...Chapter 4...
...'เป้าหมายหลัก'...
2DRINKS
"เป็นยังไงบ้างเมื่อคืน" ซันไชน์ถาม
"วุ่นวายชะมัด" ฉันฟุบกับโต๊ะ
"เล่าหน่อยสิ!" ปรอยฝนเสริม
"เดี๋ยว ฉันต้องถามแกก่อน อีตาเทรย์นั่นรู้จักกับแกได้ยังไง"
"ก็...เทรย์เป็นนักบินสายการบินของคุณพ่อฉัน แต่เขาขอพักงานเพราะเหมือนจะมีปัญหาอะไรบางอย่างนี่แหละ"
"นักบินเลยเหรอ?" โจนาเบิกตากว้าง
"ใช่ ทั้งหล่อ ทั้งเก่ง แต่เสียดายติดหญิงไปหน่อย"
"หมายความว่าไง?" ฉันถาม
"ก็เห็นพนักงานเขาเมาส์กันมา ว่าเทรย์ชอบนอนกับผู้หญิงสวยๆ ที่ตัวเองสนใจ แอร์บนเครื่องก็เห็นว่าได้มาหมดแล้วล่ะนะ อึ้ย แต่หมอนั่นหล่อมากจริงๆแหละ เป็นฉันก็ยอมมอบกายถวายตัว"
"ยัยบ้า ผู้ชายแบบนั้นจะไปอยากได้ทำไมกันห้ะ" ฉันบ่นปรอยฝนที่ทำท่ามโนไปไกล
"เออแล้วคุณสมบัติดีขนาดนั้น ทำไมแกไม่เก็บไว้กินเองเลยล่ะคะยัยคุณหนูลูกเจ้าของสายการบิน" ซันไชน์พูด
"ไม่ได้หรอก ฉันไม่ชอบผู้ชายแบดๆแบบนั้น ฉันชอบผู้ชายเรียบร้อย"
"โหยยย" เราสามคนพร้อมใจกันโห่แล้วเบือนหน้าหนี
"นี่ว่าแต่ช่วงนี้งานแกเป็นยังไงบ้าง เห็นโดนเรียกตัวบ่อยจัง" ฉันหันไปถามซันไชน์
"ก็เรื่องคดีนั่นแหละ เหมือนจะต้องให้ทีมพิเศษเข้ามาช่วย"
"ทีมพี่ชินอะหรอ" โจนาถาม
"อื้อ"
"เขาคือใคร?" ฉันถามทันทีเพราะเหมือนจะตามยัยพวกนี้ไม่ทัน
"หัวหน้าทีมพิเศษที่ทางหน่วยขอให้มาช่วย"
"แกดูไม่ลงรอยกับเขาเท่าไหร่นะ" ฉันถามเพื่อนสาวที่สีหน้าดูไม่ค่อยดี
"ก็แหงสิ หมอนั่นมาดเยอะจะตาย หมั่นไส้จะตายอยู่แล้ว"
"ฮ่าๆ ทนเอานะ หมอนั่นคงเป็นเจ้ากรรมนายเวรแกแหละ"
"แล้วนี่เด็กร้านแกไปไหนหมด" ปรอยฝนถาม
"วันนี้ไปเรียนกันน่ะ ฉันเลยต้องมาเปิดเอง อาจจะมาบ่ายๆ"
"สุดนะเนี่ย เปิดร้านเอง ทำเอง" ซันไชน์พูด
"วันธรรมดาลูกค้าไม่ค่อยมากันหรอก ไม่ต้องห่วง"
"เออ ฉันอยากรู้เรื่องอีตาเทรย์ มีข้อมูลละเอียดกว่านี้มั้ย" ฉันถามปรอยฝน
"เทรย์น่ะหรอ ได้ยินว่าเป็นลูกนอกสมรสของตระกูลเตชะหิรัญน่ะนะ" ปรอยฝนพูด
"เดี๋ยวนะ แกบอกว่าเป็นลูกนอกสมรสของตระกูลเตชะหิรัญหรอ?" ซันไชน์ถาม
"ใช่ พ่อของเทรย์ต้องเลิกกับแม่เพราะปู่เขาต้องการจะให้แต่งงานกับลูกสาวนักการเมืองคนนึง ทำให้แม่ของเทรย์กลายเป็นเมียเก็บ แทนที่จะได้แต่ง"
"แบบนี้นี่เอง" ฉันพยักหน้า
"นี่แหละเป้าหมายสำคัญ!" ซันไชน์พูดขึ้น
"เป้าหมายอะไร?"
"ตระกูลเตชะหิรัญเป็นตระกูลที่รวยและมีอำนาจอันดับต้นๆของประเทศ ฉันว่าอีตานี่น่าสงสัยที่สุด บางทีการที่แกไปตีสนิทกับหมอนี่ อาจจะได้ข้อมูลดีๆมาก็ได้นะ"
"แกแน่ใจหรอไชน์ เกิดยัยโรสหลงเสน่ห์เทรย์ขึ้นมาจะแย่เอานะ" ปรอยฝนพูดเชิงล้อ
"แกทำได้ใช่มั้ยโรส ฉันเชื่อว่าแกทำได้!"
"เดี๋ยวๆ นี่ตกลงเราคุยอะไรกันอยู่?"
"แกฟังบ้างมั้ยเนี่ย!!" โดนซันไชน์ดุไปที "แล้วนี่แกไปเจอกับอีตาเทรย์ท่าไหนล่ะ"
"ท่าไหนล่ะ อีตานั่นรุกฉันจนฉันแทบจะยืนคุยด้วยไม่ได้แล้ว!" ฉันโวย
"ห้ะะะะ!!" ทั้งสามทำหน้าเหวอ
"นี่อย่าบอกนะ ว่าเทรย์เขาสนใจแกอะ" ปรอยฝนถาม
"ดีเลย แบบนี้แกยิ่งต้องเข้าหาหมอนั่น คดีน้องแกจะได้คลี่คลาย และคดีที่ฉันกำลังจะรับผิดชอบจะได้จบสักที!"
"นี่หมอนั่นอยู่ในลิสผู้ต้องสงสัยของแกด้วยหรอไชน์"
"ใช่ ตระกูลเตชะหิรัญเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับแรกๆของฉัน เพราะการมีอสังหาฯมากมายขนาดนั้น ต้องมีอะไรมากกว่าการซื้อขายที่ธรรมดาแน่ๆ"
"แต่ดูท่าหมอนั่นก็ไม่ได้ถูกกับปู่เขาเท่าไหร่นะ"
"หมายความว่าไง?"
"ไม่รู้สิ เขาดู...ไม่ลงรอยกันเท่าไหร่"
"ดี! งั้นแกต้องตีสนิทหมอนั่นเข้าไว้" ซันไชน์พูด
กรุ๊งกริ๊ง~
เสียงประตูร้านถูกผลักเข้ามาพร้อมร่างสูงอันโดดเด่น เรือนผมเงาสลวยถูกเซตเป็นทรงเรียบร้อย ใบหน้าฟ้าประทานที่ใครเห็นก็ต้องเหลียวมองราวกับต้องมนตร์
O0O << และนี่คือสีหน้าของฉันทั้งสี่คน
พูดถึงยังไม่จบเลยหมอนี่โผล่มาได้ไงเนี่ย
"อ้าวคุณปรอยฝน อยู่ที่นี่ด้วยเหรอครับ" เทรย์ทัก
"อ้าวคุณเทรย์ มาทานกาแฟเหรอคะ" ยัยปรอยฝนทำท่าถามกลบเกลื่อนอาการเลิ่กลั่ก
"เปล่าครับ ผมมาหาเจ้าของร้าน"
"ฮ่าๆ มาหาแกน่ะยัยโรส!" ยัยปรอยฝนขำแห้งๆก่อนจะโบ้ยมาที่ฉัน
"อ่า นายมีอะไรหรือเปล่า" ฉันรีบถามทันที
"เดี๋ยวพวกฉันกลับก่อนดีกว่า ไว้เจอกันนะ" ซันไชน์พูดพร้อมยกมือลาแล้วลากสองคนนั้นออกไปด้วยทันที
"นายดื่มอะไรก่อนมั้ย" ฉันถาม
"อเมริกาโน่แล้วกัน"
"งั้นรอแป๊บหนึ่งนะ" ฉันพูดก่อนเดินไปทำกาแฟแล้วกลับมาเสิร์ฟให้เขาที่กำลังนั่งมองรอบๆ อยู่
"ฉันมาทวงคำขอเมื่อคืน"
"ฉันบอกนายไปแล้วนี่ ว่ายังไงฉันจะติดต่อกลับไปเอง"
"ทางไหนล่ะ?"
"ก็..." จริงด้วยสิ ฉันไม่มีเบอร์เขาด้วยซ้ำ
"ไม่ต้องรอถึงตอนนั้นหรอก ฉันจะตอบให้เธอเองว่าตกลง"
"เดี๋ยวนะ..."
แต่เดี๋ยวนะ..ถ้าอย่างที่ซันไชน์ว่า การที่ฉันได้สนิทกับเทรย์บางทีเขาอาจจะเผลอปล่อยข้อมูลบางอย่างให้ก็ได้ แถมระหว่างนี้ก็ไม่ต้องคอยพะวงเรื่องเอซอีก มีแต่ได้กับได้
"โอเค ฉันตกลงข้อเสนอของนาย แต่ฉันขอเรื่องหนึ่ง"
"ว่ามาสิ"
"อย่ามาหื่นใส่ฉัน!" ฉันขึ้นเสียงทันทีอย่างหนักแน่น
"ฮ่าๆ ที่เธอคิดเยอะ ก็คงเพราะเรื่องนี้ใช่มั้ย" เขาหลุดขำออกมา
"ทำไม หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้เลยนะ!"
"ต่อให้ฉันจะอยากได้เธอแค่ไหน ถ้าเธอไม่ยอมฉันก็ไม่ทำอะไรเธอหรอก"
"หึ" ฉันสบถแล้วเดินกลับเข้าไปในบาร์
"วันนี้ว่างหรือเปล่า" เขาเดินตามมาถาม
"ไม่ว่าง"
"ทำไมไม่ว่าง" เขาดักฉันที่จนมุมเอาไว้
"ทำงานอยู่ ไม่เห็นหรือไง" ฉันดันอกเขาแต่มันกลับไม่ยอมขยับเลย "ถอยไปนะ"
"นี่เธอจะทำงานอะไรเยอะแยะ ให้ลูกน้องทำบ้างก็ได้"
"ว่าแต่ฉัน นายเถอะ ไม่มีงานมีการไปทำบ้างหรือไง?"
"ไม่ทำ"
"ทำไมไม่ทำ?"
"บ้านรวย"
เหอะๆ เหอะ หมอนี่กำลังอวดรวยอยู่หรือเปล่านะ ฉันได้แต่มองหน้าเขาหน่ายๆ ก่อนจะเดินหลบออกมาเฉยๆ
"ถ้าว่างมากก็ทำงานช่วยฉันซะสิ" ฉันหันไปบอกเขาที่เดินตามฉันต้อยๆ เหมือนคนมีลูกติด
"ค่าตัวฉันแพงนะ เธอจ่ายไหวมั้ยล่ะ"
"แลกกับที่ฉันยอมเป็นแฟนปลอมๆ ของนายไง ไม่พอเหรอ?"
"ก็พอได้อยู่"
"เอานี่ไป" ฉันยื่นผ้ากันเปื้อนให้เขา
"อะไร?"
"ใส่ผ้ากันเปื้อน เสื้อนายจะได้ไม่เลอะ!"
"ใส่ให้หน่อยสิ" เขายื่นกลับมาให้ฉัน
ฉันสบถใส่หมอนั่นนิดหน่อยก่อนจะดึงผ้ากันเปื้อนมาใส่ให้เขา
"หลอกกอดฉันเหรอ?" เขาพูดทันทีที่ฉันกำลังเอื้อมมือไปผูกเชือกด้านหลังเลยกลายเป็นเหมือนฉันกำลังกอดเขา
"เอ้ะ นี่นายจะเอายังไง!?" ฉันโวยวาย
"จะนั่ง จะนอนหรือจะยืน ฉันก็เอาได้หมดแหละ" เขาก้มลงมากระซิบพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั่น
"อีตาบ้า!" ฉันผลักเขาไปที
ฉันเดินไปหยิบบันไดก่อนจะมาปีนขึ้นไปเช็ดกระจกด้านบน แต่ฉันดันลืมหยิบน้ำยาเช็ดกระจกนี่สิ
"หยิบน้ำยาเช็ดกระจกให้หน่อย" ฉันก้มลงไปบอกเขา
"อันไหน อันนี้เหรอ" เขายื่นขวดน้ำยาดันฝุ่นมาให้ฉัน
"ไม่ใช่ ขวดสีฟ้าๆน่ะ อ่านออกมั้ย" ฉันตวาดไปที
"ขึ้นไปไม่กลัวตกหรือไง"
"นายก็ช่วยเลิกถามแล้วมาทำแทนฉันสิ"
"ไม่"
ฉันยืนเช็ดกระจกตามปกติบนขั้นบันไดที่สูงเกือบสุดก่อนที่จะค่อยๆก้าวขาลงอย่างช้าๆ
กึก
"ว้าย!!"
โคร่มม!!
ฉันที่กำลังพยายามลงจากบันไดแต่ดันสะดุดขอบบันไดจนเท้าพลิกล้มลงมา แต่โชคดีที่หมอนั่นอยู่ตรงข้างล่างบันไดพอดี ทำให้เขารับร่างของฉันเอาไว้พอดี
"ทำไมไม่ระวัง!" เขาขมวดคิ้วทันที
"ก็ฉันสะดุดนี่" ฉันตวาด
"มานี่เลย"
"โอ้ย!!" ฉันร้องโอดโอยเพราะข้อเท้าฉันตอนนี้เจ็บจี้ดมากๆเลย
"ไหน ขอดูหน่อย"
"นี่ ถอยไปเลยนะ"
"เอามานี่!"
"โอ้ยย!!" ฉันร้องเสียงหลงเพราะเขาดึงเท้าของฉันไปดูทำให้มันเจ็บหนักกว่าเดิมมาก
"ข้อเท้าน่าจะแพลง"
"เฮ้ย นายจะทำอะไรอะ" ฉันสะดุ้งทันทีที่เขาเข้ามาช้อนตัวอุ้มฉันเข้าไปในร้าน
หลังจากที่เขาประคบและนวดข้อเท้าให้ตอนนี้ฉันก็เริ่มดีขึ้น
"ขอบคุณ" ฉันพูดส่งๆ
"แล้วไหนรองเท้าของเธอ" เขาถาม เพราะตอนปีนบันไดฉันถอดเอาไว้
"นั่นไง" ฉันชี้ไปยังรองเท้าส้นสูงสีแดงแปร๊ด
"นี่เธอใส่รองเท้าส้นสูงมาทำงานเหรอ?"
"ก็วันนี้วันธรรมดาคนไม่เยอะ ไม่ต้องเดินมากฉันก็เลยใส่มา"
"เหอะ คิดอะไรของเธออยู่นะ ยัยเบ๊อะ!"
"นี่นาย!!"
"สวัสดีค่ะคุณโรส" เสียงเจื้อยแจ้วของพนักงานที่ร้านดังขึ้นพร้อมกัน
"อ้าว มาแล้วเหรอ กันต์ พรีน" ฉันทักทายทั้งสองคนที่ตอนนี้เหมือนกำลังอึ้งกับอีตาเทรย์ที่นั่งนวดเท้าให้ฉันอยู่
"เออ..เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าครับ" กันต์ถาม
"ออ พอดีข้อเท้าแพลงน่ะ" ฉันตอบอย่างเลี่ยงๆในการอธิบาย
"นี่สะดุดบันไดอีกแล้วเหรอคะ" พรีนพูดราวกับรู้ดี
"นี่เธอสะดุดบันไดตลอดเลยเหรอ?" เทรย์หันมาถามทันที
"ประจำเลยค่ะ ว่าแต่คุณพี่สุดหล่อเป็นแฟนคุณโรสเหรอคะ?" พรีนถาม
"นี่! ถามอะไรของแกน่ะ" กันต์รีบมาห้ามเพื่อน
"ครับ พอดีเรากำลังคบกันอยู่" เทรย์ยกยิ้มก่อนจะเข้ามาโอบไหล่ฉัน
"หึ้ยย น่ารักอะแก คุณโรสสวยขนาดนี้ไม่แปลกใจเลยค่ะที่จะมีแฟนหล่อบาดตาบาดใจขนาดนี้" พรีนหันไปพูดกับกันต์ไปทำท่าเขินไปมือไม้ไม่อยู่นิ่งจนเพื่อนข้างๆต้องเรียกสติ
"อ่า ฮ่าๆ มาก็ดีแล้ว เดี๋ยวพี่ขอออกไปข้างนอกหน่อยนะ ฝากเราสองคนดูแลร้านให้พี่ด้วย"
"ได้ค่ะ/ครับ"
หลังจากที่ฝากฝังลูกน้องให้เฝ้าร้านให้ฉันก็ถูกเทรย์พามายังร้านอาหารแห่งหนึ่งในย่านที่ห่างออกมาไม่ไกลมาก ภายในร้านเรียบหรูดูแพงเอามากๆ
"พาฉันมาที่นี่ทำไม" ฉันหันไปถามเขา
"เข้าไปเดี๋ยวเธอก็รู้เอง" เขาว่าแล้วยื่นมือมาจับมือฉันไว้ทันทีก่อนจะเดินเข้าไป
"สวัสดีค่ะคุณเทรย์ เชิญด้านในเลยค่ะ ทุกท่านกำลังรอคุณอยู่" พนักงานสาวกล่าวพร้อมเปิดประตูให้
ภายในห้องอาหารวีไอพีมีผู้คนอยู่เกือบๆสิบคนได้ คนพวกนี้ดูหน้าตาคุ้นๆ อาจจะเพราะเป็นนักการเมืองชื่อดังที่กำลังมีกระแสมากๆในตอนนี้ และข้างๆอีกฝั่ง มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังมองมาที่เรา
สาวผมแดงใบหน้าเรียว ผิวขาวซีด ใบหน้าสวยถูกเติมด้วยเครื่องสำอางสีจัด ลิปสติกสีแดงดึงให้ใบหน้าดูสว่างมากขึ้น เสื้อปาดไหล่เผยให้เห็นผิวเนียนใครเห็นก็ต้องเหลียวมอง
อย่าบอกนะ...ว่ามาดูตัว
"สวัสดีครับ" เทรย์พูด
"เชิญนั่งก่อนครับคุณเทรย์" ผู้ชายคนหนึ่งพูดเทรย์เลยดึงเก้าอี้ให้ฉันก่อนที่เราจะนั่งลงพร้อมกัน
"คุณเทรย์พาใครมาด้วยครับเนี่ย" คนฝั่งตรงข้ามถามขึ้น
"นี่พริมโรส แฟนของผมครับ"
"แหม ไม่ยักรู้นะครับว่าคุณเทรย์จะมีแฟนแล้ว เห็นคุณท่านบอกให้พาเวเนสมารู้จักคุณ สงสัยจะพลาดซะแล้ว" คนในชุดสูทสีเทาพูด เหมือนว่าคนๆนี้จะเป็นพ่อของผู้หญิงคนนั้นที่ชื่อเวเนสสินะ
"แหมคุณพ่อคะ พูดแบบนี้ได้ยังไง พี่เทรย์เขามีแฟนแล้ว การดูตัวของเราก็คงไม่มีผลอะไรแล้วล่ะค่ะ" เวเนสพูดขึ้น แต่สายตานั้นยังจับจ้องที่เทรย์อย่างไม่ละวาง
"ใช่ครับ" เทรย์พูดพร้อมพยักหน้าเห็นด้วยกับเวเนส
"คุณเทรย์รู้ใช่มั้ยครับว่าธุรกิจของผมตอนนี้กำลังไปได้สวย ถ้าเกิดมีข้อขัดแย้งกันขึ้นมา บางที เตชะหิรัญกรุ๊ปอาจจะมีปัญหาก็ได้นะครับ"
ดูท่าแล้วอีตาลุงคนนี้กำลังขู่สินะ แต่ไอ้ธุรกิจที่ว่าๆกันนั่นมันธุรกิจอะไรกันนะ
"ผมไม่สนใจหรอกครับกับบริษัทเล็กๆน้อยๆแบบนั้น โกงกันไปโกงกันมา ไม่เห็นจะน่าร่วมลงทุนตรงไหน"
ตุบ!
"แก!!" เสียงตบโต๊ะดังสนั่นพร้อมกับร่างของคนตรงหน้าที่ลุกขึ้นมาชี้หน้าด้วยความโมโห
"ผมไม่มีธุระอะไรแล้ว ขอตัว" เทรย์ยกยิ้มหน่อยๆก่อนจะคลายยิ้มแล้วเดินล้วงกระเป๋าออกมาทันที
"นี่นายไปยั่วโมโหคนพวกนั้นทำไมน่ะ"
"แล้วไง?"
"แบบนี้ปู่นายไม่เอานายตายเลยเหรอ"
"หึ ปู่ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก" เขาพูดอย่างมั่นใจก่อนที่รถลีมูซีนสีดำคันหรูจะเข้ามาจอดเทียบท่าตรงหน้าเราสองคน
"คุณท่านให้มารับคุณเทรย์ครับ" บอดี้การ์ดคนหนึ่งลงจากรถมาพูด
"คงฟ้องกันไปแล้วสิท่า"
"ทำตามคำสั่งคุณท่านด้วยครับ"
^^^โปรดติดตามตอนต่อไป...^^^
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 25
Comments