มาเฟียโหดอยู่ในโหมดคลั่งรัก
“เอย แกร้องทำไมวะ ใครทำอะไรแก”สายไหมที่เห็นเพื่อนนั่งร้องไห้อยู่คนเดียวใต้ตึกคณะ
“ฉัน…ฉันไม่เป็นอะไรหรอกแก”
“อย่าโกหกฉัน แกบอกฉันสิ ใครทำอะไรแก ฉันจะไปด่ามัน”
“คือว่า….”
10นาทีก่อนหน้า
“ต้น ทางนี้ เอยอยู่นี่”ฉันที่เห็นต้นกำลังมองหา จึงเรียกเขา
ต้นกำลังเดินตรงดิ่ง กึ่งวิ่งมาทางเอยเหมือนรีบร้อน
“เอย…เราเลิกกันเถอะ”
เหมือนใจฉันแตกสลายรักแรกของฉันกำลังบอกเลิกฉันงั้นหรอ ทำไม ทำไมกัน
“ทำไมละต้น เอยทำอะไรผิด”
“พอเถอะวะ เอย แม่งเธอปัญญาอ่อนแบบนี้ไง ฉันเป็นถึงนักบาสมหาลัยเลยนะเว้ย จะมาคบกับคนซื่อบื้อแบบเธองั้นหรอ ไม่มีแม้แต่เสน่ห์เลยซะนิด”
“แต่…แต่เมื่อก่อน ต้นชมที่เอยเป็นแบบนี้ ทำไมตอนนี้ถึง…”
“ต้นจะบอกอะไรให้เอาบุญนะเอย ต้นมีคนใหม่แล้วเว้ย สวยกว่าเก่งกว่า รวยกว่าเธอด้วย นักกีฬาแบบฉันก็ต้องเหมาะกับคนแบบเขา มากกว่าเธอร้อยเท่าพันนั้นแหละ จำใส่กระโหลกไว้”
“ไม่นะ ต้น อย่าทิ้งเอยไปสิ เอยรักต้นนะ เรารักกันไง จำไม่ได้หรอ” ต้นสะบัดมือเอยออกอย่างแรง
“จบเหอะวะ ฉันไม่เคยรักเธอ เพราะเธอเป็นแบบนี้ไง แค่บอกรัก เธอก็คิดไปเอง ว่าฉันรักเธอ เธอมันโง่ไงเอย เหอะ ไอ้ลูกแม่บ้านแบบเธอไปให้พ้นซะต่อไปอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก”
พูดจบต้นก็เดินทิ้งเอยไว้ลำพัง
——————————————————
“อืออออ ฉันผิดมากหรอ ฉันทำอะไรผิดงั้นหรอไหม”
“แกไม่ผิดๆ ไอ้เวรนั้นต่างหากที่ผิดมันมีคนอื่นแล้วมาบอกเลิกแกไง ไม่ร้องนะๆ”
“อือออ..อึก อึก….อือ ฉันมันต่ำต้อยใช่ไหมที่เกิดมาเป็นได้แค่ลูกแม่บ้าน”
“แกจะบ้าหรอ ไปฟังอะไรมัน แม่เลี้ยงแกมา ส่งแกเรียน แกจะดูถูกท่านทำไม”
“ฉันไม่เคยเสียใจที่เป็นลูกแม่ แต่ทำไมเขาต้องพูดว่าแม่ฉันแบบนั้นด้วย เรื่องนี้แหละที่ทำให้ฉันเสียใจ”
“เอาน่าา แก ใครจะรักแกไม่รักแก แต่แกมีฉันนะเว้ย ที่รักแก แม่แกก็รักแกมาก อย่าเอาชีวิตไปฝากไว้กับไอ้ผู้ชายพันธุ์นั้นเลยเชื่อฉันนะเอย”
“อืออออ…แต่ฉันก็เสียใจอยู่ดี เราคบกันมาตั้งหลายปี จู่ๆมาบอกว่าฉันไม่เหมาะสม โคตรทุเรศเลยวะ”
“ไม่เป็นไร แกเลิกกับมันได้ก็ดี ฉันก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้ามันเท่าไร”
“พวกเรากลับหอกันเถอะ ฉันอยากกลับละ”
”เออนิเอย…”
“หึ อะไรหรอแก”
_____________________________________
“แกยังจำศาลเจ้าแม่ฟ้าประทานหลังม.เราได้ไหม”
“อือๆเราเคยขับรถผ่าน ทำไมวะ”
“ก็ฉันเคยได้ยินมาว่าเจ้าแม่ศักดิ์สิทธิ์มาก ขออะไรก็ได้ตามที่ขอ ถ้าเรื่องความรักอันดับ1เลยนะเว้ย แกลองไปขอดูไหม”
“จะดีหรอวะ ฉันมันก็แค่ลูกแม่บ้านคนนึงใครจะมารักฉันจริงกันละ”
“แกเลิกดูถูกตัวเองได้แล้ว เลิกเอาคำพูด ไอ้เลวนั้นมาคิดซะ มันเลิกกับแกได้ ถือว่าเป็นโชคดีของแกผู้ชายอะไร เกาะแต่ผู้หญิงกิน เรียนก็โง่ แถมแกยังต้องทำรายงานแทนอีก เชื่อฉันลองดูสักครั้ง ฉันจะไปเป็นเพื่อนแกเอง”
“…..อือฉันจะลองดู”
บอกตามตรงฉันก็ไม่ค่อยเชื่อเรื่องแบบนี้เท่าไรนักแต่ก็ไม่ลบหลู่ ไม่รู้ว่าท่านจะมีจริงหรือไม่?
——————————————————-
“แกจำศาลเจ้าแม่ฟ้าประทานหลังม.เราได้ไหม”
“อือๆเราเคยขับรถผ่าน ทำไมวะ”
“ก็ฉันเคยได้ยินมาว่าเจ้าแม่ศักดิ์สิทธิ์มาก ขออะไรก็ได้ตามที่ขอ ถ้าเรื่องความรักอันดับ1เลยนะเว้ย แกลองไปขอดูไหม”
“จะดีหรอวะ ฉันมันก็แค่ลูกแม่บ้านคนนึงใครจะมารักฉันจริงกันละ”
“แกเลิกดูถูกตัวเองได้แล้ว เลิกเอาคำพูด ไอ้เลวนั้นมาคิดซะ มันเลิกกับแกได้ ถือว่าเป็นโชคดีของแกผู้ชายอะไร เกาะแต่ผู้หญิงกิน เรียนก็โง่ แถมแกยังต้องทำรายงานแทนอีก เชื่อฉันลองดูสักครั้ง ฉันจะไปเป็นเพื่อนแกเอง”
“…..อือฉันจะลองดู”
“งั้นเราไปกันคืนนี้เลย…จะได้เลิกร้องไห้แล้วเดินหน้าต่อ”
“เดี๋ยวๆแกจะรีบไปไหน ฉันเพิ่งโดนบอกเลิกเมื่อ10นาทีที่แล้วเองนะ ให้ฉันจมปรักกับการเสียใจหน่อยไหม”
“เสียใจอะไรละคนแบบนั้นไม่คู่ควร เลิกแล้วก็แปลว่าโสด คนโสดก็ต้องมีคนคุยมีคนมาดามใจ ไปคืนนี้เลย”
“ว่าแต่ ทำไมต้องไปคืนนี้ หมายถึงกลางคืนอะนะ ไปกลางวันไม่ได้หรอ ฉันแอบกลัวนะ”
“ไม่ได้ๆๆ คนที่เล่าให้ฉันฟัง แกบอกว่า เวลาจะไปขอพรหรืออะไรเนี่ย ให้ไปช่วงมืดจะศักดิ์สิทธิ์มาก”
“ใครบอกแก”
ณ ฮวงซุ้ยแห่งหนึ่ง
“ยายหนูๆเอ็งนั้นแหละ…..เพื่อนเอ็งกำลังจะโดนบอกเลิก ถ้าเพื่อนเอ็งโสด บอกมันนะว่าให้มาที่ศาลเจ้าแม่ เจ้าแม่ท่านอยากช่วย”
“เอ๊ะ คุณตาหมายถึง เอิงเอยหรอคะแล้วคุณตารู้ได้ยังไงคะ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
“บะ เอ็งนิก็ข้าบอกอยู่นี้ไงวะ”
“ค่ะๆถ้าเกิดขึ้นจริงหนูจะบอกเพื่อนหนูนะคะ”
“แล้วเอ็งไม่ต้องสาระแนไปบอกมันละว่ารู้มาจากข้า บอกมันแค่ว่า บังเอิญได้ยินหรืออะไรก็แล้วแต่เอ็ง ออลืมบอกพาเพื่อนเอ็งไปตอนมืดๆหน่อยนะ ข้าไปละ”
“ค่ะๆคุณตา”แล้วคุณตาก็เดินไป
“อะไรของเขาวะ”สายไหมบ่นพึมพำ
———————————————————
“เออน่าาา ใครจะบอกก็ช่าง เอาเป็นว่าเจ้าแม่ศักดิ์สิทธิ์จริงๆแกเชื่อฉัน ฉันหวังดีกับแกเสมอ”
“โอเคๆ งั้นไปคืนนี้เลย ถ้าฉันได้แฟนดีนะ ฉันจะควงมาเย้ยหน้ามัน”
“เยี่ยมมากค่ะเพื่อน เอิงเอยที่ฉันรู้จักมันต้องแบบนี้สิวะ”
ตกกลางคืน
20:00น.
“เอย…เสร็จรึยังแต่งตัวอะไรนานขนาดนี้เนี่ยแค่ไปขอพรเจ้าแม่เอง….นะ”สายไหมที่ตะลึงกับชุดของเอิงเอย
“….ชุดนี้โอเคไหมแก”
“โอเค…โอเคกับผีอะไรละ แกแต่งตัวอะไรของแกเนี่ยห๊ะ…นุ่งขาวหม่ขาวแกจะไปเดินธุดงค์หรอไง”
“อ้าว แล้วฉันต้องแต่งแบบไหนละ”เอิงเอยที่งงว่ากำลังทำอะไรผิด
“โอ๊ย แกนี่นะ ซื่อบื้อจริงๆ เมื่อไรแกจะคนเดิมจะกลับมาซักที ก็แต่งปกติ เสื้อยืดกางเกงยีนส์ก็ได้แล้ว อะนี่เอาไป เข้าไปเปลี่ยนเร็วๆเลย เดี๋ยวจะดึกกว่านี้”
เอิงเอยรับชุดจากสายไหมแล้วรีบเข้าไปเปลี่ยนให้ห้องน้ำทันที
5นาทีต่อไป
“สายไหม เสร็จแล้วไปกันเถอะ อ้าวพี่ทีมาตอนไหนคะเนี่ย”
“พี่เพิ่งมาถึงเมื่อกี้เอง เสร็จแล้วหรอ พวกเราไปกันเถอะไหม”
“โอ๊ย…เสร็จสักทีนะย๊ะ ไปกันเถอะ”
พวกเราสามคนรีบลงจากห้อง เดินไปขึ้นรถ ขับโดยไม้ทีหรือพี่ที(แฟนสายไหม)สายไหมนั่งเบาะหน้าส่วนฉันนั่งเบาะหลัง
“ว่าแต่น้องเอยเชื่อเรื่องแบบนี้ด้วยหรอครับ พี่ไม่ยักรู้เลย”
“ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ ไหมมันแนะนำเพราะเห็นเอยร้องไห้ที่โดนบอกเลิก”
“ครับเรื่องนั้น ไหมเล่าพี่แล้ว อย่าไปใส่ใจคนแบบไอ้ต้นเลยนะ คนดีๆมีอีกเยอะครับ ผู้ชายไม่ได้มีคนเดียวในโลก พี่เอาใจช่วยนะ”
“ใช่ๆพี่ทีพูดถูก แกฟังไว้ยัยเอิงเอย”
“จ้าๆ”
ขับมาสักระยะ พวกเราก็ใกล้ถึงหลังมหาลัยกันแล้วเป็นเส้นทางที่พวกเราขับกลับห้องกันเป็นประจำ แต่ตอนกลางวันกับกลางคืนบรรยากาศมันช่างแตกต่าง ตอนนี้มันดูมีมนต์ขลังอย่างบอกไม่ถูก
พวกเราสามคนลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในศาลเป็นศาลที่ทางมหาลัยมีการจัดสรรงบ มาทำก่ออิฐ ฉาบปูน มีต้นไม้ ดอกไม้ แสงไฟสีส้มๆตามเสาที่ทอดยาวริมทางเดินไปยังศาลเจ้าแม่ มันดูมีอะไรจริงๆ
จู่ๆสายไหมก็พูดขึ้นท่ามกลางความเงียบ
“แต่มันก็แอบน่ากลัวเหมือนกันนะ มาเวลานี้ไม่มีคนครึกครื้นเหมือนตอนกลางวันจริงๆด้วย ดีนะที่พี่ทีมาด้วย”
ไม้ทีแอบขำเบาๆ “พี่อยู่นี่ กลัวอะไร เจ้าแม่ท่านไม่ทำอะไรคนทำดีคิดดีหรอก เชื่อพี่สิ”
ฉันที่เดินตามหลัง มองดูรอบๆกลับรู้สึกไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดไว้
“นอกซะจากแกจะคิดไม่ดี หรือแกคิดไม่ดีห๊ะ ยัยไหม”
“แกจะบ้าหรอ ยัยเอยฉันไม่เคยทำอะไรไม่ดีนะย๊ะ”
ไม้ทีกับเอิงเอย แอบขำที่สายไหมมีท่าทีกลัวขึ้นมาซะงั้น ตัวเองอยากมาด้วยแท้ๆ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments