นักศึกษา

นักศึกษา

1

กึด~

“อ๊า~ เข้าอยากจังวะ” ผมก็มมองดูรอยเชื่อมระหว่างผมกับเธอ

“เชี้ย...เลือด !!” ผมมองผู้หญิงตรงหน้าที่กำลังนอนหายใจโรยรินอยู่ เธอนอนน้ำตาคลอ สั่นระริกๆ ไปทั้งตัว

“เธอ..ไม่ใช่...(แม่งเอ้ย)” ผมสบถคำหยาบออกมาเบาๆ

ผมคิดว่าเธอเล่นละครสะอีก ใครจะไปรู้วะว่าเธอไม่ใช่คนที่ไอ้คลาสส่งมาให้ จู่ๆ มาเคาะห้องเป็นใครๆ ก็เข้าใจแบบผม มาถึงขั้นนี้แล้วจะให้หยุดก็ไม่ได้สะด้วย

“อยากได้เท่าไหร่...แลกกับงานครั้งนี้ ?” ผมถามผู้หญิงที่นอนเปลือยกายอยู่ใต้ร่าง

เธอเงียบไม่ตอบผม เอาแต่นอนสะอื้นอยู่

“ไม่มีปากรึไงวะ...” ผมกระแทกน้องชายข้าไปจนสุดลำ ทำให้คนตัวเล็กถึงกับสะดุ้งโหย่ง

“...อร้าย...กรี๊ด จะ..เจ็บ”

“กูถามว่ามึงจะเอาเท่าไหร่ แลกกับความบริสุทธิ์ของมึง ?”

เธอหายใจเข้าออกช้าๆ แล้วจ้องหน้าผม แววตาเธอมันทำผมสะตั้นไปชั่วขณะ

ผู้หญิงคนนี้เหมือนมีอะไรดึงดูดให้ผมมอง หน้าเธอคล้ายกับผู้หญิงที่ผมเคยรู้จัก

“....10 ล้าน”

หึ สุดท้ายผู้หญิงแม่งก็หน้าเงินทุกคน...

2 - หนี

[ Talk...Chris ]

ผมปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นนอนอยู่บนเตียงหลังจากที่จัดการกับเธอเสร็จ ส่วนผมก็ลุกขึ้นเดินมาเข้าห้องน้ำ อาบน้ำสักหน่อย เหนื่อยชะมัด

ในขณะอาบน้ำอยู่ผมก็คิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ที่ผมมีอะไรกับผู้หญิงคนนั้น เธอไม่ได้ทำอะไรนอกจากนอนนิ่งๆ ให้ผมทำ แต่แปลกที่ผมกลับคิดถึงแต่ร่างกายขาวเนียนหน้าอ.กอวบอิ่มคู่นั้นของเธอ มันดึงดูดสายตาผมมากจริงๆ ตั้งแต่ผมมีเซ็กส์กับผู้หญิงมา ผมยังไม่เคยเจอใครหน้าหลงไหลขนาดนี้มาก่อน

ร่างกายของเธอ ความบริสุทธิ์ของเธอ อ่า!!

หลังจากที่อาบน้ำเสร็จผมออกมาจากห้องน้ำ ก็ไม่เห็นผู้หญิงคนนั้นแล้ว

“ไปไหนวะ...!!” ผมเดินดูจนทั่วห้องก็ไม่เจอ เธอไปแล้วงั้นสินะ

ไปไม่บอกสักคำ อีกอย่าง เธอยังไม่ได้รับเงิน 10 ล้านจากผมเลยด้วยซ้ำ

ผมมองไปที่เตียงนอน คราบเลือดติดผ้าปูที่นอนเต็มไปหมด เมื่อกี้ผมรุนแรงกับเธอมากไปหน่อย ผมลืมไปว่าผมคือคนแรกของเธอ แต่ชั่งเถอะดูเธอคงจะไม่ใส่ใจอะไรกับครั้งแรกของเธอเท่าไหร่ หึ!!

ผมกำลังจะเดินไปใส่เสื้อผ้า สายตาดันไปสะดุดกับอะไรสักอย่างเข้าจึงก้มลงไปเก็บขึ้นมา มันคือบัตรนักศึกษาของผู้หญิงคนคนนั้น

“หึ!! แล้วเราจะได้พบกันอีกแน่สาวน้อย”

สวัสดีดีครับ ผม คริส อายุ27ปี ผมมีน้องชายฝาแฝดชื่อไอ้คลาส นอกจากหน้าตาที่เหมือนกันแล้วผมกับมันไม่มีอะไรเหมือนกันเลยสักนิด อ้อ อาจจะเหมือนเรื่องนึง คือผมกับมันชอบเอาผู้หญิงคนเดียวกัน

ถ้าเปรียบผมกับไอ้คลาสเป็นสี ผมคงเป็น"สีดำ" ส่วนไอ้คลาสคงเป็น "สีขาว"

ผมเป็นคนนิ่งๆ คลึมๆ ไม่ชอบพูดอะไรมากมาย ออกจะเป็นคนเงียบๆด้วยซ้ำ ใครทำให้ผมยิ้มได้ คนนั้นถือว่าเก่ง เพราะสิ่งที่ผมเกรียดที่สุดคือรอยยิ้มของตัวเอง

ส่วนไอ้คลาส ไอ้นี้มันเป็นคนอารมณ์ดี เข้าได้กับทุกคน ยิ้มได้ทั้งวัน...ที่ผมไม่ชอบยิ้ม คงเป็นเพราะไอ้คลาสมันยิ้มแทนผมไปแล้วมั่ง

พูดถึงชีวิตของผมที่ผ่านมา...ตั้งแต่เด็กจนโต ผมถูกส่งให้ไปอยู่ที่ฮ่องกงกับพวกลูกของพี่น้องป๊า พวกผมอยู่ที่นั่นนอกจากเรียนแล้ว กลับมาบ้านก็ต้องฝึกต่อสู้ ยิงปืน เพราะครอบครัวผมเป็นมาเฟียทั้งหมด

ชีวิตผมก็เหมือนกำลังเเขวนอยู่บนเส้นด้าย ผมอาจจะตายตอนไหนก็ได้ หรือผมอาจจะฆ่าคนเมื่อไหร่ก็ได้ ถ้าผมไม่ฆ่ามันมันก็ฆ่าผม

ผมพึ่งกลับมาไทยได้สองเดือน เพราะต้องมาช่วยครอบครัวดูแล ธุรกิจ พวกบ่อนคาสิโน คลับ ธุรกิจมืดด้วย ผมคุมธุระกิจพวกนี้กับไอ้มังกร มันเป็นลูกพี่ลูกน้องกับผมนี่แหละ มันอายุมากกว่าผม2ปี

ถ้าให้พูดถึงเรื่องความรัก มันคือสิ่งที่ผมกลัว ผมถึงเลือก ที่จะเลวแบบนี้ ผมกลัวที่จะมีความรัก กลัวที่จะรักใครซักคน

แต่ก็ไม่ได้แปลว่าผมไม่เคยรักใคร...

ตอนอยู่ฮ่องกง ผมเคยแอบชอบผู้หญิงคนนึง เธอสวย สวยมาก แววตาเธอมีเสน่ห์ รอยยิ้มหวานๆ ของเธอทำผมหลงไหล ผมชอบแอบตามเธออยู่บ่อยๆ เธอเป็นผู้หญิงธรรมดาคนนึง ไม่ได้เกิดในตระกูลใหญ่ เธอทำงานหาเลี้ยงครอบครัว

ยิ่งรู้แบบนี้ผมยิ่งชอบเธอมากขึ้นอีก คงไม่เชื่อละสิว่าเจ้าชู้ตัวพ่อแบบผมจะตกหลุมรักผู้หญิงด้วย เธอคือผู้หญิงคนเดียวที่ทำผู้ชายที่ไม่ชอบยิ้มแบบผมยิ้มได้เพราะเธอ.. ผมแอบตามเธอสักพัก ผมตัดสินใจไปสารภาพรักกับเธอ หึ..เชื่อไหมครับว่าผมโดนเธอปฎิเสธ เธอบอกผมว่าเธอมีคนที่เธอชอบอยู่แล้ว นี่แหละเหตุผมที่ผมเกรียดความรัก

วันต่อมา...ไอ้คลาสมาหาผมที่คอนโด

“ปีนี้มึงจะลงแข่งรถไหมวะไอ้คริส” ถ้าให้พูดถึงสิ่งที่ผมชอบที่สุดในชีวิตก็คงจะเป็นการแข็งรถ ผมเป็นคนชอบความเร็ว ผมชอบแข่งรถเป็นชีวิตจิตใจ ส่วนไอ้คลาสมันก็ลงแข่งบ้างไม่แข่งบ้างแล้วแต่อารมณ์มัน

“ไม่พลาด” ผมตอบ

“เออมึงมันเก่ง เก่งทุกเรื่องสัส !!” มันเบ้บปากใส่ผมก่อนจะพูดต่อ “เอ่อ...ม๊าให้กูมาตามมึงกลับบ้าน”

“อื้ม” การแข่งรถถือว่าเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ผมโปรดปราน

“เป็นไงวะผู้หญิงเมื่อวาน เด็ดไหม?” ไอ้คลาสเลิกคิ้วขึ้นถาม

“ก็ ใช่ได้” พอพูดถึงเรื่องนี้ ภาพผู้หญิงคนนั้นก็ผุดเข้ามาในหัว ผมไม่ได้บอกมันว่าเธอไม่ใช่คนเดียวกันกับคนที่มันหาให้

“เออ เมื่อกี้ก็เดินเข้าคอนโดมึงเห็นผู้หญิงโคตรน่ารัก สเปคกูเลยว่ะ แต่เหมือนเธอจะกลัวๆ กูยังไงไม่รู้วะ พอเห็นหน้ากูแล้วรีบวิ่งหนี”

ผมหันขวับไปมองไอ้คลาส ผู้หญิงที่มันพูดอาจจะเป็นคนที่ผมพึ่งเปิดบริสุทธิ์เธอไปเมื่อวานก็ได้

“มึงมองหน้ากูทำไม สัส!! ขนลุก”

“ไร้สาระ” พูดจบผมก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

“นั่นมึงจะไปไหน..?”

“กลับบ้าน” พูดจบผมก็เดินไปแบบไม่สนใจมันเลย

“ไอ้นี่ จะไปไม่บอกกูสักคำ รอกูด้วย กูไม่ได้เอารถมา !” ไอ้คลาสตะโกนตามหลังก่อนจะวิ่งตามหลังผมมาติดๆ

ผมเกลียดการที่ไอ้คลาสมันพูดมากฉิบ...มันไม่เบื่อบ้างรึไงก็ไม่รู้ พูดๆได้้ทั้งวัน

3 - ชีวิตของคะนิ้ง

[ Talk...khanink ]

หลังจากเหตุการณ์เมื่อวาน ที่ฉันโดนผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ข่.มขื.น ฉันหนีออกมาเพราะไม่อยากเจอหน้าคนเลวคนนั้นอีก ฉันเลือกที่จะไม่เอาเงินจากเขา ไม่กล้าที่จะเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเลย เพราะมันคือเรื่องที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตฉัน

ฉันไม่คิดเลยว่าแค่จะขึ้นไปเอาผ้าลงมาซักตามที่ผู้จัดการสั่ง มันจะทำให้ฉันโดนเจอเหตุการณ์ที่เลวร้ายขนาดนั้น หมดกันความบริสุทธิ์ที่ฉันเก็บไว้มอบให้คู่ชีวิต ผู้ชายคนนั้นแวบแรกเขาเปิดประตูห้องออกมา ฉันถึงกับตะลึงในความหล่อของเขา

เขาเป็นผู้ชายที่หล่อมาก ดูดีทุกอย่าง ฉันไม่เคยเห็นใครหล่อขนาดนี้มาก่อน แต่พอเขาพูดกับฉันเท่านั้นแหละ มันทำให้ฉันอึ่งกว่าเดิมอีก หล่อแต่ปากเสีย แถมยังคิดว่าฉันขายตัว ข่มขืนฉัน ไม่ฟังอะไรสักคำ

แต่แค้นไปก็เท่านั้นจะทำอะไรได้ ในเมื่อเสียความบริสุทธิ์ให้เขาไปแล้วหนิ ต่อไปชาตินี้ฉันกับไอ้หน้าหล่อแต่นิสัยหมาๆ คนนั้นขออย่าให้ได้เจอกันอีกเลย

ฉันตัดสินใจลาออกจากงาน ช่วงนี้ปิดเทอมฉันเลยมารับจ๊อบพิเศษ ทำได้ยังไม่ถึงเดือนเลยด้วยซ้ำ

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อคะนิ้ง อายุ20 ปี มีพี่สาวชื่อ คัพเค้ก พี่สาวฉันอายุ 23 ปี

พี่ฉันได้ทุนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เรียนด้วยทำงานด้วย ส่งเงินมาให้ฉันกับยายใช้ ฉันกับพี่เค้กรักกันมาก เพราะเราเหลือกันแค่สองพี่น้อง

พ่อกับแม่พวกเราเสียไปตั้งแต่เราสองคนยังเด็ก จากนั้นยายก็เป็นคนเลี้ยงพวกเราสองคน ยายดูแลฉันกับพี่เค้กดีมาก ถึงบ้านเราจะไม่ได้รวยแต่เราก็มีความสุข

พอมหาวิทยาลัยปิดเทอมฉันก็คิดว่าจะหางานทำ จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระพี่เค้ก ก็อย่างที่บอก ทำงานไม่ถึงเดือนก็โดน...นั่นแหละ ฉันเลยต้องมานั่งหางานใหม่ เฮ้อชีวิต รู้แบบนี้รอเอาเงินจากไอ้หน้าหล่อนั่นมาดีกว่า

ตอนนั้นฉันไม่คิดอะไร คิดแต่จะหนีอย่างเดียว จะกลับไปเอาตอนนี้ก็ไม่ได้

“อีคะนิ้ง !!” เสียงที่คุ้นเคย ตัวถ่วงชีวิตฉันจริงๆ นี่คือเสียงของป้านาพี่สาวของแม่ฉันเอง

“มีอะไร ?” ฉันตอบกลับเสียงห่วนๆ แล้วก็ทำหน้าเบื่อโลก

“เอาเงินมา กูไม่มีเงินใช้แล้วเนี้ย !!”

“ไม่มี เวลาหนูเอาเงินไปให้ ป้าก็เอาไปเล่นการพนันจนหมด หนูไม่มีเงินให้ป้าหรอกค่ะ”

“อีนี่ มึงจะเอามาให้กูดีๆ หรือจะให้กูใช้ตบก่อนห๊ะ !!”

“เอาสิ อย่าคิดว่าหนูจะยอมนะ หนูไม่ใช่พี่เค้กนะ”

ฉันพร้อมบวกมากตอนนี้ ป้าก็ป้าเถอะ คนยิ่งอารมณ์เสียเพราะไม่มีงานอยู่ ยังจะมาขอเงินอยู่ได้

ป้านาเห็นว่าฉันจะสู้เลยไม่กล้าทำอะไรฉัน

หลังจากทะเลาะกับป้านาเสร็จฉันก็เดินเข้าบ้านแบบหัวเสีย

“นามาขอเงินอีกแล้วหรอคะนิ้ง” ยายถามฉัน

“จ๊ะ ยาย”

“เฮ้อ ไอ้ลูกคนนี้นี่มันจริงๆ เลย ยายขอโทษแทนนามันด้วยนะคะนิ้ง”

“ยายไม่ได้ผิดสักหน่อยไม่ต้องขอโทษแทนใครหรอกยาย”

“ป่านนี้ เค้กมันจะเป็นไงบ้างยายละคิดถึงมันจริงๆ”

“งั้นเดี๋ยวหนูโทรวีดีโอคลอหาพี่เค้กให้เอาไหม ยายจะได้เห็นหน้าพี่เค้ากด้วย จะได้หายคิดถึง”

ฉันโทรคลอหาพี่เค้ก

“เออๆ ดีๆ แม้สมัยนี้มันดีจริงๆ มีเห็นหน้าผ่านไอ้จอเล็กๆ นี้ได้ด้วยเว้ย” ยายหัวเราะชอบใจใหญ่พอเห๋นหน้าตัวเองผ่านจอโทรศัพท์

4 - ของหาย

วันต่อมา...

ฉันตื่นแต่เช้า ทำกับข้าวให้ยายกิน หลังจากกินข้าวเสร็จ ฉันก็ไปรับจ๊อบล้างจานที่ร้านอาหารตามสั่งแถวๆ ในซอยนี่แหละ ล้างจานตั้งแต่เช้ายันเย็น ได้200บาท

ฉันพยายามหางานอื่นทำ ตอนนี้มีงานอะไรให้ทำก็ทำไปก่อน ไม่เลือกงานไม่ยากจน ฉันท่องคำนี้ทุกวัน

หลังจากทำงานเสร็จ ตกเย็นฉันก็ไปเดินตลาดหาซื้อผักกับไข่มาไว้ทำกับข้าวมื้อเย็นนี้

ชีวิตฉันไม่ได้พิเศษอะไรหรอก ทุกๆ วันก็วนอยู่แค่นี้แหละจนถึงวันเปิดเทอม มันก็ไม่ได้แย่อะไรนะ ออกจะสนุกด้วยซ้ำ อย่างน้อยมันก็ดีกว่านอนอยู่บ้านเฉยๆ

ผ่านมาหลายเดือน วันเปิดภาคเรียนของมหาวิทยาลัย เรื่องที่ฉันโดนไอ้หน้าหล่อนั่นทำลายความบริสุทธิ์ ตอนนี้ก็ไม่เก็บมาใส่ใจแล้วแหละ ก็แบบที่ฉันเคยบอก ฉันเป็นคนลืมง่ายและเรื่องที่ฉันอยากลืมที่สุดก็คือเรื่องบ้านี่

“ยาย..หนูไปเรียนก่อนนะคะ”

“เอ่อๆ”

ฉันรีบวิ่งออกจากบ้านไปยืนรอรถเมล์ ยืนรอไม่นานรถเมล์ก็มาจอดจากนั้นฉันขึ้นรถเมล์ไปลงที่หน้ามหาวิทยาลัย

ณ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง

ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมคนจนๆ แบบฉันถึงได้มาเรียนที่มหาวิทยาลัยดีๆ

คือตอนจะขึ้น ม.6 มันมีประกาศรับนักเรียนทุนของมหาวิทยาลัยชื่อดัง ฉันกับเพื่อนอีกสองคนก็เลยลองสอบดู ด้วยความที่เราสามคนฉลาดกันเป็นทุนเดิมกันอยู่แล้ว ทำให้เราสอบติดกันทั้งสามคนเลย

แต่ใครจะไปคิดว่าพอเข้ามาเรียนแล้วมันจะไม่ได้สวยหรูแบบที่คิด เชื่อไหมว่าเพื่อนที่คณะพวกคนรวยเนี่ยน้อยมากที่จะอ้าปากคุยกับพวกฉัน พวกเขาทำเหมือนพวกฉันไม่มีตัวตนเลยด้วยซ้ำ แต่ฉันกับเพื่อนก็ไม่คิดอะไรมาก คิดแค่เรียนให้มันจบๆ ไป เพราะถ้าเรียนจบจากมหาวิทยาลัยนี้ไป ไม่ว่าจะอยากทำงานที่ไหนเขาก็รับทั้งนั้น นี่แหละเหตุผลที่ฉันทนอยู่

อ้อ ลืมแนะนำตัวเพื่อน

1 จิน [ สวย แรดมาก ปากร้าย ตบคือตบไม่เคยยอมใคร บ้าผู้ชายที่สุด ]

2 มิน [ พูดน้อยแต่ต่อยหนัก นิสัยห่าวๆ รักเพื่อนมาก ใครทำเพื่อนกูมันต้องตาย ]

3 มะปราง [ลูกคุณหนู บ้านรวยที่สุดในกลุ่ม หน้าตาสวย แต่โครตแรด คบผู้ชายไม่ซ้ำหน้า เปิดซิงตั้งแต่ ม1 ]

ปล. มะปรางเพิ่งมารู้จักตอนย้ายมาเรียนโรงเรียนชื่อดังที่นี้ มันคือคนเดียวที่เข้ามาคุยกับพวกฉัน

เป็นไงกันบ้างเพื่อนฉันแต่ละคน

“อีคะนิ้ง....” จินร้องเรียกชื่อฉันเสียงดังมาแต่ไกลเลย

“ว่าไงคะเพื่อนจิน....” ฉันพูด

“โอ้ย ไม่เจอมึงตั้งหลายเดือนมากอดหน่อย” จินมันทำท่าจะกอดฉัน

“อย่าค่ะ กูขนลุก !!” ฉันรีบดันตัวมันออก

“แค่เพื่อนกอดก็ไม่ได้ สมแล้วที่มึงยังซิงอยู่”

ฉันสะอึกไปเลยพอได้ยินคำว่าซิงจากปากของจิน

“อะ..เออสิ”

“อีคะนิ้ง ทำไมมึงทำหน้าแบบนี้ หรือว่าช่วงที่ปิดเทอมไปมึง มึง...”

“อะไร...!!”

“มึงแอบไปมีผัวใช่ไหม ฮ่าๆ”

“บะ..บ้า..ผัวบ้าบออะไรละ แล้วนี่ มะปรางกับมินล่ะ มันมาถึงโรงเรียนหรือยัง ?”

“มาถึงแล้วอยู่ห้องน้ำ ไปหามันเถอะ”

พักเที่ยง....

“พวกมึงบัตรนักศึกษากูหายอ่ะ” ฉันก้มหน้าค้นหาในกระเป๋าเท่าไหร่ก็ไม่เจอ

“ไปลืมไว้บ้านรึป่าว ?” มินถาม

“นั่นสิยิ่งขี้ลืมอยู่ด้วย” จินพูด

ฉันคิดๆ ยังไงก็คิดไม่ออกว่าไปลืมไว้ที่ไหน

“อื้อ สงสัยลืมไว้บ้านนั่นแหละ” ฉันตอบปัดไป เพราะคงจะลืมไว้มี่บ้านจริงๆ

พวกเราสี่คนกำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ในโรงอาหาร

“พวกมึงรู้จักพี่แชมป์ ปี3 คณะวิศวะไหม?” มะปรางถาม

พวกฉันพยักหน้า จะไม่รู้จัดได้ไงเขาฮ๊อตที่สุดในคณะเลยก็ว่าได้

“ก็ต้องรู้จักสิ ฮ๊อตขนาดนั้น” ฉันพูด

มะปรางยื่นหน้ามาใกล้ๆ พวกฉันแล้วกระซิบ

“กูได้กับพี่เขาแล้วค่ะ อาทิตย์ที่แล้ว เด็ดมาก” มะปรางบอก แล้วมันก็ยิ้มดีใจเหมือนถูกรางวัลที่หนึ่ง

จู่ๆ อีจินก็หัวเราะออกมา

“มึงเป็นอะไรจิน ?” มินมองไปทางจินอย่างงุนงง

“นั่นสิ มึงจะหัวเราะทำไม” มะปรางถาม

“กูกินก่อนมึงอีกอีมะปราง” จินบอกอย่างผู้ชนะ

ฉันกับมินหัวเราะออกมาพร้อมกัน สองคนนี้มันสุดจริงๆ เรื่องผู้ชาย

“คาราวะสิทธิ์พี่” มะปรางยกมือขึ้นทำท่าคาราวะ

“พวกมึงสองคนไม่อยากลองบ้างหรอ พี่แชมป์เด็ดจริงๆ นะมึง”

ฉัน-มิน: โนค่ะ !!

“เอ่อ นี่พวกมึง วันเสาร์นี้ มีแข่งรถที่สนามkkไปดูกัน” มะปรางเอ่ยปากชวน

“ได้ข่าวว่าพี่คริสลงแข่งด้วยใช่ไหม” จินถามมะปราง

“ใช่แล้วมึง สุดหล่อของกู” มะปรางทำหน้าเพ้อฝัน

“พวกมึงนี่บ้าผู้ชายกันจริงๆ” ฉันส่ายหน้าไม่มาเมื่อเห็นว่าเพื่อนเอาแต่พูดถึงเรื่องผู้ชายไม่ยอมหยุด

“พี่คริสเขาหล่อมากจริงๆ นะมึง ถ้ามึงเห็นมึงก็ต้องชอบ”

“แต่ค่าเข้าไปดูมันแพง กูไม่มีเงินหรอก !!” จินบอก

“กูไม่ไปนะ กูต้องทำงาน” ฉันเอางานมาอ้าง เพราะไม่มีเงินเข้าไปดู

“กูไม่ไปเหมือนกันช่วงนี้เก็บเงิน” มินพูด

“โอ้ย พวกมึงนี่ กูใคร ลืมไปแล้วรึไง กูเปย์เองค่าเข้าพวกมึงเองสรุปจะไปไม่ไป ?” มะปรางยื่นข้อเสนออีกครั้ง

“ไป !!” ฉันกับเพื่อนตอบพร้อมกันอย่างไม่ลังเล เมื่อรู้ว่าจะได้เข้าไปดูการแข่งรถฟรี

วันนี้มีเรียนทั้งวัน หลัวจากที่เลิกเรียนก็ต้องมารอรถที่หน้ามหาวิทยาลัย

“ไปคลับกันไหม ฉลองเปิดเทอม” มะปรางถาม

พวกฉันกำลังจะอ้าปากตอบ แต่มะปรางพูดต่อสะก่อน “กูเลี้ยง”

ฉันสามคนตอบพร้อมกัน “ไป”

“สี่ทุ่มเดี๋ยวกูไปรับพวกมึง โอเครไหม” มะปรางนัดเวลาเสร็จสรรพ

#บ้าน

“ยายจ๋า วันนี้หนูขอไปเที่ยวนะ” จะไปไหนฉันต้องขอยายก่อน

“เอ่อๆ ดูแลตัวเองดีๆก็แล้วกัน”

พอขอย้ายไปได้แล้วฉันก็เดินเข้าห้องนอนตัวเอง แล้วก็ค้นหาบัตรนักศึกษา แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ

“ตาย ตายแน่ ไปลืมไว้ไหนวะเนี่ย!!”

5 - เมา

ฉันพยายามหาแต่ยังไงก็ไม่เจอ จนถอดใจ เดี๋ยวก็คงเจอเองแหละฉันชอบลืมแบบนี้ประจำ

ถึงเวลาที่มะปรางมารับไปคลับ คือมะปรางมันไปรับ มินกับจินแล้วมารับฉันคนสุดท้าย ฉันก็ไม่ได้เเต่งตัวเซ็กซี่อะไรมากหรอก แต่งตัวสไตล์ฉันนี่แหละ ส่วนจินกับมะปรางสองคนนี้มันแต่งตัวกันแบบกินกันแทบไม่ลง ฉันกันมินนี่ชิดซ้ายเลย

@คลับ...พอมาถึงสั่งเหล้าอะไรแล้วเรียบร้อย

“วันนี้วงในบอกมาว่าพี่คลาสจะมาผับนี้” มะปรางพูดอย่างตื่นเต้น

“คลาส ที่เป็นฝาแฝดพี่คริสไหม นักแข่งรถไง” จินพูดเสริม

“เยส !!” มะปรางพยักหน้ารับ

“เสียดาย กูชอบพี่คริส” จินพูด

“กูก็ชอบพี่คริส แต่พี่เขาสองคนหน้าตาเหมือนกัน ได้ใครก็ดีทั้งนั้น” มะปรางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

ฉันกับมินมองหน้ากันแล้วส่ายหัวเบาๆ ให้กับความแรดของเพื่อนทั้งสองคนนี้

“มาๆ ชนแก้ว ชนให้กับความร่านของมึงสองคน” ฉันยื่นแก้วไปตรงหน้า

“แรงค่ะ แต่กูชอบคำนี้”

“ชนๆๆ”

เคร้ง (เสียงแก้วกระทบกัน)

กินไปได้สักพักเริ่มเมาได้ที่แล้ว จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงในคลับกรี๊ดๆ กัน

“แหกปากทำไมเนี่ย ทำเหมือนมีคนตายงั้นแหละ” มินพูดอย่างหงุดหงิด

“อร้ายยย..กรี๊ด!!” จู่ๆ มะปรางที่มองๆ ดูอะไรสักอย่างก็กรี๊ดออกมาเสียงดัง

“นี่ก็อีกคน มึงจะกรี๊ดทามม๊ายย” ฉันยกมือขึ้นมาผิดหูไว้อย่างรำคาญ แล้วถามเสียงยานเพราะความเมา

“มึง...มึง...พะ..พี่คลาส พี่คลาสมาแล้ว อร้ายๆ” มะปรางกระโดดโลดเต้นเหมือนปลากระดี้ได้น้ำ

“จริงด้วย กรี๊ด หล่อมาก” จินกรี๊ดออกมาเสียงดัง ให้ตายเถอะ หล่อขนาดนั้นเลยหรือไงกัน

ฉันพยายามมองนะแต่คนมุงเยอะเกินเลยมองไม่เห็น บวกกับตอนนี้ตาลายด้วย

“เอาล่ะพวกมึง กูจะเอาคนนี้คืนนี้กูต้องได้พี่คลาสเป็นผัว” มะปรางพูดแถมยังมันทำหน้ามั่นใจ

“กูด้วย !!” จินเสริมขึ้น

ฉัน-มิน: ตามสบาย

กินเหล้าต่อสักพัก ฉันก็ไม่ได้เห็นหน้าไอ้คนชื่อคลาสหรอกว่าหน้าตามันเป็นยังไง เห็นเขาว่าหล่อหนักหล่อหนา ตอนนี้มันไปนั่งตรงไหนฉันยังไม่รู้เลย

จู่ๆ ก็มีเด็กเสริฟเดินมาสะกิดแขนฉัน

“....พี่ครับ คือพี่ผู้ชายโต๊ะนั้นให้มาชวนไปนั่งดื่มด้วย”

“ม๊านค่ะ” รีบพูดปฎิเสธ ตอนนี้เมาจนพูดแทบจะไม่รู้เรื่องแล้ว ไม่มีอารมณ์ไปนั่งกับใครหรอก

เด็กเสริฟพยักหน้าแล้วเดินไป

“อีคะนิ้ง!!!” จู่ๆ มะปรางกับจินก็ตะเบ็งเสียงเรียกชื่อฉันเสียงดังพร้อมกัน

“อาราย !!” ตอนนี้ฉันเมา เมามากด้วย แต่หูไม่ได้ตึงสักหน่อย

“คนที่มึงเพิ่ง ปฎิเสธไปนั่นพี่คลาสนะ อีบ้า !!” จินต่อว่าฉันใหญ่

“พี่คลาสทำไมทำมะปรางแบบนี้ อร้าย!!”

“คลาส คลาส หนายว่ะ ม่ายรู้จัก !!” ฉันลุกขึ้นยืน เซไปมา “ไร้สาระ ปะๆ เต้นๆ โยกๆ วู้วๆๆ”

“มินพากูไปเข้าห้องน้ำหน่อย” ฉันสะกิดแขนมิน

“ปายเองเด้..กูเดินม่ายหวาย !!” มินซบหน้าลงกับโต๊ะแล้วตอนนี้

ฉันมองหาจินกับมะปราง ไม่รู้สองคนนี้มันไปไหนกันแล้ว

เมื่อไม่มีใครพาไปฉันต้องไปเอง ฉันเดินแหวกฝูกคน กว่าจะมาถึงห้องน้ำฉี่แทบเล็ต พอมาถึงก็เข้าห้องน้ำ ทำอะไรเสร็จเรียบร้อย เดินออกจากห้องน้ำ

พรึ่บ~ จู่ๆ ก็มีคนมาดึงแขนฉันไว้

“ใครวะ !!” ฉันพูดอย่างหัวเสีย แล้วพยายามเพ่งมองคนตรงหน้า

อีเชี้ย!! โคตรหล่อ หล่อชิบหาย หล่อแบบวัวตายควายล้มกันไปเลยทีเดียว แต่ฉันว่าไอ้หน้าหล่อๆ แบบนี้ฉันเคยเจอที่ไหนนะ คิดไม่ออก

“...พี่ชื่อคลาส ที่ให้เด็กเสริฟไปชวนน้องมากินที่โต๊ะพี่”

รอยยิ้มแบบนี้ งื้อละลาย ยิ้มกระชากใจมากเขาจะรู้ไหมว่าฉันอ่านกินเขาอยู่

“หล่อจัง...” ฉันพูดเบาๆ แต่เหมือนเขาจะได้ยิน เขายิ้มหวานให้ฉันด้วย

“ไปดื่มกับพี่ที่โต๊ะหน่อยได้ไหมครับ”

ฉันรู้สึกเวียนหัวจะอ้วกมากตอนนี้

“เดี๋ยว..แป๊บ” ฉันจะเดินกลับไปที่ห้องน้ำ คือมันไม่ไหว จะอ้วกให้ได้เลยตอนนี้

“เดี๋ยวน้อง..จะไปไหน ไปกับพี่ก่อน” ผู้ชายหน้าหล่อดึงแขนฉันไว้

“ปล่อย..ก่อน.!!!”

“บอกมาก่อนว่าจะไปไหน”

“อึก..อึก..อ้วก” ฉันทนไม่ไหวอีกแล้ว คนจะไปอ้วกก็ไม่ให้ไป ฉันอ้วกใส่เสื้อผู้ชายหน้าหล่อเต็มเสื้อเลย

“เชี้ย...!!!”

6 - สนามแข่งรถ

ฉันผลักผู้ชายหน้าหล่อออกแล้วฉันก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันที...

“..อีคานิ้งง” เสียงอีมินเรียกฉัน

“กูอยู่เน้....!!” ฉันเปิดประตูห้องน้ำออกไปหามิน

“หื้ม..สภาพมึงตอนเหมือนศพมาก”

“กูไม่ไหวแล้ว....”

ภาพตัด

เช้า...

ฉันตื่นขึ้นมาด้วยอาการที่เวียนหัวสุดๆ เมาค้าง เมื่อคืนไม่รู้ไปทำอะไรทุเลสๆ ไว้หรือป่าว จำอะไรไม่ได้เลย มาถึงบ้านได้ไงยังไม่รู้เลย ดีนะยายเล่นโทรศัพท์ไม่เป็น นี่ถ้ายายเล่นเป็นแล้วโทรไปบอกพี่เค้กนะมีหวังพี่เค้กบ่นฉันยาวแน่

สรุปแก๊งฉันสี่คนไม่มีใครได้ไปเรียนเลย เมากันทุกคน

ตัดมาวันเสาร์ ฉันสี่คนนัดเจอกันที่สนามแข่งรถkk

ณ สนามแข่งรถ kk

“ไปพวกมึงกูซื้อบัตรเรียบร้อยแล้ว” มะปรางชูบัตรขึ้นโชว์

เราสี่คนเดินเข้าไปด้านในสนาม ขอบอกว่าคนเยอะมาก และส่วนมากจะเป็นผู้หญิง

“กูไม่ชอบแบบนี้เลย คนเยอะ” ฉันเดินไปบ่นๆ ไป

“ชะนีพวกนี้คงจะมาเชียร์พี่คริสแน่” จินพูด

“กูก็ว่างั้น เราต้องไปยืนดูด้านหน้าพี่คริสจะได้เห็นกู”

จากนั้นมะปรางกับจินมันก็ลากฉันกับมินมายืนติดขอบสนามเลย แดดก็ร้อนๆ คนก็โคตรเยอะ โอ้ยจะเป็นลม ไม่น่าเห็นแก่บัตรฟรีเลย

กรี๊ด กรี๊ด....!!!! จู่ๆ ก็มีเสียงกรี้ดดังขึ้น รวมทั้งมะปรางกับจินด้วย

“กรี๊ด พี่คริส พี่คริส เห็นหนูไหมมม อร้ายยย !!” จินร้องกรี๊ดพร้อมกับชูไม้ชูมือใหญ่ ปากก็เรียกหาแต่คนชื่อคริส

“กรี๊ด พี่คริส มาเป็นผัวหนูเถอะ !!!” มะปรางก็ไม่น้อยหน้า

“มินกูว่าสองคนนี้มันจะบ้าผู้ชายเกินไปแล้วนะ” ฉันหันไปพูดกับมิน

“ปล่อยๆ มันไปเถอะความสุขของมัน”

ในตอนนี้เสียงกรี๊ดของชะนีดังลั่นสนามแข่งรถ

“คนไหนวะ คริส ?” ฉันถามมะปราง

“อีตาต่ำ นั่นไงคนนั้นไง” มะปรางชี้ให้ฉันดู

ฉันมองไปตามที่มะปรางชี้ เห็นนักแข่งใส่ชุดสีเขียวดำ ใส่หมวกกันน็อค แต่งตัวมิดชิดมากใครจะไปดูออกกันล่ะแบบนั้น

“ขนาดนี้ยังมองออกว่าเป็นใครกูนับถือจริงๆ” เอาจริงๆ ถ้าเป็นฉันคงมองไม่ออกหรอกว่าคือใคร

กรี๊ด กรี๊ด...!!! เสียงกรี้ดดังมาก

การแข่งขันเริ่มขึ้นอย่างดุเดือด แต่จะมีรถคันหนึ่งที่โดดเด่นกว่าใครเพื่อน เขาขับนำทุกคันไปแบบกินขาด สุดท้ายคนที่เข้าเส้นชัย คือไอ้คนที่พวกผู้หญิงพากัน กรี๊ดๆกันนี่แหละ

“งื้อ..กูอยากได้เขากูจะทำไงดี กูอยากได้”

“อีมะปรางมึงดู กรี๊ด!!” ฉันมองตามสองคนนี้ว่ามันดูอะไรกันแล้วก็กรี๊ดๆ ไม่เจ็บคอบ้างรึไง

ฉันมองไปที่คนชื่อคริส ที่พวกนี้กรี๊ดๆ กัน เขากำลังจะถอดหมวกกันน็อค ก็ไม่รู้จะกรี๊ดอะไรหนักหน้า ฉันก็มองๆ ผู้ชายที่ชื่อคริสต่อ พอถอดหมวกแล้ว

เออว่ะ หล่อจริง ท่าสะบัดผมเนี่ย พอถอดหมวกกันน็อคเสร็จก็ใส่แว่นดำใส่หมวก ชะนีพากันกรี๊ดดังสนั่น

คือพวกฉันอยู่ติดขอบสนามใช่มั้ย เวลานักแข่งแข่งเสร็จแล้วเขาจะเดินผ่านตรงที่พวกฉันยืนอยู่ด้วย

จู่ๆ ไอ้คนหล่อที่ชื่อคริส กำลังเดินอยู่ก็หยุดเดินแบบดื้อๆ หยุดตรงที่พวกฉันสี่คนยืนอยู่ แล้วเขาก็หันมามอง มองหน้าฉันเว้ย ฉันก็มองเขาเหมือนกันนะ ในใจนี่แบบอยากกราบในความหล่อ มองใกล้ๆ ยิ่งหล่อ ไม่แปลกใจเลยทำไมมะปรางกับจินถึงคลั่งขนาดนี้

แต่เอ๊ะ...ฉันทำไมคุ้นหน้าผู้ชายคนนี้จัง เหมือนเคยเจอแต่คิดไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน จู่ๆ คนชื่อคริสก็กระตุกยิ้มมุมปากให้ฉันก่อนจะเดินไป นี่ฉันไม่ได้คิดไปเองใช่ไหม หรือว่าเขากำลังอ่อยฉันอยู่

“เขามองกู...!!”

“กูต่างหาก !!”

มะปรางกับจินเถียงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร

“กูว่าเขามองอีคะนิ้งนะ” มะปรางกับจินหันขวับมาทางฉันเมื่อได้ยินคำพูดของมิน

“อีกแล้วนะ วันนั้นก็พี่คลาส !!”

“วันนี้ก็พี่คริส เสน่ห์แรงจริงเพื่อนกู !!”

“ทำไมเขาต้องมองมึงด้วย กูนมใหญ่กว่ามึงตั้งเยอะ”

“บ้า..ไม่ใช่ เขาไม่ได้มองกูมั้ง” ฉันรีบพูดปฎิเสธ “กูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”

พูดจบฉันก็เดินออกมาเลย

ณ ห้องน้ำ

“เฮ้อ..คนเยอะน่าเบื่อชะมัด ถ้ารู้ว่าคนจะเยอะขนาดนี้ ไม่มาหรอก” ฉันบ่นพึมพำคนเดียวในห้องน้ำพลางล้างมือที่อ่างไปด้วย

หลังจากทำธุระในห้องน้ำเสร็จ ฉันก็เดินออกมา

พรึ่บ~ ไม่รู้ฉันเผลอไปชนกับใครเข้า ไม่สิ ใครมันมายืนขว้างทางออกฉันวะ ฉันค่อยๆ เงยหน้าไปมองคนที่ชน

ไอ้พี่หน้าหล่อคนนั้นนี่..นักแข่งที่ชื่อคริส ทำไมมาอยู่ตรงนี้ แล้วยังมาอยู่หน้าห้องน้ำหญิงอีก โรคจิตไหมวะเนี้ย (คิดในใจ)

“เอาตัวเธอไป”

พรึ่บ~ จู่ๆ ผู้ชายร่างใหญ่สองคนก็พุ่งเข้ามาหิ้วปีกฉัน

“อร้าย ไอ้บ้า ไปไหน หนูไม่ไปโว้ย มาจับหนูทำไมเราไม่รู้จักกันสักหน่อย ปล่อย ปล่อยโว้ยยย!!” ฉันร้องเสียงดัง ทั้งตกใจทั้งกลัว

หรือว่าไอ้หน้าหล่อนี้จะมันจะโกรธที่ฉันมองหน้า เห้ย ไม่สิเขามองฉันก่อนนะ จะยังไงก็เถอะไม่เห็นต้องมาใช้กำลังกับผู้หญิงตัวเล็กๆ แบบฉันอย่างนี้เลย

เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 1

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!