บทที่ 16 งายสมรส

งานสมรส

เช้าวันใหม่ที่สดใสขึ้นมากกว่าเดิมของเจียงลู่จิวได้เริ่มต้นขึ้น หลังจากรับฟังสิ่งที่มารดาอธิบายไปเมื่อคืนเด็กหนุ่มเข้าใจบิดามากขึ้น แต่ยังคงวางท่าที่ไว้เหมือนเดิมแต่ถือได้ว่าอ่อนลงมากแล้วเช้าตรู่ของวันนี้เจียงลู่จิวยืนอยู่หน้าเรือนของท่านอาจารย์หลาน เพราะคำสั่งอาเหนียงเมื่อคืนว่าให้เข้าไปพบท่านปู่เล็กเป็นการส่วนตัวด้วย และนั่นทำให้เด็กหนุ่มต้องมาหาท่านอาจารย์ก่อนถึงเวลาเรียน

"อรุณสวัสดิ์ลู่จิว" หลานจิ่งอี๋ซึ่งปกติแล้วเป็นผู้ติดตามหลานฉี่เหรินทักทายขึ้น

"มาหาท่านอาจารย์หรือ..เข้าไปสิท่านอาจารย์รออยู่"

"อรุณสวัสดิ์จิ่งอี๋ซยง..." เด็กหนุ่มทักทายเสียงใสขึ้นกว่าเดิม ก่อนจะเดินผ่านหลานจิ่งอี๋เข้าไปในเรือน

เจียงลู่จิวรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ถึงแม้ว่าท่านอาจารย์หลานฉี่เหรินเรียกเขาเข้าพบบ่อยครั้ง แต่ทุกครั้งคือการพบปะกันแบบอาจารย์และลูกศิษย์ แต่ไม่ใช่กับครั้งนี้เด็กหนุ่มเดินเข้าไปภายในเรือนพบว่าหลานฉี่เหรินนั่งรอตนอยู่แล้ว

"คาราวะท่านอาจารย์หลาน" เด็กหนุ่มนั่งลงคำนับกับพื้น

เจียงลู่จิวรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ถึงแม้ว่าท่านอาจารย์หลานฉี่เหรินเรียกเขาเข้า พบบ่อยครั้ง แต่ทุกครั้งค็อการพบปะกันแบบอาจารย์และลูกศิษ แต่ไม่ใช่กับครั้งนี้ เด็กหนุ่มเดินเข้าไปภายในเรือนพบว่าหลานฉี่เห็นนั่งรอคนอยู่แล้ว

"คาราวะท่านอาจารย์หลาน" เด็กหนุ่มนั่งลงค่านับกับพื้น

"ไม่ต้องมากพิธี มานี่สิ มาให้ข้ามองหน้าเจ้าใกล้ๆ" หลานฉี่เหรินโบกมือเรียก

เด็กหนุ่มเข้าไปหา เจียงลู่จิวค่อยๆคลานเข่าเข้าไปใกล้

"เหมือนมากจริงๆ จากวันแรกจนถึงวันนี้ข้ายังยืนยันว่าเจ้าเหมือนซีเฉินมาก"หลานฉี่เหรินลูบหัวเด็กหนุ่มอย่างเอ็นดู เจียงลู่จิวได้แต่นิ่งเงียบ

"ปู่ขอโทษเจ้า เป็นเพราะการอบรมสั่งสอนของข้าเอง ที่ทำให้เตี๋ยเจ้ายึดมั่นในคำสอนเกินไปจนละเลยชีวิตของตัวเอง" หลานฉี่เหรินกล่าวขอโทษเด็กหนุ่มออกมา จะว่าไปเขาก็มีส่วนผิด เขาสอนหลานชายทั้งสองให้ยึดมั่นกับกฎสกุลจนตึงมากเกินไป

"มิใช่ความผิดท่านอาจารย์หรอกขอรับ ไม่มีใครผิดทั้งนั้น มันคงเป็นเรื่องของโชคชะตา" เจียงลู่จิวส่งยิ้มให้หลานฉี่เหรินเพื่อให้ปู่เล็กของเขาสบายใจ

"ยิ่งเวลาเจ้ายิ้ม เจ้ายิ่งเหมือนซีเฉิน...เรียกข้าว่าท่านปู่เล็กเถิด เจ้าเป็นหลานข้า เรียกข้าห่างเหินเช่นนี้..น่าน้อยใจนัก"

"ขะ..ขอรับท่านปู่เล็ก" เสียงใสของเจียงลู่จิวสั่นเล็กน้อยอย่างตื้นต้นใจ

"ดีมาก...เจ้าไปเรียนเถิด เดี๋ยวจะสายเอา"

"ขอรับ" เจียงลู่จิวคำนับหลานฉี่เหรินอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นยืนเพื่อจะเดินออกไปแต่ยังไม่ได้ก้าวเท้าออกเดินก็รับรู้ถึงการมาของใครบางคนจากข้างหลังตนเจียงลู่จิวหันกลับไปมอง เมื่อพบว่าเป็นใครเด็กหนุ่มรู้สึกเลิ่กลั่กขึ้นมาทันใด ไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไรได้แต่ห้นซ้ายที่ขวาทีจนหลานซีเฉินยิ้มเอ็นดูออกมา

"ค..คาราวะ..เจ๋ออู๋จวิน" เด็กหนุ่มคำนับพร้อมหลบสายตามองลงต่ำ หลานซีเฉินเข้าใจดีว่าลูกทำตัวไม่ถูกกับสถานะใหม่ของพวกเขา 

"ข...ข้าขอตัว"

"อาลู่...."หลานซีเฉินเรียกเจียงลู่จิวไว้เมื่อเด็กหนุ่มกำลังเดินผ่านตนออกไปเจียงลู่จิวหยุดเดินแต่ไม่หันกลับมามอง

"ขอรับ"

"เจ้าไม่อยากเรียกเตี่ย ว่าอาเตี๋ยก็มิเป็นไร" น้ำเสียงหลานซีเฉินยังคงเจือไปด้วยความอบอุ่น

 "..แสดงว่าเจ้ายังคงโกรธเตี่ยอยู่...อาเตี๋ยขอเจ้าสักอย่าง อย่าทำท่าทีห่างเหินกันอย่างนี้ได้หรือไม่"

เจียงลู่จิวหันกลับมามองบิดาของตนทันทีเมื่อฟังจบ เมื่อบุตรชายหันกลับมาหลานซีเฉินก็เผยรอยยิ้มให้บุตรชาย เจียงลู่จิวมองรอยยิ้มนั้นแล้วนิ่งไปสักพักก่อนจะเอ่ยออกมา

"ข้าไม่โกรธท่านแล้วขอรับ...แต่ลู่จิวขอเวลาสักพัก" เจียงลู่จิวบอกออกมาตามตรง แม้จะเป็นคำตอบที่ดูห่างเหิน แต่หลานซีเฉินรับรู้ได้ว่าบุตรชายของตนนั้นเปิดใจให้ตนแล้วแม้เล็กน้อยก็ตาม อย่างน้อยฟูหยกที่ห้อยอยู่ตรงสายคาดเอวของเด็กหนุ่มนั้นก็บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าอีกไม่นานบุตรชายของเขาต้องยอมรับเขาทั้งใจ

"ได้เท่านี้ก็ดีมากแล้ว...เจ้าไปเรียนเถิด.." เด็กหนุ่มพยักหน้ารับและเดินออกไปหลานซีเฉินหันมาคำนับหลานฉี่เหรินที่มองพวกเขาอยู่

"เรื่องปีศาจจากตราพยัคฆ์ทมิฬหรือ..."เจียงลู่จิวได้ยินเสียงพูดของหลานฉี่เหรินเพียงแค่นั้นก่อนเสียงจะเงียบไป บิดาของเขาคงร่ายอาคมทับไว้ แสดงว่าเรื่องนี้ต้องเป็นความลับอย่างมาก ถึงแม้จะอยากอยู่ฟังเรื่องราวต่อแต่เด็กหนุ่มต้องตัดใจเพราะถึงเวลาที่ต้องไปเรียนแล้ว

วันก่อนหน้างานสมรสหนึ่งวันมีแขกเรื่อมากมายถูกเชิญมาร่วมพิธี ถึงแม้จะกล่าวว่าจัดเพียงพิธีเล็กๆ แต่ด้วยฐานะของหลานวั่งจีที่มีชื่อเสียงและผู้เคารพนับถือในฐานะเซียนจะจัดแบบเงียบๆก็คงยาก อีกทั้งคู่สมรสอีกคนเป็นถึงปรมาจารย์อี๋หลิง งานนี้แม้อยากจัดแบบส่วนตัวคงทำไม่ได้เสียแล้วเจียงลู่จิวรู้สึกว่าช่วงสองสามวันมานี้ทุกคนทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายกันอย่างขมักเขมัน เดินสวนกันขวักไขเต็มไปหมด การเรียนการสอนก็ถูกงด แต่กระนั้นเด็กหนุ่มก็ไปเที่ยวเล่นไม่ได้อยู่ดี อีกทั้งช่วงนี้เขาแทบจะไม่ได้เจอหน้าเตี่ยและเหนียงของตนเลย หลานซีเฉินยังพอเข้าใจได้ว่าเป็นประมุขต้องจัดการงานทุกอย่างให้เรียบร้อยแต่อาเหนียงของเขานี่สิ ได้เจอหน้าแค่ช่วงกลางคืน เพราะช่วงกลางวันค้องไปดูแลท่านลุงเว่ยแทนหานกวงจวินที่ต้องจัดเตรียมงาน เพราะว่าช่วงนี้ท่านลุงเว่ยนั้น ติดอาเหนียงของเจียงลู่จิวมาก

"เฮ้อ~" เจียงลู่จิวนั่งถอนหายใจอยู่ที่ม้าหินอ่อน หน้าเรือนรับรอง แขกจากสกุลอื่นเริ่มทยอยกันมามากมาย หลานจิ่งอี๋และหลานซือจุยหลายวันมานี้ก็หายหน้าหายตาไป ส่วนญาติผู้พี่จินหลิงก็ต้องเข้าพบประมุขจินคนปัจจุบันเพื่อเรียนรู้งานประมุข ส่วนเด็กหนุ่มนั้นไม่มีหน้าที่ สหายก็ไม่อยู่ ไม่รู้จะทำอะไร จะออกไปข้างนอกเรือนก็ยังไม่ได้รับอนุญาตจากอาเหนียง(ตอนอยู่อวิ่นเมิ่งหากมีแขกมา เจียงลู่จิวจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกมาข้างนอก)

"อาลู่" เสียงเรียกดังขึ้นทำให้เด็กหนุ่มกำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆสะดุ้งเล็กน้อยแล้วหันมองคนมาใหม่ เด็กหนุ่มเผลอยิ้มอย่างลืมตัวเพราะไม่ได้พบหน้าบิดาของตนหลายวัน

"คาราวะ อาเต...เจ๋ออู๋จวิน" เจียงลู่จิวหุบยิ้มลงทันทีเมื่อคิดได้ว้าตัวเองเผลอแสดงอาการลิงโลดออกไป

หลานซีเฉินยิ้มให้บุตรชายเล็กน้อย คงเป็นดังที่เจียงเฉิงบอกเขาแท้จริงแล้วเจียงลู่จิวมิได้โกรธอะไรมากมาย เด็กหนุ่มแค่ปากแข็งและยังไม่ชินแค่นั้น

"ทำไมเจ้ามานั่งอยู่คนเดียวเช่นนี้ ไม่ออกไปเหี่ยวเล่นข้างนอกเล่า" หลานซีเฉินเอ่ยถามบุตรชายเพราะเห็นว่าเจียงลู่จิวนั่งเหงาที่เรือคนเดียวทั้งๆศิษย์สกุลเจียงคนอื่นก็เดินเล่นกันอยู่ด้านนอก

"อาเหนียง...ยังไม่ได้บอกว่าให้ออกไปข้างนอกได้" เด็กหนุ่มตอบเสียงเบาแต่หลานซีเฉินกลับได้ยินอย่างชัดเจน

"ตอนอยู่อวิ่นเมิ่งหากมีแขกสกุลอื่นมา หากอยากไปข้างนอกต้องรอให้อาเหนียงอนุญาตก่อนขอรับ..."

"งั้นหรือ..." หลานซีเฉินมีท่าทีครุ่นคิดก่อยเผยรอยยิ้มละมุนออกมา 

"...แต่ตอนนี้เจ้าอยู่กูซูหลาน เตี่ยเป็นประมุขสกุล เตี่ยอนุญาตให้เจ้าเที่ยวเล่นได้ตามใจ"

"จริงด้วย!" น้ำเสียงเด็กหนุ่มดูตื่นเต้นเหมือนพึ่งนึกได้ ก่อนจะกลับไปเศร้าสร้อยเหมือนเคย "แต่ลู่จิวไม่รู้จะออกไปทำไม ทุกคนมีหน้าที่ ดูวุ่นก้นหมด หากข้าออกไปคงเกะกะเปล่าๆ"

หลานซีเฉินยิ้มให้กับความไร้เดียงสาของบุตรชาย เจียงลู่จิวคงยังไม่รู้ตัว เด็กหนุ่มในตอนนี้เมื่อเทียบกับช่วงแรกที่รู้ความจริงต่างกันลิบลับ เจียงลู่จิวในตอนนี้กล้าที่จะแสดงตัวตนออกมาต่อหน้าหลานซีเฉินมากขึ้นและนั่นคือสัญญาณที่ดี

"เจ้าอยากไปช่วยท่านปู่เล็กจัดเตรียมของหรือไม่" หลานซีเฉินเสนอบุตรชาย

"ข้าอยากไปขอรับ" เจียงลู่จิวตอบด้วยน้ำเสียงสดใส หลานซีเฉินยังคงยิ้มอบอุ่นให้แก่เด็กหนุ่ม

"งั้นเดินตามเตี่ยมาเถิด"

หลานซีเฉินเดินนำเจียงลู่จิวออกมา โดยมีเด็กหนุ่มเดินตามไม่ห่างนัก แต่ไม่ใกล้กันเกินไปเพราะเจียงลู่จิวยังวางท่าทีอยู่ เดินออกมาจากเรือนได้ส้กพักก็พบว่าทุกคนดูวุ่นวายกันจริงๆ บ้างก็วุ่นกับการเตรียมฟิธี บ้างก็วุ่นกับการต้อนรับแขก บ้างดูวุนกับสถานที่ เจียงลู่จิวมองซ้ายที่ขวาทีอย่างสนใจจนไม่ได้มองข้างหน้าว่าบิดาของตนนั้นหยุดเดิน จึงเดินชนหลานซีเฉินจังๆ

"อะ...ขออภัยขอรับ...ลู่จิวมิได้มองทาง" เมื่อตั้งสติได้เจียงลู่จิวจึงเห็นสาเหตุที่หลานซีเฉินหยุดเดิน ข้างหน้ามีคนกลุ่มนึงยืนอยู่ มีศิษย์สกุลหลานยืนขนาบข้างและคนแปลกหน้าอีกสามสี่คน เจียงลู่จิวคิดว่าน่าจะเป็นหนึ่งในแขกที่มาร่วมงาน

"คาราวะ เจ๋ออู๋จวิน" "คาราวะประมุขเหยา" ทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นต่างคำนับกันไม่เว้นแม้แต่เจียงลู่จิว

"ข้าขอแนะนำ ผู้ติดตามคนใหม่ของข้า จางซี เคยอยู่สำนักสกุลซู ตอนนี้เขาเป็นคนสนิทของข้า..." ประมุขเหยาแนะคำคนของตนอย่างภูมิอกภูมิใจ ก่อนจะสังเกตเห็นเจียงลู่จิว 

"แล้วนี่คือบุตรชายเจออู๋จวินหรือ ช่างรูปงามเช่นท่านยิ่งนัก แต่ทำไมไม่ใส่ผ้าคาดหน้าผากเล่า"

หลานซีเฉินทำเพียงส่งยิ้มให้ประมุขเหยาเล็กน้อย และขอตัวไปเตรียมงานต่อซึ่งเจียงลู่จิวก็เห็นด้วยที่ไม่ตอบคำถามเพราะสถานะของพวกเขาตอนนี้ยากที่จะอธิบายกับคนภายนอกคงต้องรอเวลาให้เหมาะสมเสียก่อน เจียงลู่จิวเดินตามบิดาของตนไปสักพักรู้สึกเหมือนถูกสายตาเย็นเฉียบเพ่งมอง พอหันไปก็ไม่พบใคร ฝั่งนั้นก็มีเพียงกลุ่มของสกุลเหยาที่กำลังเดินตามศิษย์สกุลไปยังที่พักเท่านั้น เด็กหนุ่มส่ายหัวกับตัวเองว่าตนคงคิดไปเอง

คืนนี้เว่ยอู๋เซี่ยนต้องมานอนที่เรือนรับรองศิษย์สกุลเจียง เพื่อให้หานกวงจวินมารับเจ้าสาวจากบ้านไปร่วมธีตามธรรมนียม หากจะให้เว่ยอู๋เซี่ยนกลับอวิ่นเมิ่งเลยก็ดูจะลำบากคนที่กำลังตั้งครรภ์เกินไป สิ่งใดในพิธีที่ตัดได้จึงได้ถูกตัดออกไป เป็นเช่นนี้วันนี้เว่ยอู๋เซี่ยนจึงงอแงเป็นพิเศษเมื่อต้องห่างจากหลานวั่งจี

"เจ้านี่เป็นเด็กๆไปได้ พรุ่งนี้หานกวงจวินก็มารับเจ้าแล้ว" เจียงเฉิงบ่นออกมาเมื่อเห็นเว่ยอู๋เซี่ยนนั่งเช็ดน้ำตาหน้าตางอง้ำ

"ข้าไม่รู้เจียงเฉิง จู่ๆมันก็ร้องไห้ออกมา" เว่ยอู๋เซี่ยนพูดอย่างไม่เข้าใจตนเองแต่เจียงเฉิงเข้าใจดีว่าเป็นเพราะอะไร

"คงเป็นเพราะเจ้ากำลังตั้งครรภ์ เลยอ่อนไหวเป็นพิเศษ" เจียงเฉิงออกความเห็น

"งั้นหรือ...แล้วเจ้าเล่าเจียงเฉิง ตอนมีครรภ์เป็นอย่างไรบ้าง?" เว่ยอู๋เซี่ยนถามด้วยความใคร่รู้ เขาพึ่งรู้เรื่องระหว่างประมุขสองสกุลจากหลานจ้าน คู่นี้น่าสงสารไม่ต่างจากพวกเขา ที่ทั้งสองต้องทำเป็นไม่รักกันกว่าสิบห้าปีคงเจ็บปวดไม่น้อย

"ข้าหนะหรือ...กินอาหารแทบไม่ได้เวียนหัวทั้งวัน" เจียงเฉิงนึกย้อนและค่อยๆเล่าออกมาให้ฟัง ซึ่งเจียงลู่จิวก็นั่งฟังด้วยความสนใจเช่นเดียวกับเว่ยอู๋เซี่ยน 

"หึ..แต่คนในสกุลกลับไม่สงสัย..คิดว่าข้าตรอมใจเรื่องครอบครัวจนกินอะไรไม่ลง...แต่ข้าคิดว่ามีคนผู้หนึ่งที่รู้"

"ใครหรือขอรับอาเหนียง" เจียงลู่จิวถามด้วยความสงสัย

"ท่านยายเพ่ยของเจ้ายังไงเล่าอาลู่" เจียงเฉิงกล่าวถึงนางเพ่ยแม่ครัวประจำสกุลเจียง

 "นางคอยทำอาหารให้ข้าทานได้ คอยต้มยาบำรุงให้ข้า พอข้ากลับมาพร้อมทารกน้อย นางก็คอยต้มยาบำรุงน้ำนมให้ข้า คนอาบน้ำร้อนมาก่อนแบบนั้นนางคงรู้เป็นแน่ แต่แค่ไม่พูด" เจียงเฉิงเล่าออกมาด้วยท่าทีสบายเหมือนเล่าเรื่องดินฟ้าอากาศ

"เจ้าลำบากมานาน สมควรจะมีความสุขสักที เห็นด้วยหรือไม่อาลู่" เว่ยอู๋เซี่ยนพูดออกมาจากควารู้สึกข้างในที่ๆผ่านมาเจียงเฉิงต้องแบกรับทุกอย่างคนเดียว

"เอ่อ...ขอรับท่านลุงเว่ย" เจียงลู่จิวอีกกเล็กน้อย หนึ่งในความสุขที่ว่าคงมีเรื่องครอบครัวรวมอยู่ในนั้นด้วย ซึ่งตอนนี้เด็กหนุ่มยังทำให้ไม่ได้

"ไม่ต้องกดดันตัวเอง" เจียงเฉิงพูดกับเด็กหนุ่มอย่างรู้ทัน "เอาหละ..ควรเข้านอนกันได้แล้วพรุ่งนี้จักต้องตื่นยามอิ๋น(๑๓:๐๐ - ๑๔:๕๙)"

ยามอิ๋น (0๓:๐๐ - ๑๔:๕๙)

แสงจากเชิงเทียนสว่างออกมาจากภายในเรือนรับรองสกุลเจียงเป็นตัวบอกว่าทุกคนกายในเรือนตื่นเรียบร้อยแล้ว เจียงเฉิงในชุดประมุขเต็มยศกำลังง่วนอยู่กับสาวใช้ที่มาช่วยแต่งตัวเว่ยอู๋เชี่ยนให้ถูกตามธรรมเนียม โดยมีเจียงลู่จิวในชุดสกุลเจียงกำลังนั่งมองความวุ่นวายย้อมๆนี้อย่างไม่รู้จะช่วยอย่างไรดี ผ้าคลุมสีแดงที่ถูกคลุมศีรษะเป็นสัญญาณว่าการแต่งตัวเป็นอันเสร็จสิ้นเว่ยอู๋เซี่ยนมองตนเองในชุดสีแดงมงคลผ่านกระจกด้วยความประหม่าและตื่นเต้น ชีวิตของเขานึกไม่ถึงเลยว่าจะมีวันนี้ เป็นความรู้สึกที่ไม่กล้าอาจฝันเพราะสถานะของเขากับหลานวั่งจีนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงแต่ในที่สุดพวกเขาทั้งสองคนก็มีวันนี้มันช่างรู้สึกดีจนยากจะบรรยาย

"มือเจ้าเย็นมากเว่ยซี่ยน" เจียงเฉิงพูดขึ้นเมื่อบีบมือของอีกคนแล้วรับรู้แต่ความเย็นเหยียบ

"เจียงเฉิง ข้าควรทำอย่างไรดี" เว่ยอู๋เชี่ยนเขย่ามีอีกคนด้วยความตื่นเต้นและกังวล

"ใจร่มๆ ข้าบอกเจ้าได้เท่านี้" เจียงเฉิงแนะนำได้เพียงเท่านี้เพราะตนก็รู้สึกตื่นเต้นไม่ต่างกัน

"ท่านประมุขเจียงเจ้าคะ!! เกี้ยวรับเจ้าสาวมาแล้วเจ้าค่ะ" สาวใช้สกุลหลานที่มาช่วยดูแลวิ่งเข้ามาบอกด้วยความตื่นเต้นเช่นเดียวกันจนลืมกฎสกุล

"ฮืม...ออกไปกันเถอะ" เจียงเฉิงพูดบอกทุกคนที่อยู่ภายในเรือน เจียงลู่จิวจึงเดินมาจูงมืออีกข้างของเว่ยอู๋เซี่ยนและค่อยๆพาเจ้าสาวในชุดสีแสงมงคลเดินออกไปหาเจ้าบ่าวที่รออยู่นอกเรือนหลานวั่งจีในอาภรณ์สีแดงไม่คุ้นตายืนรอคนรักอยู่หน้าเกี้ยวเจ้าสาวที่ประดับไปด้วยสีแดงปะปนด้วยลวดลายสีทองสวยงามที่เว่ยเชี่ยนต้องนั่งไปโถงพิธี ด้วยใบหน้าที่ยังคงสงบนิ่ง แต่ภายในใจนั้นเต้นโครมครามด้วยความประหม่าและตื้นต้นหลังจากวันนี้ไปเขากับคนรักก็จะกลายเป็นคนๆเดียวกันโดยสมบูรณ์ประตูเรือนถูกสาวใช้เปิดออก เว่ยอู๋เซี่ยนเดินออกมาโดยมีเจียงเฉิงและเจียงลู่จิวคอยประคองให้ทุกก้าวเดินมั่นคงขึ้น หลานวั่งจีมองเว่ยเชี่ยนไม่วางตา ทั้งคู่สบตากันด้วยความรักใคร่ผ่านผ้าคลุมฝืนบางที่ปกปิดใบหน้าเว่ยอู๋เซี่ยน

"ข้ามารับเจ้าไปร่วมพิธีสมรส" หลานวั่งจียื่นมือเป็นสัญญาณให้อีกคนตอบรอบ เจียงเฉิงที่จับมือเว่ยอู๋เซี่ยนไว้อยู่นั้นค่อยๆยื่นออกมา ให้มือของพี่ชายบุญธรรมของตนวางทาบทับบนมือของหลานวั่งจี

"ข้าเจียงหวั่นอิ๋น ประมุขแห่งอวิ่นเมิ่งเจียง ต่อแต่นี้ไปขอฝากให้เจ้ารักและดูแลเว่ยอู๋เชี่ยน แห่งอวิ่นเมิ่งเจียง ต่อแต่นี้เป็นต้นไป" น้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำของเจียงเฉิงถูกเปล่งออกมา เว่ยอู๋เซี่ยนหันไปมองน้องชายบุญธรรมด้วยความตื้นต้นใจ

"ข้าสัญญา"เสียงเรียบนิ่งแต่หนักแน่นถูกเปล่งออกมา เจียงเฉิงยิ้มพอใจหลานวั่งจีประคองเจ้าสาวของตนไปที่เกี้ยว เว่ยอู๋เซี่ยนเข้าไปนั่งด้านในกริยาเรียบร้อยกว่าทุกวัน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยเกี้ยวที่เว่ยอู๋เซี่ยนนั่งอยู่ค่อยๆออกเดินทางมุ่งหน้าสู่โถงพิธี

100%

... TBC....

เลือกตอน
1 Intro
2 บทที่ 1 แรกพบพาน
3 บทที 2 ทุกสิ่งล้วนน่าสงสัย
4 บทที่ 3 สิ่งที่เก็บซ่อนไว้ภายใน
5 บทที่ 4 เรื่องราวในอดีต 1
6 บทที่ 5 เรื่องราวในอดีต 2
7 บทที่ 6 เรื่องราวในอดีต 3
8 บทที่ 7 นานของเขา เจียงลู่จิว
9 บทที่ 8 ความสุขที่ควรได้รับ
10 บทที่ 9 หวนคืนเหลียนฮวาอู้
11 บทที่ 10 จดหมาจจากใครบางคน
12 บทที่ 11 ความรู้สึกภายในสู่ภายนอก
13 บทที่ 12 แว่วเสียงจากความจริง
14 บทที่ 13 ปลดปล่อยเรื่องราว
15 บทที่ 14 เพียงพร้องหน้า
16 บทที่ 15 ไม่เคยเกลียดชัง
17 บทที่ 16 งายสมรส
18 บทที่ 17 ค่ำคืนเฉลิมฉลอง
19 บทที่ 18 บุคคลชักใย
20 ตอนที่ 19 ลักพาตัว
21 ตอนที่ 20 อาเตี่ย
22 ตอนที่ 21 มิพลัดพราก (จบ)
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 22

1
Intro
2
บทที่ 1 แรกพบพาน
3
บทที 2 ทุกสิ่งล้วนน่าสงสัย
4
บทที่ 3 สิ่งที่เก็บซ่อนไว้ภายใน
5
บทที่ 4 เรื่องราวในอดีต 1
6
บทที่ 5 เรื่องราวในอดีต 2
7
บทที่ 6 เรื่องราวในอดีต 3
8
บทที่ 7 นานของเขา เจียงลู่จิว
9
บทที่ 8 ความสุขที่ควรได้รับ
10
บทที่ 9 หวนคืนเหลียนฮวาอู้
11
บทที่ 10 จดหมาจจากใครบางคน
12
บทที่ 11 ความรู้สึกภายในสู่ภายนอก
13
บทที่ 12 แว่วเสียงจากความจริง
14
บทที่ 13 ปลดปล่อยเรื่องราว
15
บทที่ 14 เพียงพร้องหน้า
16
บทที่ 15 ไม่เคยเกลียดชัง
17
บทที่ 16 งายสมรส
18
บทที่ 17 ค่ำคืนเฉลิมฉลอง
19
บทที่ 18 บุคคลชักใย
20
ตอนที่ 19 ลักพาตัว
21
ตอนที่ 20 อาเตี่ย
22
ตอนที่ 21 มิพลัดพราก (จบ)

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!