"เธอคือ..."
หญิงที่แต่งกายเหมือนซิสเตอร์เอ่ยขึ้นพร้อมทุกสายตาที่อยู่ภายในห้องนั้นหันมามองเอริสเป็นตาเดียว ไม่เว้นแม้แต่ตุ๊กตาประหลาดก็ดูเหมือนจะสนใจเธอเช่นกัน
"เธอคือสาวใช้คนใหม่ของฉันค่ะคุณแม่"
เลดี้ดิมิเทรสกูเอ่ยอธิบายก่อนจะก้าวมายืนขนาบข้างเอริสแล้วเอียงมากระซิบเบาๆว่า
"ทักทายคุณแม่และครอบครัวของฉันหน่อยสิ"
เอริสที่ได้ยินก็พยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะโค้งให้บุคคลที่อยู่เบื้องหน้าหน่อยๆ
"สวัสดีค่ะ ดิฉันลิลลี่เป็นสาวใช้คนใหม่ของเลดี้
ยินดีรับใช้"
สิ้นเสียงทักทายคนที่ดูจะสนอกสนใจเธอมากกว่าใครก็หนีไม่พ้นชายที่ชอบต่อปากต่อคำกับเลดี้เมื่อครู่นี้คนนั้น
"ว๊าว...ลิลลี่
ไม่เคยรู้มาก่อนว่าพี่สาวของฉันจะเคยให้ความสำคัญกับสาวใช้แบบนี้"
แต่ก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปมากกว่านี้ หญิงที่แต่งกายเหมือนซิสเตอร์ก็เอ่ยปรามอีกครั้ง จากที่เลดี้เคยเล่าให้ฟังคนผู้นี้คงจะเป็นคุณแม่มิแรนด้าที่เธอเอ่ยถึงบ่อยๆ
"เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน วันนี้ที่เรามาประชุมกันเพราะมีเรื่องสำคัญ และก็คงต้องให้เธอออกไปก่อน"
คุณแม่มิแรนด้ามองมาที่เอริสเป็นเชิงไล่ให้เธอออกไปทำเอาเอริสรู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อยที่ถูกมองแบบนั้น และที่หงุดหงิดมากคือพลาดโอกาสที่จะได้หาเบาะแสของเรื่องที่ตนรับผิดชอบอยู่
"ลิลลี่ออกไปรอข้างนอก
ถ้าฉันต้องการอะไรฉันจะเรียกเอง"
เลดี้เอ่ยและแตะบ่าของเธอเบาๆด้วยท่าทีอ่อนโยนเหมือนจะเข้าใจความรู้สึกของเธออยู่บ้าง จึงทำให้เอริสรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
"ค่ะ เลดี้"
เอริสเดินออกมาจากห้องประตูก็ถูกปิดไล่หลังเธอทันที
"มีเรื่องสำคัญอะไรนะ คนพวกนี้แปลกชะมัด"
"อ้าว...แม่สาวใช้คนพิเศษ
ถูกคุณแม่จับโยนออกมาซะแล้ว"
เสียงแว๊ดๆดังมาอย่างพร้อมเพรียงกันซึ่งเอริสตกใจอยู่บ้างที่ลูกสาวทั้งสามของเลดี้โผล่มาพร้อมกัน ทั้งสามแต่งตัวเหมือนกันและหน้าตาคล้ายกันประหนึ่งฝาแฝดแตกต่างกันนิดหน่อยก็แค่สีผมและสร้อยคอที่พวกเธอสวมใส่
"เปล่าค่ะ เลดี้ไม่ได้โยนฉันออกมา
ฉันเดินออกมาเอง"
เอริสเอ่ยตอบหน้าตายทำเอาสามสาวหน้าหงิกไปตามๆกัน
"แค่คุณแม่ชอบหน่อยก็ปากกล้าขึ้นมาเชียว"
เบล่าเอ่ยขึ้น ที่ตอบได้ว่าคือเบล่าแม้จะอยู่ในชุดคลุมดำเหมือนกันแต่เธอสวมสร้อยคอสีแดงผมสีทองดังนั้นเรื่องจดจำชื่อของลูกๆทั้งสามของเลดี้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
"ถึงเลดี้จะไม่ชอบ ดิฉันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว
หากคุณหนูไม่พอใจ ต้องขออภัยอย่างสูง"
ความจริงเอริสควรจะรักษากริยามากกว่านี้แต่เพราะคำพูดก่อนหน้าของแคสแซนดราที่บอกว่า เธอเป็นที่โปรดปรานของเลดี้ไม่ว่าใครก็แตะต้องเธอไม่ได้จึงทำให้เอริสรู้สึกว่าคนเดียวที่เธอต้องใส่ใจก็คือคนที่ให้ความสำคัญกับเธอ
"ถ้าเกิดว่าฉันไม่ให้อภัยล่ะ ลิลลี่"
เบล่าเอ่ยเพลางข้ามาใกล้แล้วใช้ปลายนิ้วที่ประกอบด้วยเล็บมือที่ยาวและคมกริบไล้โครงหน้าของเอริสเบาๆเหมือนราวกับว่ากำลังแกล้งเอริสอยู่ประมาณนั้น ถึงเอริสจะไม่กลัวอะไรแต่เธอก็ขนลุกขึ้นมาเสียอย่างนั้นตอนปลายนิ้วเรียวยาวลากผ่านโครงหน้าของเธอ มันเหมือนกับมีใบมีดเย็นเฉียบกำลังกรีดลงบนหน้าของเธอเบาๆ
"ฉันไม่รู้"
เอริสเอ่ยตอบ
"ถ้าเธอเป็นคนอื่น...คงจะ "
เบล่าเหยียดยิ้มมุมปากดวงตาของเธอดูลึกลับและน่าหวาดกลัวในคราเดียวกันเหมือนเธอรู้สึกสนุกเมื่อคิดว่าเธอสามารถทำอะไรกับเอริสก็ได้
"คงจะ..."
เอริสทวนคำ
"เธอไม่ได้อยากรู้จริงๆหรอก ลิลลี่
เพราะถ้าเธอรู้...."
เเดเนียลล่าที่เฝ้ามองดูอยู่เอ่ยออกมาพลางเหยียดยิ้ม
"ถ้าฉันรู้..."
เอริสเอ่ยทวนอย่างงงงวย
"ถ้าเธอรู้....
"หยุดแกล้งลิลลี่ได้แล้วลูกๆของฉัน"
เสียงทรงพลังดังขึ้นพร้อมกับประตูที่เปิดออกเอริสมัวแต่ต่อล้อต่อเถียงกับสามสาวจนไม่มีเวลาแอบฟังเรื่องสำคัญที่พวกนั้นประชุมกันเสียนี่
"บ้าชะมัด พลาดโอกาสไปได้"
เอริสบ่นในใจ ก่อนจะทำท่าหวาดกลัวลูกๆทั้งสามของเลดี้แล้วถอยห่าง
"คุณแม่มีเรื่องอะไรรึเปล่าคะ"
ลูกสาวทั้งสามเอ่ยขึ้นพร้อมกันเพราะจากสีหน้าของผู้เป็นแม่ดูเหมือนจะมีเรื่องที่ไม่น่ายินดีนัก
"ไม่มีอะไรลูกสาวที่น่ารักของฉัน"
เธอเอ่ยก่อนจะถอนหายใจเบาๆแล้วหันมามองเอริสด้วยแววตาที่ดูเศร้าหน่อยๆ
"ลิลลี่ "
เธอเอ่ยเรียกเอริสทำเอาคนที่มีพิรุธอย่างเธอรู้สึกขนลุกซู่แปลกๆ
"ตามฉันมา "
เลดี้เอ่ยสั้นๆก่อนจะเดินนำเอริสไปทิ้งให้ลูกสาวทั้งสามและเอริสงงงวยกับพฤติกรรมของเธอ
"คุณแม่เป็นอะไรไป"
ทั้งสามสาวได้แต่ถามคำถามนี้กับตัวเอง
ฝีเท้าที่ดูสม่ำเสมอของเลดี้ตอนนี้เหมือนจะลงน้ำหนักดังขึ้นทุกขณะ
ไม่พอใจ ไม่สบอารมณ์ โกรธ
"คุณโมโหอยู่เหรอคะ"
เอริสเอ่ยออกมาเบาๆ เธอรู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำเธอฝีปากกล้ากับสามสาวนั่นได้แต่ไม่ใช่กับผู้หญิงคนนี้
"หุบปาก อยู่เงียบๆ เดินตามฉันมาก็พอ"
เสียงเย็นเยือกเอ่ยตอบ ตอนนี้เอริสรู้แล้วว่าผู้หญิงตรงหน้าเธอไม่ได้จัดการง่ายๆอย่างที่คิด
น่าขยะแขยง จริงๆ พี่น้องของฉัน !!
ทำไม !!!
ทำไมกัน !!!
คุณแม่ไม่ได้รักฉันหรอกเหรอ!!!!
เลดี้บ่นพึมพำส่วนเอริสได้แต่เดินตามเท่านั้นดูเหมือนว่ากิจกรรมรวมญาติของเลดี้จะไม่เป็นที่พอใจนัก
ประตูห้องนอนถูกเปิดออกเลดี้ก้าวเท้าไปหยุดยืนหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แต่ก่อนที่เอริสจะได้ทันเดินตามไปโต๊ะเครื่องแป้งก็ลอยแหวกอากาศข้ามหัวเธอไปนิดเดียวแล้วกระทบผนังเสียงดังโครมคราม เศษไม้ที่สลักเป็นโต๊ะอย่างงดงามเศษกระจกแตกออกเป็นเสี่ยงๆกระจุยกระจาย
ตอนนี้เอริสรู้แล้วว่าหน้าที่ของเธอคืออะไรหน้าที่ของเธอคือเก็บกวาดเศษขยะพวกนั้น
เอริสไม่เอ่ยอะไรก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำงานของเธอแต่เวรกรรมไม่ทันระวังดันโดนเศษกระจกปักปลายนิ้วมือเข้าให้ อยากจะสบถออกมาว่า
"เชี่ยยยย เอ้ยยย " ก็ทำไม่ได้ด้วยวิสัยที่เป็นคนไม่พกผ้าเช็ดหน้าเธอได้แต่หันซ้ายแลขวาเพื่อหาผ้าที่จะมาซับเลือดที่หยดติ๋งๆ
"ลิลลี่เธอทำอะไร"
เสียงของเลดี้ดังขึ้นแต่เอริสก็ไม่คิดว่าเลดี้จะสนใจอะไร เพราะดูเหมือนเธอจะโมโหเกินกว่าจะสนใจสาวใช้อย่างเธอเสียแล้ว
"อ้อ แค่กระจกบา...ด
ก่อนที่เอริสจะทันได้พูดอะไรมือเรียวของเธอก็ถูกอีกคนคว้าไป และที่น่าตกใจกว่านั้น คือ มันถูกเลดี้เอาเข้าปากไปเสียดื้อๆ
เอริสผู้ไม่เคยหวั่นไหวรู้สึกเหมือนโดนผีหลอกกับภาพตรงหน้า ใช่เลือดของเธอหาที่ซับได้แล้ว ที่ซับก็คือริมฝีปากแดงเลือดของคนตรงหน้ายังไงล่ะ
ถ้าชอบฝากกดไลค์ฝากเม้นให้ไรท์ด้วยน้าาา
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments