สามีคณิกา[จีนโบราณ]

สามีคณิกา[จีนโบราณ]

บทที่ 1 นายคณิกา

"ดี อื้อ ตรงนั้น อ๊ะ!"

"ฝ่าบาทน้อย ร่างกายท่านช่างตอบสนองกระหม่อมดีเหลือเกิน"

เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบข้างใบหูขาวขณะจับเรียวขาแยกกว้างชำแรกกายเนื้อบดเบียดช่องสวาทแดงช้ำ เสียงเนื้อหนังกระแทกกันดังคลอกับเสียงร้องครางต้องการเติมเต็มตัณหาของบุรุษสูงศักดิ์ที่ครานี้กลายเป็นผู้ที่อยู่ใต้คนต่ำต้อยเสียแล้ว

คณิการูปงามในชุดสีแดงสดจับยกเอวคอดพลิกให้องค์ชายที่เฝ้าถวิลเรียกนักหนาขึ้นนั่งหว่างขาตน แท่งไร้ศีลธรรมถูกคนด้านบนหย่อนบั้นท้ายนั่งทับจนมองไม่เห็น ร่างโปร่งโยกขยับด้วยท่าทางมัวเมาสุราโลกีย์น้ำใสไหลจากมุมปากที่ระบายยิ้มโง่งม เส้นผมยาวถึงกลางหลังแผ่สยายแนบกายที่เปียกเหงื่อชุ่ม ท่อนขาถูกมือที่ทาเล็บด้วยสีแดงประดับลวดลายกลีบโบตั๋นลูบขึ้นมาเหนือต้นขา

บรรเลงบทเพลงเร่าร้อนค่อนคืน องค์ชายสูงศักดิ์อ่อนแรงล้มทับคนงามแห่งหอคณิกามู่ตาน สองบุรุษนอนกอดก่ายแนบชิดโดยมิได้คิดถึงเรื่องในอนาคต

.

.

.

ฮุ่ยผู่ซิน องค์ชายใหญ่แคว้นเจี้ยนฉิน ผู้เก่งกล้าสามารถทั้งบุ๋นและบู๊ อีกทั้งรูปโฉมมิเป็นรองใครจนอาจเรียกว่าเทพบุตรมาเกิดได้เต็มปากเต็มคำ ซ้ำตำแหน่งรัชทายาทก็ยังตกมาอยู่ในมืออย่างไม่ต้องนึกสงสัยทว่าชะตาเล่นตลกผลิกผันจากว่าที่เจ้าของบัลลังก์มังกรกลับไม่อาจเอื้อมถึงมังกรตัวนั้นได้อีกต่อไป

ตกลงสู่พื้นดิน

เท้าที่เคยไร้ฝุ่นผงสัมผัสบัดนี้ฝุ่นผงสาดโถมเข้ามากลบฝังร่างเขาไว้ใต้นามที่ได้ตราหน้าว่าเป็นหลานชายของกบฏบ้านเมือง ทุกอย่างที่เคยครอบครองมลายหายไปชั่วพริบตา สิ่งที่เหลือให้จับต้องได้เหลือเพียงตำหนักหม่านเยว่ที่อาศัยอยู่มาตั้งแต่กำเนิดและสิ่งที่จับต้องไม่ได้คือฐานันดรศักดิ์องค์ชายใหญ่ที่ถูกเด็ดปีกไร้คนยำเกรง สายตาเยาะเย้ยถากถางที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็นมิมีผู้ใดปิดบังความเกลียดชังนี้ต่อองค์ชายน้อยอีกแล้ว

"ฝ่าบาทน้อย ๆ ตะวันโด่งแล้วนะ กระหม่อมเตรียมข้าวต้มไว้ให้แล้วด้วยท่านจะขี้เซาเช่นนี้จริงหรือ"

ฮุ่ยผู่ซินสะลึมสะลือกับเสียงน่ารำคาญข้างหู มือเรียวยกขึ้นก่ายหน้าผากเมื่อรู้สึกปวดศีรษะ แพขนตาฉ่ำปรือเปิดมองแสงพระอาทิตย์ลอดผ่านมายังหน้าต่างกระทบใบหน้าหยก แสงสว่างมากพอจะรู้ว่าห้องที่ประดับด้วยม่านสีแดงเช่นนี้คือที่แบบไหน สายตาถูกปรับให้ชัดเจนมากขึ้นก็พบกับชายหนุ่มหน้าตาสะอาดสะอ้านสวมเพียงอาภรณ์ตัวในสีขาวยิ้มแย้มแจ่มใสนอนคว่ำกระดิกเท้าอยู่ข้างกายอย่างแม่นางน้อยจ้องมองเขาอยู่

"เจ้า! เจ้าเป็นใคร!" ครั้นจะดีดตัวลุกก็จำต้องนิ่วหน้าขมวดคิ้วเมื่อร่างกายปวดร้าวเหลือคณาโดยเฉพาะช่วงท่อนล่าง บุรุษแปลกหน้าป้องปากหัวร่อเล็กน้อยก่อนจะซ้อนตัวเองไว้ข้างหลังเป็นชนักพิงให้องค์ชายทูนหัว ผู่ซินอ่อนล้าเกินกว่าจะถอยหนีจึงปล่อยให้อีกคนรองรับน้ำหนักตนไว้

"ชั่วข้ามคืนพระองค์ก็ลืมกระหม่อมแล้วหรือ น้อยใจเสียจริงทั้งที่ท่าน...ฮึก...ท่านน่ะ บอกว่าจะให้กระหม่อมเป็นพระชายา" ผู่ซินเบิกตากว้างเขาจำได้ว่าตัวเองมิใช่คนปากเปราะเช่นนั้น

องค์ชายแห่งตำหนักหม่านเยว่หายใจติดขัด เหลือบมองคนใช้ผ้าเช็ดหน้าปักลายทำท่าเช่นน้ำตาพลางครุ่นคิดถึงเรื่องราวเมื่อคืน เขาจำได้ว่าถูกองครักษ์ประจำตัวพามาหอคณิกามู่ตานด้วยเหตุผลเพราะอยากให้เขาเปิดหูเปิดตาไม่มัวอุดอู้อยู่ในตำหนัก หลังจากนั้นก็มีหญิงสาวสองสามคนนั่งประกบพวกเราและต่างยื่นจอกสุราให้แต่เขามิได้รับมาดื่มเสียหน่อยเหตุจึงรู้สึกมึนหัวจนภาพหมุนเช่นเมื่อคืน

'จับกรอกเสียสิ! แล้วรีบเอาไปขังในห้องที่พวกนางเตรียมไว้ให้พวกมันเชยชมสมใจอยากค่อยเชิญรองแม่ทัพเหอมาดูความอัปยศของคนรักตัวเอง ดูซิว่าเขาจะยังปฏิเสธข้าไปหาองค์ชายเริงเมืองผู้นี้อีกหรือไม่'

'ขอรับท่านหญิง'

เสียงนี้ฮุ่ยผู่ซินจำได้ เสียงขององครักษ์คนสนิทที่ร่วมเป็นร่วมตายมาตั้งแต่เยาว์วัย หญิงสาวอีกคนก็เป็นสหายร่วมเรียนเมื่อครั้งเขามีตำแหน่งไท่จื่อ ทั้งสองคนรวมหัวกันสร้างความอัปยศให้เขาโดยยัดยากำหนัดลงคอเขาแล้วปิดประตูขังไว้กับบุรุษตัวใหญ่สามสี่คน ความหวาดกลัวกัดกินนัยตาทว่ายาพิษในร่างก็เริ่มออกฤทธิ์ให้กายร้อนรุ่ม ชายคนหนึ่งฉีกเสื้อผ้าส่วนบนของเขาออกขัดขืนมิได้ คิดอย่างเหม่อลอยว่าหากผ่านเหตุการณ์นี้ไปอาภรณ์ที่ขาดร่วงบนพื้นจะกลายเป็นเชือกผูกคอตนเองเสียในตอนตะวันขึ้น

ในขณะที่ภาพเลือนลางกลิ่นหอมของบุปผาก็เข้ามาโอบกอดร่างกายนี้ไว้ เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของบุรุษในห้องดังผ่านประสาทหูกลิ่นบุปผาแทนที่ด้วยกลิ่นโลหิตคละคลุ้ง องค์ชายใหญ่แค่นยิ้มสะใจทั้งยังคงสติเลื่อนลอย ในสายตาประชาชนอดีตไท่จื่อผู้สูงส่งมิเคยนึกโกรธเคืองใครหรือแม้แต่แสดงสีหน้าไม่พอใจกับผู้ใด นิสัยใจคอดั่งพระโพธิสัตว์มาจุติ

เหมือนจะลืมหมดสิ้น

ว่าฮุ่ยผู่ซินเป็นมนุษย์คนหนึ่ง

ศัตรูทำร้ายยังไม่เจ็บเท่าคนสนิทหักหลัง เขาโกรธเหมือนคนอื่นเป็นบ้างแล้ว เสียใจเจ็บเจียนตายเป็นแล้ว ความรู้สึกอย่างมนุษย์ธรรมดาเขาเข้าใจมันแล้ว

น้ำตาที่เหือดแห้งไปตั้งแต่ห้าขวบก็ไหลออกมาอีกครั้งแล้ว

"ฝ่าบาทน้อย อย่าร้องไห้แข่งกับกระหม่อมเลยกระหม่อมใจเจ็บนะ" กลิ่นบุปผาบางชนิดของนายคณิกาผู้นี้กำลังปลอบโยนเขาอยู่ เป็นกลิ่นเดียวกันกับคนที่ช่วยเหลือเขาเมื่อคืน คณิกาจะพกอาวุธสงครามไปเพื่อสิ่งใดเขาไม่อยากถามให้ลำบากใจ ปลายคางของคนด้านหลังฝังลงบนกลุ่มผมกระเซอะกระเซิงไม่เป็นทรง นิ้วที่ทาเล็บไว้เสียสวยงามก็พยายามเกลี่ยน้ำสีใสจากหัวตาขององค์ชายทูนหัว

ปัง!!

"ผู่ซิน!!"ประตูไม้ถูกถีบหลุดออกปรากฏเป็นบุรุษที่คุ้นเคย รองแม่ทัพเหอชุน คนรักที่มิอาจเรียกได้ว่าคนรัก เป็นฮุ่ยผู่ซินรักอยู่ฝ่ายเดียว และสองข้างกายมีองครักษ์คนสนิทกับสหายน้อยทำสีหน้าตระหนก

แววตาเหอชุนบ่งบอกว่าผิดหวังในตัวเขาแค่ไหน ฮุ่ยผู่ซินอยู่ในอ้อมกอดของนายคณิกาเลื่องชื่อ ดูจากร่องรอยก็รู้ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร มือหยาบกร้านกำดาบแน่นเมื่อองค์ชายที่เคารพส่งยิ้มตาหยีมาให้ตนอย่างไม่สำนึก เหอชุนเกลียดการพูดแก้ตัวเขาจึงไม่พูดอะไรออกไป

ตอนนี้อาจจะเป็นเวลาดีที่จะปล่อยมือที่รั้งเหอชุนไว้ ไม่เอาความกับคนทั้งสองให้เป็นเรื่องใหญ่โตเพราะถึงอย่างไรพวกนั้นก็ยังเคยเป็นคนสำคัญสำหรับเขาในวันที่โดดเดี่ยว มันก็ไม่ได้เจ็บขนาดนั้นในเมื่อเขาได้ฉายาจากปวงประชาว่าเป็นพระโพธิสัตว์มาจุตินี่นา เทพจะจิตใจอ่อนไหวจะเป็นที่พึ่งได้อย่างไร 

ไม่ได้เจ็บปวดสักหน่อย

เหตุใดน้ำตาถึงไม่ยอมหยุดไหลเล่า

"ต่ำช้า เจ้าบอกว่ารักข้าแต่กลับมานอนกอดก่ายกับนายคณิกาจนตะวันโด่งเช่นนี้ใช่สิ่งที่คนที่บอกว่ารักข้าควรทำหรือ ข้าผิดหวังในตัวเจ้ามากฮุ่ยผู่ซิน"

"แล้วนี่ใช่สิ่งที่รองแม่ทัพเหอควรพูดกับฝ่าบาทน้อยรึ เหตุใดจึงไม่ถามเขาก่อนเล่า" เป็นนายคณิกาเอ่ยแทรกขึ้นมา เหอชุนขบกรามแน่นด้วยไม่อยากสนทนากับคนต่ำต้อยที่หากินโดยขายศักดิ์ศรีตัวเอง

"ถึงพูดสิ่งใดออกมาข้าก็ไม่ฟัง! ข้าเกลียดการใช้ของร่วมกับผู้อื่นโดยเฉพาะใช้ร่วมกับคนเริงเมืองเช่นมัน" รองแม่ทัพเหอบันดาลโทสะชี้นิ้วไปทางนายคณิกาก่อนจะสะบัดชายผ้าคลุมออกจากห้องไป ตามด้วยองครักษ์ประจำพระองค์และท่านหญิงผู้เป็นดั่งสหายขององค์ชาย

ฮุ่ยผู่ซินชันเข่าเอาหน้าแนบ เขาจะปล่อยให้ทุกคนเข้ามาพัวพันกับชื่อเสียงของหลานชายกบฏในตอนนี้ไม่ได้ ดีแล้ว เป็นเช่นนี้ก็ดีแล้ว เขาไม่นึกเสียใจสักนิดหรือเปล่านะ เหตุใดถึงอภัยให้ผู้อื่นอยู่ร่ำไปทั้งที่ผู้อื่นก็ทำผิดต่อเขามากมาย

"หลิวซูเม่ย นามของกระหม่อมหรือจะเรียกว่าเม่ยเม่ยก็ได้หากฝ่าบาทน้อยไม่รังเกียจ" นายคณิกาก้มศีรษะมาอยู่ในระดับเดียวกับใบหน้าหม่นหมองที่แนบอยู่บนเข่าสองข้างพร้อมส่งยิ้มหวานแววตาใสซื่อราวลูกสุนัขคล้ายกำลังชวนองค์ชายใหญ่วิ่งเล่น หลิวซูเม่ยมีอุปนิสัยร่าเริงน่าคบหาทั้งยังรูปงามไม่แปลกใจที่จะเป็นบุปผางามของหอคณิกามู่ตานแห่งนี้

แต่ว่าทำไมเขาเป็นคนเจ็บเล่า

มิใช่ว่าเป็นคนกระทำหรอกหรือ?

"ฝ่าบาทน้อยอย่าลืมนะว่าจะรับกระหม่อมเป็นชายา หากท่านพูดแล้วคืนคำกระหม่อมคงตรอมใจตายเสียตรงนี้ ใจกระหม่อมเจ็บเหลือเกิน...ฮึก"

...-บทที่ 1-...

เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 1

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!