไม่ได้ แล้วสุดท้ายตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้พรีรตากับคุณอัคคีภัย เอ้ย! อัคนีต่างหากก็อาศัยอยู่ร่วมกันในคอนโดหรูแห่งนี้มา 4 ปีแล้วค่ะ !
“อย่าสร้างปัญหาให้ฉันล่ะ...ยัยบ้านนอก”
จะว่าไปคำแรกในชีวิตที่เขาพูดกับฉันด้วยอารมณ์ที่ไม่เป็นมิตรเปรียบเสมือนคำสาปเลยรู้ไหมเพราะที่ผ่านมาเท่าที่จำได้ครัวเขาเกือบเกิดอัคคีภัยมา 11 ครั้งแล้ว !
ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นการสร้างปัญหาให้เขาไหม แต่จากที่ดูก็คงใช่แหละมั้งเนอะถึงแม้ว่าเกือบทุกครั้งไอ้คุณเพลิงนรกจะมีส่วนในการวางเพลิงห้องครัวของตัวเองด้วยก็ตาม
แต่! แต่ก็ไม่ใช่ว่าฉันจะสร้างปัญหาอย่างเดียวหรอกนะเพราะสี่ปีที่ผ่านมาฉันทำทุกอย่างเลย ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของเขาเป็นอย่างดีตั้งแต่ความสะอาดของคอนโด อาหาร เสื้อผ้า เครื่องสำอาง แม้แต่แปรงสีฟันที่แปรงทุกวันยังเป็นฉันที่เลือกให้เลย คนอย่างคุณเพลิงเหลือแค่เคี้ยวข้าวป้อนกับอาบน้ำล้างก้นให้เท่านั้นล่ะที่ยัยบ้านนอกคนนี้ยังไม่ได้ดูแลรับใช้
เหอะ!คำก็ยัยบ้านนอกสองคำก็ยัยบ้านนอก ก็ไม่ใช่ยัยบ้านนอกคนนี้รึไงยะที่หาข้าวหาน้ำให้กินอยู่ทุกวัน แต่ไม่ได้มีแค่คำนี้หรอกนะที่คุณเพลิงนรกใช้เรียกฉัน คำนี้เป็นคำที่เขาเรียกโคตรบ่อย แรงอยู่นะสำหรับผู้หญิงคนนึงที่กำลังโตเป็นสาว แต่เชื่อเถอะถ้าเจอคำอื่นคุณจะรู้เลยว่า ยัยบ้านนอก ที่เขาใช้ด่ามันโคตรจะเป็นคำด่าที่คูล~
เป็นผู้ชายที่สรรหาคำด่าได้คูลสุด ๆ ได้ยินคำด่าใหม่ ๆ ทีไรหัวร้อนเป็นไฟเยอร์เหมือนชื่อคนปากหมา เอ้ย! เหมือนชื่อคุณเพลิง~ !
“คุณเพลิง”
“อะไร” เรียกดี ๆ จะเสียงแข็งกลับมาเพื่อ? ไม่มีมารยาท
“ทำแผลไหมคะ”
“ไม่ตาย”
“โอ๊ย~ คุณเพลิงจะหงุดหงิดใส่พรีมอะไรนักหนา” ฉันรำคาญ ยี่สิบห้านาทีแล้วตั้งแต่ที่ด่าฉันไปนี่ยังจะหงุดหงิดใส่อีกเหรอ
“เหม็นขี้หน้าเธอ ไปไกล ๆ ไป”
“ไปแน่ แต่...ขอเงินก่อน” ฉันแบมือออกไปทันทีที่พูดจบ
“อะไรนะ?”
“อาทิตย์นี้ยังไม่ให้ค่าขนมเลยค่ะ” ฉันไม่ได้ขอค่าขนมฟรี ๆ นะ ฉันทำทุกอย่างก็เห็น เป็นเมดให้เขาเกือบยี่สิบสี่ชั่วโมงด้วยซ้ำ
อ้อ! ตอนแรกก็คุณหญิงนั่นล่ะค่ะที่ให้แต่พอเข้าเรียนมหาลัยเขาก็เป็นคนให้เงินแทนเพราะเขาบอกว่าฉันไม่ได้ทำงานบ้านให้แม่เขาแต่ทำให้เขาเพราะฉะนั้น เขาจะจ่ายค่าจ้างคนใช้ส่วนตัวเอง เหอะ!
หมั่นไส้มากนะแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกเพราะไอ้ที่ทำอยู่ก็เรียกว่าคนใช้ชัด ๆ
“อะไรวะ นึกว่าให้แล้ว”
“ให้ที่ไหน”
“ไม่ได้วางไว้บนเตียงเหรอ?”
“วางอะไรล่ะ ไม่มี”
“วาง ฉันจำได้แล้วว่าวางไว้บนหัวเตียง”
“ไม่มีจริง ๆ คุณเพลิง”
“อมเงินเหรอ?”
“โหคุณเพลิง มาขออยู่ด้วยตั้งกี่ปีพรีมเคยอมเงินที่ไหน คุณเพลิงนั่นแหละหาเรื่องเบี้ยวเพราะหมั่นไส้ที่พรีมทำครัวคุณเพลิงเลอะใช่ไหม”
“หึ! ที่เธอทำไม่ได้เรียกว่าเลอะ มันเรียกว่าไหม้”
“...” เจอคำนี้ฉันเลยยอมเงียบ ไม่เถียงก็ได้
“ตกลงไม่เจอ? วางให้ตั้งแต่เมื่อวันก่อน”
“วันก่อนเหรอคะ?”
“อืม”
“หัวเตียงถูกไหม”
“เออ” เขาตอบแบบรำค๊านรำคาญส่วนฉันก็กรอกตามองบนเพราะคิดว่าน่าจะหาสาเหตุที่ไม่เจอเงินแล้ว
“คุณเพลิงคะ วันก่อนคุณเพลิงพาผู้หญิงมานอนด้วยเขาคิดว่าวางไว้ให้เขามั้งนั่นน่ะ”
“...”
“ไม่ต้องนิ่งเอามาเลย พรีมไม่ได้อุ๊บอิ๊บ วางไว้ไม่ดีเอง” ฉันแบมือไปขอเงินคุณเพลิงนรกสุดหล่อที่มองหน้าฉันโดยที่ไม่พูดอะไร
“ไม่มีเงินสด”
“พร้อมเพย์ได้เลยค่ะ ”
“โทรศัพท์ ไปหยิบมา”
“โอเค๊~” ฉันรีบวิ่งแจ๊นเข้าไปในห้องเขาก่อนจะกลับมาพร้อมโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดแล้วยื่นให้คุณผู้อุปถัมป์ค้ำจุล
“นี่ค่ะคุณผู้ชาย”
“กวนตีน” โดนเขาว่าเข้าให้แต่ไม่เป็นไรตอนนี้ไม่โกรธ
“เบอร์”
“096676XXXX ค่ะ ดอกเบี้ยด้วยนะคะ”
“ดอกเบี้ยอะไรวะ” เขาที่กำลังมองหน้าจอโทรศัพท์ละสายตาแล้วมองมาที่ฉันทันที ขมวดคิ้วเข้ม ๆ ด้วย
“ค่าจ่ายช้าค่ะ”
“ได้...ถ้างั้นขอหักค่าทำครัวฉิบหายเมื่อกี้ด้วยเอาไหม?”
“แหะ ๆๆ พรีมพูดเล่น ” แค่เตาแก๊สในคอนโดเขาก็แพงกว่าค่าเทอมของฉันรวมกันสี่เทอมไปแล้วใครจะโง่ให้หักกันล่ะ
“หึ!” เขาแค่นเสียงใส่ มองด้วยสายตาเหมือนจะด่าอะไรสักอย่างแล้วก็ก้มมองโทรศัพท์ต่อ
ติ๊ง!
“เสร็จแล้ว ไปไกล ๆ”
“ได้เลยค่า~” ไม่ต้องไล่ก็ไปอยู่แล้วค่า~
ฉันรับคำสั่งแล้วก็รีบเดินตัวปลิวกลับไปที่ห้องของตัวเอง ภารกิจเช้านี้เสร็จแล้วไปมหาลัยดีกว่า~
...15,000 บาท
บะ บ้า ไม่ใช่หรอก ดูผิด ๆๆ
...15,000 บาท
มะ ไม่ผิดเหรอ?
ตึง ๆๆๆ
ฉันที่เดินเข้าห้องมาหยิบกระเป๋าและโทรศัพท์รีบวิ่งออกไปที่เดิมทันทีที่เห็นตัวเลขที่แจ้งเตือนบนหน้าจอ
“คุณเพลิง ๆ”
“อะไร?”
“คุณเพลิงโอนเงินให้พรีมผิดรึเปล่า”
“ทำไม?” หน้าตาเขาไม่สบอารมณ์ดูไม่ค่อยอยากคุยกับฉันเหมือนปกติทำให้ฉันรู้สึกดีที่มาถามมากกว่าจะอมเงินเอาไว้ไม่งั้นเขาได้กินหัวแน่
“คุณเพลิงโอนผิดค่ะ โอนมาหมื่นห้า” เขาให้ค่าขนมอาทิตย์ละห้าพันนี่โอนเกินมาหนึ่งหมื่นเลย
“อืม ไปชงกาแฟมาให้ที”
“เอาเลขบัญชีคุณเพลิงมาก่อน”
“ไม่ต้อง โอนแล้วก็โอนไป”
“...นี่อย่าบอกนะคะว่าตั้งใจให้ดอกเบี้ยพรีมจริงๆ” ฉันหรี่ตามองก่อนจะถามเขาเลยมองมาที่ฉันบ้าง
“หึ ๆๆ ฉันไม่คิดจะใจดีกับเธอขนาดนั้นหรอกพรีรตา โอนผิดแต่ผิดแล้วก็ผิดไป คิดซะว่าเป็นค่าเก็บ...ทิ้งให้ก็แค่นั้น”
“...สุดยอดจริง ๆ เลย” ฉันว่าให้แต่เขาก็แค่มองแล้วปัดมือไล่ให้ไสหัวไปไกล ๆ
“เหอะ! ยังจะเอาไหมคะกาแฟเนี่ย”
“เอาสิวะ ไม่เอาจะบอกทำไม”
“...” ถามให้โง่ ถามให้โดนด่า สาระแนถามจริง ๆ ไอ้พรีม!!!
ฉันเดินกระแทกเท้าแรง ๆ ไปชงกาแฟให้แต่ถามว่าไอ้คุณเพลิงนรกแคร์ไหมก็ไม่หรอก คนอะไรก็ไม่รู้โตเป็นควายเรียนจบจนถึงขั้นเป็นผู้บริหารแล้วยังกวนตีนไม่เลิก!
อดทนนะพรีม อีกสองปีนิด ๆ อีกแค่ยี่สิบกว่าเดือนเรียนจบแล้วจะขนข้าวของออกจากที่นี่ปลดแอกความเป็นทาสของตัวเองทันที!
“ไงเพื่อน~ ทำไมวันนี้มาสายจังเลย”
“เกิดปัญหานิดหน่อยน่ะ” ฉันบอกกีวี่เพื่อนสนิทที่ทักทายหลังจากที่ฉันแอบย่องเข้าห้องเรียนจากประตูหลัง สายมากค่ะ สายไปเกือบ 2 ชั่วโมง ! ดีนะอาจารย์เขาเช็คชื่อท้ายคาบเรียนไม่งั้นได้มีชื่อว่าขาดแน่นอน
“เป็นไรอ่ะ”
“ทำครัวเกือบไหม้” ฉันกระซิบตอบคราวนี้พอได้ยินคำตอบเพื่อนสาวของพรีมก็ทำตาโต
“อีกแล้วเหรอ?”
“อือ” ฉันพยักหน้ารับแต่ถามว่าตอนนี้รู้สึกผิดไหม ก็ไม่นะ รู้สึกผิดทำไมก็คุณเพลิงนรกเป็นต้นเหตุของเพลิงในครัวไม่ใช่พรีรตาคนนี้โดยตรงซะหน่อย
“เออพรีม”
“อือ”
“คุณเพลิงอะไรของแกนี่หล่อมากไหม อยากเห็นหน้านานแล้ว” กีวี่รู้ว่าฉันอยู่กับคุณเพลิง ฟังฉันด่า เอ้ย! บ่นถึงนายเหนือหัวอยู่บ่อย ๆ แต่ฉันไม่เคยเอารูปให้ดูหรอก แค่บอกว่าหล่อครั้งเดียวส่วนมากจะเอาเขามานั่งด่า เอ้ย! บ่นมากกว่า
“หล่อ...มาก” แล้วสันดานก็เสียมากเช่นกัน
“ขอดูรูปหน่อย”
“ไม่มี” ไม่เคยถ่ายรูปด้วยกันจะมีได้ไง
“ถ้างั้นขอเขาทีจะเข้าไปส่อง”
“เขาไม่เล่นนะ” น่าจะไม่แหละไม่รู้เหมือนกัน อยู่ด้วยกันแต่คนละชั้นลำพังคุยกันแต่ละวันยังแทบจะกินหัวแล้วจะติดตามกันไปเพื่อ...
“โหย~ แล้วทำยังไงจะได้เห็นหน้า ไม่มีรูปเขาจริง ๆ อ่ะ”
“ไม่มีจริง ๆ”
“อะไรของแกวะพรีม แกอยู่กับคนที่แกบอกว่าหล่อมากแต่แกไม่มีรูปเขาให้ดูเลยนี่นะ”
“อือ ก็เป็นแค่ผู้อาศัยร่วมกันไม่ได้เป็นญาติพี่น้องกันซะหน่อยจะถ่ายรูปไว้เพื่อ”
“...” กีวี่จ้องฉันด้วยสายตาที่เหมือนจะด่าว่า อีขี้โม้ เลยแฮะ ซึ่งฉันยอมให้เพื่อนคิดว่าฉันโกหกไม่ได้แน่นอนมันจะทำให้ภาษีความน่าเชื่อถือของเราหายไป
“ไม่ได้โกหก หล่อจริง ๆ แต่ไม่มีรูปเขาไง”
“ไม่อยากจะเชื่อเลย”
“เชื่อเถอะ จะให้เอาเวลาตอนไหนไปถ่ายรูปคู่อ่ะวี่ แค่หายใจร่วมกันก็จะกินหัวกันอยู่ทุกวันแล้ว”
“เฮ้อ~ แอบถ่ายมาให้ดูหน่อยดิ อยากเห็น”
“โน ๆๆ ไม่มีทาง เราไม่มีทางยอมให้โทรศัพท์ของเรามีรูปคุณเพลิงเด็ดขาดเพราะโทรศัพท์ของเราจะกลายเป็นเครื่องรางความซวยของชีวิต”
“ใจร้าย แล้วถ้าให้แกเปรียบเทียบความหล่อของคุณเพลิงให้ฉันฟังล่ะ เอาแบบไม่อคตินะ เขาหล่อประมาณไหน ขอนิยายความหล่อหน่อย” ท่าทางกีวี่มันจะอยากเห็นจริง ๆ นะคะ แต่ถึงเพื่อนไม่เน้นคำว่าไม่อคติฉันก็ไม่โกหกหรอกเพราะฉันยอมรับมาตลอดว่าคุณเพลิงหล่อมาก~หล่อแบบหล่อบรรลัยไปเลย
“ก็หล่อแบบ หล่อตั้งแต่ชาตินี้ถึงชาติหน้าอ่ะ นึกออกไหม”
“โห~ ยิ่งพูดยิ่งอยากเห็น ขอไปหาที่คอนโดได้ไหมคะ~”
“ฮ่า ๆๆ ได้ค่ะ แต่ไปทำตัวให้สวยกว่านี้อีกสักนิดก่อนนะคะเพื่อน เสร็จแล้วก็ไปล่อไอ้คุณเพลิงที่ผับหรู ๆ สักที่ถ้าเข้าตาเดี๋ยวก็ได้ไปเอง เขาจะพาแกไปด้วยความเต็มใจเลยล่ะ แต่หลังจากนั้นแกต้องกลับเองนะจ้ะ และที่สำคัญอย่าคิดจะทิ้งเสื้อผ้าไว้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของเพราะคนลำบากคือฉันคนนี้ที่ต้องเอาไปทิ้ง”
เพี๊ยะ!
“พรีม!”
“ฮ่า ๆๆ เรียน ๆๆ” ฉันขำเกือบจะดังแล้วก็หันไปสนใจอาจารย์แทน แต่ที่พูดเมื่อกี้ไม่ได้ล้อเล่นนะคะ กีวี่มันสวย สไตล์นางแบบหน้าตาเฉี่ยวเก๋ถ้าแต่งตัวแซ่บ ๆ แพง ๆ อีกนิดนี่ก็คือไทป์คู่นอนของคุณเพลิงนรกเป๊ะเลยล่ะ
-หลายวันต่อมา-
“คุณเพลิง”
“อืม มีไร” มองหน้าสิวะนั่งจ้องรูปผู้หญิงใส่บิกินี่ในจอแท็บเล็ตอยู่ได้
“วันศุกร์พรีมจะขอไปเที่ยวกับเพื่อนนะคะ”
“เที่ยวไหน ต่างจังหวัดเหรอ”
“เปล่า ถนนข้าวสารค่ะ” ฉันตอบปุ๊บคุณเพลิงนรกก็ละสายตาจากหน้าอกผู้หญิงมองฉันทันที
“จะเที่ยวร้านเหล้า”
“อาฮะ” ฉันพยักหน้ารับ
“อายุเท่าไหร่แล้ว”
“สิบเก้าค่ะแต่วันศุกร์นี้ยี่สิบพอดีเป๊ะ!” ฉันตอบด้วยความมั่นใจว่าอีกสามวันข้างหน้าตัวเองผ่านการ์ดหน้าประตูร้านเหล้าทุกร้านทั่วราชอาณาจักรได้แน่นอน อิอิ
“จะไปฉลองวันเกิดว่างั้น?”
“ใช่แล้วค่ะ เพื่อนมันอยากพาพรีมไปฉลอง ขอไปนะคะคุณเพลิง พรีมไม่เคยไปเที่ยวกับเพื่อนเลย”
“เดี๋ยวก็ใจแตก ยิ่งบ้านนอก ๆ อยู่ด้วย”
“โหคุณเพลิง พรีมอยู่กรุงเทพมาหลายปีแล้วเหอะ แค่ไปเที่ยวผับกับเพื่อนครั้งแรกในชีวิตจะเป็นอะไร อายุยี่สิบแล้วด้วย”
“ยี่สิบปุ๊บจะเข้าผับปั๊บ เกินไป” เขาพูดแค่นั้นแล้วส่องผู้หญิต่อ เห็นแล้วโคตรหมั่นไส้เลยว่ะ
“คนนั้นชื่อน้องอลิเซีย อายุ 17 มีรูปเช็คอินร้านเหล้าแล้วก็ใส่บิกินี่ถ่ายรูปในปาร์ตี้ริมสระประจำ เผื่อคุณเพลิงไม่รู้ค่ะ” ฉันชะโงกหน้าไปมองหน้าจอของเขาแล้วก็เสนอหน้าพูดคุณเพลิงนรกเลยหันมามองตาขวาง
“เสือก”
“ชิส์! ไม่ได้สาระแนแต่แค่จะบอกว่าผู้หญิงที่คุณเพลิงดูรูปเซ็กซี่ ๆ ของเขาอยู่อายุน้อยกว่าพรีมตั้งเกือบสามปีแต่เขาเข้าผับได้แล้วนะ”
“อืม” เขาเปล่งเสียงในลำคอแล้วก็สไลด์หน้าจอโทรศัพท์ดูรูปต่อไปซึ่งจังหวะมันเป๊ะเพราะเป็นคลิปที่น้องเขาแต่งตัวเซ็กซี่มาก~ กำลังโยกตัวอยู่ในผับและคุณเพลิงนรกก็ดูคลิปนั้นใหญ่เลยค่ะ เห็นแบบนี้พรีมก็ยิ้มสิคะ
“ตกลงคุณเพลิงอนุญาตนะคะ”
“ไม่”
“เอ้า! ทำไมล่ะ”
“ไม่ได้ เดี๋ยวแม่ด่า ไปไกล ๆ ไปขี้เกียจคุยด้วย”
“โห~ คุณเพลิงใจร้ายมาก ทำร้ายจิตใจลูกนกลูกกา”
“วันเกิดก็ตื่นมาใส่บาตรแล้วก็นึกถึงพระคุณพ่อแม่สิวะ ไปเที่ยวผับกับเพื่อนทำห่าอะไร เพื่อนมันเบ่งเธอออกมาเหรอ?”
