ณ ศูนย์วิจัยที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้
ศูนย์วิจัยนี้ร้างแห่งนี้เป็นศูนย์วิจัยเก่าก่อนที่พวกอัลฟ่านั้นจะบุกเข้ามาภายในศูนย์วิจัย ซึ่งศูนย์วิจัยแห่งนี้นั้นมีสภาพทรุดโซมและถูกทำลายไปกว่าครึ่ง
อีกทั้งศูนย์วิจัยร้างแห่งนี้เป็นเขตหวงห้ามของทางกองทัพแห่งจักรวรรดิ แต่ก็เคยเป็นเท่านั้น เพราะว่าอัลฟ่านั้นได้เข้ายึดศูนย์วิจัยแห่งนี้แล้วเรียบร้อย..
เบลล์เด็กหนุ่มที่แอบนั่งซุ่มอยู่บนต้นไม้ไม่ห่างจากศูนย์วิจัยเท่าไหร่นัก เด็กหนุ่มมองเข้าไปในโรงเก็บอาวุธ เห็นได้ชัดว่ายังมีอาวุธที่ยังถูกทิ้งเอาไว้หลงเหลืออยู่..
ท่ามกลางฝูงอัลฟ่าที่เดินยั้วเยี้ยไปมา..
“ ฝ่าเข้าไปทั้งๆแบบนี้ก็ได้อยู่หรอก..แต่ว่ามันฝืนร่างกายของเราเกินไป..อัลฟ่าตัวนั้นทำเอาลำบากไม่น้อยเลยทีเดียว ตอนนี้ที่เราต้องการคือ ข้อมูลทั้งหมดที่เกิดในปัจจุบัน และโครงสร้างเกี่ยวกับอาวุธ..รวมไปจนถึงหุ่นจักรกล..อีกอย่างเจ็บชะมัดเลยให้ตายสิ..”
เบลล์กุมหน้าท้องที่มีผ้าผันแผลสีขาวห่อเอาไว้ซึ่ง เห็นได้ชัดว่าเลือดกำลังซึมออกมาจากปากบาดแผลที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้ก่อนหน้านี้ ซึ่งโดยปกติแล้วนั้นบาดแผลที่เกิดจากอัลฟ่าจะรักษาได้ยากและเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง แต่พลังของเบลล์นั้นดูเหมือนว่าจะมีส่วนในการต้านทานเชื้อร้ายเหล่านั้นอยู่…
และอัลฟ่าตัวเดียวที่สร้างบาดแผลให้กับเบลล์นั้นก็คือ..อัลฟ่าตัวสีขาวนัยต์ตาของมันนั้นมีสีม่วงอ่อน ทั้งพลังในการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและพละกำลังที่มหาศาล..
อัลฟ่าระดับ4!!!
ตอนนี้เบลล์ จะต้องรอจนกว่าพระอาทิตย์ตกดินจึงจะเคลื่อนไหวได้สะดวกเพราะอัลฟ่านั้นมีสายที่แหลมคม ในระหว่างนั้นตัวของเบลล์ก็พยายามสร้างอาวุธจากแร่อุกกาบาตุที่ไหลออกมาจากตามแขนคล้ายกับของเหลว..
“ เรารู้โครงสร้างแค่การสร้างดาบกับปืน..นี่คงเป็นข้อเสียของเราสินะ..ถ้าเราไม่ทำความเข้าใจองค์ประกอบของมันอย่างถ่องแท้ ก็ไม่สามารถสร้างมันขึ้นมาได้..”
ตัวของเบลล์นั้นสร้างดาบขึ้นมา2เล่ม ดาบสั้นและดาบยาวสีดำก่อนจะนำเก็บเอาไว้ที่แผ่นหลัง..ถึงแม้เบลล์จะทราบถึงโครงสร้างของปืนด้วย..แต่การใช้ปืน จนเกิดเสียง แล้วพวกมันแห่ออกมาทั้งรัง คงจะไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่…
และแล้วดวงอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าไป..พวกอัลฟ่านั้นจะมองเห็นในตอนกลางคืนลำบากกว่าตอนกลางวัน แต่ว่าประสาทสัมผัสการได้ยินและการดมกลิ่นนั้นมันคนละเรื่องกัน..
เพราะแบบนั้น เบลล์เลยใช้เลือดของอัลฟ่าทาไปตามตัวของตัว ทั้งแขนขา หน้า..
“ ก่อนอื่นต้องเบี่ยงเบนความสนใจของมันก่อนก็แล้วกัน… ”
เบลล์หยิบก้อนหินขึ้นมาก่อนจะขว้างมันให้ไกลออกไปพอสมควรจนหินนั้นกระทบกับกำแพงเหล็ก..
ตึง!!!
พวกอัลฟ่าที่ได้ยินต่างวิ่งไปตามเสียงในทิศทางดังกล่าว..ทำให้อัลฟ่าบริเวณรอบนอกนั้นเกือบจะหายไปจนหมดแต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับชายหนุ่ม..
เบลล์เคลื่อนที่ในความมืดพร้อมใช้เสียงให้เบาที่สุด..เด็กหนุ่มใช้ดาบคาตานะยาวสีดำฟันผ่าร่างของอัลฟ่าแยกออกเป็นสองส่วนอย่างง่ายดาย..
ไม่นานอัลฟ่าที่เหลืออยู่ไม่กี่ตัวในลานกว้างหน้าศูนย์วิจัยก็ถูกเบลล์ฆ่าตายจนหมด..
เด็กหนุ่มรีบเข้าไปในศูนย์วิจัยในทันทีซึ่งตอนแรกนั้นเบลล์คิดที่จะไปที่โรงเก็บอาวุธแต่ทว่าดูเหมือนเบลล์นั้นจะคิดบางอย่างขึ้นมาได้..
เบลค่อยๆเดินเรียบชิดไปกับกำแพงซึ่งนะหว่างทางนั้นชายหนุ่มก็เจอกับอัลฟ่าตรงโถงทางเดินซึ่ง เบลล์นั้นก็ทำแบบเดิมคือการใช้ก่อนหิน เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ..และมันก็ได้ผล..
ซึ่งวิธีที่เบลล์ใช้นั้นไม่เคยมีใครทำแบบนี้มาก่อนเพราะว่า..การเผชิญหน้ากับอัลฟ่าแบบระยะประชิดโดยไม่มีหุ่นจักรกล ก็ไม่ต่างจากการฆ่าตัวตาย!!!
แต่เบลล์นั้นต่างออกไปความเคียดเเค้นที่มีต่ออัลฟ่านั้นฝังรากลึกลงไปในจิตใจ..ทำให้ความกลัวไม่มีผลกับเบลล์อีกต่อไป..
“ ชั้นที่ 2 ศูนย์พัฒนาอาวุธและคลังเก็บเสบียง ”
ในที่สุดเบลล์นั้นก็ขึ้นมาชั้นที่สอง ซึ่งดูเหมือนว่าชั้นที่สองนี้นั้นจะไร้วี่แววของอัลฟ่าแต่ตัวของเบลล์ก็ไม่ได้ลดการป้องกันลงแต่อย่างใด..
ตัวชายหนุ่มเดินไปตามลูกศรบอกทางจนกระทั่งเจอเข้ากับประตูที่มีป้ายเขียนติดเอาไว้ว่า..
[ คลังอาวุธและที่เก็บเสบียง ]
“ แปลกมาก ทำไมชั้นสองถึงไม่มีพวกมันอยู่สักตัว..เหมือนกับว่ามันไม่กล้าขึ้นมา..ไม่สิหรือมันจะขึ้นมาไม่ได้..แต่ทำไมกันล่ะ พวกมันมีสิ่งที่กลัวด้วยอย่างงั้นเหรอ..หรือว่าบางที..”
เบลล์ค่อยๆใช้ดาบแง้มเปิดประตูอย่างช้าๆ ภาพที่ปรากฎต่อหน้าเบลล์นั้นตัวของชายหนุ่มแทบจะไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเอง..
“ นี่มัน!! ”
………………………………………………………
อีกด้านหนึ่ง…
เหล่าอัศวินราวๆ30คนและหุ่นจักรกลประมาณ อีกประมาณ 9-10 เครื่อง ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นกองกำลังของจักรวรรดิโรรันเทียร์ที่ออกมาสำรวจและเก็บกู้อุกกาบาตแต่ทว่า..
