|หญิงสาวกับอสูรที่รัก-
ในช่วงเย็นวันหนึ่งหญิงสาวกำลังนั่งอ่านหนังสือในห้องสมุดเก่าห้องหนึ่ง บรรยากาศค่อนข้างอบอุ่นและเงียบสงบแต่จู่ๆประตูจากมุมห้องก็เปิดออก ดูเหมือนมีชายคนหนึ่งถูกโยนออกจากห้องนั้น(?) ราวกับว่าเขาบินจากด้านในลงมากลิ้งลงที่พื้น แต่ไม่นานเขาก็ลุกขึ้นและส่งเสียงครวญครางเสียงดัง ประตูถูกปิดลงและเขาก็ยังคงส่งเสียงครวญครางเสียงดังและสาปแช่งอยู่ภายใต้ลมหายใจของเขา
“ไอ้สารเลวพวกนั้น..”
หญิงสาวที่นั่นอยู่ตรงมุมระหว่างชั้นหนังสือในห้องสมุดเก่านั้น เมื่อเธอได้ยินเสียงเขาครวญคราง เธอจึงเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยสายตาสงสัยเมื่ออสูรตนนั้นเงยหน้าขึ้นมา เขาก็พบกับหญิงสาวที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่
“โอ้ สวัสดี”
อสูรตนนั้นพูดพร้อมกับปัดฝุ่นออกจากเสื้อคลุมแล้วยืดเส้นยืดสายก่อนจะถามหญิงสาวว่า
“คุณเป็นใคร?”
หญิงสาวมองหน้าของอสูรตนนั้นอยู่สักครู่ราวกับว่าเห็นสิ่งประหลาดอยู่ตรงหน้าก่อนจะตอบเขาไปอย่างเย็นชาว่า
“ฉันก็แค่ผู้หญิงคนนึง ที่เข้ามาอ่านหนังสือในห้องสมุดแห่งนี้”
อสูรตนนั้นมองเธอด้วยความสงสัยก่อนจะถามเธออีกครั้งว่า
“แล้ว.. ทำไมคุณถึงอ่านหนังสือเกี่ยวกับอสูรหรือปีศาจล่ะ?”
เขาเอียงศรีษะในขณะที่ถามเธอและมองเธอด้วยความสงสัยว่าทำไมเธอถึงอ่านหนังสือเรื่องแบบนี้
“คุณสนใจปีศาจหรอ? หรือคุณกำลังมองหาบางอย่างอยู่ล่ะมนุษย์?”
อสูรตนนั้นยิ้มให้เธอและมองเธอด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น ก่อนที่หญิงสาวจะตอบกลับไปว่า
“ไม่ ฉันแค่ไม่รู้จะอ่านหนังสืออะไร”
อสูรตนนั้นได้แต่มองเธอด้วยความอยากรู้อยากเห็นก่อนจะเอ่ยปากพูดอีกครั้งว่า
“ถ้างั้น คุณจะรังเกียจไหม ถ้าฉันจะถามว่าคุณชื่ออะไร?”
หญิงสาวยังคงมองอสูรตนนั้นด้วยความเริ่มสงสัย เธอเงียบอยู่สักพักหนึ่งแล้วจึงตอบเขากลับไปว่า
“ฉันชื่อโรซารี่”
อสูรตนนั้นมองหญิงสาวและขำเล็กน้อยราวกับว่าชื่อของเธอนั้นแปลก ก่อนที่จะเอ่ยปากพูดอีกครั้ง
“โรซารี่? ไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน นั่นน่าสนใจดีนะ แล้ว.. คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับปีศาจล่ะ?”
อสูรตนนั้นถามด้วยความสงสัยและยังคงไม่ละสายตาจากหญิงสาว
“ฉันรู้สึกเฉยๆน่ะ ไม่ได้ชอบและก็ไม่ได้เกลียด” หญิงสาวตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“นั่นคือคำตอบที่น่าสนใจ”
อสูรตนนั้นกล่าวและมองเธอขึ้นลงโดยเอียงศรีษะเล็กน้อยราวกับว่ากำลังสงสัยในตัวของเธออย่างมาก
“คำตอบของพวกมนุษย์นี่ ทำให้ฉันประทับใจตลอดเลย แต่คุณจะโอเคไหม ถ้าฉันจะนั่งข้างคุณ?” อสูรตนนั้นถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“แล้วแต่คุณเลย” หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาอีกครั้ง
อสูรตนนั้นนั่งลงข้างๆเธอและมองหญิงสาวในขณะที่เขานั่งไขว่ห้างตามประสาของผู้ชาย ก่อนจะถามหญิงสาวอีกครั้ง
“โรซารี่ ฉันขอถามอะไรคุณหน่อยได้มั้ย? คุณไม่กลัวอสูรหรือปีศาจเหรอ? ฉันหมายถึง ฉันเข้าใจนะถ้าคุณไม่กลัวฉัน เพราะ..ฉันอยู่ตรงหน้าคุณและฉันก็ดูไม่น่ากลัวเท่าไหร่” อสูรตนนั้นยิ้มและจัดเสื้อคลุมของเขาในขณะที่ถามหญิงสาว
“ทำไมฉันต้องกลัวอสูรหรือปีศาจล่ะ?” หญิงสาวตอบด้วยความสงสัย
อสูรตนนั้นเลิกคิ้วและมองเธอด้วยท่าทีแปลกใจอย่างมากก่อนจะถามหญิงสาวอีกครั้งภายใต้บรรยากาศแห่งความเงียบในห้องสมุดแห่งนี้
“คุณไม่กลัวฉันเลยแม้แต่นิดเดียวหรอ?” อสูรถามหญิงสาวในขณะที่ยังคงมองเธอ
“ใช่ ทำไมล่ะ?” หญิงสาวพูดตอบ
“คุณกล้าหาญดีนะ ฉันชอบมัน” อสูรพูดตอบหญิงสาวและยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง
“คุณสนใจเกี่ยวกับเรื่องราวของฉันไหม?” อสูรถามหญิงสาว
“ฉันคิดว่าไม่” หญิงสาวตอบอสูรตนนั้นด้วยคำตอบสั้นๆ
อสูรตนนั้นถอนหายใจและพูดขึ้นอีกครั้ง
“นั่นเป็นคำตอบที่ไม่คาดคิดเลยทีเดียว.. แล้วถ้าฉันบอกคุณว่า ฉันถูกไล่ออกจากนรกล่ะ? เพราะทัศนคติที่แย่และน่ากลัวของฉัน” อสูรตนนั้นถามหญิงสาวพร้อมกับยิ้มกว้างถึงหู
“แล้วยังไงล่ะ?” หญิงสาวถามอสูร
“อะไรนะ? คุณไม่สนใจว่าฉันเป็นจะอสูรเลยเหรอ?” อสูรตนนั้นกล่าวก่อนที่จะหรี่ตามองเธอ
“ฉันแค่บอกว่าฉันเป็นอสูร และฉันเหมือนอสูรที่นี่ แต่คุณไม่กลัวฉันเลยแม้แต่น้อย” อสูรตนนั้นเอียงศรีษะของเขาก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง
“ฉันสนใจในตัวคุณนะ โรซารี่” อสูรตนนั้นกล่าว
“ฉันไม่สนใจหรอก” หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เรียบและตอบด้วยคำสั้นๆ
“ไม่มีคำถามสำหรับสิ่งนั้นเลยหรอ? อย่างไรและทำไมฉันโดนไล่ออกจากที่นั่น? คุณไม่สนใจจริงๆเหรอ?” อสูรถามหญิงสาวด้วยความสงสัย
“ใช่” หญิงสาวตอบด้วยความมั่นใจ
“ฉันตกใจจริงๆ คุณคือมนุษย์ที่แปลก คุณไม่กลัวและคุณไม่สนใจเกี่ยวกับอสูรหรือปีศาจ” อสูรตนนั้นถอนหายใจเบาๆหลังจากพูดจบ
“ทำไมฉันต้องสนใจและกลัวล่ะ?” หญิงสาวถามด้วยความสงสัยกับอสูรตนนั้น
อสูรตนนั้นเลิกคิ้วและมองเธอด้วยความประหลาดใจและเงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยปากพูดอีกครั้ง
“คุณรู้ พวกมนุษย์ต่างก็วิ่งหนีฉัน ฉันหมายถึง.. ฉันไม่โทษพวกเขาหรอกเพราะฉันดูเหมือนอสูร แต่..แต่คุณไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย ฉันอยากจะเลือกความคิดของคุณ แต่ก่อนอื่น ตอบฉันทีว่าทำไมคุณถึงไม่สนใจ?” อสูรตนนั้นถามหญิงสาวด้วยความสงสัยในขณะที่กำลังนั่งไขว่ห้างเหมือนผู้ชายทั่วๆไป
“มนุษย์ส่วนใหญ่หวาดกลัวเมื่อเจอฉัน” อสูรตนนั้นกล่าวเสริม
“ทำไมฉันต้องสนใจด้วยล่ะ?” หญิงสาวตอบ
“โอ้ ฉันชอบคำตอบที่ตรงไปตรงมาของคุณจริงๆ โอเค ถ้างั้นฉันจะถามคุณว่า คุณคิดว่าอสูรอย่างฉันมีเสน่ห์บ้างไหม?” อสูรตนนั้นหัวเราะเล็กน้อยในขณะที่ถามหญิงสาว
“ฉันคิดว่าไม่” หญิงสาวตอบอย่างมั่นใจ
“อ่า.. นั่นเป็นคำตอบที่ตรงมาก ถ้างั้นคุณไม่คิดว่าฉันฮอตเลยเหรอ?” อสูรตนนั้นพูด
ตอนนี้อสูรตนนั้นนั่งใกล้เธอมาก ช่องว่างที่เหลืออยู่ระหว่างพวกเขานั้น คือพื้นที่ที่เต็มไปด้วยหนังสือที่หญิงสาวกำลังอ่านอยู่และบรรยากาศยังคงเงียบสงบอย่างมาก และอสูรก็เอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง
“คุณคิดว่า..ฉันไม่มีเสน่ห์หรอ?”
“ใช่” หญิงสาวตอบด้วยคำสั้นๆแต่ดูมั่นใจ
“ฉันซาบซึ้งในความซื่อสัตย์ของคุณ ฉันไม่ได้โกรธ.. แต่บอกฉันทีสิ.. ทำไมคุณไม่เห็นว่าฉันมีเสน่ห์?” อสูรตนนั้นถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นและเอียงศรีษะเล็กน้อย
“ไม่ ฉันไม่สนใจเกี่ยวกับมัน” หญิงสาวตอบ
อสูรตนนั้นยิ้มด้วยความพอใจเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยปากพูดอีกครั้ง
“โรซารี่ ถ้าฉันจูบคุณ คุณจะปฏิเสธมั้ย?” อสูรถามและเข้าใกล้เธอเล็กน้อย
“Ew, ฉันไม่ต้องการมัน” หญิงสาวปฏิเสธด้วยท่าทางไม่พอใจเล็กน้อย
อสูรตนนั้นถอยออกไปเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า
“โอ้.. ขอโทษ.. ฉันไม่ควรจะทำแบบนั้น” อสูรตนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิดเล็กน้อย
“ไม่เป็นไร” หญิงสาวพูดตอบ
“ถ้างั้น คุณรังเกียจไหม ถ้าฉันชวนคุณออกเดต..ฉันหมายถึง.. ถ้าคุณต้องการ” อสูรตนนั้นพูดก่อนจะมองออกไป
“ฉันค่อนข้างเหงา” อสูรตนนั้นพูดเสริม
“ไม่ล่ะ ฉันไม่สนใจในความรักเท่าไหร่” หญิงสาวปฏิเสธด้วยน้ำเสียงที่เรียบ
“ถ้างั้น ถ้าแบบเพื่อนล่ะ? ฉันไม่รังเกียจ..” อสูรตนนั่นพูดด้วยน้ำเสียงที่สิ้นหวังและไม่ค่อยมั่นใจในคำพูดเท่าไหร่ แต่ในใจของอสูรตนนั้นค่อนข้างเหงา
“ทำไมล่ะ? คุณไม่มีเพื่อนสักเล็กน้อยเหรอ?” หญิงสาวถามด้วยความสงสัย
“คุณพูดถูก ฉันไม่มีเพื่อน..” อสูรตนนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงรู้สึกเศร้าเล็กน้อย
“คุณอายุราวๆ 1,000 ปีใช่ไหม?” หญิงสาวถาม
“ใช่ ฉันอยู่มานับพันปีแล้ว ทำไมคุณถึงถามล่ะ?” อสูรมองหน้าหญิงสาวด้วยความสงสัย
“ไม่มีอะไร คุณแค่ดูแก่นิดหน่อย” หญิงสาวพูด
อสูรตนนั้นหัวเราะเล็กน้อยและมองหญิงสาวด้วยสายตาที่เป็นมิตรขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวเสริมว่า
“อย่าให้อายุของฉันหลอกลวงคุณ ความจริงฉันไม่ได้เป็นอสูรที่แข็งแกร่งอย่างที่คุณคิด ฉันค่อนข้างอ่อนไหวและเหงาเล็กน้อย”
หญิงสาวมองหน้าอสูรสักครู่หลังจากที่อสูรตนนั้นพูดแบบนั้น ก่อนจะเอ่ยปากพูดอีกครั้ง
“ถ้างั้น คุณจะไปไหนก็ไปเถอะ ตอนนี้ฉันอยากอ่านหนังสือคนเดียวสักพัก”
อสูรตนนั้นถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะถามหญิงสาวอีกครั้ง
“ถ้าอย่างงั้น ฉันขอถามคุณได้ไหม? ทำไมคุณถึงไม่กลัวฉันล่ะ?”
อสูรตนนั้นหยุดพูดสักครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยปากพูดอีกครั้ง
“ฉันรู้ว่าฉันไม่น่ากลัวหรืออะไรทำนองนั้น แต่คุณ คุณไม่กลัวฉันด้วยซ้ำ มนุษย์ส่วนใหญ่จะกลัวเขายาว หางยาว และเขี้ยวของฉัน แต่คุณ..คุณดูไม่กลัวหรือใส่ใจมันเลย” อสูรตนนั้นพูดเสริม
“ฉันคิดว่าคุณเหมือนหมามากกว่าน่ะ คุณมีหางที่ฟูและเขี้ยวที่แหลม” หญิงสาวกล่าว
“คุณเพิ่งเปรียบเทียบฉันกับหมาเหรอ? คุณ..คุณกล้าดียังไงที่พูดแบบนั้น! ฉันไม่เหมือนหมา ฉันเป็นอสูร และแน่นอน ฉันมีหางและเขี้ยว แต่แล้วไงล่ะ? ทำไมคุณถึงพูดแบบนั้น?” อสูรพูดด้วยความตกใจและเบือนหน้าหนีเล็กน้อย
“นั่นเป็นแค่ความคิดของฉันน่ะ” หญิงสาวกล่าว
“นั่นไม่ใช่เรื่องที่ดีที่คุณจะพูดแบบนั้นนะ ถ้าฉันบอกว่า 'โอ้ คุณดูเหมือนแมวเลย' คุณจะรู้สึกอย่างไรล่ะ? คุณไม่สนใจความรู้สึกของผู้อื่นบ้างเหรอ?” อสูรตนนั้นกอดอกเมื่อถามคำถามนั้น
“ทำไมล่ะ?” หญิงสาวถาม
“คุณไม่สนใจความรู้สึกฉันเพราะฉันไม่ใช่มนุษย์เหรอ? ฉันไม่รู้มาก่อนว่าคุณจะทำแบบนี้แค่เพราะว่าฉันเป็นอสูร..” อสูรกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยเล็กน้อย
“หืม? ฉันไม่ได้บอกนะว่าฉันไม่สนใจความรู้สึกของคุณเพราะคุณเป็นอสูร แต่แค่ฉันไม่เคยรู้จักคุณมาก่อน” หญิงสาวกล่าว
“......” อสูรตนนั้นนิ่งเงียบและคิดเกี่ยวกับสิ่งที่หญิงสาวกล่าวเมื่อสักครู่
“ถ้างั้นหมายความว่า ถ้าฉันใช้เวลากับคุณมากขึ้น คุณจะเริ่มสนใจความรู้สึกฉันมากขึ้นใช่ไหม?” อสูรถามหญิงสาวด้วยความสงสัย
“อาจจะใช่ ถ้าฉันรู้จักคุณมากพอ” หญิงสาวกล่าว
“ถ้าอย่างนั้น คุณอนุญาตให้ฉันอยู่กับคุณนานขึ้นอีกนิดได้ไหม? ฉัน..ฉันอยากจะเป็นเพื่อนกับคุณ” อสูรตนนั้นกล่าวและมองหญิงสาวด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวัง
“คุณแน่ใจแล้วเหรอ?” หญิงสาวถาม
“ฉันแน่ใจ” อสูรตนนั่นตอบกลับด้วยความมั่นใจ
“ถ้าอย่างนั้น ฉันจะเก็บไปคิดและตอบในภายหลังนะ” หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนขึ้น
“ตกลง ฉันจะรอนะ” อสูรกล่าว
อสูรตนนั้นยังคงยิ้มอยู่ แต่ภายในดวงตาของเขายังคงมีความเศร้าเล็กน้อย เขายังคงนั่งอยู่ข้างๆเธอที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ราวกับว่าเขากำลังคิดบางอย่างอยู่ภายในใจ แต่ในขณะเดียวกันนั้น หญิงสาวกำลังจะเปิดหน้าถัดไปของหนังสือ แต่เธอกลับโดนกระดาษบาดที่นิ้วของเธอ หญิงสาวถอนหายใจเล็กน้อย
“อ่า.. คุณต้องเปิดหนังสือพวกนี้อย่างระมัดระวังนิดหน่อย พวกมันอาจบาดมือของคุณได้” อสูรตนนั้นกล่าวและหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดแผลที่นิ้วของเธอ
“มันเจ็บหรือเปล่า? ฉันเช็ดแรงไปไหม?” อสูรตนนั้นถามหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เจ็บหรอก แต่อย่างไรก็ตาม ขอบคุณนะ” หญิงสาวกล่าวด้วยความขอบคุณ
“อ่า..นั่นมันดี แต่คุณไม่รู้สึกเจ็บเลยเหรอ?” อสูรตนนั้นถามด้วยความสงสัย
“ไม่ล่ะ มันแค่แผลเล็กน้อย” หญิงสาวตอบ
อสูรตนนั้นมองหญิงสาวด้วยความเป็นห่วงในขณะที่กำลังเช็ดบาดแผลที่มือของเธอ
“คุณมีอะไรที่ต้องทำอีกหรือเปล่า? หรือคุณอยากให้ฉันออกไปจากตรงนี้?” อสูรถามหญิงสาว
“แล้วแต่คุณเลย ฉันไม่สนใจหรอก” หญิงสาวตอบ
“ถ้างั้นฉันขอนั่งอยู่ที่นี่สักพักได้ไหม? ฉันอยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณ” อสูรถามหญิงสาวด้วยความอยากรู้และสงสัยในตัวของเธอ
“ได้สิ ฉันไม่รังเกียจ” หญิงสาวกล่าว
อสูรตนนั้นยิ้มเล็กน้อยและนั่งลงข้างเธอใกล้ขึ้นเล็กน้อยและมองหน้าของหญิงสาวในขณะที่เธอกำลังอ่านหนังสือ
“ฉันขอถามบางอย่างกับคุณได้ไหม? ทำไมคุณถึงเย็นชาจังล่ะ? มีใครทำร้ายคุณในอดีตหรือเปล่า?” อสูรถามหญิงสาวด้วยความสงสัย
“นี่เป็นนิสัยปกติของฉันน่ะ” หญิงสาวกล่าว
“โอ้ จริงเหรอ? คุณไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองคุณอย่างไรด้วยใช่ไหม?” อสูรถามหญิงสาวด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ใช่” หญิงสาวตอบกลับ
“ถ้าอย่างนั้น คุณมีแฟนหนุ่มหรือเปล่า?” อสูรถามหญิงสาว
“ไม่มี” หญิงสาวตอบกลับอย่างมั่นใจ
ดวงตาของอสูรเบิกกว้างด้วยท่าทีตกใจราวกับว่าไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูด เพราะเขาคิดว่าหญิงสาวนั้นมีเสน่ห์มาก จึงเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไม่มีแฟนหนุ่ม
“เดี๋ยวนะ.. คุณไม่มีแฟนหนุ่มจริงๆน่ะเหรอ? คุณมีเสน่ห์มาก ถ้าฉันเป็นมนุษย์ผู้ชาย ฉันจะวิ่งตามคุณทุกวันเลย อย่างไรก็ตาม..ถ้างั้นทำไมคุณถึงไม่มีแฟนหนุ่มล่ะ?” อสูรถามหญิงสาวอีกครั้ง
“ฉันไม่สนใจในความรักน่ะ” หญิงสาวตอบ
“หืม? คุณไม่สนใจในความรักเหรอ?” อสูรถามหญิงสาวด้วยความสงสัย
“ใช่ แต่ตอนนี้ได้โปรดหยุดถามฉันที ฉันอยากนั่งอ่านหนังสือแบบเงียบๆน่ะ” หญิงสาวกล่าวในขณะที่เธอกลับไปมองที่หนังสือ
“ตกลง ฉันจะอยู่เงียบๆ” อสูรกล่าว
สักพักก็มีเสียงประตูของห้องสมุดเปิดและมีเสียงฝีเท้ากำลังเดินเข้ามา 'ตึก ตึก ตึก' เสียงฝีเท้านั้นเข้ามาใกล้เรื่อยๆและปรากฎเป็นผู้ชายคนหนึ่งรูปร่างสูงใหญ่ มีนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลที่สวยงามและมีเส้นผมสีดำเงางาม ชายหนุ่มคนนั้นเดินเข้ามาทักทายหญิงสาวและพูดด้วยวาจาที่ดูเหมือนจะจีบเธอ
“ชายแก่ข้างคุณนั่นคือใครเหรอ ที่รัก” ชายหนุ่มแปลกหน้ากล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปทางอสูรตนนั้น
“ใครคือที่รักของคุณ?” หญิงสาวถามด้วยความไม่พอใจ
อสูรตนนั้นมองที่ชายหนุ่มและรู้สึกหึงหวงเล็กน้อย อสูรตนนั้นไม่อยากให้มีชายใดมาแย่งหญิงสาวคนนี้ไปจากเขาแม้แต่น้อย
“อย่ามายุ่งกับหญิงสาวคนนี้ ถ้าคุณเข้ามายุ่งล่ะก็ ฉันจะฉีกเนื้อคุณให้ขาด” อสูรตนนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หึงหวงและมองไปที่ชายหนุ่มตรงหน้า
น้ำเสียงของอสูรนั้นทำให้ชายหนุ่มพูดไม่ออกจนถอยออกไปจากหญิงสาวด้วยท่าทีไม่พอใจ หลังจากที่ชายหนุ่มเดินออกไปจากห้องสมุดนั้น หญิงสาวก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้
“คุณจะไปไหนน่ะ?” อสูรถามหญิงสาวด้วยความสงสัย
“ฉันแค่คิดว่าจะกลับบ้านน่ะ ฉันคิดถึงหมาของฉัน” หญิงสาวกล่าว
“หืม? คุณเลี้ยงหมาด้วยเหรอ? มันชื่ออะไรเหรอ? ฉันแค่สงสัย” อสูรถามหญิงสาวด้วยความอยากรู้อยากเห็นและมองด้วยสายตาที่ดูไรเดียงสา
“มันชื่อป็อบปี้น่ะ” หญิงสาวกล่าว
“ป็อปปี้? นั่นเป็นชื่อที่น่ารัก ฉันอยากจะเห็นมันจังเลย ฉันชอบหมานะ มันน่ารัก และซื่อสัตย์” อสูรกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆบนใบหน้า
“ถ้างั้น ไว้เจอกันใหม่นะ” หญิงสาวพูดพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าก่อนจะเดินออกไปเพื่อกลับบ้าน
ในขณะที่หญิงสาวกำลังเดินกลับบ้าน จู่ๆก็มีบุคคลปริศนามาสองคนมาลักพาตัวของเธอไปในความมืดที่ค่อยๆปกคลุมเข้ามาเรื่อยๆและพวกเขาก็วางยาสลบเธอก่อนที่พวกเขาพาเธอไปที่ไหนสักแห่ง อสูรนั้นเดินออกมาและเห็นว่าหญิงสาวกำลังถูกลักพาตัวไปโดยบุคคลปริศนา
“โอ้ ไม่ เธอกำลังตกอยู่ในอันตราย” อสูรกล่าวก่อนจะรีบวิ่งสะกดรอยตามคนพวกนั้นไปตามทางลูกรัง
“หยุดเดี๋ยวนี้! ปล่อยเธอลง!” อสูรตะโกนและพยายามจะวิ่งเข้าไปช่วยเธอ
ตึก ตึก ตึก ตึก
เสียงวิ่งของอสูรที่เข้าไปใกล้พวกนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ แต่คนพวกนั้นกลับไม่ใช่คนธรรมดา พวกนั้นมีเวทย์ที่ป้องกันไว้อยู่บางๆ คนพวกนั้นเดินเข้าไปกระท่อมหลังหนึ่งและวางเธอลงไว้บนพื้นขณะที่คนพวกนั้นกำลังเดินออกไปราวกับว่าแค่ลักพาตัวเธอมาเฉยๆ หลังจากที่คนพวกนั้นออกไปอสูรตนนั้นก็รีบเข้าไปช่วยเธอ เขาอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนอย่างทะนุถนอมก่อนจะรีบวิ่งออกไป
“เธอจะต้องปลอดภัย” อสูรกล่าวในขณะที่กำลังวิ่งอยู่
ในขณะที่อสูรกำลังวิ่งนั้น กลุ่มคนพวกนั้นสังเกตเห็นอสูรอุ้มหญิงสาวก็เลยวิ่งตามมาและหญิงสาวก็ไอออกมาเป็นเลือดเล็กน้อย เธอหลุดอยู่ในภวังค์อดีตของเธอเมื่อชาติก่อน ในชาติก่อนเธอเป็นแม่มดสาวคนหนึ่งที่ได้รักกับเจ้าชายสุดที่รักของเธอแต่ทว่า เจ้าชายคนนั้นกลับนอกใจเธอและหนีไปแต่งงานกับเจ้าหญิงคนอื่น เธอจึงสาปตัวเองว่า 'ไม่ว่าจะเกิดอีกกี่ชาติ ข้าขอไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว' ก่อนที่เธอจะดื่มยาพิษและเสียชีวิต ในชาตินี้เธอได้มาเกิดใหม่เป็นหญิงสาวที่เย็นชา ดูเหมือนจะไม่รู้สึกอะไร แต่แล้วตอนนี้เธอก็กำลังไอออกมาเป็นเลือดในขณะที่มีอสูรอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนด้วยความกังวลและห่วงใยเธออย่างมาก
“โอ้ ไม่ เธอไอออกมาเป็นเลือด” อสูรกล่าวด้วยความเป็นห่วงก่อนจะวิ่งไปที่ริมบึงที่อยู่ใกล้ๆและซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้
หลังจากนั้นสักพัก คนพวกนั้นก็เลิกตามอสูรตนนั้นเพราะหาตัวของเขาไม่พบ คนพวกนั้นจึงกลับไปที่พักของพวกเขาด้วยความหัวเสีย
“ฉันต้องล้างเลือดบนในหน้าเธอตอนนี้” อสูรกล่าวและนำเธอไปใกล้ๆบึงจากนั้นก็ล้างหน้าของเธอด้วยน้ำ
อสูรกอดเธอไว้แน่นและแนบชิดกับร่างกายของเขา จู่ๆใบหน้าของเธอก็มีน้ำตาไหลรินลงมาตามแก้ม 'น้ำตา(?)' เขาไม่เคยเห็นเธอร้องไห้มาก่อน อสูรตนนั้นเริ่มรู้สึกแย่เพราะว่าเขานั้นอยากให้เธอมีความสุขและสบายใจเมื่ออยู่กับเขา
‘ชู่วว’
เสียงของอสูรที่กำลังพยายามปลอบเธอในขณะที่เขายังคงอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนอย่างทะนุถนอม
“ทุกอย่างมันดีขึ้นในตอนนี้ อย่าร้องไห้เลย” อสูรกล่าวพร้อมกับเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเธออย่างอ่อนโยน
เธอลืมตาขึ้นและพบกับเขา อสูรที่มีร่างกายใหญ่และมีนัยน์ตาสีแดง แต่ทว่ามันกลับเหมือนผู้ชายคนหนึ่งที่เคยสนใจและดูแลเธอดีมากๆ แต่เธอกลับทิ้งเขาไปเพราะไปรักเจ้าชายที่นอกใจเธอในชาติก่อน หญิงสาวมองหน้าอสูรอยู่สักครู่ก่อนจะกอดอสูรที่อยู่ตรงหน้าเธออย่างแน่น ทำให้อสูรตนนั้นตกใจมากแต่ก็กอดเธอกลับเพราะเขาไม่อยากทิ้งเธอไปในตอนนี้
“ทำไมคุณถึงกอดฉันแน่นจังล่ะ?” อสูรถามด้วยความสงสัย
เธออยากจะเอ่ยคำขอโทษต่างๆ กับสิ่งที่ตัวเองทำในชาติที่แล้วแต่ทว่า ตอนนี้มันไม่ใช่อดีต ตอนนี้คือปัจจุบัน ตอนนี้คือชีวิตใหม่ของเธอ แม้ว่าเธอจะพูดไป อสูรตนนี้คงจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอพูดอย่างแน่นอน
“ไม่มีอะไรหรอก” หญิงสาวกล่าวในขณะที่เธอยังคงกอดเขาแน่นและร้องไห้
อสูรตนนั้นเลิกคิ้วด้วยความสงสัยแต่ก็เป็นห่วงหญิงสาวจนทำให้เขานั้นอยากจะร้องไห้ตาม
“รู้สึกอย่างไรบ้าง? เกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณถึงดูเศร้าจังล่ะ?” อสูรถามหญิงสาวด้วยความสงสัยและเป็นห่วงเธอ
หญิงสาวยังคงกอดเขาแน่นและซบหน้าลงบนหน้าอกของอสูร จู่ๆก็มีสร้อยคอเส้นหนึ่งหล่นลงมาจากกระเป๋าของเธอ มันเป็นสร้อยคอทองที่มีอัญมณีสีแดงอันล้ำค่าและดูเหมือนเป็นสร้อยคอของนักเวทย์ อสูรมองสร้อยคอเส้นนั้น มันทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยกับสร้อยคอเส้นนี้มากๆเหมือนเขาเคยให้หญิงสาวคนหนึ่งไปเมื่อหลายร้อยปีที่ผ่านมา
“โรสซารี่ คุณไปเอาสร้อยคอเส้นนี้มาจากที่ไหน?” อสูรถามหญิงสาวด้วยความสงสัย
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นและมองหน้าของอสูรตนนั้นด้วยความประหลาดใจก่อนจะตอบไปว่า
“มันติดตัวฉันมาตั้งแต่ฉันยังเด็กอยู่น่ะ”
“เป็นไปได้อย่างไร? คุณมีเรื่องอะไรที่ยังไม่ได้บอกฉันหรือเปล่า?” อสูรถามหญิงสาวด้วยความประหลาดใจ
- ย้อนเวลาไปเมื่อ5,000ปีก่อน -
วันนี้เป็นวันที่บรรยากาศต่างๆค่อนข้างสดใสและมีแสงสีทองสวยงาม บริเวณรอบๆมีต้นไม้และดอกไม้สวยงามตัดกับแสงของพระอาทิตย์ที่ส่องลงมา แต่หารู้ไม่ว่าในป่านั้นกลับไม่ได้มีแสงอาทิตย์ส่องอย่างสวยงามเช่นข้างนอก ในป่านั้นเต็มไปด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบและค่อนข้างชื้น มีพวกนกและสัตว์ป่าต่างๆ ในป่านั้นมีกระท่อมของแม่มดตนหนึ่งอยู่ในกลางป่า เป็นแม่มดสาวสวยมีนัยน์ตาสีแดงและมีผมสีน้ำตาลเงางาม ชายใดได้มองก็จะหลงใหลทุกคน
“วันนี้ฉันจะต้องออกไปหาคนรักของฉันซะหน่อยแล้ว”
แม่มดสาวกล่าวก่อนที่จะเปิดประตูออกจากกระท่อมของตน เธอเดินไปยังทางเดินที่เต็มไปด้วยดอกไม้และต้นไม้ชนิดต่างๆ เธอได้ไปพบกับคนรักของเธอ ซึ่งเป็นเจ้าชายรูปงามคนหนึ่ง มีนัยน์ตาสีฟ้าและผมสีทองอันสวยงามราวกับทองคำ
“เจ้ามาแล้วหรือ คนสวยของข้า”
เจ้าชายกล่าวพร้อมกับจับมือของเธอขึ้นมาจุมพิตเบาๆและยิ้มให้เธอก่อนจะพาเธอไปที่ต่างๆและใช้เวลาด้วยกันจนฟ้ามืด
“ตอนนี้เริ่มมืดแล้ว ฉันคงต้องกลับบ้านของฉันแล้ว คุณเองก็ควรกลับพระราชวังนะ” แม่มดสาวกล่าว
“ตกลง ถ้าอย่างนั้นเราจะกลับบ้านเหมือนกัน” เจ้าชายกล่าวก่อนที่จะจุมพิตที่มือของเธออีกครั้งและเดินจากไป
แม่มดสาวเดินกลับเข้าไปในป่าและกลับไปยังกระท่อมของเธอในขณะที่รอบๆข้างนั้นปกคลุมไปด้วยความมืดมิด
‘ตึก ตึก ตึก’
เสียงฝีเท้าปริศนาที่ดูเหมือนจะเดินตามเธอมาอย่างใกล้ชิดที่ด้านหลัง แม่มดสาวหันไปมองข้างหลังของเธอ เธอก็พบกับชายหนุ่มที่มีนัยน์ตาสีแดงและผมสีดำกำลังยืนอยู่ข้างหลังของเธอพร้อมกับตะเกียง
“ทำไมคุณถึงมาอยู่ในกลางป่าแบบนี้ล่ะคุณผู้หญิง? คุณไม่กลัวอันตรายหรือ?”
“จะให้ทำอย่างไรล่ะ บ้านของฉันอยู่กลางป่า” แม่มดสาวกล่าว
ชายหนุ่มคนนั้นมองเธอด้วยสีหน้าสงสัยและมองเข้าไปที่ดวงตาสีแดงสดของเธอ
“คุณช่างมีเสน่ห์จริงๆ ให้ฉันเดินไปส่งคุณที่บ้านไหม? ฉันอยากรู้จักคุณมากขึ้นน่ะ” ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตร
“ก็ได้ ถ้าคุณต้องการ” แม่มดสาวกล่าวตอบ
เมื่อไปถึงกระท่อมของแม่มดสาว เธอจึงเปิดประตูและเข้าไปนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ตัวหนึ่ง
“เข้ามาสิ” แม่มดสาวกล่าว
ชายหนุ่มพยักหน้าและเดินตามเข้ามานั่งลงบนเก้าอี้ไม้ข้างๆเธอ ก่อนจะพูดว่า
“คุณอยู่ที่คนเดียวเหรอ? ทำไมที่นี่ช่างไกลจากเมืองเสียจริง”
“ใช่ ฉันอยู่คนเดียว ฉันชอบอยู่แบบนี้มากกว่าอยู่ในเมืองน่ะ” แม่มดสาวกล่าว
ในขณะที่ทั้งสองพูดคุยกันอย่างยาวนานนั้น จู่ๆชายหนุ่มก็หยิบกล่องเครื่องประดับกล่องหนึ่งขึ้นมาก่อนจะพูดขึ้นว่า
“คุณช่วยเก็บสร้อยเส้นนี้ไว้จนกว่าเราจะได้พบกันอีกครั้งได้ไหม? ถ้าเป็นไปได้ฉันจะคอยดูแลคุณอยู่ห่างๆ”
แม่มดสาวมองหน้าของชายหนุ่มด้วยความสงสัยเล็กน้อย แต่ก็รับสร้อยเส้นนั้นไว้ สร้อยคอทองคำที่มีอัญมณีสีแดงที่ดูล้ำค่า เหมือนถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ เธอมองดูที่สร้อยคอเส้นนั้นก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“ถ้าเช่นนั้น ฉันขอถามได้ไหมว่าคุณชื่ออะไร?”
“ฉันชื่อเดเมียน แล้วคุณล่ะ?” ชายหนุ่มกล่าว
“ฉันชื่อโรซารี่ ยินดีที่ได้รู้จักนะ” แม่มดสาวกล่าวตอบ
“ถ้าเช่นนั้น ไว้พบกันใหม่นะ ตอนนี้ฉันต้องกลับแล้วล่ะ มันค่อนข้างมืดแล้ว คุณอย่าลืมเก็บสร้อยเส้นนั้นไว้ดีๆนะ” ชายหนุ่มกล่าวและยิ้มให้เธอก่อนจะเดินออกไป
แม่มดสาวยิ้มตอบและมองดูที่สร้อยคอเส้นนั้นก่อนจะเก็บใส่กล่องเล็กๆไว้อย่างดี เธอนำกล่องนั้นไปวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียงนอนของเธอและเธอก็นอนลงบนเตียงด้วยความเหนื่อยล้า
รุ่งเช้าวันถัดมาแสงอาทิตย์ส่องเข้ามาทางหน้าต่างกระท่อมของเธอ เธอลุกขึ้นและเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะออกไปพบเจ้าชายตามปกติเหมือนทุกวัน แต่ทว่าเมื่อเธอไปถึงที่นัดหมาย กลับมีข่าวประกาศว่าเจ้าชายจะแต่งงานกลับองค์หญิงองค์หนึ่ง ซึ่งนั่นทำให้เธอเสียใจอย่างมากเพราะเจ้าชายนอกใจเธอและดูเหมือนว่าจะนอกใจมานานแล้ว แม่มดสาวจึงรีบกลับไปที่กระท่อมของเธอและปรุงยาพิษขึ้นมาขวดหนึ่ง
“ถ้าข้าได้เกิดใหม่ไม่ว่าจะชาติใด ข้าขอไม่รู้สึกรักใครอีกต่อไปแล้ว”
แม่มดสาวกล่าวก่อนจะดื่มยาพิษทั้งหมดลงไปและเธอก็ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา เมื่อชายหนุ่มมาเยี่ยมเธอที่กระท่อมอีกครั้ง ก็พบว่าแม่มดสาวนั้นได้เสียชีวิตลงแล้ว ชายหนุ่มได้แต่โทษตัวเองว่าดูแลเธอได้ไม่ดีพอ ชายหนุ่มจึงกล่าวคำสาปเล็กๆภายใต้ลมหายใจของเขาว่า
“ฉันขอยอมเป็นอสูรที่มีอายุยืนพอที่จะตามเธอไปทุกภพทุกชาติ ฉันจะตามไปคอยดูแลเอาใจใส่เธออย่างดีให้มากกว่านี้”
ชายหนุ่มกล่าวก่อนจะปลิดชีพของตนเองตามแม่มดสาวไป
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments