บทที่ 9 หวนคืนเหลียนฮวาอู้
อวิ่นเซินปู้จี่อยู่
ยามซื่อ (0๙:๐๐ - ๑๐:๕๔)
เว่ยอู๋เซี่ยนกับหลานวั่งจีกำลังรอเจียงลู่จิวอยู่ที่ประตูทางเข้ากูซูหลาน วันนี้เว่ยอู่เซี่ยนตื่นเต้นเป็นที่สุดที่จะได้กลับเหลียนฮวา หากเป็นปกติยามนี้เขายังไม่ตื่นนอนเสียด้วยซ้ำ เว่ยอู๋เซี่ยนเดินวนไปมารอบตัวคนรักแบบอยู่ไม่สุขรอหลานชายอย่างใจจดใจจ่อ สักพักจึงเห็นเจียงลู่จิวเดินมาพร้อมกับหลานชายคนโตของตน ด้านหลังยังมีบุตรบุญธรรมของเขาและเด็กปากไวแห่งสกุลหลานเดินตามมาด้วย
"นี่พวกเจ้ายกขโยงกันมาทำไมเยอะแยะ"
"ก็เพราะเจ้านั่นแหละ" จินหลิงเอ่ยสวนออกมา
"เพราะข้า ทำไม" เว่ยอู๋เซี่ยนถามกลับพร้อมทำสีหน้ากวนๆส่งให้หลานชายคนโตอย่างไม่ยอมแพ้
"ก็เพราะเจ้าไม่ยอมบอกข้าว่าจะไปเหลียนฮวาฮู้ หากข้าไม่เจออาลู่ก็คงไม่รู้เพราะฉะนั้นข้าจะไปด้วย" จินหลิงร่ายยาวถึงข้ออ้างของตนออกมา ก็เขาไม่ได้เจอท่านน้ามาหลายเดือนแล้วอยากไปเยี่ยมเยียนเหมือนกัน เว่ยอู๋เซี่ยนส่ายหน้าให้กับข้อข้างของหลานชายคนโต
"อยากไปก็ไปสิ หากโดนเจียงเฉิงไล่ตีข้าไม่ช่วยเจ้าน้า" เว่ยอู่เซี่ยนพูดขู่ด้วยความเอ็นดู
"เหอะ ท่านเอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ ท่านน้าใหญ่" จินหลิงเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้
"แล้วพวกเจ้า สองคนเล่าแค่เดินมาส่งหรือจะไปด้วยกัน" เอ่ยถามพร้อมองไปที่สองบุรุษในชุดสกุลหลานที่ยืนอยู่ด้านหลั่ง "แต่ดูท่าพวกเจ้าคงจะไปด้วยสินะ ดูสิเตรียมของมาขนาดนี้แล้ว หลานจ้านเจ้าให้พวกเขาไปด้วยหรือไม่" เว่ยอู๋เซี่ยนหันไปเอ่ยถามความเห็นจากคนรัก
"อืม" หลานวั่งจีเอ่ยอนุญาตแบบประหยัดคำพูดเช่นเดิม เด็กหนุ่มทั้งสามแสดงความดีใจอย่างปิดไม่มิด แต่มีเพียงเด็กหนุ่มคนนึงที่ยืนเงียบๆมองคนนั้นคนนี้แบบเหม่อลอย
"นี่ อาลู่ เจ้ายังกังวลเรื่องพู่กระดิ่งอยู่อีกหรือ" จินหลิงวางมือบนไหล่ญาติผู้น้องเมื่อเห็นว่าเช้าวันนี้น้องชายเขาดูไม่ค่อยสดชื่นนัก เจียงสู่จิวไม่ตอบทำเพียงแค่ส่งยิ้มให้ญาติผู้พี่เล็กน้อย
"เห เจ้าทำพู่กระดิ่งหายหรือ" เว่ยอู๋เซี่ยนดูตกใจกับเรื่องที่พึ่งรับรู้
"ตายแน่ๆข้าจำได้ว่ามีครั้งนึงข้าทำพู่กระดิ่งหาย เจียงเฉิงไล่ตีข้าไปทั่วท่าเรือน่ากลัวเป็นที่สุด"พูดพร้อมกับกอดแขนตนเองทำความขนลุกขนชัน แต่สิ่งที่เว่ยอู๋เซี่ยนพูดกลับไม่เข้าหูของเจียงลู่จิวแม้แต่น้อย และปฏิกิริยาทุกอย่างตกอยู่ในสายตาของหลานวั่งจี
"ชยงจ่างมา" คำพูดของหลานวั่งจีทำให้เด็กหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อย
"คาราวะเจ๋ออู๋จวิน" ทุกคนหันไปคำนับหลานซีเฉินที่พึ่งเดินมาถึง
"อย่าบอกนะว่า เจ๋ออู๋จวินจะไปกับพวกเราด้วย" เว่ยอู๋เซี่ยนเอ่ยแซวออกมาเล็กน้อย หลานซีเฉินส่ายหน้าเล็กน้อยพร้อมรอยยิ้ม
"ข้าแค่มาส่ง และเอาของบางอย่างมาให้แค่นั้น"หลานซีเฉินหยิบห่อบางอย่างขึ้นมาส่งให้หลานวั่งจี
"วั่งจีพี่ฝากด้วย" หลานวั่งจีมองหน้าพี่ชายของตนแล้วพยักหน้ารับรู้ในสิ่งที่พี่ชายของตนอยากให้ช่วย ยื่นมือไปรับห่อมาถือไว้
"คุณชายเจียง"
เป็นอีกครั้งที่เด็กหนุ่มสะดุ้งเพราะถูกเรียกชื่อ เจียงลู่จิวแอบมองผู้ที่เรียกตนเล็กน้อยและก้มหน้าหลบตาเช่นเคยเมื่อเจอแววตาที่มองมาที่ตนอย่างเปิดเผย
"ขอรับเจ๋ออู๋จวิน" เจียงลู่จิวขานรับก่อนจะเดินออกมาหาผู้สนทนาตรงหน้า แต่ยังคงก้มหน้าหลบตาเหมือนเคย หลานซีเฉินเมื่อเห็นแบบนั้นจิตใจกลับห่อเหี่ยวลง คิดว่าตนเป็นสาเหตุที่ทำให้ความสดใสนี้หายไป
'รออีกนิดเถิด หากข้าแน่ใจมากกว่านี้ ข้าจะทำให้สดใสกลับคืนสู่เจ้าเอง'
"ข้าเจอสิ่งนี้แถวเรือนเหมันต์ สิ่งนี้ ใช่ของท่านหรือไม่?" ร่างในอาภรณ์สีฟ้าครามดูสูงส่งหยิบพู่กระดิ่งออกมาออกมาจากอกเสื้อยื่นให้เด็กหนุ่ม เด็กหนุ่มตาโตขึ้นทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น ให้มันหายไปหาไม่เจอเสียดีกว่าการหาเจอในสถานที่แบบนั้นท่านเทพเซียนเล่นตลกกับเขาอยู่หรือ หล่นที่ไหนไม่หล่นกลับหล่นหายตอนที่เขาแอบไปสำรวจเรือนเหมันต์ด้วยความอยากรู้ว่าประมุขสกุลหลานกลับมาจากหลันหลิงจินหรือยัง
'แค่อยากเจอหน้าแค่นั้น'
"ชะ..ใช่ขอรับ ข้าน้อยเจียงลู่จิวขอบคุณท่านมาก" ยื่นมือออกไปรับพร้อมกับคำนับอีกฝ่ายเพื่อเป็นคำขอบคุณ หลานซีเฉินยื่นมือออกมารองรับทันทีพร้อมเอ่ย
"ข้าเต็มใจ สิ่งใดที่ทำให้เจ้าได้ข้าเต็มใจทั้งหมด" คำพูดที่แฝงไปด้วยความในถูกเปล่งออกมา เด็กหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อยเหมือนที่มารดาชอบทำเวลามีเรื่องต้องขบคิดแล้วเดินกลั่บไปยืนข้างเว่ยอู๋เซี่ยนแบบไม่พูดจา เกิดความเงียบขึ้นเมื่อทุกคนที่อยู่ตรงนั้นเป็นปฏิกิริยาของเด็กหนุ่มที่มีต่อประมุขหลาน ไม่มีใครเอ่ยสิ่งใดได้แต่ลอบมองกันไปมา จนเสียงดุๆของบุรุษรูปงามอันดับสองเอ่ยขึ้น
"เจียงลู่จิว อย่าทำ.."หลานวั่งจีกำลังจะเอ่ยตำหนิเด็กหนุ่มที่คาดว่าจะเป็นหลานชายของตนเมื่อเห็นกิริยาที่ไม่เหมาะสมต่อประมุขหลานพี่ชายของตน
"มิเป็นไร วั่งจี"หลานซีเฉินเอ่ยห้ามไว้เสียก่อนเรื่องราวจะใหญ่โต
"พวกท่านจะเหินกระบี่ไปใช่หรือไม่ เช่นนั้นเดินทางปลอดภัย"
"ขอรับเจ๋ออู๋จวิน" ทุกคนทำความเคารพหลานซีเฉินอีกครั้งก่อนออกเดินทางหลานหวั่งจีเดินออกไปก่อนพร้อมกับเว่ยอู๋เซี่ยนตามด้วย สองพี่น้องจินหลิงและเจียงลู่จิว ปิดท้ายด้วยสองสหายสกุลหลานที่ยืนมองเหตุการณ์เมื่อครู่อย่างเงียบๆ
"นี่ ซือจุย" หลานจิ่งอี๋กระซิบเรียกสหาย
"หืม มีอันใดจิ่งอี๋" หลานเยวี่ยนถามด้วยความฉงน เมื่อเป็นหลานจิ่งอี๋พยายามพูดเสียงเบา
"เจ้าเห็นเมื่อครู่หรือไม่ที่เจ๋ออู๋จวินยืนคู่กับคุณชายเจียง" หลานจิ่งอี๋พูดเสียงเบาลงอีกระดับ
"พวกเขาช่างเหมือนกันอย่างกับแกะ อย่างหานกวงจวินรูปโฉมคล้ายกับเจ๋ออู๋จวินก็ไม่แปลกเพราะทั้งคู่เป็นพี่น้องแท้ๆกัน เจ้าว่าจะมีสักกี่เหตุผลที่คำให้คนต่างสกุลกันรูปโฉมคล้ายกันขนาดนี้" หลานจิ่งพูดอย่างใช้ความคิด หลานเยวี่ยนส่ายหน้าให้เพื่อนสนิทของตนเล็กน้อย
"เวลาเท่านั้นที่จะไขข้อสงสัยเจ้ได้จิ่งอี๋ แต่ตอนนี้เจ้าอย่าได้ไปพูดให้คนภายนอกได้ยินเข้าใจหรือไม่"
"ข้ารู้น่า ว่าอะไรควรไม่ควร"
เหลียนฮวาอู้ , อวิ่นเมิ่งเจียง
ทั้งหกเดินทางมาถึงเหลียนฮวาในเวลาบ่ายคล้อย เว่ยอู๋เซี่ยนหยุดมองประตูป้อมบงกชนิ่งงัน รู้สึกประหม่าเสียมิได้ การมาเยือนคราวที่แล้วจบไม่สวยนัก ในวันนี้เขากลับมาเยือนอีกครา ความรู้สึกตื้นต้นที่อัดแน่นคล่อยๆเอ่อล้นผ่านดวงตากลมใส
"เว่ยอิง" หลานวั่งจีเรียกคนรักเสียงอ่อนโยน เมื่อเห็นหยดน้ำตาไหลอาบแก้มเนียน
"หลานจ้าน ข้าคิดถึงเหลียนฮวาอู้ ข้าคิดถึงเจียงเฉิง" เว่ยอู๋เซี่ยนกล่าวกับคนรักพร้อมรอยยิ้มปนไปกับหยาดน้ำอาบแก้มเนียน
"คิดถึงก็เข้าไปเถิด" หลานวั่งจีเอื้อมมือมาโอบมือคนรักแผ่วเบาและเดินไปที่ท่าเรืออย่างช้าๆ
"เอ๊ะนั่น คุณชายเจียง" "ใช่คุณชายเจียงจริงด้วย"
"คุณชายเจียงกลับมาแล้ว"
เสียงแซงแซ่ของเหล่าพ่อค้าแม่ค้าที่ท่าเรื่ออวิ่นเมิ่งดังขึ้นเมื่อเห็นคุณชายเจียงบุตรชายเพียงเดียวของประมุขเจียงเดินผ่านท่าเรื่อ เสียงเอ่ยทักทายดั่งขึ้นเป็นระยะ ที่เจียงลู่จิวเดินผ่าน เด็กหนุ่มส่งยิ้มให้คนเหล่านั้นเพื่อเป็นการทักทาย ด้วยที่ว่าออกไปนอกเขตเวิ่นเมิ่งไม่ได้เขาจึงชอบชวนเหล่าศิษย์ศิษย์น้องมาเล่นซนที่ตลาดแถวท่าเรืออยู่เป็นประจำ เจียงลู่จิวเลยค่อนข้างคุ้นเคยกับคนเหล่านี้
"คุณชาย ท่านเอาเม็ดบัวไปทานไหม ข้าพึ่งไปเก็บมาเมื่อเช้าสดใหม่แน่นอนขอรับ" พ่อค้าคนนึงเอ่ยขึ้นเมื่อเจียงลู่จิวเดินผ่าน พร้อมยื่นฝักบัวให้เด็กหนุ่มกองหนึ่งฟรีๆ
"ไม่เป็นไรขอรับท่านลุงของซื้อของของขายข้าจ่ายต้งดีกว่า" เจียงลู่จิวรับมาพร้อมหยิบเงินออกมา
"ไม่ต้องๆคุณชาย ท่านรับไปเถิด" พ่อค้ายังคงที่จะหยิบยื่นให้ฟรีๆแต่เด็กหนุ่มยังคงเกรงใจ
"แต่ว่า..."
"เอาน่าลู่จิว เจ้ารับไปเถอะเดี๋ยวคุณลุงท่านนี้จะเสียใจแย่" เว่ยอู๋เซี่ยนวิ่งมาเกาะหล่หลานชายพร้อพูดขึ้นเสียงใส เจียงลู่จิวมองฝักบัวในมีเล็กน้อยก่อนยอมในที่สุด
"ก็ได้ขอรับ ขอบคุณท่านลุงมาก ขอให้ท่านขายดิบขายดีนะขอรับ" เด็กหนุ่มเอ่ยขอบคุณพร้อมรอยยิ้มเช่นก่อนออกไป
เมื่อเดินมาถึงประตูป้อมบงกช ทั้งหกคนกลับพบว่ามีไครบางคนมารอรับอยู่แล้ว เมื่อเห็นว่าใครที่รออยู่ตรงนั้น เว่ยอู๋เซี่ยนกลับหยุดนิ่งไม่กล้าขยับตัว ไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไร
"เจ้าจะรอวิญญาณอาเหนียงมาเชิญเจ้ารึไง จึงจะเข้ามาหนะฮะ" เจียงเฉิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงประชดประชันเช่นเคย แต่กลับเรียกรอยยิ้มจากเว่ยอู๋เซี่ยนออกมาได้
"เจียงเฉิง~ " เว่ยอู๋เชี่ยนเอ่ยเรียกน้องชายบุญธรรมของตนก่อนจะวิ่งไปกอดร่างในอาภรณ์สีม่วงด้วยความโล่งใจ
"ฮึก..ข้า..ก..ข้าขอบใจเจ้าที่ยอมให้ข้ากลับมาท่าเรือ..ฮีก..ขอบใจเข้าจริงๆ" เว่ยอู๋เซี่ยนพูดกับคนที่ตนกอดอยู่ทั้งน้ำตา เจียงเฉิงเมื่อเห็นการกระทำของเว่ยอู๋เชี่ยน ก็รู้สึกขัดเขินขึ้นมาเล็กน้อย
"อะ..แฮ่ม อยากมาก็มาสิใครห้ามเจ้าหละ" เอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งๆอย่างที่เคยทำ แก้ความขัดเชินของตน
"ปล่อยข้าได้แล้ว กอดอยู่ได้ข้าอึดอัด คนรักของเจ้ามองข้าตาเขียวแล้ว"เมื่อได้ยินแบบนั้นเว่ยอู๋เซี่ยนก็ผละออกจากเจียงเฉิงแต่โดยดี แล้วหันกลับไปมองคนรักที่ทำหน้าเย็นชาเช่นเคยแต่ในแววตากลับจ้องเขม็งด้วยความไม่พอใจ เว่ยเซี่ยนส่งยิ้มแหยๆไปให้คนรัก
"พวกเจ้าก็มาด้วยรึ?" เจียงเฉิงเอ่ยถามเด็กหนุ่มทั้งสี่ที่ยืนอยู่ด้านหลัง
"แล้วไม่ได้ร่ำเรียนกันรึไง"
"ท่านอาจารย์หลาน ต้องออกไปทำธุระนอกกูซูสามสี่วันพวกข้าเลยว่างต่างหากเหล่าท่านน้า" จินหลิวพูดออกมา
"หึ พวกเจ้าเลยจะมาวิ่งเล่นที่นี่สินะ" เจียงเฉิงเอ่ยอย่างรู้ทัน
"อาลู่ เจ้าไม่อยากกลับบ้านรึไร ถึงได้มีสีหน้าเช่นนั้น"เจียงเฉิงเอ่ยกับบุตรชายเมื่อเก็นสีหน้าคิดไม่ตกของเจียงลู่จิว
"เปล่าขอรับอาเตี๋ยข้าแค่เหนื่อยเดินทาง อาเตี๋ยก็รู้ว่าข้าเหินกระบี่ยังไม่คล่องนัก ดีที่เหล่าศิษย์พี่ หานกวงจวินและท่านลุงเว่ยคอยช่วยดูแลตลอดทางไม่อย่างนั้นข้าแย่แน่" เจียงลู่จิวบอกเล่าการเดินทางของตนด้วยน้ำเสียงออดอ้อนและเดินเข้าไปเกาะเอวของเจียงเฉิงเอาไว้ เรียกรอยยิ้มของทุกคนที่ยืนมองอยู่ไม่เว้นแม้แต่หานกวงจวินผู้เงียบขรึมยังอมยิ้มเล็กน้อยอย่างเอ็นดูเจียงเฉิงยกมือขึ้นลูบศีรษะเด็กหนุ่มขึ้นลงอย่างเคยชิน เด็กคนนี้แม้จะโตขนาดนี้แล้วยังขี้อ้อนเป็นที่สุด
"อย่างนั้นก็พากันไปพักผ่อนเสียเถิด ข้าจะให้คนจัดห้องไว้ให้ หานกวงจวินท่านพักกับเว่ยอู๋เซี่ยนใช่หรือไม่" เจียงเฉิงหันไปถามหลานวั่งจึ ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับเป็นคำตอบ
"แล้วพวกเจ้า จะพักด้วยกันหรือต้องการความเป็นส่วนตัว" เจียงเฉิงหันมาถามสองศิษย์สกุลหลาน
"เราสองคนพักห้องเดียวกันได้ขอรับ แค่ติดตามมาด้วยข้าก็เกรงใจท่านประมุขมากแล้ว"หลานซือจุยเอ่ยอย่างนอบน้อม
"งั้นก็ดี.."
"ข้าพักที่เรือนเดิมนะขอรับท่านน้า"
"ก็พักที่เรือนเดิมสิ เจ้าจะกลับไปนอนที่จินหลินไถรี?"เจียงเฉิงพูดเสียงดุกับหลานชายที่เอ่ยขัดขึ้นมากลางปล้อง
"เชิญเข้ามาด้านในเถิดเดี๋ยวจะมีบ่าวนำไปทีเรือนพวกท่านก็พักผ่อนกันตามสบาย ตอนมื้อเย็นข้าจะให้บ่าวไปเรียกมาทานอาหารร่วมกันพรุ่งนี้ค่อยไปหอบรรพชนกัน" พูดเสร็จร่างในอาภรณ์สีม่วงของประมุขสกุลเจียงเดินนำเข้าไปภายในเขตสำนัก พร้อมกับมือที่จูงบุตรชายไปด้วยตลอดเวลาเมื่อส่งทุกคนไปที่เรือนเรียบร้อยแล้ว เจียงเฉิงก็จงมือบุตรชายเข้ามาในเรือนนอนของตน แล้วพามานั่งลงที่โต๊ะอ่านนังสือตัวเล็กภายในห้อง
"เป็นอย่างไรบ้างไปอยู่ที่นู่น เจ้าชอบหรือไม่" เจียงเฉิงเอ่ยถามบุตรชายเมื่อทั้งสองนั่งลงเรียบร้อยแล้ว เด็กหนุ่มมองหน้ามารดาของตนเล็กน้อยก่อนตอบ
"ก็ชอบขอรับ ทุกคนที่นู้นดีกับข้ามาก ท่านอาจารย์หลานก็สอนสั่งลูกในด้านการวิชาเป็นอย่างดีอีกทั้งยังเอ็นดูลูกเป็นอย่างมาก หานกวงจวินก็ช่วยสอนวิชากระบี่ให้เก่งกล้าขึ้นเช่นกัน" เจียงลู่จิเล่าเรื่องราวที่ได้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่กูซูหลานมากกว่าสามอาทิตย์ให้คนที่นั่งอยู่ตรงข้ามฟัง
"แล้วก็...เจ๋ออู๋จวิน" พูดแค่นั้นเด็กหนุ่มก็เงียบไป มองปฏิกิริยาของมารดา ซึ่งก็ได้เห็นแววตาของเจียงเฉิงวูบไหวเล็กน้อย
"หืม แล้วเจ๋ออู๋จวินทำไมหรือ" เจียงเฉิงเอ่ยถามเพื่อมิให้เป็นพิรุธ
"มิมีอะไรขอรับอาเหนียง ข้าแค่เพียงจะบอกว่าเขาเป็นประมุขที่ใจดี สุขุม แถมยังรูปโฉมงดงาม ท่านเห็นด้วยหรือไม่ขอรับอาเหนียง" เจียงลู่จิวเอ่ยถามความคิดเห็นพร้อมลอบมองสีหน้าของเจียงเฉิง
"ทำไมข้าจักไม่เห็นด้วยเล่า เจ้านี่ถามแปลกๆ ข้าเจอหลานซีเฉินมาตั้งแต่สมัยเรียนที่กูซู เขาก็เป็นเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไร"เจียงเฉิงระส่ำระลักตอบบุตรชาย เจียงลู่จิวยกยิ้มเล็กน้อย
"เอาหละ เจ้าไปอาบน้ำอาบท่าเสีย ข้าให้คนเตรียมน้ำอุ่นไว้ให้แล้ว" เจียงเฉิงเปลี่ยนเรื่องไม่อยากให้บุตรชายเช้าซี้กลัวว่าเจียงลู่จิวจะจับพิรุธได้ ถึงรู้ว่าสักวันความจริงต้องถูกเปิดเผยออกมา แต่เจียงเฉียงอยากเก็บไว้เป็นความลับให้นานที่สุด
ตอนนี้เจ้าของบ้านและแขกที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีกำลังรับประทานอาหารเย็นกันที่ศาลาริมสระบัวภายในเขตเรือนประมุขที่ถูกอนุญาตให้เข้ามาเป็นกรณีพิเศษทั้งหมดทานอาหารกันอย่างเงียบเชียบแต่มีเพียงคนเดียวที่เจื้อยแจ้วถึงรสชาติอาหารไม่หยุด
"ข้าชอบรสชาติอวิ่นเมิ่งเป็นที่สุด" เว่ยอู๋เซี่ยนพูดพร้อมยกน้ำแกงขึ้นชดอย่างเอร็ดอร่อย
"ไปอยู่กูซูหลานตั้งนาน เจ้าไม่รู้หรือไรว่าเวลากินห้ามพูด" เจียงเฉิงพูดเหน็บขึ้นมา
"ข้ารู้ๆ เจียงเฉิง แต่หลานจ้านก็ไม่ได้ว่าอะไรช้า ใช่หรือไม่" เว่ยอู๋เซียนตอบอย่างไม่สนใจในกฎเกณฑ์ เมื่อหันไปที่หลานวั่งจีชายหนุ่มกลับพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อให้คำตอบคนรักเจียงเฉิงส่ายหน้าไปมาอย่างระอา แต่เดิมเว่ยอู๋เซี่ยนก็เป็นคนเอาแต่ใจอยู่แล้วแถมตอนนี้ยั่งมีหลานวั่งจีคอยให้ท้ายอีก อีกไม่นานภายภาคหน้าคนที่กูซูหลานและท่านอาจารย์หลานคงปวดหัวมิใช่น้อยทานอาหารคาวเสร็จก็ถึงเวลาของขนมหวาน ซึ่งวันนี้แม่ครัวได้ทำของหวานสูตรพิเศษต้อนรับแขกพิเศษของท่านประมุขด้วยเมนูโปรดของคุณชายเว่ยเมื่อครั้งยั่งอยู่ที่อวิ่นเมิ่งเพื่อต้อนรับการกลับมา มือสวยของเจียงเฉิงเลื่อนไปเปิดฝาหม้อขนมหวานแต่ทันทีที่เปิดมันออกเสียงเจื้อยแจ้วของเว่ยอู๋เซี่ยนก็หายเข้าไปในลำคอทันที
"อื้ออ เอียงเอิง เอ้าเอาอะไออาใอ้อวกอ้าอินเอี๋ย!!!(เจียงเฉิง เจ้าเอาอะไรมาให้พวกข้ากินเนี่ย) " เว่ยอู๋เซี่ยนบ่นออกมาพร้อมกับเอานิ้วโป้งและชี้บีบจมูกของตนเองทุกคนมองเว่ยอู๋เซี่ยนอย่างงงวย ขนมหวานนี่กลิ่นหอมเย้ายวนเป็นที่สุดแต่เว่ยอู๋เซี่ยนกลับเอามือขึ้นปิดจมูกทำท่าเหม็นกลิ่นขนมหวานซะอย่างงั้น
"เว่ยอิง" หลานวั่งจีแตะหลังคนรักด้วยความไม่เข้าใจ
"เอาอันออกไอ อ้าเอ็น(เอามันออกไปข้าเหม็น)"เจียงเฉิงปิดหม้อลงแล้วให้บ่าวรับใช้มายกออกไป เว่ยอู๋เซี่ยนถึงได้ยอมคลายมือที่ปิดจมูกของตนออก เจียงเฉิงถือวิสาสะคว้าข้อมือของเว่ยอู๋เซี่ยนขึ้นมาจับชีพจรทางด้วยเว่ยอู๋เซี่ยนถึงแม้จะตกใจแต่ก็ยอมให้จับมือดีๆ ดวงตารูปเมล็ดซึ่งหลับลงเพื่อทำสมาธิกับบางอย่าง หลับอยู่อย่างนั้นสักพักจึงสืมตาขึ้นมา และพบว่าเขานั้นถูกจ้องมองจากทุกคนด้วยความใคร่รู้ที่แสดงออกมาจากดวงตาทั้งหกคู่ เจียงเฉิงถอนหายใจเล็กน้อย แล้วหันไปพูดกับหลานวั่งจี
"ท่านอาจจะต้องเลื่อนงานสมรสให้เร็วขึ้น หานกวงจวิน"
"ทำไม"
"ข้าจะเรียกหมอมาตรวจอย่างละเอียด" เอ่ยทิ้งท้ายแค่นั้นก็เดินออกจากศาลาเพื่อเรียกให้ศิษย์สกุลที่ยืนเฝ้าอยู่แถวนั้นไปตามหมอประจำตระกูลมา
100%
...TBC....
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 22
Comments