คำเล่าขานจากเมืองมาร [เซวียเสี่ยว]
สระน้ำตำหนักเฟิ่งเหยา ณ ดินแดนสวรรค์ เป็นที่ประทับของเทพหงส์ขาวผู้ได้ชื่อว่างดงามปานกลืนสามพิภพพระราชนัดดาในเทียนจวินผู้ปกครองสวรรค์เก้าชั้นฟ้า เสี่ยวซิงเฉิน งามทั้งภายนอกและภายใน เหล่าเทพชั้นผู้น้อยและผู้ใหญ่มักหาเรื่องมาข้องแวะให้ได้เจอหน้าเพียงเสี้ยวก็ยังดี บ้างก็ถามถึงด้ายแดงกับเทพบุพเพว่าตนจะมีวาสนาเป็นคู่ชะตาลิขิตของเทพหงส์ขาวผู้นี้หรือไม่ทว่าก็เซื่องซึมออกมาจากตำหนักบุพเพทุกราย เฒ่าจันทราได้แต่ส่ายหน้าเบื่อหน่าย เหนื่อยใจกับเจ้าพวกนี้เต็มแก่ ถึงแม้จะรู้อยู่ในอกว่าด้ายแดงของเทพเสี่ยวซิงเฉินนั้นผูกกับผู้ใดแต่ปากตาเฒ่าไม่สามารถพูดออกมาได้
รู้มากเท่าใด อย่าได้เอ่ยออกมาเท่านั้น
คลื่นน้ำกระทบแสงดาราจนเกิดเป็นหมู่ดาวขนาดย่อมในบ่อระยิบระยับ อาภรณ์ขาวบริสุทธิ์ไหลลงตามลาดไหล่มนร่วงสู่ข้อเท้าเบื้องล่าง ท่อนขาเรียวก้าวสัมผัสกระแสน้ำถึงครึ่งตัว สองมือลูบไล้ลำคอระหง แผ่นหลังเนียนต้องแสงโคม เส้นเกศาดำขลับสยายบนผืนน้ำ รอยยิ้มพร่างพราวประดับยามว่ายวนในบ่อนทีตามวิสัยของหงส์ เสียงหวานหัวเราะพอใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อร่างกายเปียกชุ่มทั้งตัว
จ๋อม...
"หือ เข่อซิงนั่นเจ้าหรือ?" เข่อซิงชื่อนกแก้วเด็กถูกยกขึ้นมาพูดยามได้ยินเสียงบางอย่างลงมาในบ่อน้ำเบา ๆ โดยที่เสี่ยวซิงเฉินยังไม่ลืมตา เข่อซิงมักชอบแช่น้ำพร้อมกับเขาเกือบทุกวัน มีโขดหินอีกฟากเป็นที่ประจำของเจ้าตัวเลยเชียวล่ะ เทพหงส์ขาวเอนกายหลับตาพริ้มริมขอบสระ ปล่อยลมหายใจแผ่วเบาเข้าสู่ห้วงนิทรา
ดวงตาทับทิมแดงไล่มองกรอบหน้าสวยอย่างหลงใหล กลิ่นกำยานหอมลอยฟุ้งไม่คุ้นเคยหากสูดดมจะลืมตื่นครึ่งชั่วยาม ของวิเศษจากพิภพมาร มิมีผู้ใดกล้าเล่นของโสมมไปกว่าเผ่ามารแล้ว เพื่อให้ได้สิ่งที่ปรารถนามาครอบครองแม้โลหิตเกรอะกรังก็เป็นเพียงคราบฝุ่นเท่านั้น มือหยาบกร้านลูบไล้เส้นผมนิ่มขึ้นมาดอมดมกลิ่นไอสวรรค์จากเทพผู้บริสุทธิ์ทั้งกายใจ ขาวสะอาดราวหิมะเหมันตฤดู มิมีสิ่งใดปนเปื้อนให้หมองมัวได้เลยแม้แต่น้อย เสี่ยวซิงเฉินคู่ควรกับสวรรค์ชั้นฟ้าเป็นที่สุดทั่วหล้าคิดเยี่ยงนั้น
หากแต่หาใช่เซวียหยาง
เสี่ยวซิงเฉินคู่ควรกับวังมารมากที่สุดต่างหาก
ร่างกำยำช้อนอุ้มกายเปลือยท่อนบนไร้สติ พลันปรากฏเป็นหมอกควันทมิฬทุกอณูบริเวณสระน้ำหลังตำหนักเฟิ่งเหยา ไม่นานมันก็หายไปพร้อมมารร้ายที่ลักพาตัวเทพหงส์ขาวลงจากสวรรค์
.
.
.
ข่าวการหายตัวไปของเทพหงส์ขาวแพร่สะพัดสะเทือนทั้งแดนดิน องค์เทียนจวินพิโรธลั่นวาจาสั่งกองทัพสวรรค์ให้กระจายกำลังออกตามหานัดดาผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจแม้พลิกแผ่นดินหาก็อย่าได้เกี่ยง กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตให้เหล่าเทพกลัดกลุ้มวุ่นวายใจกันไปหมด เข้าเฝ้าผู้ปกครองสวรรค์ในท้องพระโรงทีไรก็เกรงกลัวไฟโทสะอยู่หวั่น ๆ ยังดีที่มีเทียนโฮ่วคอยดับความคุกรุ่นให้เทพชั้นผู้น้อยรอดปลอดภัยไปได้หลายครั้ง
ซ่งจื่อเชิน เทพมังกรดำสหายร่วมสาบานของเสี่ยวซิงเฉิน ร้อนใจไม่แพ้กันถึงขั้นนำทัพทหารสวรรค์ออกตามหาสหายรักด้วยตนเอง ตั้งปณิธานแน่วแน่ว่าหากไม่พบเทพหงส์ขาวก็จักตามหาจนพบไม่กลับขึ้นสวรรค์เด็ดขาด ด้วยเหตุนี้เทียนจวินจึงเอ็นดูและไว้ใจจื่อเชินให้คอยอยู่เคียงข้างหลานชายตลอดมา
เป็นนัยยะสื่อบางอย่างชัดเจน
ลึกลงมายังภูเขาไฟดับสนิททว่ายังคงความน่าเกรงขาม เบื้องล่างเป็นที่ตั้งของวังราชามารไร้เมตตา หมอกหนาปกคลุมหนาวเหน็บ แมลงเรไรเงียบสงัดไม่กล้าแผดเสียงร้อง น่าหวั่นกลัวบางคราช่างอ้างว้าง หัวกะโหลกเรียงรายตามทางเดินเปรียบเสมือนกระถางต้นไม้ในเมืองมนุษย์ เสาทุกต้นแขวนธงตราสัญลักษณ์เผ่ามารอย่างภาคภูมิใจ โถงกว้างประดับผ้าสีดำระย้าเฉกเช่นงานอัปมงคล ที่แห่งนี้แสงตะวันส่องมาไม่ถึงส่งผลให้บรรยากาศอึมครึมแยกกลางวันกลางคืนไม่ออก
ทว่าตอนนี้มีแสงจันทร์บริสุทธิ์แทรกขึ้นมาท่ามกลางความมืดมิด
"ที่ใดกัน" ร่างโปร่งในชุดคลุมเนื้อผ้าบางแหวกลึกสีขาวยันกายนั่งพิงตั่งไม้แกะสลักหรูหรา ม่านดำบดบังทัศนียภาพภาพนอกแต่ก็ยังรับรู้ว่ามีคนยืนเฝ้าอยู่สองสามคน ครั้นจะลุกเดินข้อเท้าพลันกระตุกเกิดเสียงเคร้งคร้างเพราะโซ่ที่หลอมมาล่ามตนโดยเฉพาะ ขยับไปไหนไม่ได้นอกจากนั่งนอนอยู่ ณ ที่แห่งนี้ เสี่ยวซิงเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนคลายออกเมื่อรู้ว่าที่นี่คือที่ใด แค่เพียงอยากรู้เหตุผลว่าทำไมจึงต้องจับตนมาขังไว้
เสียงหัวเราะในลำคอใครบางคนดังแว่วมา ควันขมุกขมัวสีดำเกิดขึ้นอยู่นอกม่านก่อนจะกลายเป็นร่างบุรุษหนุ่มยืนไขว้หลัง เอียงคอเลิกคิ้วข้างหนึ่งจดจ้องใบหน้าหยกหลังผ้าม่านเท่านี้ก็รู้ว่าอีกคนทำหน้าฉงนเพียงใด แม้อยู่ในสถานการณ์แปลกประหลาดทว่าเสี่ยวซิงเฉินหาได้แหกปากโวยวายอย่างที่ควรเป็น หลายครั้งจิตใจของเทพหงส์ขาวนั้นยากแท้หยั่งถึงกว่ามนุษย์ยิ่ง
"ท่านต้องการสิ่งใดจากข้างั้นหรือ?" เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยถามไม่มีท่าทีตื่นตระหนก
"ตัวเจ้า"
"ท่านหมายความว่าอย่าง--" เสี่ยวซิงเฉินเซล้มเมื่อบุรุษข้างนอกพุ่งเข้ามาประชิดตัว เทพหงส์ขาวตอนนี้อยู่ภายใต้ร่างมารร้าย อีกฝ่ายมีใบหน้าคมคายติดเจ้าเล่ห์หลายส่วน กายสมส่วนดูมีพละกำลังมากกว่ามารทั่วไปพร้อมทั้งแผ่ไอรังสีชวนอึดอัดที่หากว่าเป็นมนุษย์ธรรมดาเขาคงดิ้นทุรนทุรายเจียนตาย
"ข้าพูดอย่างไรก็หมายความว่าอย่างนั้น เสี่ยวซิงเฉิน" บุรุษอาภรณ์ดำสนิทโน้มกระซิบข้างใบหูเทพหงส์ขาว เสี่ยวซิงเฉินคิดเขยิบหนีทว่ามือหนาก็พลันจับต้นแขนเล็กไว้แม่นมั่น จมูกโด่งสูดดมกลิ่นหอมจากข้อมือไล้ถึงหัวไหล่มนที่โผล่พ้นเสื้อตัวบางเล็กน้อย นัดดาเทียนจวินนั่งแข็งค้างไม่รู้จะทำตัวเช่นไรในเมื่อทั้งชีวิตนี้ไม่เคยมีใครกล้าใกล้ชิดทำรุ่มร่ามเชิงชู้สาวกับเขามาก่อน เหตุเพราะเทียนจวินกับจื่อเชินที่คอยกันท่าให้
"อย่าหันหน้าหนีข้า อยู่ที่นี่จงทำตัวให้ดีข้าอาจจะใจเย็นกับเจ้า"
"ขออภัย ข้าไม่อาจทำตามความประสงค์ของท่านได้ โปรดปล่อยข้ากลับตำหนักเฟิ่งเหยาเถิด" เสี่ยวซิงเฉินสะอึกยามข้อมือถูกบีบแรงขึ้น ดวงตาแดงก่ำเผยรอยโทสะจ้องเทพดื้อรั้นเขม็ง เซวียหยางผลักร่างบอบบางกระแทกตั่งนอนพลันเกิดเสียงโซ่กระทบพื้นเหมือนนักโทษถูกจองจำ ความวูบไหวผ่านสายตาแข็งกร้าวอยู่วูบหนึ่งก่อนมารร้ายจะลุกยืนเต็มความสูงหันหลังให้เสี่ยวซิงเฉิน
"หากเจ้าบำเรอข้าสักคืนสองคืน คำขอของเจ้าข้าจะเก็บไปคิดอีกที"
...- บทที่ ๑ -...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments