If one of us dies
^^^บทที่ 1^^^
^^^สวยจัง^^^
^^^[มุมมองบุคคลที่สาม]^^^
ในวันแรกของการเปิดการเรียนการสอนที่โรงเรียนศิลานรี ผู้ปกครองหลายต่อหลายคนต่างพากันยืนเกาะรั้วโรงเรียนและยืดคอให้ยาวที่สุดเพื่อเฝ้าดูลูกหลานเข้าโรงเรียนประถมในวันแรก
บรรยากาศเย็นสบายน่านอนที่นักเรียนทั้งเด็กและโตต่างมีความรู้สึกง่วงกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
"อี๋ สีผมเหมือนอึเลยอ่ะ น่าเกลียดจัง"
เด็กชายอายุประมาณ6ขวบพูดขึ้นเสียงใสในขณะที่ยืนกอดอกอยู่กับกลุ่มเพื่อนผู้ชายอายุเท่าๆ กันในห้องเรียนห้องหนึ่ง
"หน้าเป็นคนไทยแต่ตาสีฟ้าเหมือนพวกฝรั่ง โคตรแปลกอ่ะ"
เสียงของคนอีกผู้พูดขึ้นเช่นเดียวกันสายตาของกลุ่มเด็กชายมองไปที่เด็กผู้หญิงตัวเล็กคนนึงที่นั่งก้มหน้าก้มตาอยู่ที่โต๊ะหลังสุดติดหน้าต่างที่โต๊ะข้างๆ เว้นว่างไว้
"หยุดเดี๋ยวนี้นะพวกเธอ แกล้งเพื่อนแบบนี้โตขึ้นไปจะเป็นเด็กนิสัยเสียเอา"
คุณครูสาวกับชุดยูนิฟอร์มสีเทายาวเหนือเข่ายืนกอดอกอยู่เหนือเด็กทุกคน เธอตะเบ็งเสียงให้ดังจนเด็กๆ เดินหนีกันไปคนละทิศละทางก่อนจะเหลือบไปมองเด็กหญิงที่ยังคงนั่งก้มหน้าอยู่
ครูสาวไม่ได้เอ่ยคำใดและเดินจากไปเมื่อเห็นว่านักเรียนเลิกเสียงดังกันแล้ว
กริ๊งงงง!!
เสียงกริ๊งเริ่มคาบเรียนแรกดังขึ้นทั่วโรงเรียนอย่างพร้อมเพรียงกัน เด็กนักเรียนที่เดินเพ่นพ่านและทำเสียงดังไปทั่วห้องก็กลับมานั่งที่ของตนเองเมื่อได้ยินเสียงสัญญาณ
เมื่อคาบเรียนแรกเริ่มขึ้นได้ไม่นาน เด็กนักเรียนชายที่หายไปจากห้องก็ปรากฏตัว เด็กผู้ชายตัวเล็กผมสั้นใส่ชุดนักเรียนสีขาวกับกางเกงสีน้ำเงินเข้มเดินเข้ามาในห้องทางประตูด้านหน้า
สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่เด็กชายที่มาใหม่ด้วยความสงสัย ครูสาวเห็นดังนั้นจึงกล่าวตักเตือนไปเล็กน้อย
"มาเรียนวันแรกใครเค้าสายกัน ไปนั่งตรงนู้นไป"
ครูสาวพูดด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อยและชี้นิ้วไปทางโต๊ะที่ว่างข้างๆ กับเด็กหญิงตาสีฟ้าในตอนแรก เด็กชายเดินไปตามที่ครูบอกอย่างว่าง่ายวางกระเป๋าและจัดที่ทางให้เรียบร้อยและหันไปมองเพื่อนร่วมห้อง
เด็กหญิงพยายามเอามือปิดหน้าปิดตาเพื่อไม่ให้เขาเห็นนัยน์ตาสีฟ้าที่แตกต่างจากคนทั่วไปแบบเธอ
"เธอเอามือปิดหน้าทำไมอ่ะ"
"ไม่มีอะไรหรอกเธอเรียนเลยไม่ต้องสนใจเรา"
เด็กหญิงพูดขึ้นด้วยเสียงใสพร้อมกับหันไปทางอื่น เด็กชายมีสีหน้าสงสัยและค่อยๆ ยกมือขึ้นเพื่อจับมือของเด็กหญิง
เธอปัดมือของเด็กชายออกและขยับเก้าอี้ให้ออกห่างจากเขา
"เธอไม่อยากให้เราเห็นหน้าหรอ ทำไมอ่ะ"
"เพราะเราน่าเกลียด เธออย่าดูเลย"
เด็กหญิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจและกลัวว่าถ้าเขาเห็นดวงตาของเธอ เขาต้องไม่ชอบและแกล้งเธอแน่ๆ และเธอไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น
"แต่เราว่าเธอน่ารักนะ เสียงเธอน่ารัก ขนาดสีผมเธอยังเป็นสีเหมือนคาราเมล แสดงว่าเธอต้องน่ารักมากแน่เลย"
คำพูดนั้นทำเอาเธอนิ่งไปสักพักก่อนจะหันไปมองที่เด็กชายโดยกางนิ้วเล็กๆของตัวเองออกเพื่อให้มองเห็น
'สีผมเราไม่ได้เหมือนอึหรอ?'
เธอคิดในใจด้วยความสงสัยเธอหันไปมองเด็กชายอีกครั้งและครั้งนี้เด็กชายก็สามารถลดกำแพงระหว่างเขาและเธอลงมาได้นิดหน่อย
เขาจับมือของเธอและดึงลงเบาๆ เด็กหญิงลังเลเล็กน้อยและกลัวว่าเมื่อเด็กชายเห็นดวงตาและใบหน้าของเธอ เขาจะรังเกียจและไม่อยากนั่งกับเธอ
แต่ในเมื่อเขาเอ่ยชมสีผมของเธอด้วยความจริงใจแบบนั้น...
เด็กหญิงลดมือที่ปิดบังใบหน้าของตนเองลงช้าๆและเผยให้เห็นใบหน้าที่น่ารักจิ้มลิ้ม แก้มและปากอมชมพูระเรื่อและนัยน์ตาสีฟ้าสดใสของเด็กหญิง
เขานิ่งไปสักพักเมื่อได้เห็นใบหน้าและดวงตาของเด็กหญิง เธอมีสีหน้ากังวลเมื่อเห็นว่าเด็กชายนิ่งไปนานแต่สีหน้ากังวลของเธอก็แปลเปลี่ยนเป็นความประหลาดใจเมื่อเห็นว่าดวงตาของเด็กชายเป็นประกายระยิบระยับ
"ตาเธอสวยจังเลย เหมือนท้องฟ้าเลย"
เด็กหญิงหน้าแดงด้วยความประหลาดใจปนเขินอาย ในใจของเธอพลางเต้นตึกตักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
เธอยกมือขึ้นมาสัมผัสใต้ดวงตาของตัวเองเล็กน้อยเมื่อเขาเอ่ยชมดวงตาของเธอที่ทุกคนต่างมองเป็นสิ่งประหลาด
"เธอชื่ออะไรอ่ะ"
"เราชื่อทิชา"
ทิชาตอบเด็กชายด้วยน้ำเสียงที่แลดูมีความมั่นใจมากขึ้น เธอไม่ก้มหน้าและสบตากับเขาอย่างมั่นใจ
"เราชื่อเธียรนะ เราขอเป็นเพื่อนเธอได้มั้ย"
เธียรแนะนำตัวเองด้วยรอยยิ้มที่ดูใสซื่อและไม่มีพิษมีภัย ทิชาที่ไม่เคยมีเพื่อนเลยสักคนเพราะดวงตาและสีผมของเธอก็ตอบตกลงออกไปอย่างมั่นใจ
"อืม! เราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ"
เสียงที่เธอเปล่งออกมา ฟังเพียงไม่นานก็รู้ได้ว่าเธอชื่นชมให้ตัวของเด็กผู้ชายคนนี้มาก แต่ก็ไม่แปลกที่เธอจะชื่นชมเขาเพราะดวงตาและสีผมของเธอที่ทุกคนคิดว่าเป็นสิ่งที่ประหลาดและแปลกแยกจะถูกเด็กชายหน้ายิ้มชมเอาง่ายๆ
'เหมือนมีผีเสื้อมาบินในท้องเลยแฮะ'
และหลังจากเรื่องวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านไปนาน11ปี และเด็กทั้งคู่ก็ได้เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ เด็กป.1ในวันนั้นเติบโตเป็นหนุ่มสาวเต็มตัวกันหมด ราวกับเวลา11ปีผ่านไปเพียง1วัน
"ไอ้เธียร! กูอยู่นี่!!"
เสียงของเด็กสาววัย18ปีดังลั่นโถงทางเดินภายในอาคารเรียน เด็กสาวผมสีคาราเมลเรียงเส้นยาวสลวยกับนัยน์สีฟ้าสดใสไม่เหมือนใครของเธอ
เธอนั่งอยู่ตรงที่นั่งติดโถงทางเดินที่ด้านขวาจะเป็นห้องเรียนและด้านซ้ายเป็นระเบียงที่ทอดยาวจนถึงทางลงบันไดที่ยื่นออกมาจากอาคารเล็กน้อย
รูปลักษณ์ที่งดงามจนไม่อาจละสายตาไม่มองใครอื่น ขนตายาวเรียงเป็นแผง รูปหน้าเรียวเล็กเหมือนถูกปั้นด้วยฝีมือเทพเจ้าแห่งความงาม จมูกโด่งเข้ารูปและมีรูปปากอวบอิ่มน่าสัมผัส รอยยิ้มที่สดใสดั่งตะวันสว่างไสวละมุนละไม
เด็กสาวนั่งโบกไม้โบกมือเพื่อแสดงถึงตำแหน่งของตนเองให้เพื่อนชายที่พึ่งเดินขึ้นบันไดมาพร้อมกับถุงที่ใส่กีต้าร์ตัวใหญ่เอาไว้ได้รู้
"ผมรู้แล้วครับบ ไม่ต้องตะโกนก็ได้"
เด็กชายร่างสูงโปร่งเดินมาพร้อมกับสะพายกีตาร์ตัวใหญ่ไว้ด้านหลัง เขามีเส้นผมสไลด์สั้นสีดำขลับและนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเหมือนเปลือกไม้สนคมดูมีประกายแพรวพราว
ใบหน้าของเขาชัดได้รูปสันกรามคม จมูกโด่งชัดและริมฝีปากบางยกยิ้มที่มุมปากอย่างนึกสนุก
เขานั่งลงข้างกายเด็กสาวและเปิดถุงที่อยู่ด้านหลังและนำกีตาร์โปร่งตัวใหญ่ออกมาและจัดท่าทางให้เข้าที่
"ทรงได้มาก หล่อเท่สุดๆ"
"แน่นอนอยู่แล้ว คนมันหล่อทำอะไรก็หล่อไปหมดเป็นเรื่องธรรมดา"
เธียรเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงขี้เล่นและยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาตั้งสายกีตาร์ให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงใช้มือถือของตนเองเปิดคอร์ดเพลงที่ได้เลือกไว้
บทเพลงถูกบรรเลงขึ้นผ่านสายทั้ง6ของกีตาร์โปร่งตัวใหญ่ประสานก็เสียงร้องของเด็กสาวที่ไพเราะจับใจ
ดวงตาของเด็กสาวชำเลืองไปมองใบหน้าของเด็กชายที่นั่งอยู่ข้างกายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความชื่นชมที่เธอมอบให้เขามาตลอด10กว่าปีที่รู้จักกันมา
เขายังคงมีเสน่ห์ทุกครั้งที่เธอมองไป รอยยิ้มอันสดใสประดับบนใบหน้าของเด็กสาวตลอดเวลาที่เธออยู่กับเด็กชายผู้นี้
บทเพลงถูกบรรเลงไปจนจบ เมื่อเด็กชายดีดคอร์ดสุดท้ายจบเขาก็ยกมือขึ้นปรบมือให้เด็กสาวพร้อมกับรอยยิ้มเหมือนอย่างเคย
"เพราะเหมือนเดิมเลย ถ้ามึงไปร้องเพลงบนเวทีนะ เพื่อนคนนี้จะเป็นคนแรกเลยที่ไปยืนดูมึง"
"ให้มันจริงเถอะเธียร"
ทิชาพูดอย่างขำๆ ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นผู้หญิงคนนึงที่ยืนอยู่ริมสนามบอล เธอคนนั้นมีรอยยิ้มที่สดใสดั่งแสงอาทิตย์และดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเป็นประกาย เนื้อตัวสีขาวละมุนจนแม้แต่ผู้หญิงอย่างเธอก็ไม่อาจละสายตา
"เชี้ยย ผู้หญิงคนนั้นสวยจัดเลย"
เธียรพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูตื่นเต้นในขณะที่ก้มหน้าลงไปมองผู้หญิงคนนั้นด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
"นั้นสิ คนนั้นสวยจัง"
ทิชาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงเล็กน้อยก่อนจะเหลือบไปมองเธียรที่กำลังจ้องมองผู้หญิงคนนั้นตาไม่กะพริบ
"มึงรู้จักป่ะ เขาชื่อไรแล้วอยู่ม.ไหน"
"เขาชื่อณิชา 6/4 น่ารักนะคนนี้ มีคนตามจีบเพียบ"
ทิชากล่าวยิ้มๆ ก่อนที่จะเหลือบไปมองที่ณิชาอีกครั้ง เมื่อเธียรรู้ดังนั้นจึงเผยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาจนทิชาสัมผัสได้
"คนนี้ยากนะมึง มีแต่คนท็อปๆ มาจีบนาง"
ทิชาพยายามเบี่ยงเบนเพื่อนชายให้ละสายตาจากผู้หญิงคนนั้น ก่อนที่เสียงกริ๊งเลิกพักเที่ยงจะดังขึ้นขัดจังหวะ
กริ๊งงงง!!
"ไปมึง เข้าห้องเรียนเดี๋ยวนิภาด่าเอา"
"เออๆ รู้แล้วๆ"
เธียรตอบปัดๆ และเดินนำทางทิชาไปที่ห้องเรียนที่ต้องลงไปอีกชั้นนึง ร่างสูงหันหลังไปมองเพื่อนสาวที่ตามมาข้างหลังแล้วยิ้มออกมาอย่างนึกสนุก
เขาเดินให้ช้าลงและรอให้ทิชามาเดินข้างๆ เขา เมื่อร่างเล็กมาเดินเคียงข้างกับเขา มือนึงก็เอื้อมไปหยิบกระเป๋าสตางค์สีเขียวแก่ที่ใส่อยู่ในกระเป๋าเสื้อของเด็กสาวและวิ่งออกไปด้วยความเร็วจนเธอไม่ทันตั้งตัว
"เฮ้ย! ขโมยนี่หว่า!"
ทิชาพูดออกมาเสียงดังด้วยความตกใจและวิ่งตามเธียรไป แต่ตอนที่เขาวิ่งลงมาจากบันไดเพราะความประมาทที่มัวแต่หันหลังไปมองเด็กสาวที่วิ่งตามมาทางด้านหลังจนเขาเกือบชนกับคนผู้หนึ่งที่เดินสวนทางมาพอดีโดยที่ไม่ทันมอง
"อุ้ยพ่อมึง!!"
เขาอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อเขากำลังจะชนกับเด็กสาวตัวเล็กด้านหน้าของเขา แต่โชคยังดีที่เขาหยุดทันไม่งั้นเขาคงชนเธอเต็มๆ
"ข-ขอโทษครับ"
เมื่อเขาได้สติก็รีบกล่าวขอโทษคนผู้นั้นในทันที แต่ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือพรหมลิขิตที่สาวที่เขาชอบมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว
"อ่อ ไม่เป็นไรค่ะ"
ณิชาเอ่ยเสียงหวานก่อนจะยิ้มอ่อนๆ ให้เธียรและทำท่าจะเดินจากไป เมื่อเห็นสาวที่ชอบมาอยู่ตรงหน้าขนาดนี้ก็ไม่มีทางที่คนอย่างเธียรจะปล่อยให้โอกาสลอยหลุดมือไปแน่ๆ
"เอ่อ เรา..ขอไอจีหน่อยได้มั้ยอ่ะ"
"ได้สิ เอามือถือมาสิ"
เด็กสาวตอบทันควันเมื่อเขาเอ่ยถามเธอเหมือนเป็นสิ่งที่เธอต้องการตั้งแต่แรก ร่างสูงยืนมือถือให้คนตัวเล็กอย่างว่าง่ายจนทิชาที่ยืนมองอยู่ไกลๆ ถึงกับกุมขมับ
หลังจากที่ณิชาพิมพ์ชื่อไอจีในมือถือและคืนให้เขาแล้ว เธอก็ยิ้มอ่อนๆให้เขาและเดินจากไป เธียรมองตามเด็กสาวไปจนเธอลับตาก่อนที่ทิชาจะเดินมาหาเธียรหลังจากที่ยืนมองมานาน
"มองตาละห้อยเชียวนะมึง ไปเรียนได้แล้ว! สายขนาดนี้นิภาด่าตายเลย"
"น่ารักจัง"
เธียรก้มหน้าลงมองทิชาด้วยสายตาที่เป็นประกายระยิบระยับ อาการแบบนั้นของเขาทำเอาเธอหน้าแดงและหันไปมองทางอื่นทันที
"พ-พูดบ้าๆ เพ้อไรของมึงเนี่ย"
ทิชาเอ่ยเสียงตะกุกตะกักและยกมือขึ้นถูของคอของตัวเองไปมาเพื่อแก้เขิน หลังจากที่เธอคิดว่าคนที่เธอชอบเอ่ยชมเธอ
"ณิชาน่ารักจังเลยอ่ะมึงงง"
เธียรพูดขึ้นและบิดไปมาจนทิชาที่เข้าใจผิดในทีแรกหน้าแตกละเอียด เธอถอนหายใจก่อนจะจับมือหนาของเพื่อนชายที่ยืนบิดไปมาและลากไปที่ห้องเรียนอย่างยากลำบาก
'แกคงชอบเขามากเลยสินะ ถึงได้เสียอาการขนาดนี้'
[1คอมเม้น\=1กำลังใจ]
:]
อมก.ปล่อยตอนแรกไปแล้ว ตอนแรกมาสั้นๆ แต่ได้ใจความ รู้สึกตื่นเต้นมากๆ ถึงมากที่สุด จังหวะตกหลุมรักเว่อร์อ่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเรื่องราวเล็กๆน้อยๆในชีวิตไรท์คนนี้นะฮ้าฟฟู่ว ช่วยเพิ่มเรื่องนี้ลงชั้นหนังสือด้วยนะคะ จุ๊บ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments