สุดท้ายแล้วภาคินัยก็ได้กินข้าวแทนเพราะไออุ่นอ้อนขอทำอาหารให้เขาเนื่องจากตั้งใจเอาไว้แล้ว เขาจึงได้แต่ยืนมองเด็กหนุ่มตัวเล็กสวมผ้ากันเปื้อนสีชมพูหวานแหววขมักเขม้นอยู่กับการ เตรียมมื้อเย็น
“ทำเยอะขนาดนี้เชียว” ชายหนุ่มว่าเมื่อมองเห็นปริมาณอาหารที่ดูมากเกินกว่าจะทานกันสองคน
“อุ่นทำเผื่อคุณชรัณด้วยครับ เขาอุตส่าห์ไปหาของมาให้”
ภาคินัยพยักหน้ารับก่อนจะคอยช่วยเด็กหนุ่มหยิบจับวัตถุดิบและเครื่องปรุง ไม่พอยังเนียนโอบเอวเล็กบ้าง ขยับหน้าเข้ามาซุกบ้างเล่นเอาไออุ่นทำอาหารไปพร้อมกับใบหน้าเห่อร้อนไป จนเมื่อทำเสร็จไออุ่นก็เรียกให้ชรัณขึ้นมาเอาอาหารที่เตรียมไว้ ส่วนเขาและคุณภาคก็นั่งทานมื้อเย็นกันจนอิ่ม
ฟอด!
“เธอหอมจัง”
ไออุ่นที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกคนโตกว่าโอบกอดจากทางด้านหลัง ทั้งยังโน้มมาหอมแก้มเขาฟอดใหญ่ เด็กหนุ่มทำตัวไม่ถูกอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆผ่อนคลายลง จากนั้นจึงหมุนตัวเข้าหาร่างสูง
“อุ่นเช็ดผมให้ครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยบอกเพราะเห็นว่าอีกคนเพิ่งสระผมและยังไม่ทันได้เช็ดให้แห้ง
“เอาสิ” ภาคินัยตอบรับก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้หน้ากระจก ไออุ่นหยิบผ้าสะอาดผืนเล็กขึ้นมาและบรรจงเช็ดไปบนเส้นผมบนศีรษะเขาอย่างเบามือจนกระทั่งมันแห้งดีแล้ว
“เสร็จแล้วครับ…อ้ะ! คุณภาค” ไออุ่นร้องออกมาเมื่อถูกแขนแข็งแรงรวบตัวเข้าไปกอดไว้แน่น
“พรุ่งนี้ฉันจะไปส่งที่มหาวิทยาลัย” ภาคินัยบอกก่อนจะยกมือเกลี่ยปอยผมบนข้างแก้มของไออุ่นออก
“อุ่นไปเองก็ได้นะครับ”
“แต่ฉันอยากไปส่ง”
“ครับ”
ไออุ่นขานรับเสียงแผ่วพลางหลุบตาลง ท่าทางแบบนั้นทำให้ภาคินัยเข้าใจว่าเด็กหนุ่มไม่สบายใจ
“หรือเธอไม่อยากให้ฉันไป”
“เปล่าครับ อุ่นแค่เกรงใจ” ไออุ่นเงยหน้าขึ้นมาอธิบายเพราะรู้สึกเกรงใจมากจริงๆ เขาได้รับการดูแลจากคนโตกว่ามากเกินไปแล้ว
ขณะที่กำลังคิดอยู่ในใจ แก้มกลมก็ถูกบีบโดยมือหนาของร่างสูงจนมันยู่เข้าหากัน ไออุ่นซึ่งกำลังมึนงงไม่ทันตั้งตัวคนตรงหน้าก็ขยับมาจูบเบาๆบนริมปากก่อนจะผละออกและเอ่ยว่า
“เป็นเด็กเป็นเล็กหัดคิดมาก สิ่งที่ฉันทำให้เธอฉันเต็มใจให้เองฉะนั้นเธอก็แค่รับมันไปก็พอ”
เมื่อภาคินัยคลายมือออกจากแก้มนิ่ม ไออุ่นก็โผเข้ามากอดเขาเอาไว้พร้อมกับเอ่ยขอบคุณเสียงเครือ
“อุ่นขอบคุณนะครับ”
คืนนั้นพวกเขาเข้านอนพร้อมกัน เป็นอีกครั้งที่ไออุ่นถูกภาคินัยกอดเอาไว้ทั้งคืน แต่คราวนี้ต่างออกไปตรงที่ไออุ่นเป็นฝ่ายขยับซุกเข้าหาอ้อมอกอุ่นของคนโตกว่าเสียเอง
รุ่งเช้าชรัณก็เป็นฝ่ายขับรถให้เจ้านายของตนมาส่งไออุ่นที่มหาวิทยาลัย
“ขอบคุณที่มาส่งนะครับ” ไออุ่นเอ่ยขอบคุณก่อนจะขยับเตรียมลงจากรถ แต่ข้อมือเล็กถูกร่างสูงข้างกายรั้งเอาไว้
“ฉันให้ เก็บไว้ใช้เผื่ออยากซื้ออะไร” อีกคนเอ่ยบอกพร้อมกับยื่นบัตรเครดิตแบบแบล็คการ์ดมาให้ไออุ่น
“ตะ…แต่ว่า” ไออุ่นตะลึงงันก่อนทำท่าจะเอ่ยปฏิเสธแต่ภาคินัยขัดขึ้นก่อน
“ผู้ใหญ่ให้ของห้ามปฏิเสธนะรู้ไหม”
“แต่คุณภาคให้อุ่นมากเกินไปแล้วนะครับ” ไออุ่นว่าเสียงแผ่วจนภาคินัยต้องเลื่อนมือมาบีบแก้มนิ่มเบาๆ
“แค่นี้ไม่มากหรอก ยังไงฉันก็เลี้ยงเธอไหว”
“แต่…”
“ห้ามแต่ค่ะหนู เราตกลงกันแล้วไง”
เมื่อได้ยินคนโตกว่าว่าแบบนั้นไออุ่นก็กัดริมฝีปากอย่างครุ่นคิดก่อนจะตัดสินใจรับบัตรเครดิตนั่นมา จากนั้นจึงขยับไปประทับจุมพิตบนข้างแก้มสากหนึ่งที
“ขอบคุณครับ อุ่นจะใช้เท่าที่จำเป็น”
“ตั้งใจเรียนล่ะ ตอนเย็นฉันจะมารับพาไปกินของอร่อย”
ไออุ่นยกมือไหว้ผู้ใหญ่ข้างกายอีกครั้งและหันไปไหว้ชรัณซึ่งกำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ตรงที่นั่งคนขับจากนั้นจึงลงจากรถเพื่อเข้าเรียน
เมื่อแผ่นหลังผอมบางของไออุ่นลับสายตาไปแล้วภาคินัยก็หันมาเอ่ยบอกกับลูกน้องคนสนิท
“ดูความเคลื่อนไหวของบัญชีบัตรที่ฉันให้ไออุ่นด้วย”
“คุณภาคกลัวคุณอุ่นใช้เงินเยอะเกินไปหรือครับ”
“เปล่า ฉันกลัวเขาไม่ใช้ต่างหากล่ะ” ภาคินัยเอ่ยบอกเพราะรู้ว่าไออุ่นนั้นขี้เกรงใจจึงกลัวว่าเด็กหนุ่มจะไม่ยอมใช้บัตรที่เขาให้ไป
หลังจากส่งไออุ่นเสร็จแล้วภาคินัยก็เข้าไปบริษัทของตัวเองที่ตอนนี้เขาดำรงตำแหน่งเป็นรองประธาน ส่วนประธานตัวจริงหรือก็คือพ่อของเขานั้นตอนนี้คงกำลังปลูกผักเลี้ยงปลาอยู่ในบ้านหลังใหญ่ปล่อยให้ลูกชายเพียงคนเดียวบริหารงาน ภาคินัยจึงค่อนข้างยุ่งในแต่ละวันเพราะนอกจากงานธุรกิจของครอบครัวที่ต้องดูแลแล้ว ยังมีคลับของเขาเองที่ต้องคอยบริหารจัดการอีก
“คืนนี้คุณภาคจะเข้าไปที่คลับไหมครับ”
ชรัณเอ่ยถามหลังจากเอาเอกสารจากแผนกต่างๆมาให้เขาเซ็น
“ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม”
“ครับ แรนดี้บอกว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร”
แรนดี้ที่ชรัณเอ่ยถึงก็คือผู้จัดการที่ภาคินัยไว้ใจให้คอยดูแลภายในคลับแทนเขา
“ถ้างั้นยัง เย็นนี้ฉันตั้งใจจะพาไออุ่นไปดินเนอร์”
ชรัณที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้ารับก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้จึงรีบเอ่ยบอก
“เอ่อ…เรื่องที่คุณภาคให้ผมไปสืบว่าทำไมคุณอุ่นถึงมีหนี้ก้อนโต ได้เรื่องมาแล้วครับ”
“ว่ามา” ภาคินัยเปลี่ยนท่าทีเป็นจริงจังขึ้น
เขาให้ชรัณตามสืบเรื่องที่ไออุ่นติดหนี้ธนาคารอยู่ราวห้าแสน เพราะก่อนหน้านั้นเขารู้แล้วว่าพ่อกับแม่ของไออุ่นตายตั้งแต่อีกคนยังเด็กส่วนยายที่เพิ่งจากไปเมื่อสองปีก่อนนั้นก็ไม่ได้มีภาระหนี้สินอะไรที่จะส่งต่อมาถึงเด็กหนุ่มได้เลย และอีกอย่างดูจากไออุ่นที่มีท่าทีเกรงอกเกรงใจตอนเขาซื้อของแพงๆให้ ไม่มีท่าทีว่าจะเป็นคนฟุ่มเฟือยจนเกิดหนี้มากขนาดนี้
“เป็นเพราะแฟนเก่าของคุณอุ่นครับ…”
หลังได้รู้เรื่องราวจากชรัณนัยย์ตาสีนิลก็วาววับขึ้น ภาคินัยขบกรามทั้งยังกำมือแน่นอย่างพยายามข่มอารมณ์ที่คุกรุ่น
ที่แท้ไออุ่นก็เคยมีแฟนมาก่อนแล้ว
“คุณภาคครับ…” ชรัณเอ่ยเรียกเจ้านายของตัวเองเมื่อเห็นท่าทางโมโหของอีกฝ่าย ซึ่งก็ไม่อาจเดาได้ว่าร่างสูงตรงหน้ากำลังไม่พอใจในเรื่องใด
“นายออกไปได้แล้ว”
“ครับ แล้วตอนเย็นยังต้องไปรับคุณอุ่นไหมครับ”
ภาคินัยนิ่งเงียบในขณะที่ชรัณยืนรอคำตอบ ผ่านไปสักพักภาคินัยจึงถอนหายใจก่อนจะเอ่ยบอก
“ไป”
ได้ยินแบบนั้นชรัณก็รู้สึกโล่งใจเพราะคิดว่าหลังจากรับรู้เรื่องในอดีตของไออุ่นแล้วภาคินัยจะโกรธเด็กหนุ่มจนตัดสัมพันธ์และทอดทิ้งให้กลับไปเผชิญความยากลำบากเหมือนที่ผ่านมา
ชายหนุ่มโค้งรับคำก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานปล่อยให้คนเป็นเจ้านายได้ใช้ความคิดเพียงลำพัง เมื่อชรัณออกไปแล้วภาคินัยยังคงนั่งนิ่งอยู่แบบนั้น พลางทอดมองรูปถ่ายบนหน้าจอมือถือที่เพิ่งสว่างขึ้นจากข้อความแจ้งเตือน
มันเป็นรูปของไออุ่นขณะที่เจ้าตัวกำลังหลับพริ้ม ไม่รู้ว่าตอนนั้นฝันถึงเรื่องอะไรจึงได้มีรอยยิ้มเล็กๆปรากฎออกมา น่าเอ็นดูเสียจนภาคินัยอดใจไม่ไหวต้องเก็บภาพเอาไว้ซ้ำยังตั้งให้เป็นภาพหน้าจอ มุมปากหยักยกขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพนั้นพร้อมกับอารมณ์เดือดดาลในอกค่อยๆจางลง
ที่เขาโกรธไม่ใช่เพราะรู้ว่าไออุ่นเคยมีแฟนมาก่อน แต่โกรธตัวเองว่าทำไมไม่รีบตามหาอีกคนให้เจอก่อนที่น้องจะถูกไอ้คนเฮงซวยแบบนั้นหลอกลวงจนต้องใช้ชีวิตลำบากเหมือนที่ผ่านมา
“ฉันจะไม่ยอมให้เธอลำบากอีก”
ภาคินัยเอ่ยขณะมองใบหน้าจิ้มลิ้มผ่านรูปถ่ายด้วยแววตาแสนรัก
ทางด้านไออุ่นนั้นหลังเรียนจบคลาสเช้าก็ตั้งใจจะไปทานข้าวกลางวันที่โรงอาหารของมหาวิทยาลัย ระหว่างที่กำลังนั่งทานอยู่นั้นก็ถูกกลุ่มนักศึกษาที่อยู่ในคณะเดียวกันเดินเข้ามาหาเรื่อง ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเดือนมหาวิทยาลัยที่มีพ่อเป็นรองอธิการบดี
ปึก!
เสียงแก้วน้ำกระทบกับโต๊ะเสียงดังพร้อมกับน้ำหวานในแก้วกระเด็นมาโดนไออุ่น เด็กหนุ่มเช็ดมันช้าๆ จากนั้นจึงเงยหน้ามองคนที่เขามาใหม่ อีกฝ่ายจ้องมองไออุ่นด้วยท่าทางไม่พอใจ
“มีอะไรหรือเปล่า” ไออุ่นเอ่ยถามทั้งยังแปลกใจ เพราะดูเหมือนเขาจะไม่ได้มีปัญหาอะไรกับคนตรงหน้าเลยด้วยซ้ำ
“เมื่อวานก่อนฉันเห็นนายที่คลับภาคินัย นายเป็นอะไรกับคุณภาคินัย”
“…” ไออุ่นยังคงนิ่งเงียบไม่ได้ตอบกลับอะไรยิ่งทำให้อีกฝ่ายเดือดดาล
“หึ! คิดว่าคุณภาคินัยเขาจะควงนายได้นานแค่ไหนกันเชียว เผลอๆอีกไม่กี่วันนายคงโดนเขี่ยทิ้ง เพิ่งรู้นะว่านายหาเงินด้วยการเอาตัวเข้าแลกแบบนี้”
ถ้อยคำดูถูกทั้งสีหน้าและท่าทางเหยียดหยันทำให้ไออุ่นกัดปากแน่น ตากลมเริ่มเอ่อคลอน้ำตา จนคนที่นั่งมองเหตุการณ์มาสักพักทนไม่ไหว
“อะแฮ่ม!” เด็กหนุ่มตัวเล็กพอๆกับไออุ่นเดินเข้ามาก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงตรงข้าม จากนั้นจึงแกล้งทำแก้วน้ำหกจนเลอะกลุ่มคนที่เข้ามาหาเรื่อง
“นี่! นายทำบ้าอะไร”
“อ้ะ! โทษทีพอดีฉันเห็นว่าตรงนี้มันสกปรกน่ะ เลยล้างสักหน่อย”
“นาย!”
“เห็นนายเองก็ไปที่คลับภาคินัยบ่อยๆ น่าเสียดายเนอะทั้งๆที่เสนอหน้า เอ้ย! พาตัวเองไปให้คุณภาคินัยเขาเห็นทุกวันแต่เขาก็ไม่สนใจ”
“พูดบ้าอะไร”
“ฉันเองก็ทำงานที่นั่นจะให้พูดไหมล่ะ ว่านายเสนอตัวให้คุณภาคินัยแต่คุณเขาไม่เอา”
เมื่อถูกพูดตอกกลับกลุ่มคนที่เข้ามาหาเรื่องก็ล่าถอยออกไปแม้จะไม่พอใจแต่ก็คงไม่กล้าทำอะไรเพราะหลายๆคนต่างมองอยู่
“ขอบใจนะไนท์” เมื่อคนที่มาหาเรื่องออกไปแล้วไออุ่นก็เอ่ยขอบคุณคนตรงหน้า จำได้ว่าเป็นเพื่อนในคณะซึ่งเคยแนะนำให้ไออุ่นไปทำงานที่คลับคุณภาคินัย
“ไม่เป็นไร อุ่นอย่าคิดมากกับคำพูดแย่ๆพวกนั้นเลยนะ”
“อืม ไม่คิดมากหรอก” ไออุ่นตอบเสียงเบาพลางหลุบตาลง
จะให้เขาคิดมากอะไรในเมื่อสิ่งที่อีกฝ่ายพูดนั้นเป็นความจริง ก็เขาใช้ร่างกายเข้าแลกเพื่อหาเงินจริงๆ
เมื่อเห็นสีหน้าหม่นเศร้าของไออุ่น ไนท์ก็เป็นฝ่ายชวนคุยนั่นนี่จนพวกเขาเริ่มสนิทกันมากขึ้น ไนท์เป็นคนร่าเริง พูดเก่งและชอบเล่นมุกตลกๆ ทำให้ไออุ่นยิ้มและหัวเราะออกมาได้
“ไนท์เองก็ทำงานที่คลับคุณภาคินัยเหรอ” ไออุ่นถามขณะที่ทั้งสองคนกำลังเดินออกจากตึกเรียนเพื่อมาหน้ามหาวิทยาลัย
“ใช่แล้วล่ะ ได้ยินพี่ๆที่คลับเขาพูดกันว่าวันนั้นเกิดเรื่องกับอุ่น หน็อย!ถ้าเราอยู่ด้วยนะจะซัดไอ้เสี่ยหื่นกามเข้าสักหมัด”
“แต่เขาเป็นลูกค้าวีไอพีนะ พนักงานคนอื่นยังเกรงเลย”
“ไม่เกี่ยวสักหน่อย เรายังเคยต่อยหน้าลูกค้าวีไอพีที่มาจับก้นเราเลย---ฮ่าๆ” ไนท์หัวเราะออกมาเมื่อเห็นไออุ่นทำหน้าเหวอ
“ละ แล้วคุณภาคินัยเขาไม่ว่าเหรอ”
“ไม่นะแถมยังปกป้องอีกต่างหาก คุณภาคินัยน่ะให้ความยุติธรรมกับพนักงานทุกคนแหละ แต่ก็ดีแล้วที่อุ่นไม่ไปทำต่อ ที่แบบนั้นไม่ค่อยเหมาะกับอุ่นสักเท่าไหร่”
ไออุ่นได้ยินก็ขมวดคิ้ว เพราะคนที่แนะนำให้เขาไปทำงานในคลับก็คือไนท์ กำลังจะเอ่ยถามให้หายข้องใจว่าแล้วทำไมถึงบอกให้เขาไปที่คลับนั่นแต่ก็ถูกอีกคนดันหลังให้เข้าไปร้านไอศครีมเสียก่อน
“ความจริงไม่ต้องเดินมาส่งเราก็ได้นะ” ไออุ่นว่าเมื่อไนท์อาสาเดินมาส่ง หลังจากกินไอศครีมกันเสร็จและชรัณโทรบอกว่ารถมาจอดรอรับแล้ว
“ไม่เป็นไรหรอกหน่า ไนท์เป็นห่วงน่ะอุ่นตัวแค่นี้ถูกใครอุ้มไปจะทำยังไง...เราไม่อยากตกงานหรอกนะ” ประโยคสุดท้ายไนท์พูดพึมพำกับตัวเองเบาๆ
จนเมื่อถึงรถที่มีชรัณยืนรอเปิดประตูอยู่ไออุ่นก็หันมาโบกมือให้เพื่อนสนิทคนใหม่ ก่อนจะแปลกใจเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายโค้งศีรษะเล็กน้อยแล้วค่อยเปลี่ยนมายิ้มและเอ่ยลากับไออุ่นแทนพร้อมกับทิ้งท้ายว่าเจอกันพรุ่งนี้ ไออุ่นจึงก้าวขาขึ้นรถ เด็กหนุ่มยิ้มบางเมื่อเห็นร่างสูงของใครอีกคนที่นั่งรออยู่ในนั้น
“สวัสดีครับคุณภาค”
“อืม”
ไออุ่นชะงักไปเล็กน้อยกับท่าทางของคนโต กว่า ที่แค่ขานรับเขาสั้นๆแต่ไม่ได้หันมามอง เห็นแบบนั้นไออุ่นจึงขยับไปนั่งนิ่งอยู่ข้างๆ ตลอดทางมีแต่ความเงียบและแฝงไปด้วยความเย็นชาจนไออุ่นรู้สึกอึดอัด ก่อนที่คำพูดเมื่อกลางวันจะผุดเข้ามาในหัว
“หึ! คิดว่าคุณภาคินัยเขาจะควงนายได้นานแค่ไหนกันเชียว เผลอๆอีกไม่กี่วันนายคงโดนเขี่ยทิ้ง”
‘หรือคุณภาคจะเบื่อเราแล้ว’
ไออุ่นคิดด้วยความวูบโหวงในใจ เขาหันมองใบหน้าคมคายที่ยังคงจดจ่อกับโทรศัพท์ในมือก่อนจะหันกลับมาและมองออกไปนอกรถด้วย ขอบตาร้อนผ่าวอย่างบอกไม่ถูก เด็กหนุ่มหลับตาลงช้าๆ กลั้นหยดน้ำตาที่ทำท่าจะเอ่อล้นกระทั่งผล็อยหลับไป
ในขณะที่ภาคินัยซึ่งแกล้งทำเป็นไม่สนใจมา ตลอดค่อยๆหันมามองคนข้างกายที่หลับไปแล้ว ชายหนุ่มถอนหายใจช้าๆก่อนจะรั้งศีรษะทุยให้เอนซบบนอกตัวเอง
“คุณภาคโกรธที่คุณอุ่นเคยมีแฟนมาก่อนหรือครับ” ชรัณเอ่ยถามเพราะเห็นท่าทางของร่างสูงตั้งแต่ต้น
“เปล่า”
“แล้วทำไมถึงเย็นชาใส่คุณอุ่นล่ะครับ”
“ฉันไม่ได้โกรธเขาหรอก แค่…เฮ้อ! ช่างเถอะ”
เขาไม่ได้โกรธเพียงแค่รู้สึกหึงหวงก็เท่านั้น
“ชรัณ”
“ครับ”
“กลับเพนท์เฮ้าส์ ส่วนมื้อเย็นนายจัดการสั่งให้ด้วยแล้วกัน อ่อ…ขอเมนูที่มีกุ้งเยอะๆด้วย” ภาคินัยเอ่ยบอกก่อนจะโอบกระชับกอดไออุ่นแน่นขึ้น จากที่ตอนแรกตั้งใจจะพาไปเด็กหนุ่มดินเนอร์แสนหรูแต่พอเห็นเจ้าตัวหลับใหลจึงเปลี่ยนใจกลับที่พักแทน
“อือ” ไออุ่นครางอือก่อนจะรู้สึกตัวตื่น ลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองถูกอุ้มแนบอกด้วยท่าเจ้าสาวเข้ามาในห้อง
ภาคินัยวางไออุ่นลงบนโซฟาเมื่อเห็นว่าอีกคนตื่นแล้วและทำท่าจะผละออกแต่ข้อมือหนากลับถูกมือเล็กจ้อยจับรั้งเอาไว้
“อะ อุ่นทำอะไรให้คุณภาคโกรธหรือเปล่าครับ” ไออุ่นเอ่ยถามเบาหวิว ดวงตาที่บวมแดงจากการเพิ่งตื่นนอนช้อนมองคนโตกว่าอย่างสั่นไหว
ภาคินัยตัดสินนั่งลงข้างคนตัวเล็กทั้งยังโอบกายผอมบางเข้ามากอดไว้
“ฉันจะโกรธเธอได้ยังไง”
“แต่คุณภาคไม่คุยกับอุ่นเลย” ไออุ่นว่าเสียงอู้อี้ขณะซุกใบหน้าลงบนบ่ากว้าง
“ขอโทษที่ทำให้เธอกังวล ฉันแค่...เครียดเรื่องงานนิดหน่อยไม่มีอะไรหรอก” ภาคินัยเอ่ยบอกก่อนจะจับให้คนตัวเล็กมาเผชิญหน้ากัน
“ฉันไม่เคยโกรธเธอ”
ปากหยักประทับจุมพิตลงบนหางตาของไออุ่น จูบซับคราบน้ำตาที่ยังหลงเหลือให้เห็นก่อนจะรั้งเข้ามากอดปลอบเพราะรู้ว่าท่าทีเย็นชาที่เขาเผลอแสดงออกมาจากความหึงหวงนั้นคงทำให้คนน้องใจเสีย
“แล้วก็ไม่มีทางเบื่อเธอด้วย”
..............................
...TBC....
Talk with muxii:
เกือบได้หยุมหัวอิตาคุณภาคแล้วล่ะถ้าโกรธน้องแค่เพราะน้องเคยมีแฟนอะ ยังดีที่พี่เขาแค่หึงเนาะ 😂
เรื่องนี้พระเอกเป็นลูกเขยคนโปรดแน่นอนค่ะ พี่แกแสนดีและคลั่งรักน้องมาก
ขอบคุณทุกการกดใจ เพิ่มเข้าชั้นและคอมเม้นท์ให้มู่ซีมากๆนะคะ เป็นพลังใจให้นักเขียนตัวน้อยๆคนนี้อย่างดีเลยค่ะ ❤️
...#ไออุ่นของภาคินัย...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments