โยนาทันแห่งเซบูลอน

โยนาทันแห่งเซบูลอน

เกรสที่1 ข้าคือผู้เป็นใหญ่

"องค์ราชา พระองค์ทรงตัดสินพระทัยดีแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ"

"ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ การทำสงครามกับอาณาจักรคาลิลที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับเราแบบนั้นมันจะดีหรือพ่ะย่ะค่ะ"

"พระองค์ลองทรงตัดสินพระทัยใหม่ไหมพ่ะย่ะค่ะ"

เสียงของเหล่าขุนนางยศสูงต่างพูดถกเถียงขึ้นเพื่อให้ราชาของตนเองนั้นได้ลองคิดทบทวนดูใหม่ เกี่ยวกับเรื่องการทำสงครามกับอาณาจักรคาลิลที่มีความสัมพันธ์กันทางการค้า การฑูตและการทหารมาอย่างช้านาน

"พวกเจ้ากลัวหรอ"

น้ำเสียงอันเยือกเย็นของราชาเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นใบหน้าของพวกขุนนางหิวเงินบ้าอำนาจกำลังพูดถกเถียงเกี่ยวกับประโยคของตนเองทั้งๆ ที่พวกเขานั้นไม่แม้แต่จะกล้าลงสนามหรือใช้มือตนเองแตะต้องดาบเสียเองด้วยซ้ำ เพียงรอรับความดีความชอบจากเหล่าลูกหลานตนเองที่ส่งไปตายในสนามรบอย่างเปล่าประโยชน์ และตายลงกลายเป็นเศษปุ๋ยให้กับพื้นดิน

เหล่าขุนนางที่ได้ยินจึงเงียบลงแล้วนั่งลงโดยที่ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะปริปากพูดอะไรออกมาเหมือนกับก่อนหน้านี้ ทำเอาราชาที่เห็นยิ้มมุมปากขึ้นมาด้วยความสมเพช หากไม่ติดที่ว่าเหล่าขุนนางพวกนี้มีกองกำลังทหารจำเป็นสำหรับเขาอยู่ล่ะก็ ป่านนี้คงได้กลายเป็นปุ๋ยบำรุงต้นไม้ในสวนแก้วของเขาไปแล้ว

"พวกเจ้าเอาแต่หดหัวอยู่ในกะลาทำให้พวกอาณาจักรยิบย่อยเติบโตขึ้นมาทำตัวกร่าง"

"แต่ในตอนนี้พระผู้เป็นเจ้าได้มอบสิ่งล้ำค่ามาให้ นั่นคงเป็นสาสจากพวกท่านที่เราจะต้องทำสงครามได้แล้ว"

ราชาพูดขึ้นแล้วลูบหัวเด็กผู้หญิงวัยสี่ขวบผมสีดำสวมชุดสีขาวในอ้อมแขนที่กำลังหลับอยู่อย่างอารมณ์ดีก่อนจะจบการประชุมสภาไว้เพียงเท่านี้ ก่อนที่ราชาจะเดินออกไปจากห้องประชุมทิ้งให้เหล่าขุนนางที่เหลือต้องนั่งงงเป็นไก่ตาแตก

ราชาผู้ที่ได้รับฉายาว่าเป็นปีศาจแห่งสงครามผู้ถนงตน ราชาผู้มีนัยน์ตาสีแดงฉานดั่งปีศาจ เส้นผมสีดำคล้ำ ราชาแห่งอาณาจักรมาเรีย โอซิส ออฟ เดอะ ลีเบอร์ ราชาอันดับที่เจ็ดแห่งอาณาจักรมาเรียผู้สังหารพี่น้องตนเองและผู้เป็นบิดาเพื่อขึ้นครองบัลลังค์ในตอนที่ตนเองอายุเพียงสิบหกปี 

และผลงานชิ้นโบว์แดงใหม่ของเขาในตอนนี้ก็คือลูกสาวคนที่สามของตระกูล เด็กที่เกิดจากทาลเซอร์ที่เจ้าตัวดันไปพบเข้าในสนามรบจึงช่วยเอาไว้เพราะติดใจในพลังแห่งการรักษาจึงพากลับมายังวังหลวงและให้เกิดเนิดเด็กผู้หญิง ผู้มีนามว่า โคซีย์ เดอะ ลีเบอร์ เด็กที่เกิดมาพร้อมกับสัญลักษณะไฟตรงกลางหน้าอกแสดงถึงการเป็นเซบูลอนแห่งไฟ เธอนั่นโดนเลี้ยงประคบประงมมาอย่างดีไม่มีขาดตกบกพร่องมีแต่เกิน และนั่นก็ทำให้เหล่าลูกคนที่เหลือต้องกลายเป็นไลฝุ่นที่ร่องรอยอยู่ในอากาศอย่างคนไร้ตัวตนในสายตาของราชา ไม่แม้แต่จะเรียวแล

.

.

.

ขณะเดียวกัน เมืองหลวงของคาลิล

เสียงเรียกของพ่อค้าแม่ค้าร้านขายของดังขึ้น เสียงดนตรีบรรเลงบทเพลงคลื้นเครงสนุกสนาน เสียงพูดคุยของเหล่าผู้คนที่ออกมาเดินตลาด

"ขนมไหมคะ ขนมไหมคะ"

"หลบไป อย่าเกะกะขวางทางท่านเรเนอร์"

ชายผู้หนึ่งพูดขึ้นแล้วผลักเด็กหญิงที่กำลังขายขนมปังจนหกล้มลงไปกับพื้นเพียงเพราะเธอนั้นขวางทางเดินคนที่ชื่อเรเนอร์ ทำให้ขนมปังในตะกร้าของเธอกระจัดกระจายไปทั่วพื้น เมื่อเด็กหญิงเห็นแบบนั้นจึงรีบเก็บใส่ตลาดอย่างรวดเร็วด้วยความเสียดาย

"เดี๋ยวพี่ช่วยเก็บนะ"

ร่างของชายหนุ่มในชุดเสื้อคลุมสีดำปกปิดใบ้หน้าด้วยฮูดคลุมหัวพูดขึ้นแล้วนั่งลงช่วยเด็กหญิงเก็บขนมปังใส่ตระกร้าจนเสร็จแล้วหันไปมองยังผู้ชายที่ผลักเด็กหญิงล้ม

"พูดขอโทษเธอสะ"

ชายหนุ่มพูดขึ้นทำเอาอีกฝ่ายที่ได้ยินอดขำไม่ได้ แล้วเดินเข้าไปใกล้ๆ ชายสวมเสื้อคลุมเพื่อกระซิบอะไรบางอย่างข้างหู

"แกเป็นใครถึงสั่งฉันได้วะ ไอ้สวะ"

อีกฝ่ายพูดด้วยน้ำเสียงที่กดต่ำลงเพื่อกดดัน ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปหาพวกตนเอง หมัดถูกเหวี่ยงเข้าหูข้างขวาของอีกฝ่ายอย่างจังจนทำให้ล้มลงไปนอนกับพื้น ก่อนที่จะรีบลุกขึ้นพุ่งใส่ชายในชุดเสื้อคลุมอย่างไวหวังจะอัดสั่งสอนให้ราบจำ หมัดที่พุ่งเข้ามามีแสงสีฟ้าของพลังเวทน้ำ ชายหนุ่มที่เห็นทำเพียงเอนตัวหลบเล็กน้อยแล้วสกัดขาอีกฝ่ายให้ล้มลงไปนอนกับพื้น

คนที่ล้มลงไปนอนกับพื้นรีบลุกขึ้นอย่างไวแล้วพุ่งใส่ชายหนุ่มเหมือนเดิม ผู้คนเริ่มเข้ามามุงดูกันมากยิ่งขึ้นเพราะอยากจะรู้ว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ แต่แค่นี้ก็ทำให้ทุกคนสามารถรู้ผลแพ้ชนะได้ง่ายๆ แล้ว มือของชายสวมเสื้อคลุมจับเข้าไปที่แขนชายตรงหน้าก่อนจะสกัดขาให้ล้มลงไป ในขณะที่ชายหนุ่มลงไปจับแขนอีกฝ่ายรวบรวมกันใช้เชือกมัด ฮูดที่คลุมหัวอยู่ก็ดันโดนลมพัดจนเปิดออก เผยให้เห็นนัยน์ตาสีอคามารีนเปร่งประกายดั่งท้องทะเล ผมสีบลอนด์ ทำเอาทุกคนที่เห็นรีบนั่งลงถวายความเคารพให้กับอีกฝ่าย

"ขอให้พรแห่งพื้นน้ำจงสถิตอยู่กับตัวท่าน"

ทุกคนต่างพูดพร้อมกันแล้วก้มหัวลงให้ชายหนุ่มตรงหน้า องค์รัชทายาทแห่งอาณาจักรคาลิล คาเมรอน ฮาเลสซ์ เจ้าชายลำดับที่หนึ่งที่กำลังจะได้ขึ้นครองบัลลันค์ อีกฝ่ายที่เห็นแบบนั้นก็ตกใจก่อนจะให้ทุกคนรีบลุกขึ้น

"นี่เงินค่าขนมปังที่ตกพื้นนะ ไว้วันหลังพี่จะมาอุดหนุนล่ะ"

ชายหนุ่มยื่นถุงเงินให้เด็กหญิงตรงหน้าก่อนจะสวมฮูดคลุมหัวกลับไปเหมือนเดิมแล้วรีบวิ่งเข้าไปในฝูงชนเพื่อไม่ให้เหล่าองครักษ์ที่ตามมานั้นตามมาเจอได้

กริ๊ง

เสียงกระดิ่งประตูร้านเหล้าดังขึ้นร่างของชายหนุ่มเดินไปนั่งเก้าอี้ตรงบาร์

"ชับบาตีแก้วหนึ่งครับ"

เสียงสั่งเมนูเครื่องดื่มดังขึ้นเบาๆ บาร์เทนเดอร์สาวที่ได้ยินก็ชงน้ำยื่นเครื่องดื่มให้พี้อมกุญแจหนึ่งดอก ชายหนุ่มหยิบแก้วเครื่องดื่มขึ้นมากระดกก่อนจะขอตัวเดินขึ้นไปยังชั้นบนของร้านเหล้า ใช้กุญแจที่ได้มาไขห้องห้องหนึ่ง ก่อนจะปิดประตูลงเบาๆ เมื่อเดินเข้ามาในห้องโดยไม่ลืมที่จะล็อคประตู

ภายในห้องปรากฏกองเอกสารต่างๆ มากมายวางกระจัดกระจายอยู่เต็มบนพื้น ร่างของหญิงสาวผมสีดำไฮไลท์ด้วยสีม่วง นัยน์ตาดั่งอเมทิสต์ ผู้มีนามว่า สปิเนล ฟอร์สเตอไรด์ หรือที่ผู้คนส่วนใหญ่เรียกว่า นิล เจ้าของร้านเหล้าฮิลโล กำลังนั่งก้มหน้าอ่านเอกสารอยู่ ในมือข้างซ้ายถือกระบอกยาสูบ ควันสีขาวนวลถูกพ้นออกมาจากปากกระจับอมชมพู สายตาของอีกฝ่ายละจากกองงานของตนเองเพื่อหันขึ้นมามองหน้าผู้มาใหม่ ก่อนจะกลับไปอ่านเอกสารต่อเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายคือใคร

องค์รัชทายาทที่เห็นว่าทุกอย่างปลอดภัยจึงถอดเสื้อคลุมออกแขวนไว้ที่พนัง ก่อนจะนั่งลงที่โซฟาตรงมุมห้องอย่างสบายใจ แล้วลูบหัวแมวตัวสีขาวที่นอนอยู่บนโต๊ะเล่น

"มีอะไรไม่ทราบ นายถึงหอบสังขารมาที่นี่ได้"

หญิงสาวถามอีกฝ่ายถึงเหตุผลที่มาที่ร้านเหล้าของเธอ หากให้ตั้งสมมติฐานความเป็นไปได้ ไม่โดดเรียนมาก็คงจะหนีการนัดเจอเหล่าลูกสาวของพวกขุนนางตระกูลสูงที่ส่งมาเข้าเฝ้าดูใจเผื่อลูกๆ ของตนเองจะไปสดุดตาขององค์รัชทายาทเข้า และได้เป็นคู่หมั้นอะไรทำนองนั้น

"ก็ข้าไม่อยากจะไปที่อาณาจักรมาเรียนี่น่า จากนี่ไปถึงนู่นข้าคงแห้งตายก่อน"

คาเมรอนพูดสบถออกมาอย่างหน่ายใจเมื่อรู้ว่าท่านพ่อของตนเองจะส่งตนไปที่อาณาจักรมาเรียที่อยู่ไกลแสนไกลเพื่อทำหน้าที่เป็นตัวแทนของอาณาจักรให้ไปร่วมเฉลิมฉลองยินดีในวันเฉลิมพระชนมพรรษาขององค์หญิงลำดับที่สามแห่งอาณาจักรมาเรีย

ถึงแม้คาเมรอนจะเคยเจอกับโคซีย์ เจ้าหญิงลำดับที่สามอยู่บ่อยครั้งในตอนที่ตนเองอายุสิบห้าสิบหกปี แต่พอช่วงหลังๆ ที่เขานั้นอายุได้สิบแปดปีก็ต้องตัวพันกันเป็นเกรียว ต้องคอยจัดการในหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่าง เพื่อเตรียมตัวขึ้นเป็นราชาองค์ถัดไป ทำให้ชายหนุ่มแทบจะไม่ได้ไปหาโคซีย์เลยด้วยซ้ำ

"แล้วมันไม่ดีหรอ เห็นเมื่อก่อนนายเอาแต่คร่ำครวญอยากจะไปหาโคเซย์อยู่บ่อยครั้ง"

สปิเนลนั้นรู้ดีว่าคาเมรอนนั้นค่อนข้างจะสนิทสนมกับโคเซย์เป็นอย่างมาก เหมือนกับว่าเขานั้นให้ความสำคัญกับเด็กผู้หญิงคนนั้นเหมือนกับน้องสาวแท้ๆ ของตนเอง เพราะเมื่อก่อนเจ้าตัวเคยเข้าเฝ้าอีกฝ่ายในฐานะคู่หมั้นอยู่สองสามปีก่อนจะถอนหมั้นกันในเหตุผลที่ว่าสปิเนลนั้นได้พบกับคนที่ตนเองรักจริงๆ ด้วยหัวใจแล้ว ไม่ใช่ความรักจอมปลอมที่ต้องแสดงให้เหล่าคนใหญ่คนโตดู แต่ถึงจะถอนหมั้นไปคาเมรอนก็ยังคงวนเวียนไปมาหาสู่กับตนเองเหมือนเพื่อนสนิทคนหนึ่ง

"โย่วนิล ข้าเอาเหล้าตามที่เจ้าสั่งมาส่งแล้วนะ"

ร่างของชายหนุ่มผมดำนัยน์ตาสีฟ้าดั่งน้ำทะเล ผู้มีนามว่า ลิโอ เจโรสด์ ลูกครึ่งมนุษย์ทาลเชอร์พูดขึ้นก่อนจะปิดประตูลง เจ้าของชื่อที่ได้ยินเสียงอันคุ้นเคยก็หยิบถุงใส่เงินจำนวนหนึ่งมาวางไว้บนโต๊ะ ลิโอที่เห็นแบบนั้นก็เดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ตรงหน้าหญิงสาวเพื่อพูดคุยอะไรเล่นนิดหน่อยหลังจากกลับมาจากการเดินทาง

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!