หนุ่มรูปงามผู้เร่ร่อน
บทนำ: นานมาแล้วนะทวีปๆทวีปหนึ่งได้เกิดสงครามขึ้นระหว่างราชวงศ์เทียนเฟิงและราชวงศ์เฟิงเหยียนขึ้นในช่วงนั้นได้มีการสู้รบกันไม่จบ
ไม่สิ้นและไม่รู้ผลแพ้ชนะของทั้งสองราชวงศ์เลยในขณะนั้นได้มีชายหนุ่มรูปงามผู้หนึ่งได้ฝ่าวงล้อมของกองทัพของทั้งสองราชวงศ์เข้าไปเพื่อพบกับ
ผู้ที่ก่อให้เกิดสงครามขึ้นและหลังจากนั้นไม่นานได้มีการยุติสงครามระหว่างสองราชวงศ์ลงแบบไม่มีใครรู้สาเหตุและทั้งสองราชวงศ์ได้จับมือกันร่วมเป็นพันธมิตร
และช่วยกันบ้านเมืองของทั้งสองพระองค์ตอนแรกข่าวลือพวกนี้จะลือกันอยู่ในค่ายทหารกันจนหนาและได้เผยแพร่ออกมายังภายนอกว่าระหว่างสงครามนั้นได้มี
ชายหนุ่มรูปงามผู้หนึ่งสวมหน้ากากปิดใบหน้าฝ่าวงล้อมเข้าไปและคนผู้นั้นแค่ดูก้รู้แล้วว่าต้องเก่งทั้งด้านศิละปะมากมายทั้งวิทยายุทธของเขานั้นเก่งทั้งบุ๋นและบู้
และหลังจากที่เขาได้ฝ่าวงล้อมเข้าไปและได้ไปพบกับผู้ริเริ่มสงครามทั้งสองไม่นานเขาก้เดินออกมาและหายตัวไปต่อหน้าต่อตาผู้คนตั้งมากมายในตอนนั้น
(สามปีต่อมาหลังจากยุติสงครามของราชวงศ์ทั้งสอง)
ชาวบ้านในร้านน้ำ:เอ๋ะนี้เจ้าเคยได้ยินข้าวลือของชายหนุ่มรูปงามที่ใส่หน้ากากแล้วฝ่าวงล้อมเข้าไปยุติสงครามนั้นได้หรือไม่
ชาวบ้านในร้านน้ำ: เคยได้ยินสิข่าวนี้โด่งดังออกจะตายไป
ชาวบ้านในร้านน้ำ:ข้ามีอีกข่าวลือหนึ่งเจ้าอยากฟังหรือป้าวล้า
ชาวบ้านในร้านน้ำ: เรื่องอะไรเล่าเจ้าเล่ามาสิ
ชาวบ้านในร้านน้ำ:ข่าวลือนี้ข้ายินมาจากคนในค่ายทหารเขาคุยกันล้ะเขาว่ากันว่าชายหนุ่มรูปงามที่ใส่หน้ากากนั้นเป็นองค์ชายใหญ่ล้ะ
ชาวบ้านในร้านน้ำ: เอะทำไมถึงเป็นองค์ชายใหญ่ผู้นั้นเล่า
ชาวบ้านในร้านน้ำ:เขาว่าชายหนุ่มผู้นั้นมีรูปร่างสัดส่วนโครงหน้าคล้ายกันมากแต่องค์ชายใหญ่คนนั้นถูกลอบสังหารระหว่างเดินทางไปหาคู่มั้นที่เป็นองค์หญิงใหญ่ของราชวงศ์
เฟิงเหยียนไปที่เกิดเหตุก้ไม่พบศพเจอแต่ศพของคนที่บังคับเกวียนและผู้ติดตามขององค์ชายใหญ่และพอเข้าลองค้นหาเข้าไปในป่าลึกๆเข้าไปก้พบศพของมือสังหารนอนเกรียนกรานสภาพ
ศพดูไม่ได้แต่กลับไม่พบร่องรอยขององค์ชายเลยเป็นหรือตายไม่มีใครรู้
ชาวบ้านในร้านน้ำ: เฮ้อพูดไปเราก้ไม่รู้อยู่ได้ว่าใช่ไม่ใช่
ชาวบ้านในร้านน้ำ: มั้นก้ใช่เหมือนที่เจ้าพูด
ชาวบ้านในร้านน้ำ:ตั้งแต่ที่ทั้งยุติสงครามของทั้งสองราชวงศ์มาบ้านเมืองก้สงบสุขน่าอยู่รุ่งเรืองมากขึ้นเยอะเลยแต่ก้ยังมีบางพื้นที่ที่เป็นที่มั่วสุมของพวกอันธพาล
ล้ะน้ะแถมแถวนั้นก้ไม่ค่อยมีเข้าใกล้ด้วย
ชาวบ้านในร้านน้ำ:ขนาดบ้านเมืองสงบสุขแล้วยังมีพวกนี้เหลืออยู่อีก
หนุ่มรูปงามผู้เร่ร่อน(เทียนหยาง):(เดินไปฮำเพลงไปด้วย) เฮ้อตั้งแต่ที่ทั้งสองราชวงศ์ยุติสงครามลงบรรยากาศรอบก้รู้สึกว่ามันหายใจสดวกขึ้นเยอะกว่าตอนที่กำลังมีสงครามกันอยู่
กว่าเราจะฝ่าวงล้อมเข้าไปแล้วไปนั่งเจรจาได้เนื่อก้ไม่ง่ายเหมือนกันน้ะเนื่อแต่ก้ถือว่าเป็นความโชคดีของเราเองที่เหตุการณ์การลอบสังหารตอนนั้นเรารอดมาเพราะท่านอาจารย์ผ่าน
มาพอดีและได้ช่วยเราเอาไว้และท่านอาจารย์ยังรับเราเป็นศิษย์และสอนความรู้เกี่ยวกับยุทธภพนี้และการเอาตัวรอดและท่านอาจารย์ยังสอนศิละปะการต่อสู้ทั้งที่ท่านรู้ให้แก่เราด้วย
และท่านก้ช่วยสอนเราจนเราผ่านช่วงยากลำบากนั้นมาได้จนตอนนี้เราฝึกมาถึงขั้นที่เทียบเท่ากับท่านอาจารย์ได้แล้ว แต่ท่านกลับจากไปแบบไม่บอกกล่าวและท่านได้ทิ้งจดหมายไว้หนึ่งฉบับ
ว่า (หยางเอ๋อตอนนี้เจ้ามีความรู้และพะละกำลังมากพอแล้วจงไปจัดการปัญหาที่ค้างคาใจเจ้าอยู่ตอนนี้เถอะเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงข้าหลังจากนี้ข้าจะออกเดินทางต่อเพราะการที่ข้าได้พบกับเจ้า
ระหว่างที่ข้าเดินทางและได้ช่วยเจ้าไว้นั้นทำให้ข้ามีความสุขอย่างมากแถมยังได้รับศิษย์อย่างเจ้าและได้ถ่ายทอดความรู้ทั้งหมดของข้าให้เจ้านั้นข้าไม่เคยเสียใจเลยจากนี้ต่อไปเจ้าจงเดินไปในทาง
ข้างหน้าของเจ้าอย่างพากภูมช้ะเถ้อ) เรารู้อยู่แล้วว่าไม่นานก้ต้องมีสงครามเกิดขึ้นและเพราะเหตุนั้นเราถึงต้องไปหมั้นกับองค์หญิงใหญ่ของราชวงศ์เฟิงเหยียน เฮ้อ
ช่วยด้วย ช่วยข้าด้วย
ฮ่าฮ่าฮ่าน้องสาวไปกับพวกเราดีกว่าเดียวพวกเราไปเบล่นอะไรสนุกๆ ฮ่าฮ่า
หนุ่มรูปงามผู้เร่ร่อน(เทียนหยาง):
เฮ้อถึงสงครามจะยุติลงแล้วก้ยังเหลือพวกอันธพาลอย่างนี้อยู่เกรียนสิน้าจะช่วยดีมั้ยน้าแต่รูปร่างหน้าตางดงามขนาดนี้คงจะเป็นลูกคนใหญ่คนโตล้ะมั้งอย่างี้
พ่อแม่คงเสียใจเอามากที่ลูกสาวตัวเองต้องตายไปเพราะอันธพาลพวกนี้ เฮ้อ เอาเถอะช่วยไปก้ไม่ได้เสียหายอะไร เห้ยพวกแกน้ะรุมผู้บอบบางไม่มีทางสู้แบบนี้ไม่สนกฎหมาบ้านเมืองบ้างหรือไง เอ้อ
ข้าลืมไปเลยแถวนี้มันเขตชนบทนี้น้ะ
หัวหน้ากลุ่มอันธพาล:เห้ยแล้วแกยุ่งอะไรด้วยอยากทำตัวเป็นวีรบุรุษช่วยหญิงสาวผู้งดงามรึไง ฮ่าฮ่าฮ่า
ลูกน้อง: ฮ่าฮ่า
ใช่อยากจะเป็นวีรบุรุษหัดดูสารรูปตัวเองบ้างแค่ชีวิตตัวเองเอาชีวิตให้รอดก่อรเถอะ
ลูกน้อง: ใช่ใช่
องค์หญิงใหญ่(เฟิงลู่):
นี่ข้าขอบใจเจ้ามากน้ะและขอบคุณในความชอบธรรมของเจ้ามากที่ตั้งใจที่จะช่วยข้าแต่ข้าไม่อยากให้เจ้า
ต้องมาเจ็บตัวเพราะข้าเจ้าไปเถอะ
หัวหน้ากลุ่มอันธพาล:ฮ่าฮ่าฮ่าเจ้าก้ได้ยินแล้วนินางบอกว่าเข้ามาแส่หาเรื่องใส่ตัวน้ะ ฮ่าฮ่า
หนุ่มรูปงามผู้เร่ร่อน(เทียนหยาง):(คิดในใจเฮ้อไอ้เราก้แค่อยากเข้าไปช่วยไม่ได้หวังอะไรเลยแท้ๆแต่กลับดูถูกเราช้ะงั้น เฮ้อ)
ลูกน้อง:เห้ยนี่แกไม่ได้ยินที่นางบอกหรือไงหึเอาตัวเองไม่รอดยังอยากทำตัวเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงามช้ะงั้น
หนุ่มรูปงามผู้เร่ร่อน(เทียนหยาง):
เฮ้อก้จริงล้ะน้ะขนาดข้ายังเอาตัวไม่รอดเลยจะไปช่วยใครได้เล่า (พูดเสียงเบา เตรียมตัวรับมือให้ดีๆล้ะ) ฮึบ
อึก อ๊าก อ้า ตึบ ตึ้บ (เสียงเทียนหยางพุ่งเข้าโจมตีพวกอันธพาลอย่างรวดเร็ว)
องค์หญิงใหญ่(เฟิงลู่): นี่เจ้า เจ้า ปั๊ก จะ....เจ้า (สลบ)
หนุ่มรูปงามผู้เร่ร่อน(เทียนหยาง): เฮ้อถ้าข้าไม่ทำให้นางหลับลงไปแบบนี้นางคงจะถามนั้นถามนี้บ่นไม่หยุดแน่นอนหากระท้องล้างที่ดูสะอาดๆหน่อยให้นางได้พักดีกว่า
ดูจากสภาพแล้วเนี้ยตัวมอมแมมแบบนี้คงจะหนีออกจากบ้านมาสิน้ะเอ๋ะป้ายหยกห้อยเอวอันนี้ทำไมมันดูคุ้นๆมันเหมือนกับป้ายหยกที่องค์หญิงใหญ่ห้อยแต่พอมาดูนางใกล้ๆแบบนี้แล้วสีผิวของนาง
ราวกับแสงของดวงจันทร์ในตอนกลางคืนที่กำลังเปล่งประกายรูปทรงคิ้วและดวงตาที่เข้ารูปทรงงดงามอย่างดวงตาของราวกับว่านางสามารถมองทุกอย่างได้อย่างทะลุปุโป่งสัดส่วนรูปร่างเหมือนกับนางเลย
อยู่ในวังก้ดีอยู่แล้วมีคนคอยปรนนิบัติอยู่ตลอดเวลาไปไหนมาไหนมาผู้ติดตามคอยคุ้มมีเหตุผลอะไรที่ทำให้นางหนีออกมาน้าในวังจะมีคนรู้ไหมเนี้ยว่าองค์หญิงใหญ่ของพวกเขาหนีออกแต่ก้ช่างเถอะหลายวันมานี้นางคงลำบากมาก(คิดในใจนางจะจำข้าได้ไหมน้าไม่น่าได้หรอกมั้งไม่ได้เจอกันตั้งสามปีให้นางได้พักดีกว่า)
รอต่อปายจ้า
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments