ไออุ่นเดินตามหลังร่างสูงเข้ามายังห้างสรรพสินค้าสุดหรูแห่งหนึ่ง ยังไม่ทันได้เอ่ยถามอะไรก็ถูกคนโตกว่าดันให้ไปลองเสื้อผ้าในร้านแบรนด์ดัง จากนั้นเจ้าของบัตรเครดิตแบบแบล็คการ์ดก็รูดซื้อทุกอย่างที่ต้องการและดันมันมาให้ไออุ่นชนิดที่คัดค้านอะไรไม่ทัน ทำเอาเด็กหนุ่มตื่นตะลึงทั้งยังรู้สึกเกร็งเมื่อต้องถือข้าวของแสนแพงพวกนี้เอาไว้ในมือ
ท่าทางของคนเด็กกว่าทำให้ภาคินัยนึกขำด้วยความเอ็นดูเมื่อเห็นไออุ่นหอบถุงพวกนี้แนบอกราวกับกลัวจะทำให้มันเสียหาย ชายหนุ่มจึงหันไปบอกให้ชรัณเอาไปเก็บที่รถและสั่งให้อีกฝ่ายแยกไปจัดการบางอย่างให้จากนั้นจึงพาไออุ่นเดินเลือกซื้อของต่อ
ระหว่างนั้นไออุ่นก็สังเกตเห็นว่าพนักงานในห้างต่างพากันโค้งศีรษะทักทายทุกครั้งที่ร่างสูงข้างกายเขาเดินผ่าน
“คุณภาคินัยเป็นเจ้าของที่นี่น่ะครับ” ชรัณที่เพิ่งกลับมาคอยดูแลเจ้านายของตนเอ่ยบอกเมื่อเห็นเด็กหนุ่มตัวเล็กมองด้วยความสงสัย
“…” ไออุ่นนิ่งไปเล็กน้อยพร้อมกับชะลอฝีเท้าลง
“ผมชรัณครับเป็นเลขาของคุณภาค”
“สวัสดีครับ ผม…”
“คุณไออุ่น แน่นอนว่าผมรู้ครับ” ชรัณเอ่ยบอกพร้อมรอยยิ้มก่อนจะเอื้อมมาหยิบถุงในมือไออุ่นไปถือแทน
“เรียกผมว่าอุ่นเฉยๆก็ได้นะครับ” ไออุ่นว่าเพราะรู้สึกกระอักกระอ่วนยามถูกให้เกียรติจากเลขาส่วนตัวของร่างสูงที่เป็นถึงเจ้าของห้างชื่อดัง
ไออุ่นหันไปมองร่างสูงซึ่งกำลังเลือกซื้อเครื่องประดับ ก่อนจะหันกลับมาก้มมองการแต่งกายของตัวเองด้วยสีหน้าหม่นเศร้า
เขาไม่คู่ควรกับอีกคนเลยสักนิด…
และเพราะกลัวว่าจะทำอีกคนถูกมองไม่ดี ไออุ่นจึงเลือกที่จะเดินช้าๆรั้งท้ายคนอายุมากกว่าพร้อมกับชรัณแทน เมื่อภาคินัยหันมาเห็นแบบนั้นก็ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
เขามองเลขาของตัวเองซึ่งกำลังทำสีหน้าคล้ายจะบอกว่า ‘ผมเปล่าทำอะไรนะเขามาเอง’ ด้วยแววตานิ่งๆก่อนจะตรงดิ่งเข้ามาคว้าข้อมือเล็กของคนที่เอาแต่ยืนก้มหน้าเอาไว้และดึงให้มายืนข้างตัว
“ทำไมไปเดินตรงนั้น”
“ผมกลัวจะทำให้คุณถูกมองไม่ดี ดูผม…”
ไออุ่นก้มมองตัวเองให้ร่างสูงเห็นว่าสภาพของเขาไม่เหมาะสมถ้าจะเดินเสมอคนที่เป็นถึงเจ้าของห้าง
“ฉันไม่สนใจใคร แค่เธอที่อยู่ข้างๆก็พอ”
ภาคินัยเอ่ยบอกพร้อมกับกระชับมือคนเด็กกว่าให้เดินอยู่ข้างกาย บางครั้งก็โอบเอวเล็กเอาไว้อย่างแสดงความเป็นเจ้าของเมื่อเห็นผู้ชายคนอื่นจ้องมองไออุ่นตาไม่กระพริบ ตอนแรกไออุ่นก็รู้สึกเกร็งอยู่บ้างแต่ผ่านไปสักพักจึงผ่อนคลายลงเพราะถึงแม้จะมีพนักงานมองมาที่เขาด้วยความสนใจแต่ก็ไม่ได้มีใครแสดงท่าทางดูถูกอะไรกลับยิ้มต้อนรับเขาอย่างดีซึ่งก็แน่นอนว่าเพราะพนักงานทุกคนที่นี่ถูกเทรนเรื่องการให้เกียรติคนเท่ากันเป็นอย่างดีจากเจ้านายอย่างภาคินัยนั่นเอง
ไออุ่นปล่อยให้คนโตกว่าจับจูงขณะที่ภายในใจยังคงติดอยู่กับประโยคก่อนหน้าที่อีกคนเอ่ยพูดออกมาก่อนจะแอบยกมือข้างที่เป็นอิสระลูบหน้าอกด้านซ้ายเบาๆ เมื่อรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองกำลังเต้นแรงจนเกินไป
อีกด้านภายในห้างสรรพสินค้า หญิงวัยกลางคนๆหนึ่งก็กำลังเลือกดูเครื่องประดับอยู่เช่นกัน เธอหยิบสร้อยคอซึ่งรายล้อมด้วยเพชรแวววาวขึ้นมามองใกล้ๆ ใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์ฉายแววพึงพอใจ ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีแดงสดคลี่ยิ้มหวานก่อนจะเอ่ยพูดกับพนักงานที่ยืนอยู่
“เมื่อครู่ภาคินัยก็มาซื้อเครื่องประดับหรือจ้ะ”
“ค่ะคุณหญิง”
“เขามากับใครบ้าง”
“เอ่อ…มีคุณชรัณแล้วก็เด็กหนุ่มคนหนึ่งค่ะ”
พนักงานสาวเอ่ยบอกเพราะเธอนั้นรู้จักชรัณเลขาเจ้าของห้างที่นี่ดี แต่เด็กหนุ่มอีกคนเธอเพิ่งเคยเห็นครั้งแรก ยังนึกสงสัยอยู่ในใจว่าอีกฝ่ายเป็นใครถึงมาเดินเคียงข้างกับคนที่เป็นถึงรองประธานไตรวิริยะได้
“เด็กหนุ่ม?” หญิงวัยกลางคนเอ่ยด้วยน้ำเสียงแปลกใจแต่ใบหน้านั้นยังคงประดับด้วยรอยยิ้ม เธอวางสร้อยไว้ในกล่องตามเดิมจากนั้นจึงเอ่ยต่อ
“ฉันเอาเส้นนี้จ้ะ”
เมื่อพนักงานได้ยินแบบนั้นก็รีบกุลีกุจอจัดสร้อยราคาแพงที่มีเพียงสามเส้นในประเทศไทยบรรจุลงกล่องกำมะหยี่อย่างระมัดระวัง เธอจึงถือโอกาสหันมาเอ่ยบอกกับคนติดตามของตัวเองด้วยท่าทางใจดี
“คุณสาวิตรี ฉันอยากรู้จังว่าเด็กหนุ่มที่มากับตาภาคเป็นใคร”
หลังซื้อของเสร็จทั้งสองคนก็กลับมาที่พัก และนั่นทำให้ไออุ่นรู้ว่าโรงแรมราคาแพงซึ่งมีเพนท์เฮ้าส์อยู่ชั้นบนสุดและจับจองพื้นที่ทั้งชั้นนั้นเป็นของใครจากคำบอกเล่าของเลขาส่วนตัวอย่างชรัณซึ่งช่วยเขาหอบหิ้วข้าวของเข้ามาภายในห้อง ส่วนคนเป็นเจ้าของนั้นแยกตัวไปยังห้องทำงานซึ่งอยู่อีกด้านภายในชั้นเดียวกัน
“มือถือของคุณอุ่นครับ” ชรัณยื่นมือถือยี่ห้อดังเครื่องใหม่เอี่ยมมาตรงหน้าไออุ่น เมื่อเห็นเด็กหนุ่มทำหน้างงจึงเอ่ยต่อ
“คุณภาคให้ผมไปซื้อมาให้น่ะครับ”
“แต่ผมมีอยู่แล้วนะครับ” ไออุ่นว่าเพราะเขาเองก็มีโทรศัพท์อยู่แล้วแม้มันจะเป็นรุ่นเก่าแถมหน้าจอแตกจนแทบมองอะไรไม่เห็นแต่ก็ยังพอใช้งานได้
“เป็นคำสั่งของคุณภาคครับ”
เมื่อชรัณเอ่ยพูดประโยคนี้ไออุ่นก็ไม่อาจแย้งอะไรได้อีกเพราะก่อนหน้านั้นตอนที่อยู่บนรถระหว่างทางกลับมายังเพนท์เฮ้าส์ ใครอีกคนได้ทำข้อตกลงกับไออุ่นว่าห้ามปฏิเสธของหรืออะไรก็ตามที่เขามอบให้ ไออุ่นจึงจำต้องยื่นมือไปรับโทรศัพท์เครื่องนั้นมา
“ผมบันทึกเบอร์ส่วนตัวของคุณภาครวมถึงเบอร์โทรของผมเอาไว้ในเครื่องเรียบร้อยแล้วถ้าคุณอุ่นต้องการอะไรเพิ่มเติมบอกผมได้เลยนะครับ”
“ขอบคุณนะครับ”
“ยินดีครับ” ชรัณดันแว่นตาที่สวมใส่ขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยบอกจากนั้นก็ขอตัวแยกออกไป ไออุ่นจึงได้รู้ว่าที่แท้อีกฝ่ายก็อาศัยอยู่ที่นี่ถัดจากชั้นที่เขาอยู่ไปหนึ่งชั้นด้วยเช่นกัน
เมื่อชรัณกลับออกไปแล้วไออุ่นก็จัดการเก็บข้าวของที่เยอะจนทำเอาตาลาย เด็กหนุ่มก็ยืนนิ่งพร้อมกับมองไปรอบๆห้อง พลางใช้มือหยิกแขนตัวเองเบาๆเพื่อยืนยันว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นคือเรื่องจริงเพราะมันรวดเร็วเสียจนดูเหมือนกับว่าไออุ่นแค่ฝันไปเท่านั้น
ทั้งๆที่เมื่อวานก่อนเขายังอยู่ในห้องเช่าแคบๆ ต้องทำงานงกๆเพื่อหาเงินมาใช้หนี้อยู่เลย แต่ว่าตอนนี้กลับอยู่ในเพนเฮ้าส์แสนหรูกว้างใหญ่มีเตียงนอนนุ่มและสิ่งต่างๆครบครันรวมถึงเสื้อผ้าและอื่นๆที่ไออุ่นเพิ่งได้มาวันนี้ก็ล้วนแต่เป็นของราคาแพงทั้งนั้น
‘คุณภาคจัดการทุกเรื่องให้เขาทั้งซื้อข้าวของให้ตั้งมากมายแต่ดูเหมือนว่าไออุ่นยังไม่ได้ทำอะไรเพื่อเป็นการขอบคุณเลยด้วยซ้ำ’
ไออุ่นครุ่นคิดก่อนจะตัดสินใจเดินออกจากห้องนอนเพื่อไปหาใครอีกคน เพิ่งเปิดประตูเขาก็เจอกับคนเป็นเลขาที่ถือไอแพดออกมาจากห้องๆหนึ่ง อีกฝ่ายเดินมาหาเขาพร้อมกับเอ่ยขึ้น
“พอดีเลยครับ มื้อเย็นคุณอุ่นอยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าครับผมจะได้จัดการให้”
เมื่อได้ยินแบบนั้นไออุ่นก็ดูเหมือนจะคิดอะไรขึ้นได้จึงลองถามขึ้นมา
“ผมทำเองได้ไหมครับ”
“ทำเอง?” ชรัณเลิกคิ้วเขิงแปลกใจก่อนจะยกยิ้มและเอ่ยตอบ
“ได้สิครับ ถ้าอย่างนั้นคุณอุ่นอยากได้วัตถุดิบอะไรบอกได้เลยครับเดี๋ยวผมให้คนไปจัดเตรียม”
ไออุ่นยิ้มกว้างเพราะรู้แล้วว่าตัวเองจะทำอะไรเพื่อแทนคำขอบคุณให้ใครอีกคน ก่อนจะจัดการบอกวัตถุดิบและเครื่องปรุงสำหรับทำหารที่ต้องการ
“รบกวนด้วยนะครับ” ไออุ่นว่าหลังจากชรัณจดรายการที่ต้องซื้อเรียบร้อยแล้ว เด็กหนุ่มชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยเรียกอีกฝ่ายเอาไว้
“คุณชรัณครับ”
“ครับ?”
“เอ่อ…คุณภาคยุ่งอยู่หรือเปล่าครับ” ไออุ่นเอ่ยถามพลางหันมองไปยังห้องทำงานที่มีร่างสูงเจ้าของนัยย์ตาสีนิลอยู่ในนั้น
“เข้าไปเถอะครับดูเหมือนคุณภาคเองมีเรื่องจะคุยกับคุณอุ่นอยู่พอดี” ชรัณเอ่ยบอกจากนั้นจึงยืนมองเด็กหนุ่มร่างบางที่เดินราวกับแมวย่องค่อยๆเข้าไปหาเจ้านายของเขา ชายหนุ่มยิ้มด้วยความเอ็นดูพลางขยับขาแว่นให้เข้าที่ก่อนจะหันหลังเดินออกไป
‘ดูเหมือนห้องของคุณภาคจะไม่มีผ้ากันเปื้อนถ้าอย่างนั้นคงต้องซื้อสักหน่อย สีชมพูก็ดูน่ารักดี’ คนเป็นเลขาคิดในใจขณะลงลิฟต์เพื่อไปเตรียมหาวัตถุดิบมาให้เด็กหนุ่มของเจ้านายทำอาหาร
ชายหนุ่มทำงานให้ภาคินัยมานานหลายปีทำให้รู้ความคิดของคนเป็นเจ้านายตัวเองได้เป็นอย่างดี และเขาก็รู้อีกว่าคนที่เป็นเด็กของคุณภาคินัยตอนนี้ต่อไปจะอยู่ในฐานะอะไรของครอบครัวไตรวิริยะ
ไออุ่นเข้ามาในห้องทำงานของคุณภาคินัยก็เห็นร่างสูงนั่งเอนหลังหลับตาอยู่บนเก้าอี้ เด็กหนุ่มจึงเดินเข้าไปใกล้จากทางด้านหลังก่อนจะถือวิสาสะใช้มือนวดเบาๆบริเวณขมับทั้งสองข้างของอีกคน
“อืม” ภาคินัยครางรับในลำคอด้วยความพอใจ ก่อนจะลืมตาขึ้นมามองคนเด็กกว่า
ไออุ่นถูกเจ้าของนัยย์ตาสีนิลจับจ้องเสียจนทำตัวไม่ถูกจึงทำทีเป็นตั้งอกตั้งใจนวดให้อีกคน ภาคินัยปล่อยให้ไออุ่นนวดอยู่สักพักก่อนจะเอื้อมมาจับมือผอมเรียวและออกแรงดึงให้มานั่งบนตักเขาแทน
“นวดเก่งจัง ไว้ฉันจ้างเธอนวดทั้งตัวเลยดีไหม”
“ผมแค่นวดไปเรื่อยครับ” ไออุ่นว่าพลางหลบสายตาร้อนแรงของคนตรงหน้า
“ทำไมถึงนวดให้ฉันล่ะ” ภาคินัยเอ่ยถามขณะที่มือข้างหนึ่งยื่นไปหยิบเอกสารบางอย่าง
“ผมอยากทำอะไรตอบแทนคุณภาคบ้าง”
“หือ?” คนอายุมากกว่าแกล้งทำเสียงแปลกใจ รอให้คนบนตักพูดต่อ
“ตอบแทนที่คุณภาคให้ผมมาอยู่ด้วยแถมซื้อของแพงๆพวกนั้นให้อีก”
“ถ้าอย่างนั้นอันนี้คงต้องได้ค่าตอบแทนมากกว่าแค่การนวดหรือเปล่า” ภาคินัยว่าพลางยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งมาตรงหน้าไออุ่น
เด็กหนุ่มหยิบมันขึ้นมากวาดสายตาอ่านทุกบรรทัดอย่างตั้งใจ ขณะที่ปากอิ่มก็เริ่มอ้าค้าง ทั้งตากลมยังเบิกกว้างขึ้นเมื่อเข้าใจสิ่งที่อยู่ในนั้น
ใบแจ้งหนี้ที่ไออุ่นติดค้างเอาไว้กว่าห้าแสนบาท ตอนนี้ขึ้นสถานะว่าชำระเต็มจำนวนครบเรียบร้อยแล้ว
“คุณ…”
“ขอโทษที่เสียมารยาทจัดการเรื่องนี้โดยไม่ได้บอกเธอก่อน ฉันแค่อยากให้เธอรู้สึกสบายใจไม่ต้องคอยกังวลอะไรอีก”
“ฮึก...อุ่น อุ่นขอบคุณครับ!” ไออุ่นเอ่ยขอบคุณทั้งน้ำตาก่อนจะพนมมือกราบลงบนอกของคนอายุมากกว่า
ภาคินัยชะงักไปเล็กน้อยเมื่อถูกคนเด็กกว่ากราบแนบอก ท่าทางแบบนี้เหมือนเขาเป็นพวกเสี่ยใหญ่ที่ชอบให้เด็กกราบเอาใจเวลาให้เงินอย่างไรอย่างนั้น
“ไม่ต้องร้อง” เขาเอ่ยปลอบคนบนตักเสียงนุ่มพลางยกมือช่วยเช็ดน้ำตาให้
ไออุ่นมองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาพลางครุ่นคิดบางอย่างอยู่ในใจ รอจนกระทั่งคนโตกว่าหันมาสบตากันเขาจึงขยับโน้มลงไปจุ้บเบาๆบนปากหยักก่อนจะผละออก
“อะ อุ่นไม่รู้ต้องทำยังไงเพื่อตอบแทนคุณ”
เด็กหนุ่มกลอกตาไปมาอย่างเก้อเขินหลังทำใจกล้าเป็นฝ่ายสัมผัสอีกคนก่อนเพราะอยากขอบคุณ
“แค่นี้หรือ”
“ละ…แล้วคุณภาคอยากให้ผมทำอะไรครับ”
“อยากให้เธอเรียกแทนตัวเองว่าอุ่นแบบเมื่อกี้แล้วก็…” ภาคินัยยื่นใบหน้าเข้าไปหาคนบนตักก่อนจะเอ่ยพูดเสียงพร่า
“จูบฉันอีก”
ไออุ่นกัดริมฝีปากตัวเองน้อยๆก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปจุ้บคนโตกว่าอีกครั้งพร้อมกับเอ่ยบอกเสียงเบา
“อุ่นจูบแล้ว”
“แบบนี้เรียกว่าจูบที่ไหนกันเด็กน้อย”
ไออุ่นหน้าแดงซ่านก่อนจะขยับเข้าไปหาร่างสูงอีกครั้ง มือเล็กถูกยกขึ้นมาเกาะไหล่แกร่งทั้งสองข้างพร้อมกับริมฝีปากที่ทาบทับลงไปบนอวัยวะเดียวกันของคนตรงหน้า ก่อนจะค่อยๆ ขยับดุนดันเม้มริมฝีปากหยักไปมาสักพัก จากนั้นจึงส่งปลายลิ้นอุ่นชื้นแตะสัมผัสซึ่งภาคินัยเองก็เปิดปากออกอย่างง่ายดาย ยอมให้ลิ้นเล็กเข้ามาเล่นซุกซนอยู่ภายใน
ไออุ่นจูบเป็นแต่ไม่ได้เก่งขนาดนั้นเพราะเจ้าตัวเอาแต่แตะไปมาบนลิ้นของเขา จนในที่สุดความอดกลั้นที่สั่งสมมาของภาคินัยก็สิ้นสุดลง เขาเป็นฝ่ายควบคุมจังหวะการจูบเสียเอง มือหนากระชับเอวเล็กเข้าหาตัวก่อนจะเริ่มดูดดุนลิ้นเล็กที่ยังอยู่ในปากของเขาจนได้ยินเสียงครางอืออึงจากคนเด็กกว่า
“อะ…อือ”
จากนั้นจึงผละออกมาดูดเม้มริมฝีปากนุ่มนิ่ม และขบมันเบาๆด้วยความมันเขี้ยวก่อนจะเริ่มซอกซอนเข้าไปหาความหวานหอมภายในอีกครั้ง ลิ้นหนาสำรวจไปทั่วจากนั้นจึงเกี่ยวต้อนลิ้นเล็กเข้ามาพัวพัน
คนตัวเล็กบนตักจูบตอบเขาอย่างเงอะงะเพราะตามจังหวะไม่ทัน ได้ยินเสียงลมหายใจที่เริ่มหอบกระชั้นถี่พร้อมกับแรงบีบจากมือเล็กบริเวณไหล่ภาคินัยจึงค่อยๆผละออก
“ฮะ แฮ่กๆ!” ไออุ่นหอบหายใจ ใบหน้าขาวเนียนย้อมแดงไปทั่วทั้งหน้าโดยเฉพาะปากอิ่มที่บวมฉ่ำวับวาว
ภาพตรงหน้าล่อตาล่อใจจนภาคินัยไม่ยอมเสียเวลา เขาประคองกรอบหน้าของไออุ่นให้แหงนเชิดและโน้มลงไปป้อนจูบร้อนแรงอีกครั้ง
“อึก อือ”
“อืม”
เสียงครางดังคลอเสียงจูบเฉอะแฉะฟังดูลามกทำไออุ่นรู้สึกวูบวาบในอก กระทั่งได้ยินความเคลื่อนไหวจากนอกห้อง คนเด็กกว่าจึงดันอกแกร่งเป็นสัญญาณให้ผละออก
ภาคินัยยอมถอนจูบแต่ยังไม่ถอยห่าง เขาใช้ปลายจมูกดุนดันแก้มนิ่มพร้อมสูดดมความหอมเข้าเต็มปอดจนเกิดเสียง
ฟอด!
“อะ--อื้อ! คะ…คุณชรัณกลับมาแล้วนะครับ”
ไออุ่นร้องบอกพลางเอนหน้าหลบเพราะถูกลมหายใจร้อนผ่าวจากคนตรงหน้ารินรดผิวเนื้อพาให้ขนลุกซู่ไปทั้งตัว
“อืม” ชายหนุ่มขานรับแต่ก็ยังไม่ปล่อยให้ร่างเล็กเป็นอิสระเอาแต่ฟ่อนฟัดแก้มกลมจนมันแดงก่ำทั้งสองข้าง
“อื้อ! คุณภาคครับอุ่นต้องไปทำมื้อเย็น”
“ตอนนี้ฉันไม่อยากกินข้าวแล้ว” ภาคินัยบอกเสียงแหบพร่า ดวงตาสีนิลที่จ้องมองไออุ่นเต็มไปด้วยความต้องการเปี่ยมล้น
“…”
“อยากกินอุ่นมากกว่า”
..............................
...TBC....
Talk with muxii:
คุณภาคินัยมีอีกสักคนมั้ยคะ ไรท์เองก็อยากได้แบบนี้บ้าง5555555😂
ชอบน้องแทนตัวเองว่าอุ่นอะ ดูอ้อนดีขนาดเขียนเองยังเอ็นดูเลย แล้วคุณภาคินัย ไตรวิริยะเขาจะอดใจไหวได้ยังไง มาลุ้นกันค่ะว่าตอนหน้าพี่แกจะได้กินข้าวหรือกินน้องอุ่น 🤭
ฝากคอมเม้นท์เป็นกำลังใจน้อยๆให้มู่มู่กันหน่อยนะคะ~ ❤️
...#ไออุ่นของภาคินัย...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments
Ichigo Kurosaki
ไม่ดีอะไรเลยถ้าไม่มีการอัพเดต แอดมาอัพเร็ววันนี้นะ
2023-11-02
0