สมาชิกใหม่

พระราชวังใหญ่สีขาวแซมด้วยอัญมณีสีฟ้าอ่อนระยิบระยับเมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์อ่อนๆ ประติมากรรมดูหรูหราและดูมีมนขลังเมื่อมันอยู่ท่ามกลางความเขียวขจี ภายในเต็มไปด้วยเหล่าอัศวินในชุดเกราะขาวบริสุทธิ์ยืนเรียงกระดานประจำเสาแต่ละจุด พร้อมกับผู้หญิง ผู้ชายที่คอยดูแลเป็นผู้รับใช้กว่าหลาบร้อยชีวิตยืนต่หน้าวินเซนต์ที่นั่งบนบัลลังก์ตั๋งแก้วที่สลักลวดลายวิจิตร

วินเซนต์ใช้เวลาครู่ใหญ่กับการจดจ่อเอกสารมากมายตั้งแต่เขาทุบตีเหล่าขุนนางไม่รักดีไป เอกสารในมือคือข้อมูลคร่าวของเหล่าผู้มีความสามารถที่วินเซนต์ต้องการ บรรยาการก็เงียบเชียบเต็มไปด้วยแรงกดดันบางอย่างจนเรนที่ยืนอยู่ข้างๆฟารัสที่แหงนมองก็อดจะสะกิดคนข้างๆไม่ได้

" ท่านฟารัส ท่านวินเซนต์ดูสงบเสงี่ยมชั่วข้ามคืนเลยนะคะ"

ฟารัสพยักหน้าเห็นด้วยพร้อมกับขมวดคิ้วสงสัยเป็นระยะก่อนจะมองไปยังผู้มาเยือน

" โดโรเรส ไอกา โดโรเรส ไคอา พี่น้องเผ่าวิหค"

ผมพูดขึ้นหลังหยิบกระดาษสีน้ำตาลอ่อนสองใบขึ้นมาอ่าน หญิงสาวและชายหนุ่มผมสีผมพูดั่งดอกซากุระก็ก้าวออกมา ปีกสีดำตัดกับรูปลักษณ์ภายนอกที่อ่อนโยนแต่ก็สวยงามไม่แพ้กัน หญิงสาวเก็บขาข้างหนึ่งก่อนจะย่อลงเหมือนท่าถอนสายบัวที่ต่ำจนเข่าแทบจะแตะกับพื้น ในชุดเดรสกระโปรงสีขาวระบายแต่งแต้มไปด้วยลายปักดอกไม้ ชาบหนุ่มโค้งคำนับแสดงให้เห็นถึงเครื่องดนตรีชนิดเครื่องสายที่เขาติดมาด้วย ทั้งคู่มีดวงตากลมโตสีชมพูอ่อนรับกับสีผมเป็นอย่างดี เรียกสายตาคนได้ไม่ยาก

" หม่อมฉัน ไกอา มีความสามารถขับร้องเพคะ "

" กระหม่อม ไคอา เป็นนักกวีพะยะค่ะฝ่าบาท "

ผมหันไปมองฟารัสแต่ดูเหมือนสาวใช้อย่างเรนจะสะดุ้งแทนแล้วก้มหน้าหนี

" เอลิเกออส ลักซ์ เผ่าจิ้งจอก "

ชายวัยกลางคนที่มีผมสีขาวแซมเล็กน้อยก้าวออกมาด้วยท่าทีมั่นคง ยืดอกแสดงถึงความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม เขายกมือข้างหนึ่งประทับบนอกพร้อมกับโค้งคำนับทุกกระบวนท่าดูทางการเสียจนวินเซนต์ก็อดจะมองอากัปกิริยานั้นไม่ได้

" เป็นเกียรติอย่างหาที่สุดมิได้ที่ข้าพเจ้าผู้ต่ำต้อยจะได้ถวายงานรับใช้ท่านมังกรผู้หญิงใหญ่อีกครั้ง ลูกชายกระหม่อมเป็นนักเวทย์แปรธาตุแต่เขาไม่ได้มา ข้าพเจ้ารู้สึกละอายยิ่งนัก "

" พอเถอะ "

วินเซนต์เบือนหน้าหนีกับคำพูดร้อยแปดที่สรรเสริญราวกับเขายิ่งใหญ่จนขนลุกแทบนั่งไม่อยู่กับที่ ความสามารถของเขาที่ปรากฎหลักๆคือ เป็นคนที่สร้างบ้านและออกแบบที่อยู่อาศัย ถนนหนทาง ยังเป็นหนึ่งในคนที่ออกแบบราชวังก่อนจะถูกวินเซนต์คนเก่าระเบิดอารมณ์จนโดนไล่ออกไปเพียงเพราะอัญมณีเบี้ยวไปสองเม็ด เป็นคนที่ผมระแวงเล็กน้อยเพราะจากที่ดูหน่วยก้านเขาไม่ใช่แค่เก่งในการใช้สมอง

" อีก3 ค--"

" โย่! กษัตย์มังกร ท่านไม่ได้ดูโตขึ้นเลย ฮ่าๆๆ "

หญิงสาวผมแดงเหมือนเพลิงนัยตาสีแดงเหมือนเลือดพูดออกมากับท่าทียียวนและไม่เคารพอย่างเห็นได้ชัด การแต่งกายของเธออยู่ในชุดเกราะหนังเข้ารูปพร้อมกับดาบสองเล่มเหน็บข้าง เธอเป็นหนึ่งในวาคีรีที่ก็ถูกวินเซนต์ไล่ออกเพราะความโผงผางของเธอเช่นกัน

" อารีเน่ ไปกวนส้นตีนท่านมังกรขนาดนั้น ระวังโดนวีนนะสาว "

หนุ่มเผ่าแมวผมบลอนด์ร่างกายสูงโปร่งแต่งหน้าแดรกควีนสุดปังพร้อมชุดขนเฟอร์พูดแซวจนบรรยากาศตึงเคลียดเริ่มกลายเป็นคณะตลกซุปเปอร์โจ๊กไป

" หม่อมฉันมีชื่อว่า บิลลี่ เพคะฝ่าบาทอย่าถือสาหม่อมฉันเลยเพคะ ปากหมาอมฉันมันไว๊ไว~ "

ผมสนใจหญิงสาวที่สวมแว่นแทนบิลลี่ขนเฟอร์ เธออยู่ในชุดกระโปรงใหญ่เพราะรูปลักษณ์ของเธอ เผ่าเซนทอร์ที่แข็งแกร่ง

" หม่อมฉัน พาราตรี เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเพคะฝ่าบาท "

เธอมีท่าทางเหมือนเอลิเกออส แต่ก็แฝงไปด้วยความอบอุ่นคงจะเพราะความเป็นแม่ในตัวของเธอ

หลังจากที่วันก่อนได้เฉดหัวขุนนางไปในเหมืองแรงงานของอาณาจักร ผมได้เขียนหน้าที่และการปฎิบัติงานที่ผมอยากจะได้อย่างละเอียดรวมถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับอาณาจักรกราเซียแห่งนี้ ผมเดินลงไปพร้อมกับยื่นม้วนเอกสารด้วยตัวเองแม้พวกเขาจะรับมันอย่างงงๆ ก็ตาม

" เอลิเกออส พาราตรี ทั้งสองคนไปกับฉันที่ห้องประชุมส่วนตัว "

ผมพูดขึ้นก่อนจะเดินออกไป แต่บิลลี่ขนเฟอร์ก็รีบรุดมากอดขาไว้แน่นจนฟารัสและอัศวินคนอื่นๆก็ชักดาบขึ้นมาพร้อมกัน

" กรี๊ดดดดด!! "

เสียงปรอทแตกดังพร้อมกับมือข้างหนึ่งที่ผมยกห้ามคนอื่นๆไว้ บิลลี่ขนเฟอร์มองซ้ายขวาก่อนจะมองผมด้วยสีหน้าอ้อนวอนจนทำให้รู้สึกอยากจะวิ่งหนีออกจากเขาไปไวๆ

" ฝ่าบาทเพคะ ให้หม่อมฉันพบเป็นการส่งนตัวด้วยเพคะ หม่อมฉันเก่งหลายอย่าง ยังเคยต่อรองทองกับพวกมนุษย์ได้ฟรีมาแล้วยังเคยนะเพคะ ได้โปรดดด ฮรือออ "

" ...อะไรเนี้ย "

ผมรู้สึกว่าเพียงแค่การเอาเขาไปมันจะเป็นอะไรที่วุ่นวายมากกว่าเดิม แต่เขากลับไม่ยอมลดละที่จะปล่อยแขนออกจากขาผม

" จะไปก็ไป "

ผมพูดตัดบทก่อนจะพาร่างตัวเองเดินออกไปพร้อมกับฟารัสและคนอื่นๆที่ผมกล่าวไป บิลลี่ขนเฟอร์ก็เดินเทียบข้างทำให้คนอื่นๆมองเป็นตาเขียว

" หม่อมฉันซาบซึ้งจนอยากจะจัดงายฉลองเลยเพคะฝ่าบาท~ อ่ะหริ อ่ะหริ "

ผมถอนหายใจเฮือกแล้วเดินออกไปปล่อยให้บิลลี่ขนเฟอร์พูดแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดในเร็ววันนี้

' เหมือนพี่ฉันเลย '

วินเซนต์คิดในใจและรีบสาวเท้าไวกว่าเดิม

เรนที่เห็นหลังฟารัสไกลออกไปจนลับสายตา เธอจึงมาหาคนอื่นๆที่ไม่ได้ถูกเรียก

" ฉันจะพาพวกท่านไปยังที่พักเองค่ะ "

************************************************************************

" ระบบเงินตราหรือขอรับ "

ภายในห้องที่ตกแต่งใหม่ให้เรียบ เครื่องประดับที่เคยอยู่ก็ถูกเอาออกเหลือเพียงฟอร์นิเจอร์ไม้ออกแนวนิมิมอล มันคือห้องเดียวกันกับที่ทุบตีเหล่าขุนนางไปเมื่อหลายวันก่อน

ผมคิดจะใช้สิ่งที่โลกเดิมเราคุ้นเคยแต่ที่นี่ยังไม่มี คือระบบเงินตรา ใช้เงินบริสุทธิ์ประทับตราเพื่อใช้แลกเปลี่ยนสินค้าแทนที่จะใช้สิ่งของแลกกัน

" หม่อมฉันก็เห็นด้วยเพคะ บางครั้งการแลกเปลี่ยนด้วยสิ่งของก็ไม่คุ้มค่าแต่ก็ไม่มีทางเลือก "

พาราตรรพูดขึ้นขณะที่เธอยืนคิดไปด้วยพลางๆ

" ระบบเงินตราข้าคิดจะใช้สถานที่ที่บ่งบอกถึงอาณาจักรกราเซียประทับลงไป ชื่อสกุลเงินเซียร่าห์ มีทั้งเหรียญและแบบกระดาษ "

ผมพูดขึ้นพร้อมกับกระดาษที่วาดและออกแบบเงินเอาไว้เป็นชุดทั้งแบบเหรียญและแบบแบงค์ ทุกคนต่างดูและตื่นเต้น แต่ดูเหมือนจะมีหนึ่งคนที่เหมือนจะไม่จริงจังในตอนแรกก๋เปลี่ยนเป็นคนละคน

" ไหนๆก็พูดข้อดีไปหมด หม่อมฉันขอถามในส่วนที่หม่อมฉันยังสงสัยเพคะฝ่าบาท "

บิลลี่ขนเฟอร์พูดขึ้นพร้อมกับกระแอ่มในลำคอพร้อมสะบัดผมบลอนด์ของเขา

" ชาวบ้ายยังไม่คุ้นชินกับการแลกเปลี่ยนด้วยเงินตราแบบมนุษย์ การจะบังคับใช้จะเอาเงินจากไหน ถ้าต้องให้เกิดการหมุนเวียนต้องมีการลงทุนที่ต้องใช้สกุลเงินมนุษย์รึเปล่า การกำหนดขอบเขตหรือข้อจำกัด มีอะไรมารองรับได้หรือเพคะ อีกอย่างสกุลเงินที่เพิ่งตั้งต่อให้มีราคาในอาณาจักรแต่นอกอาณาจักรจะเปลี่ยนสกุลเงินเท่าไหร่ถึงจะซื้อขายกับอาณาจักรอื่นๆได้ "

ผมเบิกตากว้างกับคำถามของบิลลี่ขนเฟอร์ แต่เอลิเกออสพูดแทรกขึ้นมาก่อน

" เจ้าสงสัยในความสามารถของฝ่าบาทงั้นรึ "

เขายิ้มก่อนจะนิ้วชี้ไปมาเป็นการปฎิเสธ

" โนวๆๆ ฉันไม่ได้สงสัยในความสามารถของฝ่าบาทตัวน้อยของข้า ข้ากำลังชี้ให้เห็นถึงช่องโหว่ของงานที่ตำเป็นต้องปิดรอยรั่ว "

คิ้วเอลิเกออสกระกระตุกเมื่อได้ยินคำพูดของบิลลี่

" ไร้มารยาท! กล้าพูดเช่นนั้นต่อฝ่าบาทได้ยังไง!! "

" ช่างเถอะ. บิลลี่ จริงอย่างที่เจ้าพูด "

ความวุ่นวายจบลงพร้อมกับหมัดของเอลิเกออสที่กำลังจะสาวเข้าหน้าบิลลี่ ทุกคนมองวินเซนต์เป็นสายตาเดียว

ผมนั่งมองเอกสารที่ออกแบบเงินใหม่ก่อนจะมองที่บิลลี่เพื่อตอบคำถามของเขา

" บังคับใช้กฎหมาย ให้สกุลเงินที่จะกำลังจะเกิดขึ้นใช้ชำระหนี้สินได้ สามารถใช้สกุลเงินนี้ว่าจ้างแรงงานได้และให้พวกคนรับใช้นำของที่ได้จากสวนนั้นส่วนหนึ่งไปตั้งขายในราคาที่ถูก สร้างพื้นฐานด้วยการแจกเงินชาวบ้านที่มีคนชราอายุตามที่กำหนดในวงเงินทีาเหมาะสม สนับสนุนเด็กๆที่เพิ่งเกิดจนกระทั่งเรียนจบสถาบันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ข้าอยากจะสร้างเช่นกันแต่เดี๋ยวค่อยพูดเรื่องนั้น สนับสนุนเงินให้ผู้หญิงที่มีลูกตามจำนวนบุตรและหญิงที่ตั้งครรภ์จนถึงคลอด ส่วนการลงทุนเราจะสนับสนุนนายทุนที่เข้ามาในวงเงินที่กำหนดรวมถึงระยะเวลา และเรียกเก็บภาษีจากประชาชนผ่านพื้นฐานรายได้ต่อปี รวมถึงเก็บภาษีนายทุนจากรายได้ต่อปี นี่คือคร่าวๆทีาฉันคิดได้ในตอนนี้ "

บรรยากาศเงียบไปครู่ใหญ่จนทำให้ผมเริ่มชีกไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ตอบนั้นมันดีพอแล้วรึยัง แต่ก็มีเสียงปรบมือจากบิลลี่ขนเฟอร์มาช่วยไว้ ด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มที่ผมรู้สึกกังวลในใจก่อนจะผ่อนคลายอย่างไม่น่าเชื่อ

" ปังมากจ้าฝ่าบาท เรื่องที่ฝ่าบาทกล่าวมาหม่อมฉันถนัด ยกหน้าที่นี่ให้หม่อมฉันจัดเถอะเพคะ หม่อมฉันเองก็เคยไปอาณาจักรมนุษย์พอจะเข้าใจและหากมีฝ่าบาทตัวน้อยอยู่ด้วยสบายมากเพคะ อ่ะหริ ๆ "

เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่ดูตื่นเต้นและสนุกสนานในเวลาเดียวกัน ก่อนจะดี้ด้าอยู่คนเดียว

" ฝ่าบาท. หม่อมฉันนำบุตรมาอยู่ด้วยได้ไหมเพคะ "

พาราตรีที่ยืนฟังอยู่นาน ดูเหมือนเธอจะไม่มีข้องกังขาอีกต่อไป ผมมองหน้าเธอที่ตอนนี้แตกต่างจากตอนแรกอยู่มาก จึงพยักหน้าเป็นการตอบกลับแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกลับไป

" ขอบพระทัยเพคะ "

เมื่อการประชุมหมดลงทุกคนแยกย้ายไปทำหน้าที่ๆได้รับ ทำให้ระหว่างทางเดินไปสำรวจแหล่งน้ำที่ชาวบ้านจะใช้กันส่วนใหญ่มีแค่ผมและฟารัสเท่านั้น เขานิ่งเงียบไม่ได้พูดอะไรมาสักพักตั้งแต่ในราชวังแก้วขาวๆนั่น เอาแต่จ้องผมอย่างเดียวจนรู้สึกว่าไม่ผลอดภัยอยู่เหมือนกัน คาร์คเองก็ไม่อยู่เลยไม่มีคนแอบบรรยายสรหน้าฟารัส ท่าทางของเขาข้างหู

" ท่านคือวินเซนต์เทอร์ตัวจริงหรือขอรับ "

ผมชะงักไปชั่วครู่และรับรู้ว่าฟารัสก็รับรู้ได้เช่นกัน ผมไม่ได้ตอบโต้อะไรได้แต่เพีบงเดินต่อไปอีก แต่ในใจกลับคิดเพียงแต่ว่า ถ้าวินเซนต์ตัวจริงเป็นคนอย่างที่ได้ยินในข่าวลือมาจริง เขาดุร้ายราวกับมังกรที่ตกมันในทุกๆวัน มีเหตุผลอะไรที่ฟารัสดูจะฉลาดถึงมารับใช้คนอย่างวินเซนต์ แต่ทางเดียวจะรู้ได้คือวินเซนต์เทอร์ตัวจริง ไม่ก็จากปากฟารัสเอง แต่ผมก็เลือกจะหันกลับไปมองฟารัสทีาเดินตามมาอยู่ อากาศครึ้มราวฝนกำลังตก เมฆดำลอยมาให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆบนพื้นดินล้อมไปด้วยหญ้าที่ถูกทำให้เป็นเส้นทางพร้อมกับอากาศหนาวๆชื้นๆมาปะทะกับใบหน้าและลำตัว สายตาฟารัสจ้องมองผมนิ่งๆแม้จะไม่ได้พูดอะไร

" ..เจ้าคิดว่าไง? "

" ห้ะ.. "

ผมยกยิ้มมุมปากก่อนจะหันหลังเดินต่อไป ทิ้งให้ฟารัสยืนสับสนอยู่

' เราไม่เนียนเหรอวะ '

ผมคิดในใจพร้อมกับหัวใจที่เต้นเร็วมากขึ้นไม่เป็นจังหวะ พร้อมคิดว่าเขาควรจะทำตัวขี้โมโหเป็นบ้าตามข่าวลือ แต่ทั้งชีวิตเขาไม่เคยโมโหระเบิดแบบที่ฟังๆมา จนไม่รู้ต้องทำยังไง ก่อนจะรีบเดินไวๆเพราะมีแต่เรื่องบ้าๆบอๆเต็มหัวไปหมด

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!