ท่านพี่

แสงอ่อนๆพร้อมกับเสียงของคนที่พลุกพล่าน ภายในห้องไม้ธรรมดามีร่างของวินเซนต์ที่กำลังนอนอยู่อย่างไม่ได้สติ คนอื่นๆที่ได้รับคำสั่งจากฟารัสแค่บางคนเท่านั้นที่จะได้เข้าเพื่อตรวจดูอาการ

ในดินแดนเหนือที่เคยถูกสาวกนอกรีตยึดไปได้กลับคืนมา ร่างกายของศพบางส่วนถูกส่งให้ลูกชายเอลิเกออสตรวจสอบ บ้านเมืองกำลังถูกบูรณะใหม่โดยมีฟารัสเป็นหัวเรือใหญ่ในตอนนี้ ฟารัสถูกชาวบสรรเสริญว่าเป็นพาราดินในอาณาจักรกราเซียที่ในหลายร้อยทศวรรษจะเกิดขึ้นเพียงคนเดียวและอีกคนที่ชาวบ้านรอคอยที่จะพบคือกษัตริย์ของอาณาจักรนี้ ฟารัสได้สอบสวนชาวบ้านเกี่ยวกับการมาของวินเซนต์เทอร์หลังจากที่เขาถูกห้ามเข้าพบสิ่งนั้นทำให้ฟารัสเริ่มไตร่ตรองข้อมูลเพื่อเตรียมคาดโทษนายตัวเอง

ภายในห้อง วินเซนต์ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมๆกับความเจ็บปวดที่ยังส่งมาถึงตัวเขา แม้จะไม่มากนัก เขาสูดกลิ่นของไม้ที่เหมือนถูกตัดมาใหม่ๆและที่นอนแสนธรรมดา

" นายท่าน!!! "

เสียงเล็กของคาร์คดังขึ้นทันทีเมื่อผมดันตัวเองขึ้นมานั่ง เงาดำเหมือนหมีพุ่งเข้ามาชนที่ร่างผมจนกลับไปนอนอย่างเดิมพร้อมกับอกที่เริ่มชื้นขึ้น ผมสำรวจตัวเองที่ตอนนี้ร่างกายเหมือนจะถูกรักษาทำให้ไม่มีรอยแผลใดๆ

" ร้องไห้เหรอ "

ผมมองคาร์คที่กอดแน่น ตัวสั่นเทาของมันทำให้ผมรู้สึกหน่วงลึกๆ แต่ก็เริ่มรำคาญเสียงสะอื้นขึ้นมา ผมใช้มือลูบหลังมันเบาๆจนตัวของมันเริ่มสงบ ดวงตาสีฟ้ากลมโตเงยมามองหน้าผมทั้งๆที่น้ำตายังไหลพรากไม่ยอมหยุด

" เจ้าคนจองหองนั่นน่ะ ! ฮรึก! ฟืดดดดด .. ได้เป็น พาราดินด้วยล่ะ ฮรืออออ!!! "

' ..พาราดิน '

คาร์คที่อธิบายไปร้องไห้ไปปล่อยโอหนักจนอกผมเปียกแฉะไปหมด แต่ประเด็นมันอยู่ที่พาราดิน ฟารัสกลายเป็นพาราดินที่ปกติควรจะเป็นมนุษย์ในโลกนี้ที่ได้หน้าที่นั้น

แต่ไม่ทันจะได้ตกผลึกทางความคิดเท่าที่ควรเสียงเท้าหนักๆพร้อมกับประตูที่เหมือนถูกถีบออกอย่างก็ดังขึ้น ผมสะดุ้งโหยงก่อนจะค่อยๆถอยและรู้สึกกลัวขึ้นมาเมื่อเห็นฟารัสยืนจ้องนิ่งๆไม่ขยับ

" ..เข้ามานา---"

" เงียบไปเลย!! "

ฟารัสตวาดกลับทันทีไม่ทันที่ผมจะได้พูดจบประโยค

" ท่าน! ไม่สิ เจ้าเป็นถึงกษัตริย์ของอาณาจักร ไม่บอกไม่กล่าวข้าที่เป็นอัศวินของเจ้า เห็นข้าเป็นหลักเป็นตอเหรอ วินเซนต์!! "

ผมค่อยๆพาตัวเองออกจากเตียงก่อนจะไปยืนตรงหน้าฟารัส เบื้องหลังเขาคือเหล่าทหารที่หวังจะขึ้นมาห้ามสถานการณ์ แต่ก็หยุดชะงักลงเมื่อเห็นผม

" รู้รึเปล่าถ้าตัวเองตายขึ้นมาอาณาจักรจะอยู่ยังไง!! ประชาชนต้องการความปลอดภัยรวมถึงตัวเจ้า! ถ้าข้ามาไม่ทันพวกมันจะเอาเจ้าไปทำอะไรบ้างก็ไม่รู้!! "

ฟารัสที่พยายามจะข่มอารมณ์ของตัวเองในขณะเดียวกันก็เหมือนโกรธจนตัวสั่น น้ำเสียงสั่นเครือเหมือนกับคาร์คที่ร้องไห้ทำเอาผมเริ่มไปไม่เป็น เอล์ฟหนุ่มผมสีเพลิงตัวโตกำลังจะกลายเป็นเด็กขี้งอแงไปแล้ว ผมกลับมาคิดในมุมเดียวกับฟารัสก็เข้าใจถึงเหตุผลของเขา เดิมที่ผมเองก็มักจะทำอะไรคนเดียวไม่ได้สนใจใครอยู่แล้ว แต่ในโลกนี้มันกลับกัน เราไม่ได้เป็นคนธรรมดาแต่เป็นถึงกษัตริย์ที่ต้องปกป้องอาณาจักรและชีวิตประชาชน ผมไม่รู้ว่าจะจัดการกับคนที่ร้องไห้ตรงหน้ายังไงเลยใช้วิธีเดียวกับคาร์คิคือการลูบหลังเจ้าตัวเบาๆ แต่คงไม่พอสำหรับฟารัสที่ดึงผมเข้าไปกอดเหมือนเป็นเด็กน้อยจนความเจ็บปวดพวยพุ่งขึ้นมาอีกครั้ง คาร์คตัวหนึ่งเคยพูดว่ามีคนติดตามเราไปที่โบสถ์ที่ถูกทิ้งร้างนั่นคงจะเป็นฟารัส และคงเป็นช่วงเวลาก่อนที่เราจะอยู่ในร่างวินเซนต์ จนผมเริ่มแปลกใจขึ้นมาว่าเพราะอะไรทำไมฟารัสที่ไม่เคารพวินเซนต์ถึงยึดติดกับวินเซนต์คนเดิมขนาดนั้น แต่ดูเหมือนความเหนื่อยล้าจะกัดกินฟารัสไปมากโขเมื่อความเงียบครอบงำ

" หลับอีก "

" ไอคนจองหอง! ออกไปจากตัวนายท่านเลยนะ!! "

คาร์คที่แผ่รังสีอาฆาตพูดขึ้นก่อนที่ตัวเล็กๆของมันจะพยายามดึงเสื้อฟารัสออก แต่ก็ไม่เป็นผลจนฟุบตกลงไปข้างๆพร้อมกับนอนหอบแบบนั้น

ระหว่างที่ผมดันตัวหนักๆของฟารัสออกเสียงแจ๋วๆที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น

" ว่าแล้วว่าท่านฟารัสจะเป็นแบบนี้ "

บิลลี่ขนเฟอร์พูดขึ้นก่อนที่เขาจะปรากฎตัวที่หน้าประตู ผมมองเธอก็ได้แต่ถอนหายใจ

" ทำไมเขาเป็นแบบนี้ "

ผมถามไปด้วยความเคลือบแคลงใจที่มีตั้งแต่ครั้งแรก บิลลี่ยิ้มกว้างก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาแล้วนั่งข้างๆพร้อมกับแขนโตๆที่ถือวิสาสะมากอดผมอีกข้างนึงจนผมรู้สึกเป็นเหมือนตุ๊กตาคลายหนาวไปแล้ว ที่ด้านหน้าก็เป็นก้อนเนื้อตัวโต ส่วนข้างๆก็เป็นขนเฟอร์ฟูๆ

" ฝ่าบาทจำไม่ได้จริงๆเหรอเพคะ "

ผมมองหน้าบิลลี่สลับกับฟารัสก่อนจะส่ายหัวเบาๆ เสียงหัวเราะจากลำคอดังขึ้นมาก่อนที่เขาจะเริ่มอธิบาย

" สมัยองค์ราชินีวาเลนเทียร์อยู่ได้รับท่านฟารัสเข้สเป็นบุตรบุญธรรม เพราะท่านฟารัสไม่มีความสามารถในการสื่อสารกับภูติแบบเอล์ฟทั่วไป ตอนนั้นฝ่ายาทยังอายุแค่2ขวบเองล่ะมั้งเพคะ คงไม่แปลกที่จำไม่ได้เพราะผ่านมาตั้งหลายร้อยปีแล้วหนิเนอะ ตั้งแต่องค์ราชินีจากไป ท่านที่น่ารักวัยใสก็เปลี่ยนไปไม่ใยดีท่านฟารัสแถมยังอารมณ์เหวี่ยงอีก

"

'แม่ของวินเซนต์เทอร์สินะ '

ผมคิดไปด้วยระหว่างที่บิลลี่กำลังอธิบายอยู่

" ท่านฟารัสไม่ได้เกลียดฝ่าบาทหรอกนะเพคะ ท่านมักจะคอยหาวิธีที่ดีที่สุดเพื่อให้ท่านได้พัฒนาและเพรียบพร้อมเหมือนกับองค์ราชินี ต่อให้ฝ่าบาทเปลี่ยนไปแค่ไหน ท่านฟารัสก็จะอยู่ข้างฝ่าบาทเสมอหนิเพคะ อีกอย่างท่านฟารัสเป็นประเภทคนบ่อน้ำตาตื้นใจอ่อนกับฝ่าบาทจะตายเพคะ แต่ดูเหมือนจะแข็งขึ้นเพราะฝ่าบาทไม่ยอมให้ท่านฟารัสคบหากับเรนสาวใช้ก็เลยแข็งมาถึงตอนนี้ "

" เขาคบกันจริงๆเหรอ "

" ฝ่าบาทดูไม่ออกหรือแกล้งโง่เพคะ "

"แค่นี้ ด่ากันเลยเหรอ. "

บิลลี่ยิ้มกว้างแต่ไม่ได้พูดอะไร เขากอดแน่นก่อนจะลูบที่หัวผมเบาๆราวกับกำลังปลอบโยน

" ฝ่าบาทไม่ได้ตัวคนเดียวหรอกนะเพคะ พวกเรามาทำให้อาณาจักรของเรากลับมารุ่งโรจน์อีกครั้งกันเถอะฝ่าบาท ยิ่งใหญ่กว่ายุคขององค์ราชินีวาเลนเทียร์เลยเพคะ! "

' แล้วพ่อวินเซนต์ล่ะ '

ผมตกผลึกความคิดเช่นนั้น ก่อนจะค่อยๆหลับตาลงไม่รับรู้อะไรอีก บางทีเราควรจะตะล่อมถามฟารัสด้วยตัวเองในตอนที่เราขอโทษเขา

ผมยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะผลอยหลับเพราะมือหยาบที่ลูบหัวมันเพลิดเพลินไปพร้อมกับอากาศที่เย็นสบายไม่ร้อนอบอ้าว กลุ่มทหารที่ตามฟารัสมาก่อนหน้านี้ก็ค่อยย่องแอบดูจนเห็นภาพวินเซนต์ที่กำลังถูกก้อนเนื้อใหญ่ๆทับถมอยู่จนเป็นภาพที่ถูกส่งต่อปากต่อปาก

*******************************

พลบค่ำอากาศเริ่มเย็นลงภายในห้องที่วินเซนต์ใช้นอนตอนนี้ถูกใช้เป็นห้องประชุมเรียบร้อย โดยมีแม่ทัพอย่างเซอร์ โยไพร์ม ที่รอดชีวิตมาได้และสู้ร่วมกับวินเซนต์ ฟารัส บิลลี่และคาร์คนที่อยู่บนไหล่วินเซนต์โดยไม่มีใครมองเห็น

แผนที่อาณาจักรถูกกางออกพร้อมกับโยไพร์มที่กาจุดต่างๆของทางเหนือและทางใต้

" ส่วนที่แม่น้ำสตริ้งส์ไหลผ่านถูกพวกสาวกนั่นยึดไป เป็นแม่น้ำที่สามารถส่งถึงดินแดนใต้ขึ้นเหนือ เป็นที่มาว่าดินแดนเหนือแห้งแล้ง เพราะบริเวณช่องแคบมุงค์ มีการสร้างกำแพงด้วยอุปกรณ์เวทย์ ทำให้สามารถกักเก็บน้ำได้มากและยังตัดแหล่งน้ำที่สำคัญต่ออาณาจักนกราเซีย "

ฟารัสที่ได้ยินแบบนั้นจึงชี้ตรงแผนที่ไปบริเวณส่วนของเทือกเขา

" แล้วตรงนี้เราทำอะไรได้ไหม "

" ถ้าเป็นรอบๆของแม่น้ำสตริ้งส์จริงอยู่ที่มีช่องแคบของมุงค์ เทือกเขารอบๆไม่เหมาะแก่การรบ ก็ถูกที่ล่อศัตรูเข้าช่องแคบได้ แต่บนเทือกเขาเป็นเขาหัวล้าน ไม่มีต้นไม้นั้นการตั้งกองกำลังยิ่งเป็นความเสี่ยงจะทำให้ถูกจ้องเล่นงานได้ "

ภายในเริ่มเกิดความเงียบปกคลุมทันที ดินแดนทางใต้เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยภูเขาและความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ดินแดนใต้เป็นแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำสตริ้งส์ซึ่งอดีตชื่อว่า แม่น้ำย้อนกลับ เป็นแม่น้ำที่เทพประทานให้และเป็นที่ๆประกอบพิธีกรรมต่างๆก่อนจะถูกปิดกั้นจากพวกสาวกเพื่อตัดกำลังคนของอาณาจักรกราเซีย เป็นเหตุที่ดินแดนเหนือแห้งแล้งขนาดต้องใช้อุปกรณ์เวทย์ที่สร้างจากส่วนหนึ่งของผลึกน้ำแข็งที่ได้จากคลังสมบัติเก่าของราชวัง เสมือนเป็นของบรรณาการสมัยก่อนและตอนนี้มันทำหน้าที่เต็มที่พร้อมจะแตกสลายไปทุกเมื่อ

" งั้น ถ้าบนพื้นไม่ได้ บนอากาศก็ดูเป็นอันตราย ทำไมไม่ลองใต้ดินดูล่ะ "

โยไพร์มมองบิลลี่ด้วยความสงสัย แต่ดูเหมือนบิลลี่จะไม่คิดว่ามันแปลก

" เจ้าบอกว่ามันเป็นต้นน้ำใช่ไหม ข้าเชื่อว่าอุปกรณ์เวทย์ของพวกมันก็ไม่ได้ดีขนาดนั้นหรอก ทำไมน่ะเหรอ ตอนที่ข้าไปที่สนามรบที่ฝ่าบาทต่อสู้ ข้าเจอส่วนหนึ่งของอุปกรณ์ที่มันใช้ ถูกฝั่งอยู่ใต้ดินนั้นถึงจะสกปรกแต่ข้าก็ยอมขุดน่ะนะ ดูเหมือนจะทิ้งอุปกรณ์ที่ทำไว้เต็มเลยล่ะ หลักๆเพราะมีรอยแตกร้าวไม่สมบูรณ์และใช้การไม่ได้เลยทิ้งโดยฝั่งลงดินไป บวกกับระหว่างทางที่ข้าตรวจสอบที่ๆแม่น้ำเคยไหลผ่าน น่าแปลกใจไหม ผ่านมาตั้งสองสามเดือนแต่ดินมันเหนียวอยู่ทั้งๆที่ควรแข็งแตกไปแล้ว "

ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็เหมือนปิ๊งไอเดียได้ทันที

" รู้วิธีแล้ว!!! "

เสียงตะโกนลั่นพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มทำให้ฟารัส บิลลี่และโยไพร์มมองหน้ากันราวกับทำตัวไม่ถูก ที่จู่ๆวินเซนต์ก็ดูตื่นเต้นผิดปกติและดูจะกระตือรือร้นก่อนที่วินเซนต์จะเริ่มหัวเราะในลำคออย่างชั่วร้ายแม้แต่คาร์คก็กระโดนหนีออกจากไหล่

เมื่อประชุมกันเสร็จบิลลี่ก็ขอไปติดต่อเอลิเกออสและคนอื่นๆให้เตรียมพร้อมโดยครั้งนี้ อารีเน่ จะเป็นคนรับผิดชอบในศึกครั้งนี้ โยไพร์มก็ออกไปแจ้งข่าวให้กับคนในกองรับทราบเพื่อเตรียมพร้อมตั้งรับ เหลือแต่ฟารัสที่ยืนอยู่โดยไม่ได้พูดอะไรเพราะผมที่รั้งเขาให้อยู่ ผมเดินไปหาก่อนจะโค้งมห้ฟารัสอย่างน้อบน้อมจนฟารัสก็ก้าวถอยออกไป

" ข้าขอโทษ.....ท่านพี่ "

ฟารัสที่ได้ยินแบบนั้นก็หยุดชะงักลง เขาไม่ได้ยินวินเซนต์เรียกเขาว่าพี่ตั้งแต่องค์ราชินีสิ้นพระชนม์ ในหลายร้อยปีนี่คือครั้งแรกที่วินเซนต์ทำแบบนี้จนฟารัสเองจากที่ความโกรธยังตกค้าง ตอนนี้กลับถูกปัดทิ้งไปจนหมด

" ข้าขอโทษที่ทำตัวแบบนั้น ต่อไปข้าจะทำตัวให้ดีขึ้นและคุยกับท่านให้มากขึ้น "

ผมแอบเหลือบตามองฟารัสแต่ดูเหมือนตอนนี้เขาจะน้ำตาคลอเบ้าไปแล้ว จนเป็นผมเองที่ตกใจ ฟารัสรีบโผเข้ากอดแน่นก่อนจะเริ่มฟูมฟายอีกรอบ

' บ่อน้ำตาตื้นจริงๆด้วย '

" ในที่สุด ฮรึก!! ไม่เป็นไรเลย พี่ไม่เป็นอะไร ต่อไปต้องเป็นเด็กดีนะแล้วพี่จะปกป้องเอง! ต้องเรียกว่า พี่ฟารัสเยอะๆเลยนะ !! "

หน้าผมตอนนี้เต็มไปด้วยหยดน้ำตาที่ไหลพรากเหมือนเด็กก่อนที่จะมองไปเห็นคาร์คที่ตอนนี้กำลังนั่งกินขนมเหมือนคนกำลังงอนแฟนอยู่ ผมชี้ไปทางคาร์คก่อนจะพูด

" เห็นนั่นรึเปล่า "

ฟารัสมองไปตามที่ผมชี้แต่ก็เหมือนสงสัย

".. ไม่เห็นมีอะไรเลย "

ฟารัสที่ผละออกแล้วปาดน้ำตาตัวเองก่อนจะเพ่งมองแต่ก็ไม่เห็นอะไร ผมเลยลองใช้มือแตะที่ตัวฟารัสก่อนจะส่งมานาเวทย์ให้ ฟารัสที่ได้รับไปก็มองไปทางที่ผมชี้ไปอีกรอบ

" เห้ย!! ตัวอะไรวะนั่น !? "

ฟารัสที่ร้องเสียงหลงเวลาเดียวกับที่คาร์คที่กำลังกินขนมงอนๆก็ตกใจ กลายเป็นว่ามานาของผมจะดูพิเศษไปหน่อย ที่ส่งให้ใครก็สามารถมองเห็นคาร์คได้แค่นั้นสินะ การทดลองที่แสนงี่เง้า ผมมองไปทางคาร์คกับฟารัสตอนนี้ก็รู้สึกเคลียดจนไมเกรนจะขึ้นทันทีและการทดลองงี่เง้าก็กลายเป็นฝันร้ายของผม

" ไอเจ้าคนจองหอง เห็นข้าเรอะ!! "

" ด่าใครจองหองไอเตี้ย! "

" อ๊ากกกกก!! ข้าจะฆ่าเจ้าไอหูยาว!!

" มาสิวะ!! "

ผมค่อยๆเดินห่างออกมาเมื่อก้อนดำๆกับก้อนเนื้อโตๆกำลังเริ่มทำลายห้องนอนของผม จึงถือวิสาสะหลบหนีความรับผิดชอบนี้ไป ก่อนจะใช้เวทย์ในการปลอมตัวเป็นชาวบ้านธรรมดาเดินไปสำรวจระหว่างหนึ่งอาทิตย์ที่ผมหลับไป ฟารัสดูจะจัดการมันได้ดี ผลึกเวทย์มนต์กำลังปล่อยน้ำบริสุทธิ์ออกมา ชาวบ้านได้รับการปกป้องจากเหล่าทหารที่ยืนยามให้ บ้านที่กำลังถูกสร้าง ไม่ทันที่ผมจะรู้สึกตัวตอนนี้ผมกลัยยิ้มออกมาอย่างที่ไม่เคยเป็น ต่อให้มันจะวุ่นวายไม่ต่างจากชีวิตก่อนแต่ดูเหมือนว่ามันอาจจะดีกว่าเมื่อก่อน

" เตรียมตัวไว้ให้ดีเลย "

ฮอต

Comments

Juguito De Frutifastastico Uwi

Juguito De Frutifastastico Uwi

รอคอยอัพเดทจากแอดอยู่นะ

2023-11-23

1

ทั้งหมด
เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!