“แสงเทียน“ The Light Is You [JamFilm]
กลางเมืองใหญ่ ย่านเศรษฐี หรือย่านคนมีเงิน ใช้เงินซื้อทุกอย่าง อย่างว่าของทุกอย่างมันมีราคาที่ต้องจ่าย บางอย่างมันอาจจะต้องจ่ายด้วยเงิน บางอย่างอาจจ่ายด้วยสิ่งของ หรือแม้แต่ชีวิตและอนาคตของเขาเอง…
ณ โถงใหญ่ของคฤหาสน์ตระกูลหวัง ตระกูลคนจีน ที่อพยพมาตั้งรากฐานในไทย สมัยคุณทวดของเขา กลางโถงใหญ่ ที่เงียบสงบวันนี้กลับไม่สงบ บอดี้การ์ดในชุดสูทดำนับสิบคน ยืนเรียงแถวตามจุด ไม่มีการส่งเสียงใดๆออกมา มีเพียงแค่ลมหายใจเท่านั้นที่ผ่านเข้าออกจากกายพวกเขา… สายตาที่มองตรงไปข้างหน้า มองคนสามคนที่กำลังมีปากเสียงกันอยู่..
“ลื้อมันพวกคิดน้อย ไม่มีหัวสมอง อีพวกบ่าวไพ่ พวกนี้มันก็จ้องจะหาโอกาส เพื่อที่ให้ตัวเองได้สุขสบายบนกองเงินกองทองนั้นแหละ“ คุณท่านยืนดุด่าต่อว่าลูกชายอยู่กลางโถงบ้าน
”แม่ครับ! มนตรา เขาไม่ได้เป็นคนอย่างงั้นนะครับ“ ประโยคแก้ตัวจากลูกชายคนโตของตระกูลที่กำลังนั่งคุกเข่าอธิบายในเรื่องที่ไปสร้างบ้านเล็กกับคนใช้ในบ้าน
”ดิฉันไม่ได้ต้องการสมบัติอะไรของคุณท่านเลยนะคะ สิ่งที่เกิดขึ้นมันคือความรักของเราก็เท่านั้นเองค่ะ“ มนตรายกมือขึ้นพนมและร้องให้
”หุบปากส่ะ ลื่อรู้ตัวบ้างไหม อาโจว ลื้อทำอะไรลงไป ลื้อทำให้ตระกูลเราตกต่ำลง ลื้อเห็นสิ่งที่รื้อทำยัง แล้วอาหลินเขาจะรู้สึกยังไง เมียที่ตายไปของรื้อ เขาจะรู้สึกยังไง ไหนจะลูกชายคนเดียวของแกอีก!!!“
แม่ของอาโจวร่ำให้พร้อมดุด่า ต่อว่าอย่างดุดัน
”…..“
มนตราและอาโจว นั่งเงียบ ทั้งสองร้องให้อยู่ตรงหน้าของแม่
“ลื่อคงรู้นะอาโจว ว่าต้องจัดการเรื่องนี้ยังไง อย่าให้อั๊วต้องมาจัดการเอง“ สิ้นเสียง คุณท่านก็เดินขึ้นห้องนอนไป…
อาโจว และ มนตรา หันมากอดกันและร้องให้
“มนตราไม่ต้องกลัวนะ เดี๋ยวเฮียจะดูแลลื้อเอง”
อาโจวกอดมนตราทั้งน้ำตา
“…”
มนตราไม่ได้ตอบอะไร ได้เพียงแค่กอดตอบและร้องให้
……………………………ตกกลางดึก………………………….
มนตราที่นอนอยู่ในห้องคนใช้หลังบ้าน กับพัดลมหนึ่งตัว มีเพียงผ้าห่มผืนบางๆไว้ห่มกาย มนตราลุกจากที่นอน เดินไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ หยิบปากกาและกระดาษขึ้นมาเขียนอะไรบางอย่าง….
หลังจากที่เธอเขียนอะไรบางอย่างเสร็จ เธอเปิดลิ้นชักโต๊ะ แล้วหยิบเอาของขวัญชิ้นพิเศษ ที่จะบอกอาโจวเมื่อหัวค่ำ แต่เกิดเรื่องขึ้นว่ะก่อนเลยไม่ทันได้ให้อาโจวดู และสิ่งนั้นมันคือที่ตรวจครรภ์ เธอตั้งครรภ์อยู่ หลังจากที่เธอหยิบขึ้นมาดู เธอก็เก็บมันใส่กระเป๋าสะพาย และรีบเดินไปเก็บเสื้อผ้า ของใช้ที่จำเป็น ใส่กระเป๋าสะพายของเธอ และใส่เสื้อผ้าใส่รองเท้า
เธอเดินหลบออกมาทางประตูด้านหลัง และออกจากบ้านมา พร้อมน้ำตาที่ไหลริน ด้วยความที่ไม่ได้อยากไป ทั้งรักอาโจว แต่ถ้าอยู่ เขารู้ตัวว่าจะเป็นตัวที่ทำให้ทั้งบ้านเดือดร้อน และรักอาโจวมาก และก็รักลูกที่กำลังจะลืมตามาดูโลกในอีกไม่นานนี้มาก นั้นคือลูกของอาโจวกับเขา ที่เกิดจากความรักไม่ใช่ความผิดพลาด แต่มันแค่ผิดที่ ผิดเวลาก็เท่านั้นเอง…
………………………. 1 เดือนผ่านไป ………………….
เสียงฝีเท้าเล็กวิ่งขึ้นบันได พร้อมเสียงแจ้วจ้าวดังมาแต่ไกล
“คุณย่าครับ คุณย่า อันนี้เรียกว่าอะไรหรอครับ“
(ก๊อก ก๊อก ก๊อก) เสียงเคาะประตูจากเด็กที่มีส่วนสูง 140 เซนติเมตร
”คุณย่าตื่นยังครับ ผมมีอะไรให้ดูด้วย“
มือเล็กๆทั้งสองข้างเปิดประตูเข้าไปในห้องคุณย่า และรีบวิ่งไปที่เตียงของคุณย่า กระโดดขึ้นไปนั่งข้างๆ
“ย่าตื่นแล้ว ลื้อมีอะไรหรอ อาหมิง?”
คุณย่าถามด้วยหน้าที่ยิ้มแย้ม
“อันนี้เขาเรียกว่าอะไรหรอครับ”
เด็กน้อยถามด้วยหน้าตาสงสัย
“อันนี้เขาเรียกว่าเทียยหอม เอาไว้จุดเพื่อให้ความสว่าง และยังมีกลิ่นที่หอมอีกด้วยนะ มาเดี๋ยวอั๊วทำอะไรให้ลื้อดูนะอาหมิง”
คุณย่าหยิบเทียนห้อมสีขาวจากมือเด็กน้อย และเดินไปหยิบไม้ขีดไฟที่ลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งเพื่อนำมาจุดเทียนหอมให้อาหมิงดู
คุณย่าวางเทียนหอมลงบนโต๊ะหัวเตียง และจุดไฟที่เทียนหอม
หน้าตาเด็กน้อยดูอัศจรรยากับสิ่งตรงหน้า
“อาหมิง ลื้อรู้ไหม นอกจากมันจะมีกลิ่นที่หอมแล้ว เจ้าเทียนตัวนี้ ยังช่วยส่องสว่างในค่ำคืนได้ด้วยนะ ถ้าหากวันนึงไฟดับลื้อมองไม่เห็นทางเดิน ลื้อก็นำมันมาจุดนำทางลื้อได้นะอาหมิง”
คุณย่ายิ้มให้ และบอกเด็กตรงหน้าไปด้วยความเอ็นดู
“ได้ครับคุณย่า อืม… ผมเกือบลืมไปเลย ป๊าให้ผมมาเรียกคุณย่าลงไปทานข้าวครับ^^”
“เดี๋ยวอั๊วตามลงไปนะอาหมิง ลงไปรออั๊วด้านล่างก่อนเลย”
“ได้ครับคุณย่า”
สิ้นเสียงเด็กน้อยก็รีบวิ่งลงไปข้างล่าง ไปที่โต๊ะทานอาหาร
……………………..ที่โต๊ะทานอาหารเช้า………………………
“อาหมิง คุณย่าละ?”
คุณพ่อของหมิงถามขึ้นด้วยความสงสัย เมื่อเห็นลูกชายเดินมาคนเดียว
“เดี๋ยวคุณย่าตามลงมาครับ คุณย่าขอเปลี่ยนชุดก่อนครับ”
เด็กน้อยตอบไปและเดินไปที่นั่งเก้าอี้ข้างๆคุณพ่อของเขา
……………………..บันไดโถงบ้าน……………………………..
เก้าแรกของคุณย่าที่กำลังจะย่างลงบันได ไปทานข้าวกับหลานและลูกชาย ในเช้าอันสดใส ในเวลาเดียวกัน คุณย่าเกิดอาการเวียนหัวนิดหน่อย ขณะที่เดินลงบันได คุณย่าก้าวพลาด ทำให้พลาดท่า พลัดตกลงบันได ที่มีความสูงมากๆ กลิ้งหล่นลงมาถึงพื้นกลางโถงบ้าน
(เสียงบางอย่าง กลิ้งลงมาจากบันได)
“อะ….อา…..หมิง”
สิ้นเสียงของคุณย่า… เธอก็ได้สิ้นใจไปแล้วในเวลาต่อมา เนื่องจากไม่สามารถทนต่อแรงกระแทก และบาดแผล ที่กระดูกหักไปหลายท่อนได้
………………………..ที่โต๊ะอาหารของบ้าน………………………..
“อาหมิง เสียงอะไรอ่ะ”
อาโจวรีบวิ่งไปตามเสียงบางอย่างที่มาจากฝั่งโถงบ้าน
“คุณแม่!!!!!!!! คุณแม่เป็นอะไรไหมครับ!!! เรียกรถพยาบาลที!!!!! คุณแม่อย่าเป็นอะไรนะครับ!!!! คุณแม่!!!!”
เด็กน้อยวิ่งตามคุณพ่อมายังที่เกิดเหตุ เห็นภาพตรงหน้า มีคุณย่านอนสลบอยู่ มีเลือดไหลออกมากองอยู่ที่พื้นตรงคุณย่านอน
”คุณย่า!!!!ฮื่ออออออ ฮืออออ“
เด็กน้อยตกใจและร้องให้
”คุณหนูคะ คุณหนู“
ป้าแม่บ้านวิ่งเข้ามากอดหมิง และลูบหัวปลอบปะโลมให้หยุดร้อง
”ป้านวลพาหมิงขึ้นไปพักที่ห้องก่อนนะครับ“
อาโจวบอกป้านวลด้วยความเป็นห่วงลูกชายที่ขวัญเสียไปแล้ว
……………………ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง……………………
”หมอเสียใจด้วยนะครับ คุณแม่คุณมีอาการเลือดออกในสมอง และกระดูกหักหลายส่วน จนทนพิษบาดแผลไม่ได้ เสียใจด้วยครับ“
สิ้นเสียงพยาบาล โจวนั่งทรุดลงกับพื้น
”เดือนที่แล้ว ผมเสียคนรักผมไป วันนี้ผมยังต้องมาเสียคนที่ผมรักที่สุดในชีวิตไปอีกหรอ! ทำไมฟ้าดินต้องกลั่นแกล้งอะไรนักหนาว่ะ!!!“
บอดี้การ์ดจำนวนห้าคน ยืนก้มหน้าเมื่อเห็นอาโจวเข่าทรุดลงไปนั่งกับพื้น
……………… ณ คฤหาสน์ ตระกูลหวัง………………………
“ป้านวลครับ พาหมิงไปหาคุณย่าหน่อยครับ”
หวังอี้หมิง ตื่นขึ้นบนเตียงขนาดใหญ่ของตนเอง
“เดี๋ยวคุณพ่อจะพา คุณท่านกลับบ้านแล้วค่ะ คุณหนูไม่ต้องกังวลไปนะคะ“ พูดเสร็จป้านวลก็หันหลังไปเช็ดน่ำตาตัวเอง ดั่งกับรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้
เสียงเคาะประตูดังขึ้นสามที…
(ก๊อก ก๊อก ก๊อก)
คนที่เปิดประตูเข้ามาคืออาโจว คุณพ่อของอาหมิง เดินเข้ามาด้วยสีหน้านิ่ง ยิ้มบางๆ แววตาที่ดูเศร้าหมอง ตาแดงก่ำ เหมือนดั่งพึ่งร้องให้มา
“คุณใหญ่ กลับมาแล้วหรอคะ คุณท่านปลอดภัยดีใช่ไหมคะ”
“….”
“คุณพ่อ คุณย่าเป็นไงบ้างครับ”
คำถามจากเด็กในวัยเพียงแต่8ขวบ ด้วยสีหน้ามีความหวังว่าคุณย่าไม่เป็นอะไรมาก…
อาโจวนั่งลงบนเตียงข้างๆลูกชายคนเดียวของเขา พร้อมเอื้อมมือมาลูบหัว
”อาหมิง โลกนี้ไม่ได้มีไว้ให้คนอ่อนแอ ฟังป๊านะ คุณย่าเสียแล้ว…“
สิ้นคำพูดของพ่อ น้ำตาลูกผู้ชาย หัวหน้าตระกูลหวังในตอนนี้ ไหลออกจากตาเป็นสายน้ำ แต่แววตานั้นช่างเข้มแข็งว่ะเหลือเกิน เพื่อต้องเป็นเสาร์หลักของตระกูล
อาหมิงได้ยินอย่างนั้น ก็ร้องให้ออกมาอย่างหนัก ตามประสาเด็กในวัย 8 ขวบที่กำลังโตขึ้นเรื่อยๆ ที่พอจะทราบว่า อะไรคือการจากลาแบบไม่หวนคืนกลับมาอีก
”ทำไมคุณย่าไม่กลับมาด้วย คุณย่าไปไหนครับ!!!“
”คุณย่าอยู่ไหนครับ คุณย่า…. หมิงจะไปหาคุณย่า!!!!“
เด็กน้อยดิ้นทุรนทุรายจะไปหาคนที่เขารักมากที่สุด ตั้งแต่เกิดมา คุณย่าเป็นแม่แทนแม่แท้ๆของเขา คุณแม่ของหมิงเสียตั้งแต่ยังไม่รู้ความ นับตั้งแต่นั้น อาหมิงก็จะมีคุณย่าเป็นแม่แทน คอยให้ความสุข และทุกสิ่งทุกอย่างแทนแม่แท้ๆ
“หมิงฟังๆ วันนึงลูกโตเป็นผู้ใหญ่ ลูกจะเข้มแข็งมากกว่านี้ บนโลกนี้ทุกคนล้วนต้องดิ้นรนเอาตัวรอดจากสิ่งแวดล้อมที่ถูกบีบอัดด้วย สถานะทางสังคมและอื่นๆ ลูกต้องเข้มแข็ง เพราะนี้มันแค่จุดเริ่มต้น”
นี่เป็นเพียงคำบอกกล่าวจากอาโจว ที่ไม่รู้หรอกว่า เด็กในวัย 8 ขวบ จะเข้าใจหรือไม่ แต่ถ้าหากเขาเข้าใจ ก็จะเป็นผลดีต่อเขาในวัยข้างหน้า….
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments