บทที่ 4 ปู่รหัส

“ฝัน เราไปสืบมาให้เธอแล้วนะ นั่นน่ะ” ธีร์เดินมานั่งข้างๆฉันกับเพียงฟ้า พยักหน้าหันไปทางทางสนามบาส “ตัวสูงๆหน้านิ่งๆและข้างกันอดีตเฮดว๊าก”

“พี่อลันหรอ” ฉันตาโตเมื่อรู้ว่าบุคคลที่ถูกพูดถึงหนึ่งในนั้นเป็นใคร

“ใช่ ติณณ์กับอลัน เจ้เนเน่บอกว่าสองคนนี้เรียนเก่งที่สุด จริงๆอีกคนภูมิอะ ก็เก่งนะแต่เจ้บอกไม่ใช่ พอดีสองคนนี้รู้จักกัน …หมั่นไส้” น้ำเสียงธีร์ดูเปลี่ยนไปหลังจากพูดถึงบุคคลที่สามขึ้นมา ท้ายประโยคยังพึมพำเบาๆแต่พอที่คนนั่งใกล้จะได้ยิน ถามดีไหมนะ

“ถ้าเป็นสองคนนี้ก็ดีดิ เพราะเราได้ลายเซ็นกันหมดเเล้ว” เพียงฟ้าที่ฟังอยู่พูดขึ้น

“ไปถามก่อนเถอะว่าคนไหนแน่ รุ่นพี่ถามจะได้ตอบถูก”

“ไปถามเลยฝันๆ รอบนี้ถ้าผิดพวกเราจะยอมโดนไปกับเธอๆ”

“ถ้าเขาให้วิ่งสิบรอบล่ะ”

“เดี๋ยวให้ไอ้ธีร์วิ่งเป็นเพื่อนส่วนฉันจะไปซื้อน้ำเย็นๆมารอ” จากหน้ากระตือรือร้นที่สร้างความมั่นใจว่าเพื่อนจะไม่ทิ้งเพื่อน กลายเป็นยิ้มแห้งแล้วยื่นมือมาตบบ่าฉันเบาๆ

“ไหนบอกรักเพื่อน” ธีร์ทำหน้าระอาส่ายหน้าเบาๆใส่คนพูด

“เลยจะไปหาน้ำเย็นๆมารอไง” แล้วสองคนนั้นก็ยื้อๆกันโดยมีฉันที่นั่งคั่นกลางหัวเราะไปด้วย

“งั้นเราไปแล้วนะ ฮึบบ” บอกเพื่อนพร้อมยกมือกำหมัดแน่นอย่างหมายมั่นให้กำลังใจตัวเองพร้อมหันไปหาเพื่อนทั้งสองก็หยุดยื้อกันและทำมือแบบฉัน

“อื้อ/สู้”

“รุ่นพี่สวัสดีค่ะ” พอมาอยู่ต่อหน้ารุ่นพี่แล้วจากที่คิดว่าจะมาแบบมั่นใจกลายเป็นประหม่าเม้มปากเป็นเส้นตรง สองมือเล็กกำกระโปรงพลีทสองข้างแน่น

“อ้าวน้อง สวัสดีครับมีอะไรกับพวกพี่หรือเปล่า” รุ่นพี่ที่ทะเล้นและเข้าถึงง่ายที่สุดเอ่ยทักทายส่วนอีกคนยิ้มให้บางๆ ทว่าพอหันมาเจอสายตาสีเทายังคงนิ่งเหมือนเดิม

คนที่ขอไลน์ฉัยไปแต่ไม่เคยติดต่อมาเลย…

ใครกันนะปู่รหัสฉัน ถึงตอนนี้คิดว่าเขาคงรู้ว่าใครเป็นหลานรหัส จากที่สังเกตพี่อลันออกจะนิ่งเกินไป ฉันเลยคิดว่าต้องเป็นพี่ติณณ์แน่ๆ คิดได้ดังนั้นฉันก็ขยับเข้าเล็กน้อยไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าพี่ติณณ์ทันที่ คนตรงหน้าเลิกคิ้วเหมือนรอให้ฉันพูด

“หนูมาหาปู่รหัสค่ะ พี่ติณณ์ใช่ปู่รหัสหนูไหมคะ” แววตาฉันตอนนี้บอกว่ารอคำตอบดีๆจากร่างสูงตรงหน้า

“ทำไมถึงคิดว่าเป็นพี่ล่ะ”

“เพราะพี่เรียนเก่งค่ะ”

“พี่ก็เก่ง” เสียงร่างสูงที่ตอนนี้ขยับตัวเข้ามาใกล้ฉันกับพี่ติณณ์ตอนไหนไม่รู้เอ่ยเสียงเรียบ

“หึ ไม่ใช่พี่หรอกครับ” งั้นก็ต้อง…

“พี่อลันหรอคะ” แบบนี้ก็ต้องโดนอีกแล้วสิ ฉันทำหน้าผิดหวังเล็กน้อยแล้วหันไปสบตากับพี่อลันที่ตอนนี้แววตาดูน่ากลัวขึ้นจนฉันประหม่ากว่าเดิม

“ผิดหวังหรอ”

“เปล่าๆค่ะ หนูแค่คิดว่าต้องโดนทำโทษอีกแล้ว “ ฉันโบกมือพันวันกลัวอีกฝ่ายเข้าใจผิด สบตากับคนตัวสูงพลางเอ่ยอีกประโยค “พี่เป็นปู่รหัสหนูไหมคะ”

“ไม่รู้” อ้าว.. “เล่นบาสเสร็จจะบอกห้ามไปไหน ฝากหน่อย”

แหมะ

ว่าแล้วก็ถอดเสื้อออกพร้อมกับโยนมาให้แล้วเดินไปในสนาม ฉันที่ไม่ทันตั้งตัวรีบคว้าไว้ตามสัญชาตญาณ

โห สนามบาสวันนี้ทำไมขาวจัง.. สติฝันสติ

“เอ่อ พี่ติณณ์จะให้หนูทำอะไรหรอคะ” กลับมาเจอกับความเป็นจริง

“หึ ตอนนี้พี่ยังนึกไม่ออก ไว้พี่บอกทีหลังนะ” พี่ติณณ์บอกอย่างใจดีแล้วเดินตามเพื่อนทั้งสองไป

โอ๊ะ ทักบอกสองคนนั้นดีกว่ากลัวเพื่อนเป็นห่วงว่าไม่ไปนั่งที่เดิม

ผ่านไปสักพักคนในสนามก็เลิกเล่นพากันเดินมาที่อันธจันทร์เล็กๆ

พี่อลันเดินมาถึงที่ฉันนั่งอยู่คนแรก

“พี่ใช่ปู่รหัสหนูใช่ไหมคะ” อึก ร่างสูงยื่นมือมาหยิบน้ำด้านข้างพอดีทำให้ตอนนี้หน้ารุ่นพี่อยู่เสมอฉัน เมื่ออีกคนหันมา ฉันที่มองอยู่ก่อนแล้วทำให้เราสบตากันในระยะประชิดทำให้ฉันมีโอกาสสำรวจคนตรงหน้าใกล้ๆ ตามกรอบหน้าตอนนี้เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อและผมด้านหน้าที่มีเหงื่อเล็กน้อย จมูกโด่งเป็นสัน ปากหนาเป็นทรงอมชมพูอย่างกับผู้หญิง ผิวหน้าขาวๆที่พอโดนแดดก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย

“ใช่” เสียงของคนตรงหน้าพูดขึ้นเบาๆโดยที่สายตาเราประสานกันไม่มีใครละไปอย่างอย่างกับว่ารุ่นพี่เองก็สำรวจใบหน้าฉันเหมือนกัน…หล่อจนลืมฟังว่ารุ่นพี่พึมพำว่าอะไร

“อะแฮ่ม ตรงนี้มีคนอยู่นะครับ”

เราสองคนรีบผละออกจากกันมองไปด้านหลังรุ่นพี่ก็เจอกับพี่ภูมิเจ้าของเสียงยกยิ้มมุมปากแล้วหันไปเลิกคิ้วใส่ร่างสูงข้างๆฉัน

“คนแน่เหรอ”

“ไอ้นี่” พี่ภูมิทำหน้าจริงจังยกมือกำหมัดตั้งท่าจะชกเจ้าของเสียงเรียบไม่สะทกสะท้าน

“พอๆ อายเขาน้องบ้าง” ติณณ์หัวเราะน้อยๆส่ายหน้ามือยื่นไปดึงแขนเพื่อนเอาไว้ “ไปกันเถอะ ตามมานะ”

“เอ่อ รุ่นพี่จะบอกหนูได้หรือยังคะ”

“ไม่รู้สิ เราอยากให้เป็นไอ้ติณณ์หนิ”

“เปล่านะคะๆ เปล่าเลย”

“อืม”

“คะ?” คนตัวสูงไม่ตอบยื่นมามาหยิบเสื้อให้กลับไม่อยู่กับเจ้าของแล้วเดินออกไปทิ้งให้ฉันมึนงงอยู่ที่เดิม

…แล้วทำไมผู้ชายแก๊งค์นี้ต้องทิ้งปริศนาไว้ตลอดเลย

ตอนนี้เรากำลังตรวจลายเซ็น และเฉลยสายรหัสกันมีคนทายผิดก็โดนลงโทษนิดหน่อยๆ ยังดีที่มอฉันไม่ได้มีการรับน้องที่รุนแรงเกินสมควร

“เจอปู่รหัสยังเรา” พี่เตอร์พี่รหัสของฉันถามขึ้นเพราะตอนนี้น้องต้องเดินมายืนอยู่กับพี่รหัส

“หนูคิดว่าเจอนะคะ” ดวงตาสวยเหลือบไปมองร่างสูงที่นั่งยกขาไขว่ห้างอยู่ตรงม้าเห็นอ่อนใต้ต้นไม้

“ใครหรอ”

“พี่อลันค่ะ ทีแรกหนูคิดว่าเป็นพี่ติณณ์แน่ๆแต่ไม่ใช่ เนี่ยหนูยังกลัวเลยเพราะพี่เค้าไม่บอกว่าจะให้หนูทำอะไร ส่วนพี่อลันพอหนูถามพี่เค้าก็ไม่ตอบ พอตอบก็ตอบแบบให้หนูคิดเอง”

“ฮึ”

“อะไรหรอคะ” หน้าฉันตลกหรอ ฉันจริงจังนะเนี่ย

“เราน่ารัก” คนตอบส่งยิ้มเอ็นดูให้

“ขอบคุณค่ะ” ฉันเป็นคนยอมรับความจริงน่ะ

“ฮ่าๆ”

“เอ้าา พี่เป็นอะไรคะ หน้าหนูมีอะไรติดจริงๆใช่ไหม ไม่เป็นไรไม่ต้องโกหกหนูหนูไม่เฟล”

“ฮึ เปล่าๆๆโทษทีๆ” ร่างสูงกลั้นหัวเราะพลางมองรุ่นน้องอย่างเอ็นดู “คนนั้นแหละปู่รหัสเรา”

“หนูว่าแล้ววว งั้นหนูตอบเลยนะคะ”

“ฝันเดี๋ยวก่อน” เสียงเรียกตามหลังทำให้ฉันหยุดเดินเอี้ยวหน้าไปมอง

“คะพี่เตอร์”

“เย็นวันศุกร์เราว่าไหม พี่ว่าจะเลี้ยงสายรหัสน่ะ”

“อ๋ออ ว่างค่ะ ที่ไหนคะ”

“เรายังไม่ยี่สิบใช่ป่าว งั้นเป็นร้านชาบูนะ”

“ได้ค่ะๆ” จากนั้นเราก็แลกช่องทางติดต่อกันไว้

หลังจากกินข้าวเสร็จฉันก็ขึ้นห้องมานอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เมื่อคิดไปถึงตอนที่ได้สบตากับอีกคนในระยะประชิดมือเล็กก็ยกขึ้นมาแบบบนอกผ่านชุดนอนเนื้อดี

Line

รุ่นพี่อลัน

ตึกตึก ตึกตึก

มือเล็กกุมอกแน่นขึ้นเมื่อรู้สึกว่าอัตราการเต้นของหัวใจเริ่มผิดปกติมากขึ้น ตั้งแต่ที่รุ่นพี่ขอไลน์วันนั้นก็ไม่เคยทักมาเลยนะแถมยังทำเหมือนคนไม่เคยได้พูดคุยกันมาก่อนด้วย…

alan : พรุ่งนี้เรียนเสร็จกี่โมง

สี่โมงเย็นค่ะรุ่นพี่ : sweet dreams

alan : สี่โมงเย็นพี่รอหน้าคณะนะ

มีอะไรหรือเปล่าคะ : sweet dreams

alan : มีอะไรจะให้

อ๋อได้ค่ะรุ่นพี่ : sweet dreams

หลังจากนั้นรุ่นพี่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมาอีกเลย

วันต่อมา

“งั้นพวกฉันกลับก่อนแล้วนะ” ฉันแยกกับเพื่อนทั้งสองคนที่หน้าคณะเพราะต้องไปหาอีกคนที่ตอนนี้นั่งยกขาไขว้ห้างกดโทรศัพท์อยู่บนโต๊ะของคณะ อย่างกับดาราแน่ะ

“รุ่นพี่คะ สวัสดีค่ะ รอนานไหมคะ” เอ่ยบอกอย่างเกรงใจ

คนตัวสูงเงยหน้าจากโทรศัพท์ตามเสียงเรียกเมื่อเห็นว่าเป็นใครก็ลุกขึ้นยืนอวดร่างสูงสง่าที่ตรงหน้าเป็นเด็กสาวที่สูงไม่ถึงอก

“ไม่นาน ไปกันเถอะ”

“ไปไหนคะ รุ่นพี่บอกหนูว่ามีอะไรจะให้ อะไรหรอคะ”

“อยู่บนรถ” พอเดินมาถึงรถหรูรุ่นพี่ก็กดเปิดท้ายรถ เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ท้ายรถฉันก็ต้องตาโตทันที ด้านในเป็นช็อกโกแลตและขนมหลากหลายยี่ห้อที่เต็มทุกพื้นที่รถ

“เด็กแบบเธอน่าจะชอบอะไรแบบนี้ จริงๆไม่อยากให้กินเยอะของไม่มีประโยชน์”

“เยอะเกินไปแล้วค่ะรุ่นพี่” จะเอากลับยังไงเนี่ย

“เดี๋ยวไปส่ง แล้วก็เรียนชื่อเถอะ”

“ไม่เป็นไรค่ะๆ เดี๋ยวแม่หนูมารับค่ะ”

“รบกวนแม่ทำไม เดี๋ยวไปส่งเอง”

“แต่ว่า..”

“เราขนไปไม่หมดหรอก ขึ้นรถข้างนอกร้อน”

หลังสิ้นคำนั้นรุ่นพี่ก็เดินไปเปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับทำให้ฉันต้องเดินไปขึ้นรถอย่างห้ามไปแล้ว ร่างสูงปิดประตูเบามือแล้วเดินมาประจำที่นั่งฝั่งคนขับ

“ให้พี่ไปส่งไหน” ที่ถามแบบนี้เนื่องจากร่างสูงไม่แน่ใจว่าคนตัวเล็กอยู่บ้านหรือคอนโด

ร่างเล็กก็ทำการเปิดแมพให้ร่างสูงเพราะหากจะบอกทางจากตรงนี้ไปเลยก็กลัวจะไม่ถึงบ้านเหมือนกัน แฮะ

“บ้านเราแน่หรอ”

“ปกติที่บ้านมาส่งค่ะ แต่ถ้าไปถึงตรงนี้แล้วไม่ต้องดูแล้วค่ะหนูจำได้” ชี้สถานที่ในมือถือให้คนบังคับพวงมาลัยอยู่ดูพร้อมยิ้มมั้นใจในท้ายประโยค

“ขับรถไม่เป็นหรอ”

“ใช่ค่ะ แต่สุดสัปดาห์หนูก็จะได้เรียนขับรถแล้วล่ะค่ะ”

“ที่ไหน”

“โรงเรียนสอนขับรถใกล้ๆบ้านค่ะ”

“จะสะดวกเหรอ”

“คะ?”

“ให้คนอื่นสอนน่ะ จะรบกวนเขาไหมเพราะเราไม่มีพื้นฐาน”

“แต่ว่าเขาเปิดโรงเรียนสอนขับรถนะคะ เป็นหน้าที่เขาอยู่แล้วนะ” ถ้าจะให้เฮียสอนรายนั้นก็ไม่ว่างอีก งานท่วมหัวเหลือเกิน

“พี่ขับรถเก่งนะ แล้วก็ว่างด้วย” อาห้ะ

“…” ฉันที่ไม่รู้จะตอบอะไรก็พยักหน้ารับรู้ ทว่า ประโยคต่อมาก็ทำเอาฉันที่มองรุ่นพี่อยู่ก่อนแล้วตกใจ

“ให้พี่สอนไหม” เจ้าของประโยคเองก็หันมาสบตาฉันในตอนที่พูดเพราะไฟแดงพอดี

“ไม่เป็นไรค่ะรุ่นพี่ หนูเกรงใจ” เมื่อตั้งสติได้ก็ตอบรุ่นพี่ไปอย่างนึกเกรงใจ

“ไม่ต้องเกรงใจ” …คำนี้อีกแล้ว

“แต่เหมือนที่รุ่นพี่บอกหนูไม่มีพื้นฐานอาจจะทำรุ่นพี่หงุดหงิดได้นะคะ อีกอย่างเรื่องพวกนี้หนูออกจะหัวช้าด้วยค่ะ”

“พี่เป็นคนใจเย็น” อ่า.. “ให้พี่สอนเราจะไม่เปลืองตังค์ด้วย แต่ถ้าเกรงใจเลี้ยงข้าวพี่ตอบแทนละกัน”

แต่เราไม่สนิทกันนี่นา.. เอ๊ะ แต่รุ่นพี่เป็นปู่รหัสฉันนะ แต่ก็ไม่เกี่ยวกันหนิ อีกอย่างอยู่กับรุ่นพี่แล้วรู้สึกประหม่าด้วย ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรนะ แต่.. ไม่รู้สิ

“ตกลงนะ เดี๋ยวสุดสัปดาห์พี่มารับ”

“แต่ว่า..”

“ถึงบ้านแล้ว รีบลงเถอะเดี๋ยวแม่เป็นห่วง” ฉันที่ตั้งท่าจะปฏิเสธอีกรอบรุ่นพี่ก็พูดขึ้นแบบรวบรัด ทำให้ฉันรีบหันออกไปนอกรถก็พบว่าถึงหน้าบ้านฉันแล้ว

“ถ้าอย่างนั้นหนูไปแล้วนะคะรุ่นพี่ ขอบคุณมากๆค่ะ”

จากนั้นรุ่นพี่ก็ช่วยขนขนมที่แสนจะเยอะนั่นมาไว้ที่โต๊ะในสวนหน้าบ้าน จริงๆรุ่นพี่จะช่วยขนเข้าบ้านเลยแต่ฉันห้ามไว้ ขี้เกียจตอบคำถามน่ะ โดยเฉพาะเฮีย

ตึง ตึง ตึง ตึง

ภายในร้องนอนสีชมพูโดยมีร่างเล็กนอนเกลือกกลิ้งไปมาบนเตียงจับปลายผ้าห่มไว้มั่นปิดใบหน้าสวย

“สอนขับรถหรอ…” ฮึ “อร๊ายยยยย”

วันต่อมา

“นะคะ แม่ นะนะนะนะ”

เช้าที่สดใส ภายในห้องรับประทานอาหาร เด็กสาวกำลังออดอ้อน ทำตาปริบๆใส่มารดาที่นั่งข้างกัน โดยมีพี่ชายก้มหน้าก้มตาทานอาหารเช้าอยู่ฝั่งตรงข้าว

“ตัวแค่นี้มาอยากอยู่คอนโด”

“เฮีย หนูโตแล้วนะ”

“นะคะแม่ นะนะนะ” ฉันหันไปทำหน้าบึ้งตึงใส่คนนิสัยไม่ดีแล้วหันมาออดอ้อนแม่ต่อ

ตอนนี้ฉันกำลังขอแม่ออกไปอยู่คอนโด เพราะฉันเห็นเพื่อนคนอื่นๆอยู่คอนโดกัน อย่างธีร์ยังอยู่มาตั้งแต่อายุสิบหกเลย เพียงฟ้าเองก็อยู่ตั้งแต่สิบห้า เพื่อนๆก็เล่าว่าอยู่คอนโดดียังไงบ้าง

แล้วที่ทำให้ฉันตัดสินใจอยากไปอยู่คนเดียวเพราะฉันอย่างโตขึ้น ฉันอยากหัดใช้ชีวิตเองบ้าง อยากพึ่งพาตัวเอง อีกอย่างที่บ้านกับมหาวิทยาลัยก็ค่อนข้างไกลกันด้วย

“หนูจะอยู่คนเดียวยังไง มันอันตรายนะลูก”

“อ๊องไปแอบมีแฟนป่าว” เฮียมองมาที่ฉันด้วยสายตาจับผิดกัน

“เปล่าสักหน่อย หนูก็อยากลองอยู่คนเดียวให้เป็น อีกอย่างเฮียเองก็ยังมีคอนโดเลย”

“แต่เฮียแทบไม่ได้อยู่ อยู่แต่บ้านเนี่ย”

“นั่นเพราะบริษัทใกล้บ้านกว่าต่างหากล่ะ นะคะแม่ แม่จะได้ไม่ต้องลำบากไปส่งหนูตั้งไกลแล้วอ้อมไปที่ร้านด้วย เดี๋ยวหนูก็จะขับรถเป็นแล้วด้วย”

“ไม่ต้องหรอก อยู่บ้านดีแล้ว”

“เฮียย” แม่ที่เหมือนจะใจอ่อนให้ฉันแล้วเฮียบ้าก็ขัดขึ้นทำให้ฉันหันไปถลึงตาใส่ เฮียบ้าก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เบ้ปากใส่น้องสาวคนสวยอีก เหอะ

“ก็ได้ๆแม่ยอมแล้ว แต่ต้องรอเราขับรถเก่งๆก่อนนะ”

“เย้ ขอบคุณมากนะคะคุณแม่คนสวยย ม้วบบบ” ฉันดีใจโน้มตัวไปกอดคุณแม่ปล้วหันหน้าไปแลบลิ้นใส่พี่ชายตัวดี

“เหอะ”

ฮอต

Comments

Rukawasfound

Rukawasfound

แอดเขียนได้รู้สึกได้ว่าตัวเองดีเยี่ยมมากๆ 🤩

2023-11-27

1

ทั้งหมด
เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 30

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!