บทที่ 12 แว่วเสียงจากความจริง

แว่วเสียงจากความจริง

หลังจากตะโกนใส่ประมุขสกุลและวิ่งหนีออกมา เจียงลู่จิวก็กลับเข้าเรือนนอนและปิดประตูลงกลอนทันที จินหลิงที่วิ่งตามมาได้แต่ยืนมองประตูอยู่ด้านนอกด้วยความสงสารน้องชาย แต่ต้องยอมรับว่าสิ่งที่เจียงลู่จิวนั้นกระทำลงไปใช่ว่าจะถูกต้อง

"เฮ้อ...อาลู่หากเจ้าอยากอยู่คนเดียวเกอจะไม่กวน" จินหลิงตะโกนพูดกับคนด้านในห้องเพราะดูท่าแล้วคืนนี้ทั้งคืนเด๋กหนุ่มคงไม่ยอมออกมา 

"แต่เจ้าอย่าอดข้าวอดน้ำเป็นอันขาดเข้าใจไหม เกอกลับเรือนแล้วนะ"จินหลิงหมุนตัวหันหลั่งเดินกลับเรือน เรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนี้เขาต้องบอกเล่าแก่ท่านน้าของเขาผ่านยันต์สื่อสารเสียแล้ว ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยเห็นเจียงลู่จิวเป็นแบบนี้ เด็กหนุ่มสุภาพตลอดเวลาเมื่อคุยกับผู้อาวุโส สองครั้งแล้วที่จินหลิงเห็นกิริยาที่ไม่เหมาะสมต่อประมุขหลาน จินหลิงรู้เรื่องนี้มีความลับมากมายที่เขาไม่รู้เขาจะยื่นมือเข้าไม่ยุ่งสุ่มสี่สุ่มห้ามิได้ ต้องให้บุพการีของเด็กหนุ่มที่ขังตนเองอยู่ในห้องเป็นคนจัดการยังเดินออกมาไม่พ้นตัวเรือน จินหลิงก็เห็นชายหนุ่มรูปงามในอาภรณ์สีฟ้าครามยืนอยู่ที่หน้ารั้วไม่ไผ่ของตัวเรือน ในมือประมุขมีอาหารหนึ่งชุด จินหลิงเดาว่าคงเป็นมือเย็นของเจียงลู่จิว สีหน้าของหลานซีเฉินดูไม่สู้ดีนักแม้อีกคนจะสิ่งยิ้มให้เขาเป็นการทักทายแต่ดูฝืนอยู่ในที

"เขาไม่ยอมออกมาหรอกขอรับ เจ๋ออู๋จวิน" จินหลิงคาระวะและบอกกล่าว

"ข้ารู้คุณชายจิน" เป็นอีกครั้งที่บุรุษรูปงามอันดับหนึ่งฝืนยิ้มออกมา 

"เป็นความผิดข้าทั้งหมด"

"มิใช่ เจ๋ออู๋จวินสิ่งที่ท่านทำวันนี้ถูกต้องแล้ว เขาไม่สมควรถูกลงโทษไม่ว่าจะเหตุผลใดก็ตาม" จินหลิงพูดกับอีกคนอย่างเห็นด้วย

 "ท่านอย่าได้โทษตัวเอง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามลู่จิวอาจจะกำลังส้บสนอยู่"

"ขอบใจคุณชายจิน"

"หากท่านเอาอาหารมาให้เขาก็เข้าไปเถิด เจ๋ออู๋จวิน จินหลิงขอลา" จินหรูหลั่นบอกลาแล้วเดินกลับเรือน

เมื่อลับตาจากจินหลิง หลานซีเฉินถือถาดอาหารด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก ไหล่กว้างที่เคยสง่างามตอนนี้กลับห่อใจด้วยความเสียใจ เจียงลู่จิวเกลียดเขาแล้ว ซึ่งนั่นก็สมควรแล้ว เขามันคนเห็นแก่ตัวอย่างที่เด็กหนุ่มว่า ในขณะที่หลานซีเฉินใช้ชีวิตสุขสบายผู้คนต้องยกย่อง มีผู้คนมากมายอยู่ข้างกาย แต่กับอีกคนไม่มีผู้ใด ต้องต่อสู้กับคำครหามากมายเพียงลำพัง สมควรแล้วที่เจียงลู่จิวจะเกลียดเขาหลานซีเฉินหยุดอยู่หน้าประตูเรือน มือสวยยื่นไม่เคาะและส่งเสียงเรียกคนที่อยู่กายในห้อง กลับได้ยินเพียงความเงียบงันส่งกลับมา

"คุณชายเจียง..คุณชาย...ลู่จิวข้านำสำรับมื้อเย็นมาให้ เจ้าอาจจะเกลียดข้าจนไม่อยากเห็นหน้าข้าไปตลอดชีวิต ข้าเข้าใจ มันสมควรแล้วกับสิ่งที่ข้าทำ แต่ถึงแม้เจ้าไม่อยากพบข้า แต่ข้าหลานซีเฉินผู้นี้อยากพบเจ้าเสมอ อยากเห็นเจ้าเติบใหญ่ในยุทธภพ ถึงแม้เจ้าไม่อยากเห็นหน้าข้า ข้าก็จะคอยมองดูเจ้าเสมอภายในเงา อยากให้เจ้ารู้ไว้เจียงลู่จิว อาเตี๋ย อาเหนียงรักเจ้าที่สุด" น้ำเสียงเศร้าสร้อยจากภายในถูกส่งออกมาจากความรู้สึก แว่วเสียงสะอื้นจากในห้องบีบรัดหัวใจของประมุขหลานจนแทบจะทนไม่ไหว อีกแล้วเขาทำเด็กหนุ่มเสียใจอีกแล้ว

"อาเตี้ยขอโทษเจ้า" หลานซีเฉินพึมพำแผ่วเบาแล้ววางถาดสำรับออาหารลงที่พื้น หากเขายั่งอยู่ตรงนี้ เจียงลู่จิวคงไม่ยอมเปิดประตูออกมาเป็นแน่ภายในห้องเด็กหนุ่มรับรู้ถึงการมาเยือนของใครบางคน คนที่เขาพึ่งจะตะโกนใส่หน้าไปไม่กี่ชั่วยาม ตอนนี้เด็กหนุ่มเหมือนหลงอยู่ในความมืดหาทางออกไม่พบส้บสนว้าวุ่นไปหมด น้ำเสียงของประมุขหลานที่เปล่งออกมามันทำให้น้ำตาของเด็กหนุ่มไหลพรากออกมา 

'รักข้าหรือ หากรักข้าเพียงโดนข้าตะโกนใส่หน้าใยท่านถึงยอมแพ้ ไม่พยายามที่จะพบหน้าข้าเลย' มือของเจียงลู่จิวกำพู่หยกเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เมื่อเสียงจากด้านนอกงียบไปแล้วเด็กหนุ่มจึงค่อยๆเดินไปเปิดประตู พบเพียงสำรับอาหารไม่พบผู้ใด ดวงตาแดงก่ำจากการร้องห้มองสำรวจอาหารที่อีกคนนำมาให้และยกเข้าไปในเรือน เมื่อลองชิมดูพบว่าเป็นอาหารที่รสชาติคล้ายคลึงกับอวิ่นเมิ่ง เป็นอีกวันที่เจียงลู่จิวต้องทานข้าวพร้อมน้ำตา

 'คิดว่าแค่ทำของโปรดมาให้ข้าแล้วทุกอย่าง จะดีขึ้นงั้นหรือ ที่ข้าทานเพราะทำตามกฎสกุลหลานที่ห้ามเลือกทานต่างหากเล่า ยังไงข้าก็โกรธท่านดังเดิม' ในใจคิดแบบนั้น และถึงแม้น้ำตาจะไหลออกมาไม่หยุด แต่มือของเด็กหนุ่มไม่ยอมปล่อยพู่หยก แม้จะทานข้าวแค่มือข้างเดียวก็ตาม

เช้าวันถัดมาเจียงลู่จิวตื่นขึ้นมาด้วยดวงตาที่บวมเป้ง ครั้งล่าสุดที่เขาจะได้ว่าร้องไห้หนักขนาดนี้คือตอนหกขวบที่เขาแอบอาเหนียงออกไปที่ท่าเรือโดยไม่บอก พออาเหนียงรู้เข้าจึงสั่งกักบริเวณเขาหนึ่งเดือน เขาโกรธอาเหนียงมากร้องไห้งอแง อดข้าวอดน้ำประชดประชัน ทำให้อาเหนียงเสียใจจนมีน้ำตา ตั้งแต่นั้นมาเขาก็คิดได้ว่าโกรธกันเพียงใดก็อย่าได้ทำร้ายตนเองเป็นอันขาดวันนี้เด็กหนุ่มมีเรียนวิชากระบี่ อาจารย์ของวันนี้คือประมุขหลาน แม้จะไม่อยากพบหน้าเพียงใดก็ต้องแยกประเด็นให้ออกระหว่างเรื่องเรียนกับเรื่องส่วนตัว เจียงลู่จิวเดินไปที่ลานฝึกกระบี่ การมาถึงของเขาเป็นที่จับจ้องของศิษย์จากทุกสกุล ทุกคนต่างมองมาที่เขาเป็นตาเดียว เรื่องเมื่อวานที่เขาตะโกนใส่หน้าประมุขหลานที่หน้าหอวินัยคงเป็นที่เลื่องสือไปทั่ว

"อาลู่...เจ้าอย่าได้เก็บไปใส่ใจ" จินหลิงกระซิบบอกน้องชาย

"มิมีอะไรต้องใส่ใจ ใครจะมองอย่างไร คิดอะไรก็แล้วแต่พวกเขา" ใบหน้าหล่อเหลานั้นเชิดขึ้นเล็กน้อยขณะพูด

"แล้ววันนี้เจ้าไม่เป็นไรแน่นะ ที่ต้องเรียนกับเจ๋ออู๋จวินวันนี้หนะ" จินหลิงถามน้องชายด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นว่าทั้งสองพึ่งจะทะเลาะกันมาเมื่อวานเจียงลู่จิวไม่ตอบทำเพียงส่ายหน้าและส่งยิ้มให้เล็กน้อย รอสักพักอาจารย์ก็มาถึง แต่ไม่ใช่ประมุขหลานดั่งที่ควรจะเป็น กลับเป็นหานกวงจวินและไร้เงาผู้ติดตามอย่างหลานซือจุย สองพี่น้องจินและเจียงมองหน้ากันอย่างสงสัยการเรียนการสอนในวันนี้จบลงแล้ว ไม่รู้เจียงลู่จิวคิดไปเองหรือเปล่าเขารู้สึกว่าหานกวงจวินดูโหดกับเขากว่าทุกวัน แต่บุรุษรูปงามอันดับสองนั้นหน้าตาเย็นชานิ่งสงบเป็นทุนเดิมดูแล้วทั้งสองเดินไปที่เรือนพักของหลานจิ่งอี๋ เพื่อไปเยี่ยมเยียนอีกฝ่าย หลานจิ๋วอี๋ยืนกรานว่าจะไม่ไปแช่น้ำรักษาตัวที่สระเหมันต์เป็นอันขาด แม้จะทนเจ็บสองสามวันไม่ยอมที่จะไปแช่น้ำในอากาศหนาวเย็นเช่นนี้เพียงครึ่งชั่วยามก็ตาม

"เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง" จินหลิงถามสหายที่นอนคว่ำหน้าอยู่บนตั่ง

"อีกสองสามวันก็หายดี ความจริงข้าลุกขึ้นเดินหรือนั่งได้แล้ว พวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง" หลานจิ่งอี๋บอก และมองไปที่เจียงลู่จิว

"ลู่จิว ข้าขอโทษที่เป็นสาเหตุให้เจ้าทะเลาะกับเจ๋ออู๋จวิน" หลานจิ่งอี๋กล่าวขอโทษอีกฝ่าย

"มิเป็นไร จิ่งอี๋ซยงมิได้ทำอะไรผิด อีกอย่างไม่ช้าไม่นานข้ากับเขาคงต้องทะเลาะกันอยู่แล้ว" ประโยคหลั่งนั้นเด็กหนุ่มพึมพำกับตัวเองเสียงเบา

"แล้วนี่ หลานเยวี่ยนไปไหน วันนี้ไม่เห็นติดตามหานกวงจวินไปสอน" จินหลิงเอ่ยถามเพื่อนเปลี่ยนเรื่อง

"เขาต้องติดตามเจ๋ออู๋จวินล่าภูติผีที่ตำบลไฉ่อีหนะ" หลานจิ่งอี๋บอก "เมื่อวานมีชาวบ้านมาร้องทุกข์ว่าช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมามีภูตผีออกอาละวาด ทำชาวบ้านเสียชีวิตไปสองรายแล้ว เจ๋ออู๋จวินเลยต้องลงไปดูด้วยตนเอง ซือจุยเลยติดตามไปด้วย"จิ่งอี๋พูดพร้อมกับลุกขึ้นนั่ง

"ทำไมหลานเยวี่ยนต้องติดตามไปด้วย ปกติคนเจ๋ออู๋จวินมีคนติดตาตัวอยู่แล้วนี่นา" จินหลิงยังคงสงสัย ในขณะที่เจียงลู่จิวนั่งฟังเงียบๆ

"ซือจุยเล่าให้ข้าฟังว่า ภูตผีที่ออกอาละวาดมีไอมารส่งออกมาด้วย เขาเลยขอติดตามเจ๋ออู๋จวินไป ว่าไอมารพวกนั้นเป็นแบบเดียวกันกับที่เราเจอที่อวิ่นเมิ่งหรือเปล่า"หลานจิ่งอี๋อธิบายยาวเหยียดออกมา ทำให้เด็กหนุ่มทั้งสองคนรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากลของเรื่องนี้ จู่ๆก็เจอปีศาจที่มีไอมารแผ่ออกมาในระยะเวลาเพียงไม่นานในสองพื้นที่ที่ห่างไกล เรื่องนี้คงเป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าเด็กอย่างพวกเขาจะเข้าไปยุ่งตำบลไฉ่อีอยู่ในเขตการปกครองของกูซุหลาน เมื่อวานนี้หลังจากที่หลานซีเฉินกลับมาจากเรือนของเจียงลู่จิว ก็เห็นว่าศิษย์นอกสำนักที่อาศัยอยู่ตำบลไฉ่อีมาขอพบเขา และเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าเจอภูตผีออกอาละวาดทำชาวบ้านเสียชีวิตไปสองรายแล้วภายในหนึ่งอาทิตย์ และศิษย์นอกคนนี้ไม่สามารถปราบมันลงได้จึงได้ขึ้นมาขอความช่วยเหลือจากประมุขหลานหลานซีเฉินตอบตกลงที่จะให้การช่วยเหลือในทันที แม้ภายในใจจะยังมีเรื่องที่ต้องคิดมากมายแต่ด้วยหน้าที่ของประมุขสกุลเมื่อมีใครเดือดร้อนมาเขาจะต่องให้การช่วยเหลือในทันที วางเรื่องส่วนตนเอาไว้ก่อนจะทำงานของประมุขให้สำเร็จพรุ่งนี้ประมุขหลานนั้นมีสอนศิษรุ่นเยาว์ ต้องให้หลานวั่งจีไปสอนแทนและเรื่องการเตรียมงานสมรสมีท่านอาเป็นหัวเรือใหญ่อยู่แล้ว เมื่อหลานซีเฉินเดินไปถึงเรือนวิเวกเรื่องฝากฝังการเรียนการสอนพรุ่งนี้กับหลานวั่งจี ก็ได้เจอกับหลานซือจุยอยู่ที่นั่นและเด็กหนุ่มก็ขอติดตามไปด้วย หลานซีเฉินไม่เคยปฏิเสธคำของร้องของผู้ใดอยู่แล้วจึงตอบตกลง

"เจ๋ออู๋จวินขอรับ..เจ๋ออู๋จวิน...เจ๋ออู๋จวินขอรับ"หลานซือจุยเอ่ยเรียกประมุขของตนที่นั่งเหม่อยู่บนเรือ

"หืม ว่าอย่างไร ซือจุย" ใบหน้าหล่อเหลาที่พึ่งหลุดออกจากภวังค์เอ่ยถามขึ้น

"เรามาถึงโรงเตี๊ยมที่ต้องเข้าพักแล้วขอรับ"จือจุยบอก หลานซีเฉินและศิษย์ที่ติดตามมาสี่ถึงห้าคนจึงเดินเข้าไปภายในโรงเตี๊ยมเพื่อเอาของไปเก็บ และออกล่าภูตผีตนนั้นจากคำบอกเล่าของศิษย์นอกสกุลผู้นั้น ปีศาจตนนี้ชอบอาศัยอยู่ในแหล่งนันคอยจังหวะซาวบ้านที่เดินป่าเหนื่อยล้าและพักดื่มน้ำที่ลำธาร มันก็ลากชาวบ้านคนนั้นลงไปในน้ำจนจมน้ำตายและปล่อยให้ร่างนั้นลอยขึ้นมา ร่างมีร่องรอยการถูกกัดและมีรอยข่วน เหมือนเจตนาคือทำให้ตายไม่ได้ต้องการอาหารในป่าลึกเขตของตำบลไฉ่อี หลานซีเฉินและเหล่าศิษย์สกุลหลานกระจายกันออกตามหาตามทางเดินของริมลำธาร กพักใหญ่นั้นก็มีพลุส่งสัญญาณของตระกูลหลานสว่างขึ้นมา ทำให้ทุกคนไปรวมตัวกันเมื่อไปถึงหลานซือจุยกลับพบว่าปีศาจตนนี้มีลักษณะเดียวกับที่พวกเขาเจอที่อวิ่นเมิ่ง แต่ทว่าตัวนี้ซือจุยรับรู้ได้ถึงไอมารที่มากกว่า พลังที่เยอะกว่า และความดุร้ายที่เพิ่มมาเป็นเท่าตัวในตอนนี้สัตว์ปีศาจตัวนั้นได้ถูกประมขหลานและเหล่าศิษย์สกุลล้อมไว้เพื่อมิให้มันหนี ขายาวๆของมันที่มีกรงเล็บแหลมคมปัดป่ายไปทั่วกันไม่ให้ใครเข้ามาทำร้ายมันได้ดวงตาดุร้ายของมันมีไอสีดำส่งออกมาตลอดเวลาหลานซีเฉินหยิบเลี่ยปิงอกมา เป้าบทเพลงกำจัดมาร ปีศาจตัวนั้นค่อยๆหยุดดิ้นและสงบลงเล็กน้อย แต่สายตาเร้ายของมันจดจ้องมาที่หลานซีเฉินตลอดเวลาจนดวงตาสีทองสวยเผลอไปสบตากับมันเข้าหลานซีเฉินรู้สึกตาพล่า ภายในห้วมีภาพต่างๆไหลเข้ามามากมายจนแทบแยกไม่ออกมามันคือความจริงหรือไม่ ภาพเจียงเฉิงอุ้มท้องนั่งร้องไห้อย่างทรมาณ ภาพเจียงเฉิงกำลั่งขับกล่อมลูกนอนทั้งน้ำตา ภาพของเด็กชายในวัยหกขวบกำลังตะโกนคำว่าเกลียดชังใส่เขา ภาพของเจียงเฉิงที่ด่าทอเขาว่าเห็นแก่ตัว ภาพของทั้งสองเดินหันหลังจากเขาไป ภาพทุกอย่างนั้นซ้อนทับกันไปมา หลานซีเฉินสะบัดหัวไปมารู้สึกเหมือนตรงหน้าพล่าเลื่อนเพราะน้ำตาที่ไหลอาบลงมา แต่เสียงตะโกนเรียกเขารอบตัวทำให้สติกลับมา ประมุขหลานตวัดชั่วเยว่ ออกมาจากฝักครั้งเดียวก็บั้นคอปีศาจตนนี้หลุด และแน่นิ่งไร้ลมหายใจในที่สุด

"เจ๋ออู๋จวิน!!"เสียงเหล่าศิษย์เรียกเขาด้วยความตกใจ ตอนนี้เองหลานซีเฉินพึ่งรับรู้ถึงอาการบาดเจ็บของตนเอง แน่นั่นเขาก็ไม่ใส่ใจมากนั่ง

หลานซีเฉินเดินเข้าไปสำรวจปีศาจตนนั้นอย่างละเอียด ซือจุยรายงานเขาว่าสัตว์ร้ายตัวนี้มีลักษณะภายนอกเหมือนที่เด็กหนุ่มทั้งสี่เจอที่อวิ่นเมิ่ง แต่ทว่าตัวนี้กลับดูดุร้ายกว่า มีพลังมากกว่า

"มีไอมารส่งออกมาค่อนข้างมาก เล็บและเขี้ยวแหลมคม สามารถสะกดจิตได้เมื่อเผลอจ้องตาคาดว่าชาวบ้านที่ถูกฆ่าตายก็เพราะเช่นนี้ คงถูกสร้างมาจากตราพยัคฆ์ทมิฬ เรื่องนี้คงต้องรายงานแก่ประมุขสกุลอื่นๆเสียแล้ว" หลานซีเฉินอธิบายออกมาและร่ายอาคมคุมทับไว้ไม่ให้ศพเน่าเปื่อย หลังจากเสร็จสิ้นงานสมรส เขาจะเอาเรื่องนี้เข้าที่ประชุมเซียนอย่างจริงจังกลับมาถึงตัวตำบลไฉ่ในช่วงพลบค่ำแสงอาทิตย์กำลังอัสดงทำให้ขอบฟ้านั้นงดงามเป็นอย่างมาก วันนี้ประมุขหลานและเหล่าศิษย์จะพักที่นี่หนึ่งคืนแล้วค่อยเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้ หลานซีเฉินยืนเหม่อมองแสงสีทองที่สะท้อนระหว่างขอบฟ้ากับผืนน้ำอยู่ร่ำไรด้วยความเหม่อลอยและบีบรัดในใจเมื่อนิกถึงภาพนิมิตที่ปีศาจตนนั้นสร้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาพลวงหรือจริง ก็เปลี่ยนความเป็นจริงที่ว่าเขาทิ้งให้คนที่รักใช้ชีวิตลำพังกันตลอดมา

"ท่านยังคงไม่เปลี่ยนเลยนะหลานซีเฉิน" เสียงหวานติดตะดุดั่งขึ้นมาข้างหลังของหลานซีเฉินร่างในอาภรณ์สีฟ้าครามที่แขนเสื้ออีกข้างขาดหลุดรุ่ยหันไปตามที่มาของเสียง

"จ..เจียงหวั่นอิ๋น" เสียงสั่นๆถูกเปล่งออกมาจากปากสวยเมื่อรู้ว่าใครยืนอยู่ข้างหลัง ใครบางคนที่เขาพึ่งคิดถึงเมื่อสักครู่เจียงเฉิงเดินเข้ามาหาอีกคนอย่างช้าด้วยหัวใจที่เต้นระรัวแม้อีกคนจะบอกความในใจผ่านจดหมายกับเขาแล้ว แต่นั่นมันเป็นแค่ตัวอักษรคงไม่เหมือนภาพตรงหน้าที่กำลังเด่นชัด ภาพของหนุ่มรูปงามนดับหนึ่งแม้จะอายุเข้าเลขสามแล้วก็ตามภาพของคนๆนี้ยังเด่นชัดในหัวใจของเจียงเฉิงเสมอมา

"หล..หลาน" ยังไม่ทันทีเจียงเฉิงพูดจบหลานซีเฉินก็ทรุดตัวลงคุกเข่าต่อหน้าเขา

"ท่านทำอะไรหนะหลานซีเฉิน" เจียงเฉิงรีบถลาตัวไปพยุงหลานซีเฉินขึ้นมาตอนนี้เองที่เจียงได้เห็นใบหน้าประมุขสกุลหลานชัดๆ ใบหน้าที่อาบไปด้วยร่องรอยของความเสียจากหยาดน้ำตา

100%

...TBC....

เลือกตอน
1 Intro
2 บทที่ 1 แรกพบพาน
3 บทที 2 ทุกสิ่งล้วนน่าสงสัย
4 บทที่ 3 สิ่งที่เก็บซ่อนไว้ภายใน
5 บทที่ 4 เรื่องราวในอดีต 1
6 บทที่ 5 เรื่องราวในอดีต 2
7 บทที่ 6 เรื่องราวในอดีต 3
8 บทที่ 7 นานของเขา เจียงลู่จิว
9 บทที่ 8 ความสุขที่ควรได้รับ
10 บทที่ 9 หวนคืนเหลียนฮวาอู้
11 บทที่ 10 จดหมาจจากใครบางคน
12 บทที่ 11 ความรู้สึกภายในสู่ภายนอก
13 บทที่ 12 แว่วเสียงจากความจริง
14 บทที่ 13 ปลดปล่อยเรื่องราว
15 บทที่ 14 เพียงพร้องหน้า
16 บทที่ 15 ไม่เคยเกลียดชัง
17 บทที่ 16 งายสมรส
18 บทที่ 17 ค่ำคืนเฉลิมฉลอง
19 บทที่ 18 บุคคลชักใย
20 ตอนที่ 19 ลักพาตัว
21 ตอนที่ 20 อาเตี่ย
22 ตอนที่ 21 มิพลัดพราก (จบ)
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 22

1
Intro
2
บทที่ 1 แรกพบพาน
3
บทที 2 ทุกสิ่งล้วนน่าสงสัย
4
บทที่ 3 สิ่งที่เก็บซ่อนไว้ภายใน
5
บทที่ 4 เรื่องราวในอดีต 1
6
บทที่ 5 เรื่องราวในอดีต 2
7
บทที่ 6 เรื่องราวในอดีต 3
8
บทที่ 7 นานของเขา เจียงลู่จิว
9
บทที่ 8 ความสุขที่ควรได้รับ
10
บทที่ 9 หวนคืนเหลียนฮวาอู้
11
บทที่ 10 จดหมาจจากใครบางคน
12
บทที่ 11 ความรู้สึกภายในสู่ภายนอก
13
บทที่ 12 แว่วเสียงจากความจริง
14
บทที่ 13 ปลดปล่อยเรื่องราว
15
บทที่ 14 เพียงพร้องหน้า
16
บทที่ 15 ไม่เคยเกลียดชัง
17
บทที่ 16 งายสมรส
18
บทที่ 17 ค่ำคืนเฉลิมฉลอง
19
บทที่ 18 บุคคลชักใย
20
ตอนที่ 19 ลักพาตัว
21
ตอนที่ 20 อาเตี่ย
22
ตอนที่ 21 มิพลัดพราก (จบ)

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!