ดิโอเปอเรเตอร์: ผู้ควบคุม

ดิโอเปอเรเตอร์: ผู้ควบคุม

เรื่องมันมีอยู่ว่า...

หวัดดี...ผมชื่อชาตรี ผมอายุ44ปี บ้านเกิดของผมอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ผมอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์โทรมๆ ราคาถูกแห่งหนึ่งย่านชานเมือง ครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ผมเคยมีทุกอย่างเท่าที่มนุษย์เงินเดือนพึงจะมีได้ หน้าที่การงานที่ดี ทั้งสถานะทางสังคมที่ยอดเยี่ยม ผู้คนนับหน้าถือตา เคยมีชีวิตหลังแต่งงานที่สงบสุขและราบรื่นมาตั้งเกือบยี่สิบปี เคยอยู่ในบ้านหล้งใหญ่ที่แสนสบาย มีรถขับ มีเงินใช้ไม่เคยขาดมือ...ฟังดูชีวิตผมก็โอเคดีใช่ไหมล่ะ

นั่นดิ...แล้วไปไงมาไงทำไมถึงมาตกอับอยู่ในสถานที่แบบนี้ได้ล่ะ...พวกคุณบางคนอาจจะสงสัย และคงมีอีกไม่น้อยที่ไม่สนใจเพราะมันไม่ใช่ธุระกงการอะไรที่คุณจะต้องมาอยากรู้เรื่องราวของผมซะหน่อย...จริงมั้ย? แต่ไม่ว่าจะยังไง...ผมก็จะเหลา เพราะอยากจะเล่าให้พวกคุณได้รับรู้อยู่ดี...ผมไม่บังอาจไปบังคับให้พวกคุณต้องอ่านหรอกนะ แค่อยากให้พวกคุณอ่านเรื่องของผมจบจนถึงบทสุดท้ายเสียก่อน หลังจากนั้นพวกคุณก็ค่อยติดสินใจอีกที...ว่าจะอ่านหรือไม่อ่านดี โอเคนะ...เยี่ยมเลย เรามาเริ่มกันเถอะ

ช่วงสามปีที่อายุผ่านเข้าเลขสี่มานี้ อะไรๆ รอบตัวผมมันก็ดูแย่ไปเสียหมดทุกอย่าง เริ่มตั้งแต่มีปากเสียงกับเมียด้วยเรื่องผู้หญิงที่ผมบังเอิญได้รู้จักคนนั้น ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าความสนิทสนมกันอย่างรวดเร็วกับเธอมันจะบานปลายจนกระทั่งปลายไปบานอยู่ในโรงแรมม่านรูดในคืนที่เหล้ามันพาไปหลังจากจบงานฉลองพนักงานบริษัทคืนนั้น พูดแล้วจะหาว่าขิง...เอาจริงๆ ให้ดิ้นตาย เธอเป็นฝ่ายเข้าหาผมเองเลยแหละ เป็นคุณจะทำไงถ้ามีผู้หญิงที่ทั้งสวยและเชฟบ๊ะขนาดนั้นเข้ามากระซี้กระซิกด้วยน่ะ...ใครจะไปอดใจไหว...ใช่ไหมล่ะ?! แค่เธอจิกตามองพร้อมกับส่งยิ้มที่มุมปากอวบอิ่มและแดงแช๊ดมาให้ ผมก็เดินตามเธอต้อยๆ อย่างกับถูกมนตร์สะกดแล้ว ไม่ถึงสองอาทิตย์ต่อมาเมียผมก็จับได้คาหนังคาเขา ตอนที่ผมกับผู้หญิงคนนั้นกำลังเข้าเข็มเข้าด้ายเพราะปลายบานกันอยู่ในม่านรูดห้องประจำ ผมไม่รู้ว่าถูกแอบสะกดรอยตามมาตั้งแต่ตอนไหน รู้เพียงแค่หลังจากนั้น...เราก็บ้านแตกพร้อมกับหัวผมที่ถูกเธอทุบแทบจะบุบด้วยขวดเบียร์ไปเลยน่ะสิ

ผมต้องระเห็จออกมาจากบ้านที่เคยเป็นเรือนหอของเราโดยที่มีสมบัติติดตัวแค่ปิกอัพหนึ่งคันที่ผมยังต้องส่งค่างวดต่อไปอีกราวครึ่งปี กับกระเป๋าใส่เสื้อผ้าไม่กี่ชิ้นเข้ามาอยู่ในห้องเช่าโทรมๆ ราคาถูกแห่งนี้ไง และเชื่อผมเถอะ...ถ้าคุณปล่อยให้ความซวยเข้ามาเยือนในชีวิตได้ครั้งหนึ่งแล้วล่ะก็ เตรียมใจไว้ได้เลย...มันจะไม่ยอมสร่างซาไปง่ายๆ หรอก เพราะครั้งต่อๆ ไปก็จะวิ่งตามกันเข้ามาเป็นพรวน! ไม่รู้ว่าทางบริษัทรู้เรื่องนี้ได้ยังไง ไม่ถึงอาทิตย์ต่อมา...ซองขาวก็ถูกร่อนมายัดใส่มือผมพร้อมจดหมายเชิญออก...ด้วยเหตุผลที่ว่า 'ประพฤติตนไม่เหมาะสมแก่การเป็นผู้นำในองค์กร' นั่นเองที่ทำให้บทบาทของผู้จัดการแผนกของผมมีอันต้องจบลงโดยไร้ซึ่งข้อโต้แย้งใดๆ

ชีวิตของผมมันยังเฮงซวยมากกว่านี้ได้อีกนะ หลังจากนั้นไม่กี่วันเพื่อนรักที่คบกันมานานเกือบยี่สิบปีก็กลับมาหักเหลี่ยมโหดใส่ผมได้อย่างเลือดเย็นที่สุด แต่จะว่าไปก็ไปโทษมันฝ่ายเดียวก็คงไม่ถูกนัก เพราะผมเองนี่แหละที่ดันไปเห็นเป็นสิ่งดีงามไปกับมันด้วย ทั้งที่สมควรจะห้ามปรามเสียมากกว่า...เห็นว่าเพื่อนกำลังเดือดร้อนโดนนักเลงคุมโต๊ะบอลตามกระทืบเอา สาเหตุมาจากติดหนี้พนันบอลเป็นเงินตั้งครึ่งแสนแล้วไม่มีปัญญาใช้คืน จนต้องมานั่งปรับทุกข์กับผมขอให้ช่วยหาทางออกให้ ก็รู้แหละว่าลำพังตัวเองยังเอาไม่รอด ทั้งตกงานทั้งหางานใหม่ก็ยังไม่ได้ แต่ก็นะ...เพื่อนทั้งคนเชียวนะ เมื่อมันเกิดเดือดร้อนขึ้นมา ผมในฐานะเพื่อนก็ต้องพยายามหาทางช่วยสิ จะทิ้งให้มันเป็นไปตามยถากรรมได้ไง คิดกันไปปรึกษากันมาก็มาลงเอยด้วยการกู้ยืมเงินนอกระบบที่มันบังเอิญหันไปเจอใบปลิวโฆษณาเงินกู้ซึ่งแปะไว้ตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ตรงเสาไฟที่เรานั่งคุยกันอยู่ อะไรมันจะเหมาะเจาะขนาดนั้น

"สงสัยว่าต้องลองใช้บริการแล้วล่ะว่ะ" มันพูดกับผม ไม่รู้ทำไมผมถึงไม่คิดจะห้ามปรามมัน "เขาบอกว่าต้องมีคนค้ำประกันด้วยว่ะ...เอาไงดีวะไอ้ตรี" มันหันมาถามผมหลังจากที่โทรไปถามรายละเอียดตามเบอร์โทรนั่น ด้วยความที่ต่างคนต่างก็จนตรอกด้วยกันทั้งคู่ หัวก็เลยทื่อมะลื่อจนคิดอะไรอย่างอื่นไม่ออก นั่นแหละ...ก็เลยกลายเป็นว่าตัวผมเองที่อาสาเป็นคนค้ำให้มันด้วยความเต็มใจทั้งที่ไม่น่าจะเต็มใจเลยสักนิด หารู้ไม่ว่ามันเข้าอีหรอบหนีเสือปะจระเข้ชัดๆ แถมยังจะหนักกว่าเก่าด้วยซ้ำ ใครๆ ก็รู้ว่าพวกหมวกกันน็อคมันเหี้ยมโหดตะโปดออดขนาดไหน ดีไม่ดีจะมหำโหดยิ่งกว่าพวกนักเลงคุมโต๊ะบอลเสียด้วยซ้ำไป เพราะคุณอาจจะได้ไปลงเอยด้วยการนั่งยางโชว์ชาวบ้านเล่น...ก็เป็นได้!

ที่แน่ๆ ตอนนี้ผมถูกมันถีบหัวส่งเข้าสู่ความมืดแปดด้านไปเป็นที่เรียบร้อย ไม่มีใครให้หันหน้าไปพึ่งพาอาศัยได้เลยสักคน เงินตั้งห้าหมื่นพร้อมดอกเบี้ยร้อยละยี่เชียวนะที่มันทิ้งเอาไว้ให้ผมดูต่างหน้า ผมกดโทรตามมันจนโทรศัพท์แทบจะลุกเป็นไฟ มีแต่เสียงผู้หญิงตอบกลับมาแทนตลอด "ไม่มีการตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก" หนักเข้าเธอก็บอกมาดื้อๆว่า "หมายเลขที่ท่านเรียกยังไม่เปิดบริการค่ะ" ผมนี่แทบจะเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้งและตกอยู่ในสภาพจนตรอดอย่างแท้ทรูก็คราวนี้เอง นี่ก็ใกล้ถึงวันจ่ายดอกของเดือนที่สองเข้ามาทุกที ส่วนเงินต้นไปต้องพูดถึงมันให้ปวดตับเลยจะเป็นพระคุณอย่างใหญ่หลวง ไม่มีปัญญาหรอกครับ แค่ดอกเบี้ยหลักหมื่นนี่ก็อ้วกออกมาทั้งไส้นอนตายกลายเป็นเขียดตากแห้งแล้ว ส่วนเรื่องการที่จะตามไปทวงถึงที่บ้านของมันนั้นก็ลืมไปได้เลยเพราะว่าไอ้มาวินมันก็เป็นประเภทไร้ญาติขาดเมียเหมือนกันกับผมเป๊ะ โบราณเขาถึงว่าไว้...ฝนตกขี้หมูไหล คนที่มีอะไรเหมือนๆกันมักจะดึงดูดเข้าหากัน! ชีวิตบัดซบระดับสิบจริงๆ เฮ้อ...บ่นมาจนเหนื่อยเลยผม

เอาเถอะ ถึงยังไงชีวิตมันต้องเดินหน้าต่อไปล่ะนะ นี่ก็เกือบสามเดือนเข้าไปแล้วที่ผมยังหางานใหม่ไม่ได้เลย ท่อน้ำเลี้ยงจึงอุดตันสนิทสวนทางกับรายจ่ายที่ประเดประดังเข้าใส่จนหัวฟูหน้ายู่ยี่ ตำแหน่งงานผู้จัดการแผนกอย่างที่เคยทำก็ไม่มีที่ไหนประกาศรับสมัครให้เห็นเลยสักที่ เห็นทีว่าผมคงต้องลดสเปคงานลงมาให้ต่ำที่สุดเท่าที่อีโก้ของผมมันจะยอมรับได้เสียแล้วล่ะ เกือบจะตลอดเวลาวันละหลายชั่วโมงที่ผมก้มหน้าก้มตาจมอยู่กับหนังสือพิมพ์และมือถือที่ต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ตราคาถูกความเร็วระดับหอยทากลากสปีด สูบบุหรี่แทบจะมวนต่อมวนจนที่เขี่ยบุหรี่พอกพูนอย่างกับเป็นอนุสาวรีย์ถุงลมโป่งพองไปแล้ว พยายามค้นหางานอะไรก็ได้ที่จะช่วยต่อลมหายใจให้ยาวออกไปอีกหน่อย เงินทดแทนการเลิกจ้างที่ได้มาก็ร่อยหรอลงและหมดไปรวดเร็วเหมือนกับมันละลายกลายเป็นไอน้ำโดนแดดได้งั้นแหละ

อีกแค่ห้านาทีจะหกโมงเย็นซึ่งจวนได้เวลานัดแล้ว เป็นความเครียดระดับที่จะทำให้เส้นเลือดในสมองแตกได้ทุกวินาทีมันพุ่งปรี้ดจนปวดขมับตุบๆ เมื่อสามวันก่อนเจ้าของห้องเช่ามาเคาะประตูทวงค่าเช่าที่ค้างจ่ายมาสองเดือน ซึ่งผมประสบความสำเร็จในการตอแหลเจรจาขอยืดเวลาจ่ายค่าเช่าออกไปได้อีกสามวัน "มะรืนนี้หกโมงเย็นนะยะ!" เสียงยัยมนุษย์ป้าดังก้องไปมาในหัวผมตลอดเวลาสามวันที่ผ่านมา...บ้าไปแล้ว! แค่สามวันผมจะไปหามาจากไหนได้ทันวะ เงินในบัญชีของผมมันก็เหลือติดอยู่แปดสิบบาทไม่พอจะซื้อพิซซ่าได้ด้วยซ้ำ ที่สำคัญคือ...มันกดออกมาใช้ไม่ได้! ยังดีที่ผมรอบคอบพอที่จะซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จติดห้องกล่องใหญ่ไว้กันตายไปได้อีกเกือบเดือน แค่คิดถึงเส้นเหลืองๆที่พองอืดอยู่ในชามผมก็แทงจะอ้วกแล้ว...แหวะ!

และสามวันที่ว่าก็กำลังจะหมดลงไปในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้แล้ว มันคือเวลาที่มนุษย์ป้าจะมาทวงเงินค่าห้อง! เห็นทีต้องทำใจกล้าหน้าด้านยอมฟังนางสำรากคำเยินยอเพราะผมจำเป็นที่จะขอผลัดวันออกไปอีกหน่อย ผมกล้ำกลืนอาการปั่นป่วนมวนวูบโหวงในช่องท้องเมื่อคิดถึงเรื่องสยองที่กำลังจะเกิดขึ้น รู้สึกสิ้นหวังกับชีวิตห่วยๆ อย่างช่วยไม่ได้ ทิ้งตัวลงนอนแผ่อย่างหมดแรงบนเตียงแคบๆ ที่ยับยู่ยี่ ซกมกและรกรุงรังไปด้วยหนังสือพิมพ์ประกาศรับสมัครงานที่มีแต่รอยกากบาททิ้งจนเกือบเต็มหน้าทุกฉบับ ผมคว้ามันขึ้นมาหนึ่งแผ่นกวาดตาดูผ่านๆ อย่างคนหมดอาลัยตายอยากที่ไม่มีความหวังอะไรในชีวิตต่อไปอีกแล้ว...แต่แล้วผมก็เห็นมัน!

กรอบเล็กๆ ตรงมุมด้านล่างซ้ายนั่นไม่รู้ว่าหลงหูหลงตาไปได้อย่างไรเ หมือนกับว่ามันเพิ่งจะโผล่ขึ้นมาจากเนื้อกระดาษเอาตอนนี้งั้นแหละ

'รับสมัครผู้ดูแลความเรียบร้อยในสถานที่ด่วน ไม่จำกัดวุฒิ ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ ค่าตอบแทน 3,000บาทต่อชั่วโมง สนใจติดต่อ โทร.088 888 8880 ตลอด24ชั่วโมง'

ผมขยี้ตาพร้อมกับดีดตัวลุกขึ้นมานั่งอ่านซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าสายตาไม่ได้หลอกตัวเอง ผู้ดูแลความเรียบร้อยในสถานที่เหรอ งานบ้าอะไรวะนั่น! แต่ที่ดึงดูดสายตาที่สุดก็ตรงชั่วโมงละ 3,000 บาทนี่แหละ ล้อกันเล่นรึเปล่าเนี่ยะ ใครมาลงประกาศมั่วซั่วอย่างนี้ได้ด้วยเหรอ ไม่มีการพิสูจน์อักษรกันก่อนตีพิมพ์รึไง ถึงแม้ผมจะไม่แน่ใจว่านี่มันเป็นเรื่องเล่นตลกของใครหรือเปล่า แต่ผมก็ต้องยอมรับว่าหัวใจของผมพองโตคับอกด้วยความหวังขึ้นมาอีกครั้ง ผมรีบคว้าโทรศัพท์อย่างไวและไม่ลังเลที่จะกดเบอร์โทรแปลกๆ นั่นอย่างรวดเร็ว กลัวจะพลาดโอกาสเพราะมีคนสมัครตัดหน้าไปเสียก่อน ลองดูวะ...ยังไงก็ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้วนี่หว่า นั่นคือสิ่งที่ผมคิด

เสียงตื้ดแรกดังยังไม่ทันจบ ก็ถูกปลายสายก็กดรับ เหมือนกับว่ากำลังรอให้ผมโทรมาอยู่ก่อนแล้ว... รับเร็วเกินไปรึเปล่าวะ...ผมคิด "สวัสดีครับ คือ...ผมเห็นประกาศรับสมัครงาน" ผมพูดอย่างไม่แน่ใจ "ครับ...ขอบคุณที่โทรหาเรา ยินดีต้อนรับผู้ร่วมงานคนใหม่ คุณพร้อมที่จะทำงานคืนพรุ่งนี้เลยใช่ไหมครับ" เห้ย! นี่มันกะจะมัดมือชกกันแบบนี้เลยเหรอวะเนี่ยะ! "ขอหมายเลขบัญชีธนาคารของคุณด้วยครับ เราจะจ่ายค่าแรงล่วงหน้าให้คุณหนึ่งวัน หลังจากนั้นถ้าคุณยังสามารถทำงานต่อไปได้ เราจะจ่ายให้คุณหลังหมดเวลางานในแต่ละวันทันที ส่วนรายละเอียดงานเราจะมีให้คุณตอนที่คุณมาถึงนะครับ"

เสียงนุ่มๆ ของผู้ชายจากปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบเหมือนหุ่นยนต์ และนั่นทำให้ผมรู้สึกว่าเกิดอาการมึนๆ เบลอๆ จากน้ำเสียงของเขาขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ถึงแม้จะมีเสียงเล็กๆ จากมุมหนึ่งของจิตใต้สำนึกของตัวเองกู่ร้องคัดค้านขึ้นมาว่านี่มันไม่แปลกไปหน่อยรึไง...อยู่ดีๆ ใครก็ไม่รู้มาบอกว่าจะจ่ายเงินให้ก่อนทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มทำงานเลย...ไม่สิ ทั้งที่ผมยังไม่ได้รับปากว่าจะทำงานให้เลยด้วยซ้ำไปต่างหากล่ะ แต่มันก็เป็นเหมือนแค่เพียงเสียงแมลงกรีดปีกที่ดังมาจากดินแดนที่ไกลแสนไกลจนผมไม่คิดจะหยุดใส่ใจจะฟังมัน...ก็ใครจะไปสนล่ะ ผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าผมบอกหมายเลขบัญชีให้เขาไปตอนไหน "ดีครับ...เราจะส่งผู้นำทางไปให้คุณ กรุณามาให้ตรงเวลาพรุ่งนี้หกโมงเย็นนะครับ ยินดีที่ได้ร่วมงาน สวัสดี" แล้วสายก็ตัดไปทันที

ผมนั่งนิ่งอึ้งงงงันกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ มือก็ยังถือโทรศัพท์แนบหูค้างไว้อย่างนั้นเหมือนถูกสะกดจิต อึดใจต่อมาเสียงเตือนจากโทรศัพท์ก็ดังขึ้นพร้อมกับการสั่นเบาๆ ทำให้ผมได้สติและดึงมันออกจากหูมาดู คุณพระ! ผมต้องตาลุกโพลงอย่างไม่อยากจะเชื่อ โอพระเจ้าจ๊อด...มันยอดด้วน! มันคือเสียงแจ้งเตือนว่ามีเงินเข้ามาในบัญชีธนาคารของผม 36,000บาท ผมแทบจะเก็บอาการตื่นเต้นดีใจเอาไว้ไม่อยู่ มือไม้สั่นไปหมดตอนที่ลนลานเปิดแอปธนาคารดูให้แน่ใจ ใช่แล้ว! ยอดเงินคงเหลือของผมมันอยู่ที่ 36,080.00บาทไม่ผิดแน่

ด้วยค่าแรงขนาดนี้ บวกลบสะระตะแล้ว นั่นหมายความว่าผมต้องทำงานสิบสองชั่วโมงต่อวันตั้งแต่หกโมงเย็นถึงหกโมงเช้า...มันเกินเวลาทำงานปกติไปสี่ชั่วโมง แต่เทียบกับค่าจ้างรายชั่วโมงแล้วผมก็ไม่เห็นว่ามันจะเป็นปัญหายังไง จะมีงานที่ไหนจ่ายค่าจ้างบ้าระห่ำอย่างที่นี่อีกไหม ถึงแม้ส่วนลึกในใจมันจะมีคำถามขึ้นมาว่านี่มันพิลึกพิลั่นเกินไปหน่อยเหรอ และผมรู้สึกถึงความกังวลนั้นก็รบกวนจิตใจตลอดเวลาเกี่ยวกับความแปลกประหลาดของผู้จ้างงานรายนี้ แต่ถึงอย่างไรความตื่นเต้นกับจำนวนเงินที่ได้รับและจะได้รับอีกถ้า...ถ้าผมยังสามารถทำงานต่อได้อีก!? เอ่...มันหมายความว่าไงวะนั่น! ความนึกคิดทั้งหมดทั้งมวลของผมมีอันต้องสะดุดลงเพราะสะดุ้งสุดตัวกับเสียงเคาะประตูรัวๆเกือบจะเป็นจังหวะสามช่า ดังสนั่นชวนผวาตามแบบฉบับของมนุษย์ป้าเจ้าของห้องพักนั่นเอง ผมมองดูเวลาบนหน้าจอโทรศัพท์...หกโมงตรงเคารพธงชาติ...เวลานัดเป๊ะๆ ตรงเวลาจุงเบยนะป้า! ผมคิดก่อนจะลุกพรวดพราดไปเปิดประตูก่อนที่มนุษย์ป้าจะพังประตูเข้ามาข้างในเสียก่อน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!