ตั้งแต่ที่เหล่าอัศวินมาถึงก็ต้องแสดงท่าทีตกตะลึงออกมา..ก่อนที่หัวหน้ากองอัศวินกลุ่มนี้จะสั่งให้เหล่าอัศวินและ หุ่นจักรกลแยกย้ายกันออกไปสำรวจโดยรอบ…
“ นี่มัน..เกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่.. ”
“ พันตรีค่ะ จากการสำรวจโดยรอบอัลฟ่าทั้งหมดถูกสังหารด้วยอาวุธมีคมทั้งหมด…เป็นไปไม่ได้ที่พวกมันจะฆ่ากันเอง..ต่อให้ใช้หุ่นจักรกล..แต่ถ้าจำนวนของอัลฟ่ามีมากถึงขนาดนี้ก็ยากที่จะรับมือ..แต่ว่า.. ”
“ แต่อะไรร้อยเอก.. ”
“ ดูเหมือนว่าการต่อสู้นี้จะเกิดขึ้นโดยฝีมือของมนุษย์ ที่ไม่ได้ใช้หุ่นจักรกลในการต่อสู้ เพราะบริเวณโดยรอบนั้นไม่มีร่องลอยที่เกิดจากการใช้หุ่นจักรกลในการต่อสู้แม้แต่น้อย..ทางเดียวที่อาจจะเป็นไปได้คือ มีคนต่อสู้กับอัลฟ่าโดยใช้เพียงแค่อาวุธมีคมเท่านั้น!!! ”
พันตรีที่ได้ยินแบบนั้นก็แสดงสีหน้าขมวดคิ้วแน่นกอดอก…
“ จะบอกว่ามนุษย์คนเดียวสามารถสังหารอัลฟ่าหลายร้อยตัวได้ด้วยตัวคนเดียว..ต่อให้เป็นผู้ปลุกพลัง..เดี๋ยวนะ..ร้อยเอกสัญญาณของอุกกาบาตที่เราจับได้ คือบริเวณนี้ใช่ไหม.. ”
“ ใช่ค่ะ พันตรี สัญญาณมันมาจากหลุมลึกตรงนั้นก่อนที่สัญญาณมันจะหายไปก่อนที่พวกเราจะมาถึง ราวๆ 2 วันก่อนค่ะ ท่านพันตรีมีอะไรหรือเปล่าคะ.. ”
ตัวของพันตรี เปิดอุปกรณ์บางอย่างขึ้นเผยให้เห็นจุดสีแดงๆกระพริบไปมาก่อนที่มันจะหายไปจากจอ..ในขณะนั้นเองก็มีอัศวินคนหนึ่งวิ่งมาด้วยท่าทีราวกับว่าไปเจอกับอะไรบางอย่างมา!!
“ ท่านพันตรี ท่านร้อยเอก พวกเราเจออะไรบางอย่าง!!!!..ผมคิดว่าพวกท่านต้องมาดูด้วยตัวเอง ”
พันตรีและร้อยเอก ที่เห็นอัศวินในหน่วยของตนวิ่งมาด้วยท่าทีตื่นตระหนกและคำพูดของอัศวินหนุ่มคนนั้น ทั้งสองจึงรีบ ตามอัศวินคนนั้นไปในทันที…
ไม่นานทั้งสองคนก็มาเจอเข้ากับร่างของอัลฟ่าสีขาวลำตัวของมันมีขนาดใหญ่ความยาวของมันราวๆ 15 เมตร กรงเล็บที่แหลมคม หางที่ยาวเฟื้อยของมัน..แต่ทว่าสิ่งหนึ่งที่ พันตรีและร้อยเอกต่างแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมาก็คือ อัลฟ่าตัวสีขาวนี้เป็น…
“ อัลฟ่าระดับ4!!! ”
แต่สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าก็คือ อัลฟ่าระดับ4 นั้นถูกตัดหัวอีกทั้งร่องรอยการต่อสู้พึ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้..
“ บ้าน่าอัลฟ่าระดับ4 ใครเป็นคนสังหารมันกันแน่..หรือว่าพวกมันฆ่ากันเองเพื่อขึ้นเป็นผู้นำ!! ”
“ อย่าพูดอะไรซี่ซั้ว นายจะบอกว่ามีอัลฟ่าที่แข็งแกร่งกว่าระดับ4 แล้วมันก็ต่อสู้กันเองอย่างงั้นเหรอ..ไม่มีทาง ”
“ แล้วใครเป็นคนสังหารมันกันแน่.. ”
เหล่าอัศวินที่เห็นซากของอัลฟ่าก็ต่างพากันคาดเดากันไปต่างๆนาๆ…
“ พวกนายทั้งหมด เก็บกู้ร่างของอัลฟ่าตัวนี้ เราจะเดินทางกลับจักรวรรดิกันในทันที!! ”
“ ครับ/ค่ะ!! ”
พันตรีออกคำสั่งเสร็จก็รีบเดินขึ้นรถหุ้มเกราะในทันทีก่อนจะเปิดโปรแกรมบางอย่างขึ้นมาบนหน้าจอมอนิเตอร์ ซึ่ง ร้อยเอกผู้หญิงคนนั้นก็เดินตามขึ้นมาด้วย..
“ ร้อยเอกล็อคประตูซะ.. ”
“ รับทราบค่ะ.. ”
ร้อยเอกใช้มือล็อคประตูตามคำสั่งของพันตรี..ซึ่งดูเหมือนว่าพันตรีนั้นกำลังคีย์ข้อมูลบางอย่างลงในภาพโฮโรแกรม…
และฉายมันขึ้นมอนิเตอร์เพื่อให้ร้อยเอกได้ดูด้วยเช่นกัน..ซึ่งร้อยเอกที่เห็นแบบนั้นก็เข้าใจได้ในทันทีว่าพันตรีกำลังทำอะไร..
“ นี่พันตรีจะแฮกระบบดาวเทียมด้วยพลังพิเศษอย่างงั้นเหรอคะ!!! ”
“ ไม่ได้แฮก แค่ขอยืมเข้าใช้นิดหน่อย ร้อยเอกบอกตำแหน่งที่ตั้งของเขตนี้มาหน่อย ฉันจะใช้พลัง ในการแฮกดาวเทียมในการดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่..”
พันตรีพูดจบนัยต์ตาของพันตรีคนนี้ก็ค่อยๆมีออร่าแสงสีฟ้าขึ้นมาพร้อมกับมือที่พิมพ์แป้นพิมพ์เร็วจนไม่สามารถ มองตามได้ด้วยตาเปล่า!!
“ นี่ท่าน…”
ร้อยเอกแสดงท่าทีเหนื่อยใจออกมาแต่ก็ไม่สามารถขัดคำสั่งได้จึงบอกข้อมูลที่พันตรีนั้นต้องการ ไม่นานพันตรีก็เข้าใช้ระบบดาวเทียมได้สำเร็จ
ก่อนที่จะใช้ดาวเทียมในการดูว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่…ภาพที่ฉายขึ้นหน้าจอต่างทำให้พันตรีและร้อยเอกคนนี้ต่างตกตะลึงและพูดไม่ออกนั่นก็เพราะว่า
ภาพถ่ายจากดาวเทียมที่บันทึกไว้ในขณะนั้นก็คือมีเพียงเด็กหนุ่มผมยาวสีดำกำลังต่อสู้กับอัลฟ่าทั้งหมดรวมถึงเป็นคนที่สะบั้น หัวของอัลฟ่าระดับ 4 ก่อนที่ภาพถ่ายดาวเทียมนั้นจะตัดไป…
พันตรีสั่นสะท้านไปทั้งร่าง..แม้ตนจะออกรบมาเป็นเวลานานประสบการณ์โชกโชน แต่ไม่เคยเห็นการต่อสู้ที่บ้าระห่ำเช่นนี้มาก่อน!!!..
อีกอย่างผู้ที่เผชิญหน้ากับอัลฟ่าระดับ4 เป็นเพียงเด็กหนุ่มอายุไม่เกิน20ปีและยังต่อสู้โดยไม่ใช้หุ่นจักรกล…ทั้งพันตรีและร้อยเอกต่างอุทานออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้ตั้งใจ..
“ เด็กคนนี้..เป็นสัตว์ประหลาด!! ”
“ เด็กคนนี้..เป็นสัตว์ประหลาด!! ”
จบตอน..
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 12
Comments