จากที่ณัฐดลได้บอกกับแพรวาว่า
จะมาซื้อหมูปิ้งที่ร้านตรงที่เจอกันครั้งแรกทุกวัน เขาก็มาตามที่พูดเอาไว้
ณัฐดลกับมินตราทำงานคนละที่ และเดินทางไปกันคนละทาง
ทำให้เขาสามารถแอบมาเจอกับแพรวาได้สะดวก
"วันนี้พี่ณัฐมาเร็วกว่าปกติหรือเปล่าคะ
แพรว่าแพรก็ออกจากบ้านมาเช้ากว่าทุกวันแล้ว พี่ก็ยังมาถึงก่อนแพรอยู่ดี"
แพรวาเอ่ยถาม
"ใช่สิ พี่ตื่นมาก็อยากเจอแพรเลย
ก็เลยรีบมารอ อยากอยู่กับแพรนานๆ" ณัฐดลตอบพลางยิ้มให้กับสาวนักศึกษาตรงหน้า
หญิงสาวรู้สึกเขินอายเล็กน้อย
แต่ใจชื่นชมยินดี เธอเองก็คิดเหมือนกันกับเขา อยากเจอกับเขาทุกวัน
อยากอยู่กับเขานานๆ
“วันเสาร์นี้แพรไปไหนหรือเปล่า
พี่อยากจะชวนแพรไปกินข้าว” เมื่อเช็กดูจนมั่นใจแล้ว ว่าวันเสาร์มินตราต้องไปทำงาน
เพราะเธอมีโอที ณัฐดลจึงได้ตัดสินใจเอ่ยชวนแพรวาไปกินข้าวด้วยกัน
“ว่างค่ะ ร้านไหนดีคะ”
สาวน้อยไม่ได้ปฏิเสธ หนำซ้ำเธอยังดูจะสนใจคำเชิญชวนมากทีเดียว
“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนนะ
ไว้พี่จะบอกกับแพรในแชตก็แล้วกัน” หญิงสาวพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย
ทั้งคู่ยืนคุยกันอย่างสนุกสนานเหมือนเคย
โดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งแอบมองพวกเขาอยู่แถวนั้น
เมื่อถึงเวลาต้องแยกจากกัน
ณัฐดลก็เดินไปที่รถของเขา เพื่อที่จะเตรียมตัวเดินทางไปทำงาน แต่ทันใดนั้นเอง
เขาก็ถูกเรียกตามหลังด้วยเสียงที่คุ้นหู
"ณัฐ...คุยกันหน่อยได้ไหม"
ณัฐดลหันกลับไปมอง และพบว่าเป็นอัญญาแฟนเก่าของเขา
"อัน...มาทำอะไรที่นี่
ไม่เจอกันนานเลยนะ" ณัฐดลถามด้วยสีหน้าตกใจ
"จริงๆ ก็ตั้งใจว่าจะมาซื้อหมูปิ้งร้านนี้นี่แหละ
แต่ไม่คิดว่าจะได้เจอช็อตเด็ด" หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ
เธอตั้งใจมาซื้อหมูปิ้งจริงๆ แต่ที่ยังยืนแอบมองอยู่
เพราะไม่มั่นใจว่าผู้ชายที่เธอเห็นยืนจีบเด็กมหาวิทยาลัยอยู่นั้น
ใช่ณัฐดลหนุ่มขี้อายที่เธอเคยมีความสัมพันธ์ด้วยหรือเปล่า
ณัฐดลถอนหายใจด้วยความรู้สึกโล่ง
อย่างน้อยคนที่มาเห็นเขากับแพรวาก็ไม่ใช่มินตรา
ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าเธอแยกไปทำงานอีกทาง แต่มันก็อดระแวงไม่ได้จริงๆ
"ช็อตเด็ดอะไรกัน
เมื่อวันก่อนเราขี่รถชนกับน้องเขา แล้วเราทำโทรศัพท์น้องเขาพัง
ก็เลยต้องเอาไปซ่อมให้" ชายหนุ่มพูดแก้ตัว
"ไม่ต้องโกหกเราหรอก
ณัฐก็รู้ว่าเราไม่มีทางเอาเรื่องนี้ไปบอกมินมันได้อยู่แล้ว”
อัญญาจบกับณัฐดลไม่สวยนัก จะว่ามินตราเป็นมือที่สามก็ไม่เชิง
เพราะก่อนที่ณัฐดลจะเลิกกับเธอนั้น อัญญาเป็นคนขอห่างจากเขาเอง
แล้วช่วงเวลานั้นณัฐดลก็ไปเจอกับมินตราเข้าพอดี ทำให้เขาตัดใจจากอัญญาได้รวดเร็ว
“มันไม่มีอะไรจริงๆ”
ถึงจะรู้ว่าอัญญาไม่มีทางเอาเรื่องนี้ไปบอกมินตรา แต่เซฟตัวเองไว้ถือว่าดีที่สุด
มันไม่ควรมีใครรู้เรื่องนี้
"โอเค ๆ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่
แล้วแสดงว่าเธอก็ยังรักกันดี กับมินตรางั้นสิ"
“ก็ไม่เชิง มันก็ธรรมดาคนรักกัน
ก็มีทะเลาะกันเป็นปกติ” ตั้งแต่ที่ชีวิตของณัฐดลมีแพรวาเข้ามา
ความรักระหว่างเขากับมินตราที่ไม่เคยมองว่ามีปัญหา ก็เริ่มจะมีปัญหาขึ้นมา
“ก็ถือว่าครบกันนานอยู่นะสามสี่ปีแล้วหรือเปล่า”
ณัฐดลพยักหน้ารับ เขาแอบคิดว่าคงจะนัดเจอกับแพรวาตรงนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว
สักวันคงมีคนรู้จักมินตรามาเห็นเขา แล้ววันนั้นแหละที่เขาจะซวยเอาได้
คืนวันนั้น ณัฐดลนอนไม่หลับ
คิดถึงแพรวาก็ส่วนหนึ่ง
แต่อีกส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะกำลังกังวลเรื่องที่มีคนไปเห็นเขากับแพรวาอยู่ด้วยกัน
ชายหนุ่มหันมองแฟนตัวเองที่หลับสนิทอยู่ข้างๆ
ก่อนเขาจะตัดสินใจเปิดโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูอีกครั้ง
ภาพโปรไฟล์ของแพรวาที่กำลังยิ้มแย้มอยู่บนหน้าจอ ทำให้เขายิ่งปฏิเสธไม่ได้แล้วว่า
ตอนนี้เขาหลงรักเธอเข้าเต็มหัวใจ
ณัฐดลอยากจะโทรไปหาเธอ
แต่กลัวว่ามินตราจะได้ยินเข้า จึงต้องฝืนใจเก็บความคิดนั้นไว้ เขาพยายามข่มตานอน
หลับตาลงแล้วนึกถึงรอยยิ้มของแพรวา เสียงหัวเราะและดวงตาสดใสของสาวนักศึกษา
ณัฐดลค่อยๆ หลับไปพร้อมกับรอยยิ้มในความฝันเขา
ภาพจำลองที่เขาได้กอดแพรวาไว้ในอ้อมแขน ฝันที่เขาเฝ้าภาวนาให้มันเกิดขึ้นมาจริงๆ
เสียที
เมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้า
ณัฐดลรีบเตรียมตัวไปทำงานด้วยความหวังว่าจะได้เจอแพรวาเหมือนเคย
เขาตื่นเช้ากว่าปกติจนมินตราเริ่มรู้สึกได้
“ช่วงนี้ณัฐตื่นเช้าจัง
ปกติเห็นบ่นว่าไม่อยากไปทำงาน
ช่วงนี้ดูเหมือนใจจดใจจ่อรอเวลาไปทำงานยังไงก็ไม่รู้” มินตราพูดขึ้น
เธอเห็นสีหน้าและแววตาของณัฐดลก็พอจะเดาออก
“เราตื่นเต้นที่จะได้เบี้ยขยันน่ะสิ
เดือนนี้เรายังไม่ขาดไม่สายเลย” เขาแก้ตัว
“กี่ล้านกันล่ะเบี้ยขยันเนี่ย
ถึงได้เปลี่ยนคนขี้เกียจอย่างณัฐให้ขยันขึ้นมาได้”
หญิงสาวเอ่ยแซวแฟนหนุ่มของตัวเอง
“มินก็พูดเกินไป ณัฐไปทำงานก่อนนะ”
เขาพูดก่อนจะเดินเข้าไปจูบที่หน้าผากของแฟนสาว
มันนี้เขาตั้งใจว่าจะชวนแพรเปลี่ยนสถานที่เจอกันใหม่ ตรงนี้มันล่อตาผู้คนเกินไป
“ณัฐ”
แต่เพียงเขาก้าวออกมาได้ไม่กี่ก้าว เสียงเรียกของมินตราก็ดังขึ้น
ชายหนุ่มรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ตามประสาคนมีความผิด
“ลืมโทรศัพท์”
เธอพูดก่อนจะชูโทรศัพท์ของเขาขึ้นมา ณัฐดลรีบเดินเข้าไปหยิบโทรศัพท์ของเขาทันที
เพราะกลัวว่ามินตราจะเห็นข้อความของแพรวาเข้า
หลังจากวันที่ณัฐดลเจอกับอัญญาโดยบังเอิญ
เขาก็เปลี่ยนที่เจอกับแพรวาใหม่ เป็นร้านโจ๊กใกล้ๆ มหาวิทยาลัย
เขาอ้างว่าที่นี่มีเมนูหลากหลายกว่า มีที่ให้นั่งคุยกัน ซึ่งแพรวาก็เห็นด้วย
และวันนี้ก็เป็นวันหยุดที่พวกเขาได้นัดกันไว้
ว่าจะไปเดทกัน ณัฐดลเลือกร้านที่อยู่ในซอยลึก เพื่อเลี่ยงการพบเจอกับผู้คน
เลือกร้านที่มีโต๊ะอยู่ในมุมที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว
โดยที่แพรวาไม่รู้เลยว่าเขาเลือกร้านนี้เพราะไม่อยากให้คนเห็น
ณัฐดลจูงมือแพรวาเดินเข้าไปในร้านอาหารเล็กๆ
ที่ซ่อนอยู่ลึกเข้าไปจากถนนใหญ่ ร้านอาหารเล็กๆ แห่งนี้ตกแต่งสไตล์โลกแฟนตาซี
ที่นี่มีโต๊ะเก้าอี้ไม่กี่ชุดหากไม่จองก่อนก็จะไม่ได้มานั่งง่ายๆ
"ถึงแล้วค่ะ"
ณัฐดลพูดพลางพาสาวน้อยเข้าไปนั่งที่โต๊ะ
"ที่นี่น่ารักจังเลยค่ะ
พี่ณัฐหาได้จากไหน" แพรถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและตื่นเต้น เธอมองไปรอบๆ
ด้วยความรู้สึกประทับใจ เธอชอบที่นี่มากๆ
"พี่หาข้อมูลจากในเน็ตน่ะ
ตั้งแต่วันที่ชวนแพรพี่ก็หาทุกวันเลยนะ ดูรูป ดูรีวิวซ้ำๆ จนตัดสินใจเลือกที่นี่
พี่กลัวแพรจะไม่ชอบ" ณัฐตอบพลางยิ้ม
พนักงานของร้านเดินออกมาต้อนรับอย่างอบอุ่น
ทั้งสองเลือกอาหารและสั่งเครื่องดื่มกันพอประมาณ
"ขอบคุณนะคะที่พามาที่นี่
มันเงียบสงบดี บรรยากาศก็ดี" แพรกระซิบบอก
"พี่อยากมีเวลากับแพรตามลำพัง
พี่อยากให้เรารู้จักกันมากกว่านี้" ณัฐตอบพลางยิ้มเจ้าเล่ห์
เมื่ออาหารมาถึง ทั้งคู่กินอย่างช้าๆ
พลางคุยกันเรื่อยเปื่อยอย่างอบอุ่น บรรยากาศแสนโรแมนติก
ทำให้หัวใจของณัฐดลกับแพรวาต่างก็เต้นรัว
พวกเขาต่างมีความสุขที่ได้มาเดทกันในวันนี้
“ถ้ากินเสร็จแล้ว
พี่ณัฐจะไปไหนอีกหรือเปล่าคะ แพรอยากจะเลี้ยงหนังพี่ณัฐคืนบ้าง” สาวน้อยเอ่ยขึ้น
เธอยังอยากจะอยู่กับเขาต่ออีก
“เรื่องอะไรดีล่ะ”
ถึงในใจจะกังวลเพราะกลัวจะมีคนเจอเข้า แต่ณัฐดลก็ไม่ได้พูดปฏิเสธ
“แพรก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ
ปกติไม่ค่อยได้ดูหนังเลย นานๆ จะมีสักครั้ง”
“ถ้างั้นเดี๋ยวพี่เช็กให้นะ”
“ไปเลือกหน้าโรงก็ได้มั้งคะ”
“พี่เป็นคนติดวางแผน พี่ไม่ค่อยชอบรอ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ”
เมื่ออีกฝ่ายพูดมาแบบนั้น หญิงสาวก็ไม่ได้ติดใจอะไร เธอรู้สึกชื่นชมเขาเสียอีก
ที่ดูเป็นคนมีแบบแผน มีความเป็นผู้ใหญ่
"งั้นพี่ขอตรวจสอบรอบฉายก่อนเลยนะครับ
ไม่อยากให้น้องนั่งรอนานๆ"
เขาคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาค้นหาตารางฉายหนังในพื้นที่ใกล้เคียง
ที่จริงแล้วเขาไม่อยากเสี่ยงไปนั่งรอ เพราะกลัวว่าจะมีใครมาเจอเข้าต่างหาก
"มีหนังเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจนะครับ
ฉายอีกสักชั่วโมง ถ้าน้องแพรอยากดู เดี๋ยวเราจองตั๋วไว้แล้วนั่งเล่นที่นี่ไปก่อน
ใกล้ถึงเวลาค่อยไปดีไหม" แพรวาพยักหน้ายิ้มแย้ม
"ดีค่ะ
งั้นเรานั่งเล่นกันอยู่ที่นี่ไปก่อน แพรอยากถ่ายรูปสักหน่อย"
“ได้ครับ เดี๋ยวพี่ถ่ายให้นะ”
“ถ้าถ่ายไม่สวยแพรงอนนะ”
“คนสวยถ่ายยังไงก็สวยอยู่แล้ว”
แพรเขินอายเล็กน้อยกับคำชมของณัฐดล แต่ก็รู้สึกดีใจที่ได้รับคำชมจากเขา
ทั้งที่ตลอดชีวิตก็ถูกคนชื่นชมมาตลอด แต่กลับไม่เคยมีความสุขเท่านี้เลย
"อืม...ถ้างั้นก็ขอถ่ายให้หลายๆ
รูปนะคะ เผื่อเลือกค่ะ"
"ได้เลยครับ พร้อมแล้วนะ"
ณัฐดลยกกล้องขึ้นมา แล้วรัวชัตเตอร์ถ่ายภาพให้กับแพรวาอย่างมีความสุข
ทั้งที่ปกติแล้วเวลามินตราขอให้เขาถ่ายรูปให้ เขาจะไม่ชอบและหงุดหงิดมากๆ
แพรวายืนตรง กอดอกเอียงคอเล็กน้อย
ยิ้มอ่อนโยนให้กล้อง และเปลี่ยนท่าทางไปเรื่อยเมื่อได้ยินเสียงชัตเตอร์
ณัฐดลก็กดชัตเตอร์ถ่ายภาพแพรวาพร้อมกับชมอย่างไม่ขาดปาก
"สวยมากเลยน้องแพร"
แพรวายิ้มด้วยความรู้สึกเขิน แต่ก็เปลี่ยนท่าทางถ่ายต่อ ทั้งยืน เอามือโบก เอียงคอ
นั่งบ้าง หมุนตัวบ้างตามประสา ตากล้องก็ถ่ายไปเรื่อยๆ ด้วยรอยยิ้ม
เพลิดเพลินกับภาพสวยๆ ของหญิงสาว
"พี่ณัฐนี่ก็ถ่ายรูปเก่งนะคะเนี่ย
มีแต่รูปสวยๆ แพรเลือกไม่ถูกเลย" เมื่อถึงเวลาเช็กรูป แพรวาก็พอใจมากๆ
เธอชอบรูปทั้งหมดที่เขาถ่ายให้ จนเลือกไม่ได้เลยว่าจะอัพรูปไหนลงโซเชียล
"พี่บอกแล้วว่านางแบบสวย
ถ่ายยังไงก็สวย" ณัฐดลกล่าวชม ทั้งคู่มองรูปถ่ายด้วยกันอย่างรู้สึกพอใจ
ก่อนจะเดินทางต่อไปยังโรงหนัง เพราะถึงเวลาที่ต้องเข้าชมแล้ว
เมื่อเดินถึงโรงหนัง
ณัฐดลก็พาแพรเข้าไปนั่งเก้าอี้ที่เขาจองไว้ โซนนี้ไม่ค่อยมีคน ถึงจะมีบ้างแต่ในโรงหนังก็มืดจนดูไม่ออกว่าใครเป็นใคร
"น้องแพรอยากกินอะไรไหมก่อนหนังจะเริ่มเดี๋ยวพี่ไปซื้อมาให้"
ณัฐดลเอ่ยถาม
"อืม...เอาป๊อปคอร์นกับโค้กน่าจะอร่อยนะคะ
แต่ว่าแพรไปซื้อเองดีกว่าค่ะ แพรตั้งใจจะเลี้ยงพี่นี่นา" แพรวาตอบ
"ไม่เป็นไรหรอกครับ
ครั้งนี้พี่เลี้ยง ครั้งหน้าน้องแพรค่อยเลี้ยงพี่ก็แล้วกัน"
ณัฐดลเดินไปหาแถวซื้อขนม ส่วนแพรวาก็ยังนั่งรออยู่บนเก้าอี้
ไม่นานณัฐดลก็กลับมาพร้อมป๊อปคอร์นและโค้กตามที่แพรวาสั่ง
"ขอบคุณมากค่ะ
พี่ณัฐใจดีจัง" แพรวารับมาด้วยรอยยิ้ม
"ยินดีครับ
กินให้อร่อยนะครับ" ทั้งคู่กินขนมอย่างเอร็ดอร่อย รอจนถึงเวลาหนังเริ่ม
นานมากแล้วที่ณัฐดลไม่ได้มีโอกาสมาดูหนังที่โรงแบบนี้ จริงๆ
มินตราก็ชวนเขาหลายครั้งแล้ว แต่ณัฐดลปฏิเสธบอกว่ารอดูในแอพที่บ้านสะดวกกว่า
หลังจากดูหนังจบณัฐดลก็ขับรถไปส่งแพรวาที่บ้าน
เขามีเวลาค่อนข้างจำกัด แม้จะยังอยากอยู่กับแพรวาต่ออีก
แต่หากช้าจะกลับไปไม่ทันเวลาที่มินตรากลับห้อง แล้วเธอจะสงสัยเอาได้
“เหมือนฝนจะตกนะคะ
พี่ณัฐเข้ามาหลบฝนในบ้านแพรก่อนไหม วันนี้พ่อกับแม่แพรไม่อยู่” แม้จะร่ำลากันแล้ว
แต่เหมือนฝนฟ้าจะยังอยากให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันต่ออีก
ฟ้าฝนมืดครึ้มจนดูเหมือนว่าณัฐดล
จะขับมอเตอร์ไซค์กลับได้ลำบาก และคำเชิญชวนของแพรวา
ก็ยั่วยวนเขาอย่างตั้งใจจนทำให้ชายหนุ่มตัดสินใจที่จะอยู่ต่อ
แม้จะกลัวว่ามินตราจะกลับมาถึงห้องก่อน ถึงตอนนั้นเขาคิดว่าค่อยหาคำแก้ตัวเอาก็ได้
แพรวาพาณัฐดลเข้าไปในบ้านของเธอ
ภายในบ้านเงียบสนิทตอกย้ำอย่างชัดเจนว่าไม่มีคนอยู่จริงๆ
ปกติแล้วเธออาศัยอยู่กับพ่อและแม่
ซึ่งทั้งสองคนก็มีเรื่องให้ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดอยู่เป็นประจำ
ด้วยอาชีพที่ทำอยู่ และพวกเขาก็เห็นว่าตอนนี้แพรวาก็โตแล้ว เธอสามารถอาศัยอยู่คนเดียวภายในบ้านได้ชั่วคราว
ระหว่างที่พวกเขาต้องไปทำงานต่างจังหวัด
จึงไม่ได้จ้างพี่เลี้ยงมาอยู่กับเธอเหมือนแต่ก่อนแล้ว
และก็คงไม่คิดว่าวันหนึ่งลูกสาวจะพาผู้ชายเข้าบ้านแบบนี้
ชายหญิงที่มีใจให้กันอยู่ด้วยกันสองต่อสอง
ท่ามกลางบรรยากาศฝนตก แน่นอนว่าเรื่องแบบนั้นย่อมเกิดขึ้น ณัฐดลแม้จะมีแฟนอยู่แล้ว
แต่ในเวลานี้เขามองไม่เห็นหน้าของมินตราแฟนเขาเลย
ในใจคิดเพียงแต่ว่าต้องการแพรวาเท่านั้น
ช่วงเวลาร้อนรักผ่านไปครั้งแล้วครั้งเล่าอย่าไม่รู้จักเบื่อหน่าย
กระทั่งมีสายโทรเข้ามาหาณัฐดลตอนนั้นเองที่ทำให้เขาได้สติและเพิ่งรู้ตัวว่าตอนนี้มันเลยเวลากลับบ้านมามากแล้ว
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 22
Comments