Shark Zone
JENNY
@APARTMENT A
'สักวันหนูจะพบกับเจ้าชาย คนที่รักลูกจากใจจริง เหมือนที่แม่ได้พบกับพ่อ'
'เชื่อเเม่นะ คนนั้นของเราไม่ว่าจะอยู่ที่มุมไหนของโลก สักวันเขาจะกลับมาหาหนูเอง'
"มึง" เสียงของรูมเมทร่วมห้องดังขึ้นขัดห้วงความคิดที่ตีกันอย่างสับสน เสียงที่เข้มขึ้นเล็กน้อยบอกว่าอีกฝ่ายเริ่มไม่พอใจที่ถูกเมิน
เพื่อนสนิทฉันหรือพลอยยืนกอดอกถือชีทที่น่าจะเป็นวิชาอังกฤษถ้ามองจากปก แล้วหันมาบอกเสียงเรียบ
"ตื่นแล้วไปรายงานตัวด้วย"
"อ่าฮะ.." ฉันตอบแค่นั้นมองแผ่นหลังของคนผมสีบลอนด์ชวนแสบตาทั้งที่ไม่มีเชื้อต่างชาติเดินหายลับไปโดยไม่ฟังคำตอบ
ซึ่งการที่อีเจนนี่เมาเป็นศพแบบนี้คงเป็นเรื่องเคยชินของเจ้าพวกนั้นแล้ว ถึงไม่รู้ว่าตัวเองกลับมาห้องยังไงแต่มั่นใจว่าคนที่แบกขนศพกลับมาคงไม่พ้นพลอยไม่ก็ไอซ์เพื่อนรักเพื่อนซี้ของฉันแน่นอน
ฉันรีบคว้าผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำเปลี่ยนสภาพเน่าๆ ของตัวเองในตอนนี้ให้กลายมาเป็นเจนนี่คนเดิมในสภาพปกติ หลังจากเฮิร์ทเพราะผิดหวังในรักครั้งที่เจ็ดสิบแปด
ตั้งแต่ตัดสินใจคบแฟนคนแรกตั้งแต่ม.2 ก็ไม่เคยหาดีได้สักคน สุดท้ายมาถึงวัย20ฉันก็เริ่มสงสัยคำว่ารักแท้ในนิยามของแม่ขึ้นมาบ้าง
มันจะมีคนแบบนั้นจริงนะหรอ ในโลกในสังคมที่ไม่ว่ากี่คนก็จบที่เตียงนอนแบบนี้
ต้องยอมรับว่าฉันไม่ใช่คนใสโลกสวย อ่าแน่นอนว่าทุกคนคงรู้แล้ว ฉันเชื่อเรื่องที่ผู้หญิงมีสิทธิ์เท่าเทียมกับผู้ชายและเยื่อบางนั้นก็แค่ความเชื่อไร้สาระ ที่ล่อให้พวกผู้ชายนักสะสมออกมาตามล่าความบริสุทธิ์
เมื่อผู้ชายสามารถเปลี่ยนผู้หญิงไม่เลือกหน้าได้ ทำไมอีเจนนี่คนนี้จะทำบ้างไม่ได้ในเมื่อฉันก็มีสองมือสองเท้าและหน้าตาที่ดีเหมือนๆ กัน
"ขอปรบมือต้อนรับการกลับมาของคุณพี่เจนนี่ด้วยคร้าบบบ"
เสียงร่าเริงสดใสอย่างน่าถีบดังขึ้นจากลีโอเด็กเหี้ยคนเดิมที่ตอนนี้มานอนกลิ้งในห้องรวมของหอฉันอย่างสบายใจเชิบประหนึ่งเป็นหอของมันเอง ซึ่งความจริงตอนนี้...
ก็มีสมาชิกครบองค์อ่ะเอาจริง ทั้งคนในหอทั้งคนในวงที่เฮกันมาเปลี่ยนที่เล่นเกมส์
และเหมือนสมาชิกในหอนี้มีบุพเพอาละวาดหรืออะไรสักอย่าง คนในหอถึงมีสายใยเชื่อมเอาไว้ด้วยคำว่าเพื่อนของเพื่อนของเพื่อน หรือเพื่อนของพี่ หรือน้องของพี่ เอาเป็นว่าแต่ละคนเนี่ยรู้จักกันดีเพราะมาจากมัธยมSเหมือนกัน
แต่ก่อนถ้าเดินเจอกันก็รู้จักชื่อเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน
ซึ่งพูดตรงๆ อ่ะว่าเหมือนคัดที่หน้าตาเอาจริง แต่ละคนดีกรีดาวเดือนของคณะทั้งน้านน
"จะมากันทำไมวะ.."
"โห่ รู้ไหมพวกผมนี้มาเพราะความเป็นห่วงล้วนๆ" ลีโอพูดขึ้นเถียงคล้ายเจ็บช้ำน้ำใจที่ฉันเคลือบแคลงในความห่วงใยของมัน
"ขอความจริง" ไอฉลามหันไปเลิ่กคิ้วถามเหมือนตบมุขให้
"พอดีอยากเสือกอ่ะคับ"
นั้น..
ส่วนคนอื่นในหอก็คงมาเหตุผลเดียวกัน เมื่อกว่าเป็ดสิบเปอร์เซ็นต์มีพื้นฐานคือใจหยาบและอยากรู้อยากเห็นเรื่องชาวบ้านแบบสุดๆ
เหมือนพวกมันไม่ได้เสือกแล้วนอนไม่หลับอ่ะ
"มึงกินไรยัง" คนที่นั่งอยู่กลางวงหันมาถาม ไม่ว่าเปล่ามันโยนโทรศัพท์ไว้บนโซฟาแล้วเดินไปหยิบกล่องข้าวผัดออกมาจากถุงแล้วเทใส่จาน
"มึงมานี้.." ไอฉลามดีกรีมือกีตาร์ของวงตบที่ว่างเก้าอี้บนโต๊ะกินข้าว ดวงตาคมเข้มปนดุของมันที่ฉันชอบบอกว่าเหมือนตาของฉลามมองมาเหมือนออกคำสั่งกลายๆ
ไอฉลามคือ... มึงเป็นพ่อกูมากจ้า
ฉันเบะปากแต่ก็ยอมเดินไปนั่งตามคำสั่งมันโดยดี ต้องยอมรับกว่ากลิ่นหอมยั่วน้ำลายของข้าวผัดทำให้ฉันที่ไม่หิวเริ่มหิวขี้นมาไม่น้อย
ขณะที่ฉันกำลังกินมันก็วนเวียนมาใกล้ หายางรัดผมจากไหนไม่รู้มารวบผมยุ่งๆ ของฉันขึ้นปากบ่นไปตามประสาของมัน
"มึงจะกินผมไปด้วยรึไง .. เนี่ยหล่นไปในข้าวผัดแล้ว" มันพูดทั้งที่คิ้วเริ่มกองไปรวมกันยุ่ง ซึ่งสำหรับฉันแล้วมันก็ออกจะปกติ ไม่ได้ผิดแปลกตรงไหน
ฉันหันมาให้ความสนใจในการตักข้าวผัดเข้าปากโดยเมินสายตากึ่งแซวกึ่งล้อเลียนของคนเกือบทั้งห้อง
ไอพวกนี้ก็ขยันใส่ฟิวเตอร์ชิบหาย...
อีกเดี๋ยวต้องมีคนเอ่ยแซว
"แหนะๆๆ เขามีโมเม้นท์กันนน"
นั้น ... ไม่ทันขาดคำสายชงที่ชงแหลกแหกโค้งอย่างมิวสิกก็เปิดงานมาคนแรก ตามด้วยพลอยที่แม้ตอนนี้จะลอกงานตามด้วยส่องหนุ่มสองจอแล้วยังยื่นปากมาแซวต่อได้
"เพื่อนไม่เจรงงง"
เมื่อสองคนแรกเปิดคนอื่นก็ตามมาระงมเหมือนงานเทศกาลอะไรสักอย่างที่มีฉันเป็นศูนย์กลางให้คนอื่นเพ็งเล็ง
"ยังไง~ มีพิรุธน้าเจนนี่"
โสนว์เงยหน้าขึ้นจากการกดโทรศัพท์แล้วกระโดดมาร่วมวงด้วยท่าทางที่เลียนแบบเจ้าพวกนี้ล้วนๆ พออยู่กันนานเข้าเหมือนเชื้อจะเเพร่สู่เพื่อนร่างเล็กทำให้กลายเป็นพวกขี้เเซวกับเขาด้วย
แต่ท่าทางหลิ่วตามองด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มหรือชุดนอนหมีพูห์ลิขสิทธิ์แท้ที่คอเสื้อตัววีนี้ลึกจนเห็นลำคอขาวๆ นี้ทำให้พวกเหี้ยมองตาค้างเอาจริง
"ตายแล้วกระต่ายหอกู..." พลอยวางปากกาหันมาเอามาทาบอกเหมือนแม่ที่รับไม่ได้เรื่องการแต่งตัวลูกสาว
ซึ่งคำว่ากระต่ายคือนิยามที่ทุกคนพร้อมใจจะมอบให้สโนว์ข้อหาบุคลิกที่ใสซื่อปานประหนึ่งกระต่าย
ส่วนลีโอตัวดีที่ตอนแรกตั้งหน้าตั้งตาเป็นสายเเทงค์เกมส์ก็เริ่มมึนเบลอค้างโฟกัสจนอีกนิดคือแม่งเดินไปจับกระต่ายกด
...แต่ถ้าทำงั้นมันคงได้กินยำตีนจากคนในหอที่สหบาทาใส่มัน เมื่อตอนนี้โนว์เหมือนกับเป็นชื่อศักดิ์สิทธิ์ฐานะลูกสาวสาธารณะที่พวกพ่อแม่พี่น้อง (ไม่จริง) ทั้งหลายหวงยิ่งกว่าอะไร
ทั้งที่กว่าครึ่งห้องทั้งตัวและหัวใจพวกมันอยู่ในที่ดำล้วนไม่มีเทาปน คงอยากจะรักษาแสงสว่างเดียวในหอเอาไว้มั้ง
"แล้วโนวจะไปยุ่งอะไรกับเขา .. รีบกดเร็วเกมส์จะโอเวอร์แล้วเนี่ย"
เจ้าที่คนแรกนั่งขนาบซ้ายคือชีที่ล้อกับคำว่าshe ด้วยลักษณะเรียบร้อยพูดน้อยไม่ต่างกันเท่าไร แต่ที่ต่างคือกร้านโลกมากกว่า น่าจะเพราะเป็นเพื่อนกับมิวสิกเลยรู้เห็นอะไรมาเยอะ
เพื่อนสนิทชิดเชื้อที่ปกป้องยิ่งกว่าแม่หวงลูกสาว ด้วยส่วนสูงที่ต่างกันถึงสิบเซ็นต์พอยืนใกล้กันก็เข้าเค้า
ส่วนทางขวาขนาบด้วยไอซ์ เด็กผมสั้นหน้าตาน่ารักไม่ต่างกันแต่หน้าเรียบนิ่งเดาอารมณ์ยากกว่าโนวและต้าร์เยอะ
แถมตอนนี้มันเริ่มทำหน้าที่ผัวหยิบเสื้อคลุมมาคลุมร่างเล็กที่อยู่ตรงกลางเอาไว้ ปากบอกว่าชอบต้าร์ชอบต้าร์ แต่เอาจริงดูแลโสนว์เหมือนภรรยาท้องแก่ ขนาดตีลังกามองมาจากดาวอังคารยังรู้อ่ะเอาจริง
"ง่า ตาร์ขี้บ่นจังอ่ะ" โนวย่นจมูกพองแก้มเหมือนตอนกระต่ายตุนแครอทไว้ในปาก ขณะที่ไถตัวเอนพิงไหล่ของไอซ์เอาไว้ตามความเคยชิน
ซึ่งไม่ว่าไอซ์จะชอบต้าร์หรือโนวก็รักสามเส้าเราสามคนสัสๆ ขอไว้อาลัยแด่ความรักของมันห้าวิ
ส่วนพวกคนอื่นที่พอมีประเด็นก็พี่เจ้าขุนกับพลอย ... คู่กัดคู่กันมาตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยจนตอนนี้ปีสองยังกัดกันได้กัดกันดี ถ้านี้หักมุมมาคบกันคือจะหัวเราะให้
"คนเรานะครับขนาดรายงานยังลอกเพื่อน แล้วชีวิตนี้จะทำอะไรด้วยตนเองได้"
"พี่นี้...มีคนเคยบอกว่าขี้เสือกไหมคะ" พลอยชะงักมือแล้วเลยหันกลับมาด้วยรอยยิ้มไม่ถึงแววตา
ดูท่าเจ๊แกกำลังโกรธเต็มที่ ซึ่งพี่ขุนที่โครตแสนสุภาพบุรุษกับทุกคนยกเว้นพลอยก็กระตุกยิ้มมุมปากขึ้นแบบเเบดบอย
คือพี่แกก็ลอยไปลอยมาเจ้าชู้ตามประสาคนโสดนั้นแหละ..
"ผมว่าผมก็พูดลอยๆ นะ น้องจะรับเองทำไม"
"ขุน..กูว่าหม้อในครัวเยอะแล้ว มึงไม่ต้องหาเพิ่มหรอก" เสียงเฮียใหญ่ดังขึ้นขัด เห็นมุมปากของพี่จอมกระตุกเล็กน้อยตามประสาคนเย็นชา ไร้อารมณ์ซึ่งพอรวมกับเส้นสายพี่แกที่ใหญ่ยาวตั้งแต่กรุงเทพยันเชียงใหม่ก็เหมาะสมกับอาชีพของพี่แก
เจ้าของคลับบาร์หลายแห่งซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัวซึ่งมันทั้งขาวดำปะปนไป ส่วนเรื่องลึกกว่านี้ต้องบอกว่าไม่รู้จริงๆ
"มึงนี้หาเรื่องตลอด" พี่พูดน้อยอีกคนพูดขึ้นพลางส่ายหัว ดูแสดงอารมณ์มากกว่าพี่จอมไม่น้อย แต่สองคนสนิทกันตามประสาสายรหัสคนสนิท ..พี่วาฬ
หัวหน้าเฮดว๊ากวิศวกรปีสาม
ด้วยหน้าที่ดุสมตำแหน่งเลยไม่ค่อยมีใครในห้องกล้ายุ่งกับพวกเฮียแกเท่าไร
ส่วนการที่พวกคนทรงอิทธิพลทั้งหลายแหล่ในหอรวมตัวกันวันนี้คงไม่พ้นเรื่องของฉันที่อกหักอีกแล้ว
แถมเมื่อวานก่อนยังไปร้องไห้กลางเวทีอย่างน่าขายหน้าตอนร้องเพลงภาพจำ
และพวกพี่แกก็ยังมอบน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ มาให้ด้วยการมาดูอาการเผื่อฉันที่ทนกับการถูกนอกใจทนไม่ไหวยื้นขออนุมัติการเข้ารักษาตัวที่รพ.เพื่อพักใจ
ฉันกระตุกยิ้มเมื่อคิดว่าเห็นพวกพี่ชั้นสามครั้งล่าสุดเมื่อสามเดือนที่แล้ว
สามเดือนที่รักครั้งใหม่เริ่มต้นและสิ้นสุดลง
เหนื่อยวะ....
"มึงมานี้มา.." ฉลามตบพื้นบริเวณข้างมันเหมือนกับจะบอกให้ฉันไปนั่งตรงนั้น ซึ่งฉันก็ยอมเดินไปตามที่มันบอก
ขี้เกียจเถียง
ปล่อยใจให้พักสักครั้ง
ให้ความหลังมันจางในใจ
ภาพวันที่รับไม่ไหวค่อยค่อยลบให้ใจไม่จำ
เสียงเพลงดังขึ้นแทนที่ความว่างเปล่า ฉันเปิดตาขึ้นมองมันด้วยแววตาประหลาดใจ เห็นไอหลามกำลังจัดเรด.. หูฟังบลูทูธคู่ใจมันใส่ให้เข้าหูฉันท่าท่าจริงจัง ก่อนที่มันจะเลื่อนมือมากดหัวฉันลงซบหัวมัน
'มึงกำลังปลอบใจกู?'
สายตาฉันอ่านได้แบบนั้น แต่นอกจากมันไม่ตอบแล้วยังถามกลับ
"ไม่นอน?"
"...."
ฉันเหนื่อยเกินไปกว่าจะปฎิเสธ สุดท้ายก็ได้แต่ทิ้งตัวลงแล้วหลับตาอย่างเหนื่อยออก ปล่อยให้ตัวเองอยู่กับความเงียบ เพื่อ'พักใจ'
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments