ปลดปล่อยเรื่องราว
หัวใจที่หนักอึ้งทำให้หลานซีเฉินยืนหยัดอยู่ต่อไปไม่ไหวเมื่อพบหนำเจียงเฉิง ขายาวทรุดลงให้เขาทั้งสองเป็นหลั่กยึดมิให้ร่างของประมุขหลานสัมลงอยางไร้เรี่ยวแรง มือเรียวสวยสวมจื่อเตี้ยนที่กำลังจับแขนหลานซีเฉินให้ลุกขึ้นยืนเรียกสายตาหลานชีเฉินไลไปตามนิ้มือสวยขึ้นไปเรื่อยๆ จนสบเข้ากับดวงตาเรียวสวยศูนั้น พบว่ากำลังมองมาที่ตนอย่างเห็นอกเห็นใจในขณะที่สองแขนกำลังยื้อให้เขาลุกขึ้นยืน
"ท่านลุกขึ้นมาเถิดหลานซีเฉิน" น้ำเสียงนุ่มนวลถูกเปล่งออกมาจากปากสวย น้ำเสียงที่หลานซีเฉินไม่ได้ยินมานานกว่าสิบเจ็ดปี
"เราสองคนมาพูดคุยกัน ถึงเรื่องราวที่เรามิเคยได้พูดคุยกันตลอดสิบเจ็ดปี"
หลานซีเฉินค่อยๆลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับเจียงเฉิง สายตาประมุขหลานยังคงจดจ้องอยู่ที่ใบหนัาสวยของประมุขแห่งอวิ่นเมิ่งเจียง ไม่ยอมหละสายตาไปไหนจนใบหนำาสวยรู้สึกเขินอายแก้มนวลขาวมีริ้วสีเลือดฝาดประดับ ใบหน้าที่หลานซีเฉินไม่กล้าที่จดจ้องตรงๆตลอดสิบห้าปีที่ผ่านมา
"เจียงหวั่นอิ๋น ข้าขอเรียกท่านว่าหวั่นอิ๋นได้หรือไม่" คำขอร้องที่เปล่งออกมาอย่างเว้าวอนฝานน้ำเสียงที่สุขุมนุมลึก มีหรือคนปากร้ายใจดีอย่างเจียงเฉิงจะไม่ใจอ่อน
"ตามที่ท่านต้องการเถิด" หลานซีเฉินยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อได้รับการอนุญาตจากเจ้าของซื่อมือสวยของประมุขสกุลหลานยื่นมือเข้าไปหยิบของบางอย่างออกมาจากอกเสื้อ
"แค่คำถามเดียวหวั่นอิ๋น" นสิ่งที่ถืออยู่ออกมาข้างหน้าคู่สนทนา
"ผ...ผ้าผูกผมนี้ ใช่ของท่านหรือไม่" น้ำเสียงที่มั่นคงมาตลอดบัดนี้สั่นเล็กน้อยด้วยความตื่นเต้น
"มิใช่ของข้า..." เสียงนิ่งๆตอบกลับมา สีหน้าของหลานซีเฉินเจื่อนลงไปทันตา เหมือนสิ่งที่เขามั่นใจมาตลอดพังทลายลงต่อหน้าต่อตา เจียงเฉิงเห็นดั่งนั้นก็อมยิ้มน้อยๆ
"แต่เป็นสิ่งที่เว่ยอูเซี่ยนให้ข้ามา ตอนที่ข้าอายุสิบสี่ปี ข้าทำมันหายไปเมื่อสิบห้ปีก่อนที่ฉีซาน"
ในคราแรกว่าจะแกล้งบุรุษรูปงามตรงหน้าเล็กน้อยแต่สีหน้าผิดหวังที่ส่งออกมาอย่างไมมีปกปิดทำให้เจียงเฉิงรู้สึกผิดและบอกความจริงในที่สุด เมื่อได้ยินแบบนั้นสีหน้าที่เคยผิดหวังกลับยิ้มกว้างออกมาอยากปิดไมมิดเช่นเคย เหมือนสิ่งที่เฝ้าหวังและติดอยู่ในใจตลอดสัปดาห์ที่ฝานมาได้ถูกไขให้กระจ่าง ไม่ต้องถามต่อให้มากความ สิ่งนี้ยืนยันได้เป็นอยางดีว่าคนนั้น คนที่อยู่กับเขาที่ฉีซาน คนที่หลานซีเฉินมีความสัมพันธ์สึกซึ้งด้วย คือคนตรงหน้าเขา และเป็นคนเดียวที่อยู่ในใจเขาเสมอมาหยาดน้ำใสไหลลงมาจากดวงตาสีทองคู่สวยอยางไม่ขาดสาย เจียงเฉิงอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปเช็ดมันออกจากใบหน้าอันหล่อเหลาของประมุขหลาน แต่ยิ่งเช็ดมันกลับยิ่งไหลไม่หยุด
"ข..ข้าขอโทษเจ้า"
"ข้าก็ขอโทษท่าน" เสียงหวานเปล่งอกมา "ขอโทษที่ปกปิด ปกปิดเรื่องราวของเจียงหลินมาตลอดสิบห้ปี และเรื่องนี้ท่านมิผิดเป็นข้าที่ซ่อนเขาเอาไร้ เรื่องนี้ท่านอยาได้โทษตัวเองหลานซีเฉิน" มือเรียวสวยของประมุขเจียงประคองใบหนำาบุรุษตรงหนำาขึ้นมาสบตา
"แต่....ถ้าหากว่าข้าไม่ขี้ขลาด เก็บความรู้สึกตั๋วเองไว้ หลบซ่อนตัวตนเพื่อฉากหน้าที่สมบูรณ์แบบ หากข้าเอ่ยคำนั้นกับเจ้าไปตั้งแต่สิบเจ็ดปีก่อน หากข้า..
"หลานฮวั่น" เจียงเฉิงเรียกสติของหลานซีเฉินให้กลับมา สายตาของทั้งคู่ประสานก้นเจียงเฉิงส่ายหนำให้อีกคนเล็กน้อย
"ท่านอยาได้คิดไปแบบนั้น เราทั้งศตอนนี้ต่างก็เป็นประมุขสกุล เมื่อยัอนกลับไปเมื่อสิบเจ็ดปีที่แล้ว เราทั้งคู่เป็นแศว่าที่ประมุข ถึงแม้เราอยากทำตามใจตนเองแค่ไหน ก็มิสามารถทำได้ข้ารู้ดี ฉะนั้นอยาได้โทษตัวเอง"มือของหลานชีเฉินเลื่อนขึ้นมากอบกุมมือของเจียงเฉิงที่กำลังประคองใบหน้าเขาอยู่ มือใหญจับมือของเจียงเฉิงลงมากอบกุมไร้อย่างถนุนอม กล้วอีกคนจะบุบสลายหรือหนีจากเขาไปอีกครา
"หากขำใส่ใจเรื่องของเจ้ามากกว่านี้ คงตามสืบเรื่องเจ้ากับลูกได้ไม่ยาก" หลานซีเฉินยังคงโทษตัวเองซ้ำๆในเรื่องที่เกิดขึ้น
"นี่...ตอนนั้นท่านรู้หรือว่าข้าเป็น เกอ " เจียงเฉิงถามขัดออกมา หลานซีเฉินมองสบตาและส่ายหน้าเล็กน้อยเป็นคำตอบว่าไม่รู้
"ท่านไม่รู้ว่าข้าเป็นเกอ มิมีใครรู้ ทั่วยุทธภพต่างคิดว่าข้าแต่งกับแม่นางสักคนแล้วมีบุตรชายซึ่งนั่นคือสิ่งที่ข้าต้องการ ให้ทุกคนเข้าใจไปแบบนั้น" เจียงเฉิงอธิบายออกมาเพื่อให้อีกคนเข้าใจ
"หากถามว่าเรื่องนี้ใครผิด ก็คงเป็นเราทั้งคู่กระมัง"
"หลานซีเฉิน ท่านเชื่อในเรื่องของกาลเวลาหรือไม่?"
"อย่างไร?" ประมุขหลานถามกลับด้วยความสงสัยเมื่อจู่ๆอีกคนก็ถามคำถามนี้กับเขา
"กาลเวลาจะหวนให้เราเจอคนๆนั้นในเวลาที่สมควร ท่านคิดว่าเวลานั้นมาถึงหรือยั่ง?" ดวงตาสีเทาเข้มสบเข้ากับดวงตาสีทองคู่สวยอย่างมีนัยยะ ทั้งสองสบตากันอยู่อย่างนั้นเหมือนทุกสิ่งรอบตัวหยุดนิ่ง ไม่ได้ยินเสียงน้ำไหล ไม่มีแม้กระทั่งเสียงแมลงที่ส่งสียงในยามพลบค่ำ ไมมีเสียงนกที่กำลังบินกลับรัง สิ่งเหล่านั้นเหมือนถูกกันออกจากทั้งคู่ เนิ่นนานกว่าหลานซีเฉินจะเอ่ยออกมา
"คงเป็นเช่นนั้นหวั่นอิ๋น" หลานซึเฉินสิ่งยิ้มให้อีกคน รอยยิ้มที่ส่งไปถึงดวงตา รอยยิ้มที่เจียงเฉิงแสนคิดถึง รอยยิ้มที่เขาไม่ได้พบเจออีกเลยนับจากร่ำเรียนจบจากอวิ่นเซินปู้จื่อฉี
"หลานซีเฉินในอดีตเป็นคนขี้ขลาดแม้แต่คำว่ารักก็ไม่กล้ำาเอ่ย" หลานซีเฉินพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นมือที่กุมมือของเจียงเฉิงค่อยๆเลื่อนขึ้นไปประคองใบหน้าสวย เพิ่มสีเลือดฝาดให้แก้มนวลขลับให้ใบหน้าขาวนั้นยิ่งสวยนามองขึ้นเท่าตัว
"เวลานี้หลานซีเฉินควรมีความกล้าเสียทีเพื่อรักษาสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต..วั่นอิ๋น...เจ้าสำคัญกับข้าเสมอมา ถึงแม้ข้าจะไม่เอ่ยออกไป....หลานฮวั่นรักเจ้า รักเจ้าเสมอหวั่นอิ๋น ตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้และตลอดไป ข้ารักเจ้า" เสียงนุ่มนวลแต่หว่าหนักแนนถูกเปล่งออกมาในที่สุด ไม่ใช่คำบอกรักแสนหวานแต่เป็นคำบอกรักที่หนักแน่นในความรู้สึก ดวงตาเรียวสั่นระริกหยาดน้ำเฮอสันขอบตาสวย เจียงเฉิงยิ้มออกมาทั้งน้ำตาเจียงเฉิงเคยคิดมาตลอดว่าหลานซีเฉินไม่เคยมีใจให้ตน คิดมาตลอดว่าสุภาพบุรุษผู้นี้ทำดีกับเขา เอาใจใส่เขาเพราะเห็นเขาเป็นน้องชาย ไม่เคยจินตนาการถึงสิ่งที่เกิดขึ้นรงหน้าจนได้รับจดหมายจากอีกคนเมื่อหลายวันก่อน จนได้รู้ว่าทั้งสองใจตรงกันแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าเขามันช่างตึกว่าที่เขาคาดการณ์ไหว หัวใจของเจียงเฉิงเต้นระรัวด้วยความดีใจ
"ฮืก..หลานฮว...อ๊ะ" เอ่ยยังไม่ทันจบประโยคร่างของเจียงเฉิงก็ถลาเข้าสู่อ้อมกอดของของหลานซีเฉิน หน้าสวยแนบกับหน้าอกของอีกคนแน่น จนได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกันกับเขาเจียงเฉิงกระชับฮ้อมกอดของอีกคนให้แน่นขึ้นหลานซีเฉินกระชับกอดอีกคนให้แน่นขึ้นกว่าเดิมกล้วว่าร่างตรงหน้าจะหายไป อ้อมกอดที่แสนคิดถึงมาตลอดสิบห้าปี บัดนี้ได้คืนกลับมาแล้ว มันช่างดีเหลือเกิน กลิ่นดอกบัวจางๆจากอีกคนยิ่งตอกย้ำความรู้สึกในใจของเขา มันคือกลิ่นเดียวกันเมื่อคราที่จินหลินไถมันทำให้เขาเฉลียวใจ จนวันนี้เขาได้สิ่งที่จะทำให้ชีวิตของเขามีความหมายกลับคืนมาแล้ว ไม่ใช่แค่หนึ่งคนแต่ถึงสองคน หลานชีเฉินสัญญาว่าจะดูและปกป้องทั้งคู่ด้วยชีวิตของเขา
"หวั่นอิ๋น ข้ามิได้ฝันไป" หลานซีเฉินพึมฬออกมากับกลุ่มผมสวยในอ้อมกอด
"เรื่องจริง ข้ารักท่านก็คือเรื่องจริงหลานฮวั่น เราสองคนไม่ต้องรออีกต่อไปแล้ว" เจียงเฉิงเงยหน้าพูดกับอีกคนที่กอดเขาแน่นไม่ยอมปล่อย
"จากนี้ไป ข้าจะดูแลปกป้องเจ้าและลูกด้วยชีวิต"หลานซีเฉินให้คำมั่นสัญญา เจียงเฉิงส่ายหน้าเล็กน้อย
"พวกเราจะดูแลปกป้องซึ่งกันและกัน"เจียงเฉิงแก้ออกมาทั้งคู่ส่งยิ้มให้กันอยางมีความสุข เหมือนปลดปล่อยสิ่งที่หนักอึ้งในใจตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมาวันนี้กาลเวลาได้ทำหน้าที่ของมันแล้ว ทั้งสองที่เคยเป็นแค่คนรู้จักกัน พูดคุยกันแบบห่างเหินเพราะต่างคนต่างคิดไปเอง ในคราวนี้คงถึงเวลาแล้วที่จะเปิดเผยความในใจแก่กันและกัน ถึงเวลาของคนที่รักกันได้หวนกลับเข้ามาในชีวิตของกันและกันและมอบความสุขให้แก่กันเพื่อซดเซยเรื่องราวที่ฝานมาหลานซีเฉินและเจียงเฉิงอยู่ในห้องพักส่วนตัวภายในโรงเตี๊ยมในตำบลไฉ่อี บนโต๊ะมีกาน้ำชาหนึ่งกา และแก้วชาสองใบวางอยู่ แต่เจ้าของห้องทั้งสองกลับมิได้สนใจที่จะดื่มมันนัก เพราะกำลังง่วนอยู่กับการทำแผลให้ประมุขสกุลหลานที่ได้รับบาดเจ็บจากการไปปราบสัตว์ร้ายที่เกิดจากตราพยัคฆ์ทมิฬ
"ท่านมิใช่คนประมาท เหตุใดถึงได้บาดเจ็บเสียได้" เจียงเฉิงเอ่ยถามคนรักหมาดๆของตนขณะที่ทำแผลให้อีกคนไปด้วย
"ข้าเห็นนิมิต.." หลานซีเฉินเฮยออกมาเสียงแฝวเมื่อนึกนึกภาพนิมิตที่สัตวํตนนั้นสะกดเขา จนเขาไม่ทันระวังตัว
"หืม..." เจียงเฉิงเงยหน้าขึ้นมองหลานชีเฉินตรงๆเมื่อทำแผลเสร็จเรียบร้อย
"ข้าเห็นเจ้า ร้องห้อย่างทุกข์ทรมาน ข้าเห็นเจ้าร้องห้ปานจะขาดใจขณะที่ขับกล่อมอาลู่ ข้าเห็นอาลู่ตระโกนว่าเกลียดซังข้า...." หลานซีเฉินสบตากับเจียงเฉิง
"มันทำให้ข้าเสียสมาธิ"
"โธ่..หลานฮวั่น หวั่นอิ๋นอยากให้ท่านรู้ไว้ นั่นแค่ภาพลวงตา มันเกิดจากความรู้สึกผิดของท่าน"เจียงเฉิงเอ่ยปลอบใจอีกคน เจียงเฉิงรู้สาเหตุที่อีกคนมีท่าทีแปลกไปมากเมื่อเจอหนำาเขาวันนี้แล้วภาพลวงตานั่นคงกระทบจิตใจของหลานซีเฉินเป็นอย่างมาก
"แต่...อาลู่เกลียดข้านั่นคือเรื่องจริง"
"เด็กคนนั้นหนะ ดื้อเงียบ ปากไมตรงกับใจ ในตอนนี้เขาแค่โกรธทานเลยทำอะไรโดยไม่ยั้งคิดเชื่อเถอะเขารักและชื่นชมอาเตี่ยของเขาเสมอ" เจียงเฉิงอธิบายถึงลักษณะนิสัยของบุตรชายของพวกเขาให้บิดาที่แท้จริงของเจียงลู่จิวฟัง เพื่อให้อีกคนสบายใจและไม่ต้องนึกโทษตัวเองเรื่องบุตรชาย
"เขาไม่ได้เกลียดพี่จริงๆใช่ไหม?" หลานซีเฉินเฮยถามเจียงเฉิงเพื่อความมั่นใจเจียงเฉิงยังไม่ตอบคำถามแต่หยิบถุงหอมของตนออกมาสงให้หลานซีเฉินถือไว้ หลานซีเฉินรับมา รับรุถึงน้ำหนักของสิ่งที่ถืออยู่เปลี่ยนไปจากคราวก่อน
"ท่านรู้สึกหรือไม่ว่าถุงหอมนี่มีน้ำหนักเบาลง"เจียงเอ่ยถาม หลานซีเฉินพยักหน้าเห็นด้วย
"สิ่งที่ข้าเก็บซ่อนไว้ในนี่หายไป หยกของท่านหายไป หายไปในคืนที่เจียงลูจิวกลับเหลียนฮวาฮู้ ในคืนที่เขามานอนที่เรือนกับข้...เขาอาจจะกำลังส้บสนแต่เชื่อเถิดเขาไม่เคยเกลียดท่าน" เจียงเฉิงสงยิ้มให้อีกคนเพื่อเพิ่มความมั่นใจ หลานชีเฉินส่งยิ้มกลับให้อย่างขอบคุณที่เจียงเฉิงเพิ่มความมั่นใจให้แก่เขา ว่าบุตรชายของเขามิได้เกลียดเขาดังที่เขาคิด
"หวั่นอิ๋น..พี่รักเจ้า" เจียงเฉิงหนำาแดงขึ้นอีกครั้งเมื่อฐๆอีกคนก็บอกรักออกมาแบบไมมีขี่ไมมีขลุ่ย
"ทะ..ท่าน..จู่ๆก็พูดมันออกมา"เจียงเฉิงต่อว่าอีกคนด้วยความเขินอาย แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นสายตาจริงจังของอีกฝ่ายหลานซีเฉินและเจียงหวั่นอิ๋นสบตากันนิ่ง ระยะห่างของใบหน้าถูกลดลงเรื่อบๆจนใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันไม่ถึงคืบ จนรับรู้ถึงลมหายใจของกันและกัน
"พี่คิดถึงเจ้า" หลานซีฌฉินกระซิบกับริมฝีปากของเจียงเฉิงแฝวเบา
"หวั่นอิ๋นก็คิดถึงหา.." เอ่ยยังไม่ทันจบประโยคเสียงของเขาก็หายไปพร้อมๆกับริมฝีปากของโกคนที่ทาบทับลงมาจุมพิตแรกของพวกเขาที่เกิดขึ้นอย่างเต็มใจและเกิดขึ้นขณะพวกเขามีสติครบถ้วนสมบูรณ์ ริมฝีปากหนาของหลานซีเฉินค่อยๆละเลียดชิมริมฝีปากบางของเจียงเฉิงอย่างแฝวเบา เจียงเฉิงก็ตอบสนองออกมาอย่างเก้ๆกังๆแต่ทว่ากลับทำให้หัวใจของหลานซีเฉินหวามไหวเป็นที่สุด ลิ้นร้อนถูกส่งออกไปเลี่ยริมฝีปากของอีกคนอย่างหยั่งเชิง เมื่อเห็นว่าเจียงเฉิงไมผละออกหลานชีเฉินจึงค่อยๆสอดลิ้นเข้าไปซิมความหวานต้านใน ทั้งคู่จุมพิตดูดดึงกันอยู่เนิ่นนาน ทั้งห้องได้ยินแค่เสียงลมหายที่ที่หนักสลับเบาของทั้งสองคนหลานซีเฉินผละออกมาเล็กน้อยให้เจียงเฉิงได้หายใจโล่งขึ้น เจียงเฉิงเมื่อถูกปล่อยให้เป็นอิสระก็โกยอากาศเขาไปเสียยกใหญ่ดวงตาฉ่ำปรือมองตรงไปที่หลานซีเฉินอย่างเปิดเผย
"หวั่นอิ๋น."
"ฮวั่นเกอ~" เสียงหวานสั่นระริกถูกเปล่งออกมาจากปากสวยที่แนบชิดกับริมฝึกปากของอีกคน
"ในวันพรุ่งนี้ พี่อยากตื่นขึ้นมาพบจ้าเป็นคนแรกได้หรือไม่" เสียงแหบพร่ากระชอบแฝวเบาในขณะที่ใบหน้าทั้งสองแนบชิดกัน
"จะเป็นเช่นนั้น ฮวั่นเกอ..หวั่นอิ๋นจะไม่หนีอีกต่อไปแล้ว" เจียงเฉิงเอ่ยตอบแฝวเบาราวเสียงกระซิบ แต่เพราะความใกสชิดนั้นหลานซีเฉินได้ยินมันชัดเจนใบหน้าหลานซึเฉินและเจียงเฉิงไม่เหลือช่องว่างเพราะความแนบชิดที่ส่งให้กันอีกครา จูบอันนุมนวลของทั้งคู่หนักหน่วงขึ้นขึ้นตามแรงอารมณ์ที่อัดอั้นกายในที่ถูกระบายออกมาฝานการสัมผัสกันและกัน มือที่เคยประคองใบหนำาของสวยของเจียงเฉิงค่อยๆเลื่อนลงมาที่สายคาดเอว กระตุกเพียงเล็กน้อยก็หลุดอย่างง่ายดาย เสื้อผ้าของเจียงเฉิงเริ่มหลุดรุ่ย เช่นเดียวกับหลานซีเฉินร่างของประมุขสองสกุลค่อยลุกขึ้ยืน แต่ไม่ยอมผละใบหนำออกจากกัน ค่อยๆเดินไปที่เตียงพนร้อมกับสลัดอาภรณ์ของตนให้ฟันร่างกาย เจียงเฉิงค่อยๆนั่งลงที่นั่งนอนพร้อมกับหลานซีเฉินที่ทาบทับลงมา หลังบางของค่อยๆแนบลงไปกับฟูก ร่างที่ไร้อาภรณ์ของทั้งคู่แนบชิดกันมากขึ้นยิ่งเพิ่มแรงอารมณ์ของทั้งคู่หลานซีเฉินผละออกจากริมฝีปากสวยและไล่จุมพิตไปทั่วใหน้าหน้าของเจียงเฉิง เริ่มจากหน้าผาก ไล่ลงมาที่จมูกรั้น และก้มทั้งสองข้าง ริมฝีปากบาง ไล่ลงไปที่ลำคอระหงซุกไซร่อย่างหลงไหล มือทั้งสองข้างก็ทำหน้าที่ลุบไส้ร่างขาวเนียน เรียกเสียงครางหวานจากเจียงเฉิงได้เป็นอย่างดี
"อืม..อ๊ะ" เจียงเฉิงสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมือของหลานซีเฉินเลื่อนลงไปบีบคั้นสะโพกของเขาร่างกายทั้งสองเบียดกันแนบชิด จนไม่เหลือช่องว่าง
"ฮึ่มมม" หลานซีเฉินส่งเสียงออกมาจากลำคอด้วยความพอใจ เมื่อเจียงเฉิงบดเบียดแนบชิดเข้ามา จนแก่นกายของทั้งสองชูชันเสียดสีกันไปมา
"หวั่นอิ๋น...อืม.."
"อ๊ะ..ฮวั่นเกอ.."
นิ้วยาวของหลานซิเฉินค่อยๆเบิกช่องทางด้านหลังของอีกคนเพื่อให้คุ้นเคยกับสิ่งที่ใหญ่กว่าภายในนั้นบีบรัดนิ้วของเขาจนแทบทนไม่ไหวแต่ก็ต้องยับยั้งอารมณ์ของตนเองไว้เพราะให้อยากให้คนใต้ร่างเขาเจ็บมากเกินไป จากหนึ่งเพิ่มเป็นสองและสามจนเจียงเฉิงพร้อมรับกับสิ่งที่ใหญ่กว่านั้น
"ท่านเข้ามาเถิด..อ๊ะ..ข้าไหว...า" ยังไม่ทันเอ่ยอนุญาตจนจบประโยค นิ้วยาวก็ถอนออกกระทันหันและแทนที่ด้วยสิ่งที่ใหญ่กว่าค่อยๆถูกแทรกเข้ามา
"อืม..ข้างในเจ้าอุ่นมาก..อาา" หลานซีเฉินค่อยๆดันแก่นกายของตนเองเข้าไปรับรู้ได้ถึงช่องทางที่กำลังดูดกลืนเขาอย่างลงตัว
"อ๊..." เจียงเฉิงร่องออกมาสุดเสียเมื่ออีกคนดันตัวตนเข้ามาจนสุด และแชทิ้งไว้ให้เขาได้ปรับตัว
"ท..ท่าน อ๊ะ ขยับเถิด"
สะโพกแกร่งขยับเข้าออกพร้อมกับสะโพกสวยใต้ร่างกระตุกรับอย่างรู้งานและลงตัว ทุกการเคลื่อนไหวของคนข้งบนเรียกเสียงครางหวานของเจียงเฉิงได้เป็นอย่างดี จากจังหวะเนิบหนาบก็เร่งเร็วขึ้นเรื่อยๆพร้อมๆกับมือแกรงที่ยื่นมามาชวยรูดรั้งแก่นกายของคนใต้ร่างไปพร้อมๆกับการสวนสะโพกเข้าออก
"อ๊..อะ..ฮื้อ..ข..ข้าไม่ไหวแล้ว" เจียงเฉิงหวืดเสียงออกมาเมื่อสมองเริ่มขาวโพลนใกล้ถึงฝั่งฝัน เมื่อเห็นดังนั้นหลานซีเฉินก็เรงจังหวะเร็วขึ้น
"อืม..พร้อมกัน..หวั่นอิ๋น"
"อ๊าาาา"
"อืมม..อ่า"
ร่างทั้งสองกระตุกเกร็งพร้อมกัน หลานซีเฉินปลดปล่อยเซ่าไปภายในตัวของเจียงหวั่นอิ๋นให้
ขณะที่ร่างบางปลดปล่อยออกมาเปื้อนหน้าห้องของตนเองและมีอของอีกคนที่ชวยรูดรั้ง เมื่อปลดปล่อยจนหมดสิ้น หลานซีเฉินก็กัมลงมอบจุมพิตหวานให่อีกคน เสียงหอบของทั้งคู่คลอเคลียกันอยู่ภายให้ห้องกว้าง หลานชีเฉินถอนแก่นกายออกมาตะกรองร่างของเฉียงเฉิงเข้ามากอดแนบชิด
"พี่รักเจ้าหวั่นอิ๋น"
"ข้าก็รักท่าน" เจียงเฉิงกระซิบบอกกับคนที่กอดตนอยู่และผลอยหลับไปด้วยความอ่อนเพลียในอ้อมกอดของคนรักพร้อมกับความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย
100%
...TBC....
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 22
Comments