เนย์ของปริ๊นซ์ #Sungsunoo
#เนย์ของปริ๊นซ์ 00
ข่าวนักเรียนใหม่แพร่สะพัดไปทั่ว ในวันเดียวกันนั้นเองเพจซุบซิบวงในได้ออกมาปล่อยภาพพร้อมทั้งอธิบายข้างใต้ในเชิงว่าเด็กใหม่ที่กำลังจะเข้ามาเรียนวันพรุ่ง จะทำให้สาวๆเป็นต้องกรีดร้องออกมาไม่เป็นคำ
อ่านแล้วอยากจะอาเจียน…
ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งนั่งแผ่กายยาวอยู่บนโซฟาสีดำตัวนุ่มตัวแพง ขายาวพาดขึ้นบนโต๊ะอย่างไร้มารยาท ขณะที่นิ้วมือเลื่อนดูข่าวสารไปมาด้วยความเบื่อหน่าย เขาไม่แม้แต่จะแสดงอาการตื่นเต้นสักนิดเมื่อตนจะต้องไปเรียนโรงเรียนใหม่ที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆของประเทศ
ใครจะรู้ว่านิสัยอีกมุมของหนุ่มหล่อคนนี้อาจจะไม่ตรงกับภายนอกที่แสดงออกไป หลายๆคนต่างตกหลุมพรางให้กับรอยยิ้มและใบหน้าคมสันกรามชัดของเขา และแม้ว่าจะต้องเข้าเรียน ม.6 แต่ทว่าอายุเขาไม่ใช่เด็กมัธยมปลายอีกต่อไปแล้ว
สีหน้าบูดบึ้งถูกประดับอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา แต่เมื่อชีวิตของเขาได้พบเจอกับแสง สี เสียง ในสถานที่ใดก็แล้วแต่ ความใคร่อยากจะผ่อนคลาย จะครอบงำเขาอย่างไม่รู้ตัว
ว่าแล้วก็ไม่วายที่จะตรงดิ่งเข้าห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเป็นชุดออกล่าเหยื่อของตัวเอง
…
08.00 น.
ต่างคนก็ต่างวุ่นวายกันในห้องตัวเองเพราะอยากเห็นสีหน้าค่าตาของชายหนุ่มผู้หล่อเหลาที่เพจโรงเรียนกล่าวถึงกันให้แซ่ด ว่าแล้วก็คล้ายข้อความลูกโซ่เหมือนกันนะ หลอกล่อให้เชื่อแต่เพราะมันคือเรื่องจริง
เป็นเรื่องน่าแปลกและน่าตื่นเต้นในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน ทั้งนักเรียนชายและหญิงจำนวนหนึ่งกรูกันออกมาต้อนรับและพร้อมจะรับดาเมจความหล่อของเด็กใหม่
“เกินหน้าเกินตาไปแล้วเธอน่ะ ฉันมั่นใจยังไงเขาก็ต้องเดินผ่านหน้าห้องฉันก่อน” นักเรียนหญิงคนหนึ่งเอ่ยออกมาพร้อมกับส่งสายตาแดกดันให้อีกฝ่าย
ไม่นานเสียงกรี๊ดเริ่มดังระงมไล่มาเป็นทาง เด็กหนุ่มสองคนเดินขึ้นมาพร้อมกัน คนหนึ่งดูท่าทางสุขุมนุ่มลึกกว่า เขาล้วงกระเป๋ากางเกงเดินมาตลอดทาง สวนทางกับอีกคนที่ดูท่าทางเปิ่นๆเดินสะดุดโน่นทีนี่ที อีกทั้งยังใส่แว่นกรอบหนาเตอะขนาดนั้นอีก
“แกว่านั่นจะใช่เด็กใหม่ที่เพจเขาบอกไหมวะ ดูเด๋อๆด๋าๆยังไงไม่รู้”
“ฉันว่าอีกคนดูดีกว่าอีกนะ ยิ้มอบอุ่นดีอ่ะ”
ทุกคนต่างแยกย้ายกันเข้าห้องเรียนของตัวเองเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่มีอะไรให้ลุ้นแล้ว
แต่ละคนก็ยังไม่หยุดคิดถึงข้อมูลที่เพจข่าวโรงเรียนปล่อยออกมา ถึงหนุ่มแว่นที่พวกเธอเจอจะมีโครงหน้าคล้ายกับหนุ่มหล่อหน้าคมคนนั้น แต่ทว่าหลายคนก็ยังไม่ปักใจเชื่อ ต่างกับบางคนที่พอมองออกว่าหรือเขาอาจจะเป็นคนคนเดียวกัน
“ตัวสั่น? ไม่สมกับเป็นมึงเลยนะ”
ซัน เพื่อนที่เข้ามาใหม่พร้อมๆกับนายแว่นหนาเตอะตะ ถามอีกคนปานสนิทกันมาก่อน พ่อของเขาเป็นหุ้นส่วนห้างดังแนวๆระดับโลก และการที่ลูกชายของตัวเองก่อเรื่องก่อราวไม่เว้นวันก็ต้องถูกย้ายโรงเรียนกลางเทอมมาหลายครั้ง แม้ใครจะกล่าวว่าเขาใช้เส้นเข้ามา แต่ผลการเรียนของเขาเองก็ไม่เป็นสองรองใคร
“หมายถึงอะไรครับ”
“ฮ่าๆๆ ขำว่ะลุคนี้โคตรไม่เข้า” เขาว่าพลางขำไม่หยุด
“เข้าห้องเรียนเถอะครับ ผมไม่ชอบเป็นเป้าสายตา”
“เออๆ เข้าๆ”
ทั้งคู่เดินไปจนถึงที่หมายห้อง 6/12 ห้องโครงการพิเศษสำหรับเด็กหัวกะทิที่ใช้ความสามารถตัวเองสอบเข้ามาได้ตั้งแต่ม.4 ทว่าพวกเขาสองคนกลับใช้เงินและอำนาจเข้ามาได้อย่างง่ายดาย
คุณครูประจำชั้นรีบปรี่ขึ้นมาเอาหน้า เป็นเวลาฉิวเฉียดกับที่ทั้งซันและเนย์เดินมาพอดี เธออาจจะได้รับคำสั่งจากผู้อำนวยการให้คอยประหงมดูแลเด็กทั้งสองตลอดยามที่อยู่ในสถาบันนี้ เพราะเงินก้อนโตหลายแสนที่วางเรียงเป็นมัดๆต่อหน้าพวกเขา ความละโมบเข้ามาแทนที่ความยุติธรรม
เพื่อนๆในห้องต่างแสดงสายตามองเหยียดใส่อย่างเห็นได้ชัด บ้างก็เห็นตรงกันว่ามันไม่ยุติธรรมเลยสักนิดพวกเขาพยายามอ่านหนังสือเพื่อเข้ามาสอบแทบตาย กับลูกชายผู้มีอิทธิพลสองคนฟาดเงินคนละก้อนก็ได้เข้ามาแล้วเหรอ บ้างก็เห็นต่างแต่จะเป็นเรื่องที่ทั้งสองคนน่าอิจฉาเสียมากกว่า ทั้งหน้าตาดี ทั้งมีเงินไปซื้อของกินอิ่มหนำสำราญ ทว่าบางคนครอบครัวไม่อาจส่งเงินได้มากถึงเพียงนั้น
"แนะนำตัวเลยค่ะ" หญิงวัยย่างเข้าเลขสี่ ผายมือให้เป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าทั้งคู่ต้องแนะนำตัวให้เพื่อนๆในห้องรับรู้
"สวัสดีทุกคนนะ กูชื่อซัน" ความแนะนำตัวเองฉบับนายกวนๆ ไม่มีทีท่าว่าเขาจะกลัวสายตาหลายคู่ที่มองมาทั้งโมโหบ้าง ทั้งอิจฉาบ้าง
"เอ่อ...สวัสดีครับทุกคน ผมชื่อเนย์ อายุ 18 ปีครับ" เนย์พนมมือไหว้นิ้วโป้งแตะปลายคางพลางหันซ้ายขวาไปทางคุณครูทีทางเพื่อนๆในห้องที
ทำอะไรของเขา
ซันเลือกนั่งฝั่งริมหน้าต่าง ส่วนเนย์ได้นั่งที่ว่างข้างเพื่อนคนหนึ่ง
"เอาล่ะต่อจากนี้ก็สนิทกับเพื่อนไว้นะคะทุกคน ครูฝากดูแลเพื่อนสองคนนี้ด้วยนะ"
"ค่ะ/ครับ" พวกเขาต้องกล้ำกลืนฝืนตอบอย่างจำนน ไม่รู้ว่ากี่คนกันแน่ที่พยายามเอาตัวเองมาเปรียบเทียบกับเด็กใหม่สองคนนี้ที่เพิ่งจะเข้ามาได้ไม่ถึงสิบนาทีดี
"ไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามเราได้นะ เราชื่อฌอน ยินดีที่ได้รู้จัก เนย์ใช่ไหม"
"อ๋อ เอ่อ ใช่ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับฌอน" เนย์อึกอักเล็กน้อย เพราะเขาไม่ค่อยมีเพื่อนมาทักทายก่อนเท่าไหร่ และเขาก็ไม่ค่อยสุงสิงกับใครเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
เขาชำเลืองมองซันเพียงปริบเดียว ซันดูท่าจะเข้ากับเพื่อนใหม่ได้ดีกว่าเขาเป็นไหนๆ แม้ว่าสำหรับเขาเองการมีเพื่อนเหมือนเป็นการฆ่าตัวตายวิธีหนึ่ง เขาเลยเลือกที่จะอยู่เงียบๆคนเดียว
"ถามได้ไหมว่าก่อนหน้านี้อยู่โรงเรียนไหนเหรอ"
“ก็…โรงเรียนในเมืองแหละครับ แต่เพราะต้องย้ายตามคุณพ่อมา"
เขาไม่ต้องการที่จะตกเป็นเป้าดังว่า และพยายามเลี่ยงที่จะไม่พูดความจริงทว่าฌอนกลับไม่เอะใจเลยสักนิด
ตั้งแต่เด็กมักจะมีคนบอกว่าเขานั้นโกหกไม่เนียนเลยเอาเสียเลย ทำให้เนย์ยึดหลักความคิดที่ว่าการพยายามพูดความจริงของเขาอาจกลายเป็นคำโกหกสำหรับคนอื่น สำหรับเขาแล้วความไว้เนื้อเชื่อใจไม่มีบนโลก มีแต่คำว่า "เสแสร้ง" เท่านั้นที่ครองความคิดเหล่ามวลมนุษย์
เวลาเวียนผ่านแต่ละนาทีแทบจะพ่นลมร้อนออกมา ไม่ใช่แปลว่าวันนี้อากาศร้อน แต่ทำไมเวลาถึงหมุนช้าขนาดนี้ เนย์พยายามจดทุกพ้อยท์ตามที่ครูสอน เพียงแค่เขาหันไปมองนาฬิกาชั่วขณะกลับกลายเป็นว่าสิ่งที่จดมาสูญเปล่าเสียอย่างนั้น อย่าบอกนะว่า…
เขาจดผิดวิชา
"เอ่อ ฌอนครับ จดเสร็จแล้วขอลอกหน่อยนะครับ" เหมือนเพื่อนที่นั่งข้างเขาจะไม่ได้ยิน จะได้ยินยังไงล่ะก็เล่นใส่แอร์พอตเปิดเพลงดังทะลุซะขนาดนั้น ไม่กลัวครูเห็นเลยหรือไง
เนย์ใช้นิ้วชี้จิ้มแกมสะกิดฌอนเบาๆ
"ว่าไงนะ"
เหมือนจะขอความช่วยเหลือผิดคน "เสร็จแล้วขอลอกหน่อยนะครับ เนื้อหาที่คุณครูสรุปให้ฟังเมื่อกี้อ่ะครับ"
"ลองไปขอจากจิมดู มันน่าจะจดทันอ่ะ" ก็ว่างั้นแหละครับ
...----------------...
...TBC...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments