ความลับของเลดี้(Lady Dimitrescu)
เอริสโยนแฟ้มคดีแจ้งความคนหายลงบนโต๊ะโครมใหญ่ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ทำงานด้วยความเหนื่อยล้า
"ให้ตายเถอะ...นี่มันเรื่องบ้าอะไร"
เอริสสบถก่อนจะยกเท้าขึ้นพาดบนโต๊ะทำงานอย่างหัวเสียเพราะเธอตามสืบเรื่องนี้มานานนับเดือนตั้งแต่ประวัติผู้สูญหายจนจุดสุดท้ายที่พบแต่ไม่ว่าจะเป็นใครสถานที่สุดท้ายกลับกลายเป็นจุดเดิม คฤหาสน์ในหมู่บ้านห่างไกลที่น่าสะพรึงนั่น
"เอริสแม่ยอดนักสืบได้คดีแปลกๆมาอีกแล้วสิ"
เพื่อนร่วมงานเห็นท่าทีหัวเสียก็เอ่ยขึ้นพลางตบบ่าของเอริสอย่างเข้าอกเข้าใจดีเพราะเบื้องบนมักจะเล่นตลกและส่งงานพิลึกๆมาให้เอริสอยู่เสมอ
"รอบนี้ฉันจะต้องไปเป็นสาวใช้ในคฤหาสน์บ้านั่น
ฉันล่ะเหลือเชื่อจริงๆ"
"อะไรกัน อะไรกัน เธอเคยต้องทำอะไรแปลกๆกว่านี้ตั้งเยอะกะอีแค่ปลอมเป็นสาวใช้ผู้ไร้เดียงสาคงไม่คณามือเธอหรอกเอริส"
"ถ้าเธอเห็นสภาพคฤหาสน์นั่นเธอจะไม่พูดแบบนี้ดูนี่สิ"
เอริสโยนภาพคฤหาสน์ในมุมต่างๆให้เพื่อนร่วมงานได้ยลโฉมก่อนจะเอามือกุมขมับ
"เธอคิดว่าคฤหาสน์ใหญ่ขนาดนี้ฉันต้องเสียเวลาสำรวจนานแค่ไหนกัน"
"โอ้พระเจ้า...ฉันนึกว่าเธอจะตกใจกับสภาพคฤหาสน์ที่เหมือนกับบ้านผีสิงนี่ซะอีก...
แต่นี่...เธอทอดถอนใจเพราะว่ามัน...
เอ่อ...เพราะว่ามันกว้างใหญ่เกินไปแล้วทำให้เธอเสียเวลาเนี่ยนะ"
เทย์เลอร์สาวเพื่อนร่วมงานเอามือป้องปากอย่างไม่อยากจะเชื่อแค่ได้เห็นภาพคฤหาสน์บ้านี่ในระยะไกลก็ทำเอาเธอขนลุกขนพองไปทั้งตัว
"เธอก็รู้ว่าฉันไม่ได้สนใจเรื่องพวกนั้นฉันไม่เชื่อในพระเจ้าพอๆกับไม่เชื่อว่าจะมีเรื่องลี้ลับในโลกนี้"
เอริสเอ่ยก่อนจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะที่เต็มไปด้วยเอกสารด้วยความเหนื่อยล้า
"โลกของฉันไม่ได้หมุนเพราะแนวคิดวิทยาศาสตร์ที่น่าปวดหัวนั่น แต่โลกของฉันหมุนด้วยเงิน"
"บางทีครั้งนี้เงินมันอาจไม่สำคัญถ้าเธอไม่มีโอกาสได้กลับมาใช้มัน"
เทย์เลอร์เอ่ยเตือนก่อนจะโน้มหน้าเข้ามาจุมพิตแก้มสีคล้ำเพราะแดดแผดเผาจนเป็นสีน้ำตาลอ่อนของเธออย่างอาลัยราวกับเอริสจะไม่มีโอกาสได้กลับมาหลังจากก้าวเท้าเข้าไปในคฤหาสน์แห่งนั้น
"แน่นอน...
ฉันจะกลับมาพร้อมกับรับเงินก้อนโตจากภารกิจนี้"
"โชคดีนะเอริส..ขอให้พระเจ้าคุ้มครอง ถึงเธอจะไม่เชื่อในพระเจ้าก็เถอะ แต่พระเจ้าจะอยู่เคียงข้างลูกของพระองค์เสมอ และขอให้เธอพบแสงสว่าง"
"ขอบใจ....แต่ฉันเชื่อในเพื่อนรักของฉันมากกว่า"
เอริสเอ่ยก่อนจะวางปืนพกคู่ใจลงบนโต๊ะและคลี่ยิ้มให้กับเทย์เลอร์อย่างไม่ยี่หระ
เอริสยืนอยู่หน้าคฤหาสน์ที่มีหิมะปกคลุมจนขณะที่เธอก้าวไปเท้าของเธอในบูทหนังเก่าๆที่หาซื้อตามร้านเสื้อผ้ามือสองพร้อมชุดสาวใช้ซอมซ่อก็จมลงไปในพื้นหิมะหนาๆนั้น แต่ละก้าวหนักอึ้งแต่ก็ไม่เทียบกับพละกำลังที่เหนือกว่าหญิงสาวชาวบ้านธรรมดาของเธอ เมื่อเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่อึมครึมเพราะหิมะปกคลุมบนต้นไม้ที่แห้งจนเหลือแต่กิ่งสีดำก็มีนกเรเวนเกาะอยู่พร้อมกรงนกสนิมเขรอะแขนไว้ทำราวกับจะหล่นมิหล่นแหล่ใส่หัวผู้ที่เดินผ่านไปมา
เมื่อก้าวเท้าเข้ามาประตูรั่วของคฤหาสน์ถูกเปิดกว้างราวกับยินดีต้อนรับทุกคนที่เดินผ่านมา แต่ว่าจะมีคนสติดีที่ไหนที่เดินเข้าไปในที่แห่งนี้ที่ราวกับถูกพระเจ้าทอดทิ้งแล้วเต็มไปด้วยคำสาปกันล่ะ
เธอเดินผ่านช่วงรอยต่อของส่วนต่างๆของคฤหาสน์ที่เหมือนเขาวงกตและคอยจดจำทางหนีทีไล่อย่างพินิจและระแวดระวังก่อนจะส่งเสียงเรียกใครสักคนให้เปิดประตูให้กับเธอ
"สวัสดีค่ะ มีใครอยู่ไหมคะ
ดิฉันลิลลี่สาวใช้คนใหม่ค่ะ"
เป็นเรื่องปกติในทุกภารกิจเธอจำต้องเปลี่ยนชื่อและตัวตนเสมอเพื่อให้ตัวตนของเธอเป็นความลับสำหรับภารกิจต่อไปเอริสยืนอยู่นานก็ไร้วี่แววของคนที่จะมาต้อนรับเธอจึงได้ถือวิสาสะดันประตูแต่เพราะมันดันถูกเปิดโดยคนที่อยู่ด้านในกะทันหันจึงทำให้เธอล้มหน้าคว้ำเข้าไปด้านในพร้อมกับกระเป๋าสานใบโตดังโครมก่อนที่เธอจะเงยหน้าแล้วพบว่าตัวเองกำลังล้มอยู่แทบเท้าของใครบางคน
"โอ้วววว....ขอโทษทีนะ"
เสียงนั้นเอ่ยราวกับไม่ได้ตั้งใจก่อนจะยื่นมือเรียวที่สวมทับด้วยถุงมือหนังสีดำให้แก่เอริสที่นอนคว้ำหน้าแผ่หลาอยู่อย่างใจดี แต่พอเงยหน้าขึ้นเอริสก็ต้องประหลาดใจในรูปลักษณ์ของคนตรงหน้า เธอตัวสูงราวๆสองเมตรสวมหมวกปีกกว้างทั้งที่อยู่ในคฤหาสน์แต่ที่น่าตะลึงกว่านั้นคือหน้าอกมหึมาที่ล้นทะลักที่อยู่ตรงหน้าเอริสขณะที่หล่อนกำลังก้มลงมายื่นมือให้เอริสต่างหาก
"แม่เจ้า" เอริสอุทานในใจ
"ให้ตายสิคะคุณแม่ หล่อนดูตลกเป็นบ้า"
เสียงเล็กแหลมเอ่ยดังมาจากด้านหลังของสุภาพสตรีร่างสูงก่อนจะมีอีกสองเสียงดังแทรกขึ้นมาอย่างเห็นด้วยก่อนจะถูกปรามโดยสุภาพสตรีร่างสูงอีกครั้ง
"เงียบๆได้แล้วลูกสาวของฉัน
พวกเธอกำลังทำให้สาวใช้ที่น่ารักคนใหม่ขายหน้าอยู่
และฉันคิดว่า...มันไม่น่ารักเอาซะเลย"
สุภาพสตรีเอ่ยพลางเหยียดยิ้มสีแดงเลือดของหล่อนเบาๆเอริสคว้ามือของหล่อนไว้พลางทำตัวราวกับสาวใช้ไร้เดียงสาแล้วลุกขึ้นยืนช้าๆราวกับผู้หญิงบอบบางแต่ส่วนสูงร้อยแปดร้อยเก้าของเธอก็เทียบไม่ได้กับสุภาพสตรีตรงหน้าที่สูงสองเมตรกว่าขณะยืนอยู่บนส้นสูงคนนี้
"ขอบคุณค่ะ..คุณผู้หญิง"
เอริสเอ่ยพลางโค้งนิดๆตามมารยาท
"สาวใช้คนใหม่เหรอคะคุณแม่ขา"
หญิงสาวสามคนปรากฎตัวขึ้นจากด้านหลังของสุภาพสตรีร่างสูงคนนั้น ก่อนจะปรี่เข้ามารายล้อมเอริสอย่างสนอกสนใจ
"ใช่แล้วๆ...ลูกสาวของฉัน
นี่คือสาวใช้คนใหม่ของเรา"
"หน้าตาก็งั้นๆไม่เห็นน่าสนใจ"
หนึ่งในสามคนเอ่ยขณะพินิจดูหน้าของเอริสใกล้ๆไม่อยากจะบอกเลยว่าทั้งสามสาวนั่นทำให้เอริสขนลุกเพียงใดนอกจากจะเข้ามาใกล้ยังทำจมูกฟุตฟิตใส่เหมือนกำลังสูดดมอะไรจากเธอสักอย่างก่อนที่เอริสจะเสียมารยาทต้องผลักพวกหล่อนไปให้ไกล สุภาพสตรีร่างสูงก็เข้ามาแล้วพินิจดูเธอบ้างเช่นกัน
ใบหน้าขาวซีดภายใต้ผมสั้นดัดลอนที่สวมทับด้วยหมวกปีกกว้างนั้นเหยียดยิ้มราวปีศาจก่อนจะเอ่ยคำว่า
"ฉันว่า...ฉันชอบเธอนะสาวน้อย
ฉัน เลดี้ ดิมิเทรสกู และฉันเป็นเจ้านายของเธอ"
ตอนแรกเป็นยังไงบ้างอย่าลืมกดเลิฟแล้วเข้ามาพูดคุยกันเยอะๆน้าาาาาา😳😳😳😳
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments
Doraemon
จริงใจ
2023-11-24
1