หน้า12-14

...****** 12 *********...

ฮวาเฉิงเดินออกมาข้างนอกอีกคน จึงได้เห็นเซี่ยเหลียนกล่าวกับให้ใบ นั้นว่า "ป้านเยว่ เจ้าพื้นแล้วหรือ"

ดีที่ตอนกลับมาจากทะเลทรายก็ล่วงเข้ายามดึกแล้ว มิเช่นนั้นหากใคร มาเห็นเซี่ยเหลียนออกมายืนถามไหใบหนึ่งดึก ๆ ตื่น ๆ ว่า เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง คงได้แตกตื่นกันยกใหญ่แน่

ผ่านไปครูใหญ่ ก็มีเสียงอู้อี้ดังออกมาจากไหใบนั้นว่า “แม่ทัพฮวา” เซี่ยเหลียนยอบกายลงนั่งข้างไห “ป้านเยว่ เจ้าออกมาดูดาวหรือ อยาก

ออกมาดูข้างนอกไหไหม"

ฮวาเฉิงยืนเอนกายพิงต้นไม้ต้นหนึ่งอยู่ใกล้ ๆ พลางกล่าว “นางเพิ่งจะ ออกจากเมืองป้านเยว่มา ให้อยู่ในไหต่ออีกสักพักจะดีกว่า”

ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้ป้านเยว่ก็อยู่ในแคว้นป้านเยว่มาร่วมสองร้อยปี ต้องเปลี่ยนที่กะทันหันเช่นนี้ อาจจะปรับตัวยากอยู่บ้าง เซี่ยเหลียนเลยกล่าวว่า “เช่นนั้นเจ้าอยู่ข้างในอีกสักระยะจะดีกว่า พักฟื้นอีกหน่อยก็แล้วกัน ที่นี่เป็น สถานที่บำเพ็ญเพียรของข้า เจ้าไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น”

ไหใบนั้นโงนเงนสองที ไม่รู้ว่าอยากบอกอะไร ใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง เซี่ยเหลียนก็กล่าวออกมา “ป้านเยว่ ความจริงแล้วครั้งนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับ เจ้าเลย งูหางแมงป่องของเจ้าเป็น...”

ป้านเยว่เอ่ยขึ้น “แม่ทัพฮวา ตอนนั้นข้าไม่อาจขยับตัว แต่ข้าได้ยิน หมดแล้ว”

ได้ฟังเช่นนั้น เซี่ยเหลียนก็อึ้งไป เพิ่งรู้ก็คราวนี้ว่า ที่แท้ตอนนั้น เผยชีว เพียงสะกดการเคลื่อนไหวของป้านเยว่ แต่มิได้ผนึกการรับรู้ของนาง เขาจึง กล่าวว่า "...ก็ดี"

ได้ยินทั้งหมดแล้วก็ดีเหมือนกัน

ไหใบนั้นถามอีก “แม่ทัพฮวา แล้วแม่ทัพเสี่ยวเผยจะเป็นอย่างไรต่อไป หรือเจ้าคะ”

เซี่ยเหลียนเอาสองมือซุกแขนเสื้อ “ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่า...กระทำ

...******* 13 ********...

ความผิด ก็ต้องรับโทษทัณฑ์"

เงียบไปครู่หนึ่ง ไหใบนั้นก็โงนเงนอีกสองที ครานี้เซียเหลียนนับว่ามอง ออกแล้ว ที่มันส่ายเช่นนี้ ที่แท้หมายถึงพยักหน้านั่นเอง

บ้านเยว่ “ความจริง แม่ทัพเสี่ยวเผยไม่ใช่คนเลวเช่นนั้น"

"อย่างนั้นหรือ"

“เจ้าค่ะ” ป้านเยว่กล่าวต่อ "เขาเคยช่วยข้า”

ไม่รู้อย่างไร ในสมองของเซี่ยเหลียนพลันนึกออกอีกหลายเรื่อง

ป้านเยว่มักถูกทุบตีอยู่เป็นนิจ หากใช้คำพูดของเด็กหย่งอันคนอื่น ๆ มากล่าวก็คือ นางมีหน้าตาที่ "วอนถูกทุบตี

หลังจากที่รู้จักนางแล้วเป็นนาน เซี่ยเหลียนถึงค่อยรู้เรื่องนี้ เพราะไม่ว่า ป้านเยว่จะทุกข์ทนกับการถูกทุบตีสักเพียงใด นางก็ไม่เคยปริปากบอกใคร จน กระทั่งวันหนึ่ง เซี่ยเหลียนเห็นพวกเด็ก ๆ จับหน้านางกดลงไปกับโคลน จึงได้ รู้ว่ารอยเขียวช้ำเหล่านั้นมีที่มาอย่างไร

แต่พอผ่านไประยะหนึ่ง ครั้นถามนางอีกครั้ง นางกลับจำได้แค่ว่า เด็กหนุ่มคนหนึ่งช่วยฉุดนางขึ้นมาจากปลักโคลน และยังให้นางยืมผ้ามา เช็ดหน้า นางเลยต้องเอาผ้าผืนนั้นที่ซักสะอาดแล้วไปคืนเขา ส่วนอย่างอื่นก็ จำไม่ได้แล้ว

ใครตีนาง นางจำไม่ได้ แต่คนที่ช่วยนางแม้เพียงครั้งเดียว นางจะจดจำ ไปชั่วชีวิต

ป้านเยว่กล่าวอีก “ถึงแม้เค่อหมัวด่าว่าข้าถูกเขาล่อลวงให้ลุ่มหลง ถูก คนเขาหลอกใช้ แต่ไม่ว่าเขาจะหลอกใช้ข้าหรือไม่ ข้ารู้ดีว่า ที่เปิดประตูเมือง ในตอนนั้นเป็นการตัดสินใจของข้าเอง"

เซี่ยเหลียนไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี แต่บางส่วนในหัวใจพลันอ่อนนุ่มลง สักพักเขาก็ตบ ๆ ไหใบนั้น “เอาละ มันผ่านไปแล้ว อา จริงสิ ป้านเยว่ ฮวาเซี่ยเป็นชื่อปลอมนะ อีกทั้งข้าก็เลิกเป็นแม่ทัพมานานแล้ว เจ้าไม่ต้องเรียก ข้าว่าแม่ทัพฮวาแล้วก็ได้"

...******* 14 ********...

บ้านเยวถาม “เช่นนั้นข้าควรจะเรียกท่านว่าอย่างไรดีเจ้าคะ"

นี่กลับเป็นปัญหาเช่นกัน หากป้านเยว่ก็เรียกเขาอย่างเป็นจริงเป็นจังว่า องค์ไท่จือขึ้นมาอีกคน คงจะรู้สึกว่ามันทะแม่งๆ ตรงไหฝากเป็นจ

เซียเหลียนเดิมทีก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องการเรียกขานอะไรอยู่แล้ว เพียงแค่ อยากหาหัวข้ออื่นขึ้นมาคุยบ้างก็เท่านั้น

“เช่นนั้นก็ตามแต่ใจเจ้าเถอะ จะเรียกแม่ทัพฮวาต่อไปก็ได้”

เพียงแต่ตรงนี้ มีผู้ใช้แซ่ฮวาตัวจริงอยู่ทั้งคน เรียกขึ้นมาก็อาจจะเกิด ความสับสนได้ ครั้นพอคิดดูอีกที จึงนึกได้ว่า แม้จริง ๆ แล้ว ฮวาเซีย” จะ เป็นชื่อปลอม โดยการเอาคำแรกของฉายา “ฮวากวานอู่เงิน" (เทพยุทธ์มงกุฎ บุปผา) มาเป็นแซ่ เช่นนั้น “ฮวาเฉิง” ก็น่าจะเป็นชื่อปลอมเช่นกัน พวกเขาต่าง ก็ตั้งชื่อปลอมโดยใช้แซ่เดียวกัน ช่างบังเอิญเสียจริง ๆ

เวลานี้เอง ก็ได้ยินบ้านเยว่กล่าวขึ้น “ขอโทษนะเจ้าคะ แม่ทัพฮวา”

เซี่ยเหลียนเหลียวหน้ากลับมา กล่าวอย่างอึดอัดกลัดกลุ้มอยู่บ้าง “ป้านเยว่ เหตุใดเจ้าจึงเอาแต่ขอโทษข้าอยู่ร่ำไป” หน้าตาเขาคงไม่ถึงกับว่าใคร เห็นเป็นต้องรู้สึกผิดหรอกกระมัง

ป้านเยว่ “ข้า...อยากช่วยเหลือปวงประชา!"

เซี่ยเหลียน "..."

ป้านเยว่ “แม่ทัพฮวา ตอนนั้นท่านกล่าวไว้เช่นนี้"

เซี่ยเหลียน “???”

เขารีบจับไหดินเอาไว้ “เดี๋ยว ๆ เดี๋ยวสิ!”

ป้านเยวถาม “เดี๋ยวอะไรเจ้าคะ"

เซี่ยเหลียนชำเลืองมองฮวาเฉิงที่ยืนเอามือกอดอกอยู่ใต้ต้นไม้ พลางถาม นางเสียงเบา “ตอนนั้นข้าพูดเช่นนี้จริง ๆ น่ะหรือ”

ประโยคนี้เป็นคำพูดติดปากของเขาสมัยอายุสิบกว่าขวบชัด ๆ ตลอด หลายร้อยปีมานี้ก็ไม่น่าจะเอามาพูดอีก แรกได้ฟังเซี่ยเหลียนยังรู้สึกสะเทือนใจ เกินกว่าจะรับไหว ทว่าป้านเยว่กลับกล่าวยืนยัน “ท่านแม่ทัพ ท่านเคยพูดเจ้าค่ะ”

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!