“...” ไอ้คุณเพลิง! หมดคำจะพูดเลย!
“ทีตัวเองยังไปได้บ่อย ๆ เลย สิทธิของคนน่ะรู้จักบ้างไหม”
ขวับ!
“เถียง?”
...
“ออกความคิดเห็นค่ะ”
“ไปไกล ๆ รำคาญ”
“...”
“ไป”
“...เหอะ!” สุดท้ายฉันก็ต้องสะบัดหน้ากลับห้องต่อให้ในใจจะไม่พอใจแค่ไหนก็ตาม!
“วันเกิดก็ตื่นมาใส่บาตรแล้วก็นึกถึงพระคุณพ่อแม่สิวะ ไปเที่ยวผับกับเพื่อนทำห่าอะไร เพื่อนมันเบ่งเธอออกมาเหรอ?”
ตัวเองก็ไม่ใช่พ่อแม่เหมือนกันเหอะคุณเพลิง ทำไมต้องมาสั่ง!
ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด
ติ๊ด!
(ว่าไงลูก)
“คุณป้าขา~”
-สามวันต่อมา-
“คุณเพลิง”
“อะไร”
“...ไม่ให้ไปจริง ๆ เหรอคะ”
“ไปไหน?” เขาที่นั่งเอาเท้าพาดมาบนโต๊ะอาหารแล้วเอนหลังจิบกาแฟในยามเช้าที่ฉันยื่นให้ถึงมือถามทันทีส่วนฉันที่เพิ่งวางแซนวิชลงบนโต๊ะไม่ไกลจากส้นตีน เอ้ย! ไม่ไกลจากปลายเท้าของเขาก็มองหน้าคนถาม
“ไปฉลองวันเกิดไง”
“อยากไป?”
“ใช่ค่ะ” รีบตอบสิคะรออะไร ไม่อยากไปจะถามเพื่อ
“อืม โอเค อยากไปฉลองที่ไหนล่ะ”
“ก็ที่ถะ... / วัดหนองอีแร้งไหม? เดี๋ยวพาไปถวายสังฆทานเอง แถมทำบุญโลงศพด้วยเลย”
“...” เหอะ! ดับฝันได้โคตรกวนประสาท
“ว่าไง? ไม่ชอบเหรอ?”
“ไปคนเดียวเถอะคุณเพลิง! นี่นะคะแซนวิช อย่าลืมกินล่ะ!” ฉันสะบัดตูดออกมาทันที
“จะไปทำไมวะ ค่านิยมบ้า ๆ วันเกิดต้องไปเที่ยวผับกับเพื่อน” เสียงเขาบ่นไล่หลังมาฉันเลยสะบัดหน้าหันกลับไป
“ไม่ได้อยากไปผับหรอกค่ะแต่พรีมไม่เคยมีวันเกิด ไม่เคยเป่าเค้ก นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนจะจัดงานวันเกิดให้ เข้าใจไหมคุณเพลิง มันไม่ได้เกี่ยวว่าจัดในผับพรีมถึงอยากไปต่อให้เพื่อนจัดให้พรีมในป่าช้าวัดหนองอีแร้งบ้าบอของคุณเพลิงพรีมก็อยากไปอยู่ดี!” ฉันตอบเขาแล้วเปิดประตูเข้าไปในห้องทันที
ห้ามจริง ๆ เลย อะไรที่เป็นความสุขของคนใช้อยากพรีรตาเนี่ย!
โมโห!
ฉันทิ้งตัวนั่งสงบสติอารมณ์แต่ใช้เวลาแค่แป๊บเดียวเท่านั้นก็อารมณ์กลับมาเป็นปกติ
ไม่ให้ไปงั้นเหรอ?
เหอะ! ไม่ให้ไปก็แล้วแต่ค่ะแกล้งขออีกรอบไปงั้นแหละเพราะความจริงแล้วคุณหญิงอนุญาตน้องพรีมแล้วจ้า~
...Happy birthday to you
Happy birthday to you
Happy birthday
Happy birthday
Happy birthday to…Preme~
“...ฟู่ว์~”
“วู้ว~ มีความสุขมาก ๆ น้าไอ้พรีมคนสวย~”
“ขอบคุณน้า~” ฉันขอบคุณเพื่อน ๆ ที่จัดงานวันเกิดให้ในผับ มันสนุกมาก~ มีคนมาชนแก้วเต็มไปหมดเลย อ้อ! เจ้าของงานฮอตมากด้วยนะคะ ขนาดไม่ได้แต่งตัวแซ่บ ๆ เหมือนคนอื่น ฉันใส่แค่ชุดเดรสสายเดี่ยวสีขาวที่เพื่อนเตรียมไว้ให้ มันไม่โป๊เลยเห็นร่องอกแค่นิดเดียวแต่น้องพรีมดันมีหนุ่ม ๆ มาขอเบอร์เยอะแยะเต็มไปหมด ก็อย่างว่า...ไอ้พรีมมันสวย โฮ๊ะ ๆๆๆ
“พรีม~”
“ว่า~”
“กินเค้ก~” ปิ๊งรักที่เรียกฉันพูดจบก็ป้อนเค้กเข้ามาในปากฉันทันทีแล้วหลังจากนั้นเพื่อน ๆ ในกลุ่มก็รุมป้อนเค้กเจ้าของวันเกิดกันคนละคำสองคำซึ่งน้องพรีมคนนี้ก็ไม่อิดออดที่จะรีบน้ำใจเพราะเค้กวันเกิดก้อนแรกในชีวิตมันอร่อยมาก~
ยิ่งกินเค้กหวาน ๆ กับเหล้าขม ๆ นี่นะ ครั้งแรกในชีวิตเลยค่ะทำไมมันอร่อยแบบนี้~
-เวลาต่อมา-
“โชน~ แก๊ว~”
“พรีม ๆ พอแล้วแก”
“อื้อ~ พออารายก๊อน~ หล้าวยางเหลือ~ เอิ๊ก~”
“เฮ้อ~ เอาไงดีปิ๊ง ชวนมันกลับจนล้าแล้วเนี่ย”
“เอาไง ลากไปส่งไง”
“ลากคราย~”
“ลากแกนั่นแหละไอ้พรีม มาเลยผับปิดแล้ว”
“อื้อ~ ยางม่ายปีด~”
“พรีมอย่างี่เง่ามาเลยแก”
“อื้อ~ ป่อย~”
“พรีม~ แกจะทิ้งตัวเพื่อ”
“ปล่อยเลยครับ”
ขวับ!
“อื้อ~ ป่อย~ กินต่อ ๆๆ”
“ปล่อยเลยครับ”
“อะไรนะคะ?”
“ปล่อยแขนยัยนี่เลย”
“พี่...พี่เป็นใครคะ มา...มาสั่งอะไรพวกหนู”
“เป็นผู้ปกครองของเพื่อนน้อง”
“ฮะ! / ฮะ! ยะ อย่าบอกนะคะว่านี่คือคุณเพลิงนรก เอ้ย! คุณเพลิง”
“...เพลิงนรก?” ผมไม่ได้หูฝาด ไม่ได้แปลกใจที่โดนเรียกว่าเพลิงนรก แต่ไม่คิดว่ายัยบ้านนอกของแม่จะกล้าเรียกผมด้วยคำนี้ให้เพื่อนฟัง?
ผมมองหน้าเพื่อนเธอสองคนที่น่าจะเป็นตัวตั้งตัวตีของงานวันเกิดบ้า ๆ บอ ๆ แล้วมองไปที่คนกลาง โดนหิ้วปีกสภาพจะล้มลงไปกองเป็นผักที่พื้นยังกล้าอ้าปากบอกว่าเหล้าเหลือ
...เดี๋ยวจบจากที่นี่ได้โดนดีแน่ยัยบ้านนอก
“เอ่อ คือ...สวัสดีค่ะคุณเพลิง~ ได้ยินพรีมเล่าให้ฟังมาตั้งนานว่าคุณเพลิงหล่อมาก~ ใจดีมีเมตตามาก~ พวกเราสองคนเพิ่งมีโอกาสได้เจอตัวจริง หล่อสมคำล่ำลือเลยค่ะ หนูชื่อปิ๊งรักนะคะ ส่วนนี้กีวี่ค่ะ”
เหอะ ๆๆ หล่อสมคำล่ำลือ? ล่ำลือจากใครวะ จากยัยบ้านนอกขี้เมานี่น่ะเหรอ สาบานว่าจะเอาผมไปชมว่าหล่อ ผมว่าขุดผมไปด่ามากกว่า ไม่รู้ว่าคบเพื่อนสองคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่มัธยมหรือมหาลัยแต่ผมว่าน้องเขาคงรู้เรื่องที่ผมใช้...เปลืองตั้งแต่วันแรกที่คบกันเป็นเพื่อนแล้วล่ะ
“ขอบคุณครับ โอกาสหน้าคงได้คุยกันมากกว่านี้แต่วันนี้พี่ขอพาพรีมกลับก่อน”
“คือ...ได้ค่ะ ถ้างั้นวี่กับปิ๊งรบกวนด้วยนะคะพี่เพลิง”
“ครับ กลับได้แล้ว...พรีม” อ่าส์! พูดชื่อยัยนี่แล้วรู้สึกหนักที่ปากยังไงก็ไม่รู้ว่ะ
ผมขยับไปรับยัยบ้านนอกขี้เมาจากเพื่อนเธอ อย่าว่าแต่ยืนเลยปัญญาจะตั้งหัวให้ตรงยังไม่มี มันน่าทำโทษยังไงดี? กระทืบให้เหล้าทะลักออกมาซะดีไหมวะ...โมโหฉิบหาย
“อือ~ นี่คราย~” แค่ผมจับแขนก็โงนเงนมองหน้าผมแล้วก็ถาม กลิ่นเหล้าหึ่งจนแทบอ้วก
“เงียบแล้วกลับได้แล้ว” ผมดุเบา ๆ ข่มใจแทบตายเพราะไม่อยากให้คนอื่นเห็นผมปฏิบัติกับยัยบ้านนอกไม่ดีทั้งที่ความจริงผมเดือดตั้งแต่ 3 ทุ่ม!
“...อ๋อ~ นึกว่าคราย~ ที่แท้ก้อคูนเพิงนาโร๊ก~”
...อย่าพ่นไฟนะไอ้เพลิง อย่างน้อยก็ตอนนี้
“กลับ”
“อื้อ~ หล้าวยางเหลือ~ เอิ๊ก~”
...โดนแน่ยัยบ้านนอก อยากกินมากพรุ่งนี้จะจับเหล้ากรอกปากให้ท้องแตกตายไปเลย
“กลับได้แล้วพรีรตา”
“อื้อ~ ยางม่าย...อื้อ~”
“ว๊าย!”
“กลับกันดี ๆ นะครับ” ผมบอกเพื่อนเธอแค่นี้แล้วเดินนำออกมาทันที
...ตัวหนักฉิบหายเลยว่ะ!
ตัวแค่นี้มันไปหนักอะไรวะ หนักเหล้าในท้องรึไงยัยบ้านนอก!
“อื้อ~ ป่อย~”
“หุบปาก” ผมบอกเบา ๆ ไม่สนว่าจะได้ยินไหมแต่ก็พูดออกไปเพื่อระบายอารมณ์โมโหของตัวเอง...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments