( Fic Lookism x OC ) The Love Story of My Hydrangea
...----------------...
...Prologue...
...----------------...
โลกแห่งวัตถุนิยม ความสวยงามเพียงเปลือกนอกที่สามารถทำให้ผู้คนแบ่งแยกชนชั้นในสังคมได้อย่างเปิดเผย เพราะอย่างนั้นการศัลยกรรมในประเทศเกาหลีใต้จึงถือเป็นเรื่อง ปกติ มากในชีวิตประจำวัน
ความเหลื่อมล้ำทางบิวตี้สแตนดาร์ดนั้นยังคงมีให้เห็นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะก้าวเดินไปที่ไหนก็สามารถรับรู้ได้ด้วยตัวเอง
หากคุณเป็นคนที่ หน้าตาดี สิทธิพิเศษทุกอย่างก็จะตกมาอยู่ภายในมืออย่างง่ายดาย แต่ถ้าคุณเป็นคนหน้าตาพอใช้ได้ หรือ ไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ ที่ตั้งเอาไว้ คนในสังคมเหล่านั้นก็จะต่างหันหลังให้กับผู้ไร้ความสง่างาม และบางทีอาจจะทำให้คุณกลายเป็นตัวตลกเพียงข้ามคืน
ชอน อีฮวา รู้ดีว่าเธอนั้นมีอภิสิทธิ์พิเศษมากกว่าคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาราวกับพระเจ้าบรรจงสร้างสรรค์ขึ้นมาให้โดดเด่นกว่าใคร หรือเงินทองมากมายจากการเป็นทายาทเศรษฐีคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด
มันเปรียบดั่งพรวิเศษที่พระเจ้ามอบให้กับเธอ จนใครต่อใครก็ต่างอิจฉาในสิ่งที่เธอได้รับ แน่นอนว่าถ้าหากเป็นคนอื่นคงจะเพลิดเพลินไปกับความพิเศษนั้น
ทว่า...
" เพราะสังคมตอนนี้มันเฮงซวยไงคะ "
พระเจ้ามอบความสวยงามมาให้ แต่ท่านคงจะลืมมอบความอ่อนหวานตามรูปลักษณ์
เพียงหนึ่งประโยคที่เถรตรงจนหาทางเลี้ยวไม่ได้ ก็สามารถหยุดการกระทำทุกอย่างในอาณาบริเวณ
" อะ...แฮะ ๆ นั่นสินะ "
" แหม คุณอีฮวานี่มีอารมณ์ขันเหมือนกันนะคะเนี่ย ฮะ ๆ "
ภายในปาร์ตี้สังสรรค์ที่จัดขึ้นสวนเรือนกระจกรมีลูกสาวและลูกชายของผู้มากอิทธิพลในวงการธุรกิจด้านความงามรวมตัวกัน เพื่อสร้างคอนเน็คชั่นอันดีงามเอาไว้ในอนาคต
สำหรับอีฮวาที่ตรงนี้ก็ไม่ต่างกับสูญรวมความเหลื่อมล้ำทางสังคม แน่นอนว่าตัวเธอเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน คนที่ต้องร่วมหายใจอยู่กับความบัดซบ และถูกหล่อหลอมให้กลายเป็นตัวเธอในตอนนี้
แต่อย่างน้อย อีฮวาก็ไม่ได้หัวเราะไปกับคลิปวีดีโอเด็กโดนต่อยกลางที่สาธารณะในตอนนี้
การวิจารณ์รูปร่างหน้าตาของเหยื่อความรุนแรงกันอย่างสนุกปาก โดยไม่สนภาพลักษณ์ คุณหนู คุณชาย ที่พยายามคีพลุคคนดีของสังคมกันเลยสักนิด
ก็เข้าใจได้
เพราะลูกคนรวยมากคนมักมาพร้อมกับความเส็งเคร็งจนเป็นสันดาน ที่ถูกปลูกฝังกันมารุ่นสู่รุ่น หากต้องการหาคนรวยและจิตใจดีในสังคมนี้ คงไม่ต่างจากการงมเข็มในมหาสมุทร
" จริงด้วยสิ ฉันเห็นข่าวเปิดตัวสินค้าใหม่ของ มิราคอสเมติก แล้วนะ เป็นคอลเลคชั่นเครื่องสำอางค์ที่สวยมากเลยค่ะ "
" อ๋อใช่ ถือว่าประสบความสำเร็จมากเลยนี่นา อีฮวา "
" ฉันว่าน่าเสียดายออก ทั้ง ๆ ที่ดีไซน์ออกมาสวยขนาดนั้นแต่ตั้งราคาเสียถูกเชียว ไปวางขายที่เคาท์เตอร์แบรนด์มันก็ดูเหมือนสินค้าราคาถูกมากเลย"
" นั่นสิ อีวาเธอไม่ได้บอกคุณแม่เลยเหรอ ว่าตั้งราคาถูกแบบนั้นมันม— "
" คอลเลคชั่นล่าสุดฉันวางแผนเองทั้งหมดค่ะ คุณแม่แค่เป็นผู้สนับสนุนเท่านั้น " อีฮวาตอบเสียงเรียบ
การแทรกใครสักคนที่กำลังพูดอยู่มันเป็นเรื่องไร้มารยาทที่เธอมักจะถูกสั่งสอนมาเสมอ ยิ่งหากคนตรงข้ามอายุมากกว่าก็จะโดนด่าว่ากลายเป็นเด็กไม่รู้จักกาละเทศะแน่นอน
แต่ผู้คนที่เข้ามายืนรอบข้างเธอตอนนี้ มันไม่มีใครเหมาะสมพอให้อีฮวาหยิบยกมารยาทของตัวเองมาใช้ด้วยเลยสักคน และต่อให้ลับหลังไปเธอจะโดนคำนินทาอีฮวาก็ไม่ได้สนใจด้วย
" อ...อ๋อ แหม ตายจริง ฉันไม่คิดเลยค่ะว่าประธานมิราจะยอมให้ลูกสาวตัวเองมาเป็นคนวางแผนงาน ทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วทางแบรนด์มักจะมีกลุ่มเป้าหมายชัดเจนขนาดนั้น "
" แต่อีฮวาก็เป็นเด็กที่มีความสามารถนี่เนอะ ฮ่า ๆ ถึงแม้จะอยู่แค่ ม.ปลาย "
หนึ่งสิ่งที่อีฮวาเบื่อหน่ายคือระบบอาวุโสในวงการธุรกิจนี้ เวลาที่ต้องมาอยู่ในงานสังสรรค์หรือบนโต๊ะประชุมเธอมักจะโดนกดเรื่องอายุอยู่บ่อยครั้ง ต่อให้มีความสามารถมากมายแค่ไหนแต่ถ้าเด่นเกินหน้าเกินตาคนที่อยู่มาก่อน ก็จะโดนเขม่นได้ตลอดเวลา
แต่อย่างน้อยก็มีข้อดีอย่างหนึ่งที่เธอชอบ คือ การแสดงละครจอมปลอมของคนเหล่านั้น เพราะต่อให้พวกเขาจะเกลียดเธอหรือหมั่นไส้มากแค่ไหน ก็ทำได้แค่แขวะอย่างเก่งแต่ปาก
เพราะ มิรากรุ๊ป คือ มีผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในวงการธุรกิจความงามในประเทศเกาหลีใต้
" ใช่ค่ะ แต่เพราะฉันเป็นเด็ก ม.ปลาย ก็เลยเข้าใจคนในวัยเดียวกัน " อีฮวาวางแก้วน้ำชาลงอย่างแผ่วเบา ก่อนจะยืดอกพูดอย่างภาคภูมิใจ
" เด็กสาวหรือเด็กหนุ่มในช่วงวัยของฉัน พวกเขาต่างก็รักสวยรักงามทั้งนั้นนี่คะ ฉันก็แค่เพิ่มตัวเลือกของเครื่องสำอางค์ที่ทุกเพศทุกวัยนั้นสามารถเอื้อมถึงได้ในราคาถูก และมีคุณภาพดีก็เท่านั้นเอง "
อีฮวาเผยรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร ถึงที่จริงแล้วเธอไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรให้คนพวกนี้ฟังด้วยซ้ำ แต่การที่ได้เห็นเหล่าคนผู้คอยแต่จะแซะเธอ ถูกคำพูดราวกับจอบขุดปูนหนาที่ถูกฉาบบนหน้าให้แตกละเอียด
มันก็ถือเป็นความบันเทิงอย่างหนึ่งเหมือนกัน
" น...นั่นสินะ ใคร ๆ ก็ต่างชอบของถูกและคุณภาพดี "
" จริงด้วยค่ะ แบบนี้ก็มีกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นเพิ่มขึ้นด้วย "
" เด็ก ๆ สมัยนี้ก็แต่งหน้าเก่งด้วยนี่นะคะ "
ผลตอบรับมันทำให้เธอสนุกมาก แต่ก็มาพร้อมกับความสงสัย
บางทีอีฮวาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนพวกนี้ถึงกลับกลอกลิ้นเก่งกันขนาดนี้ เพียงแค่คำพูดไม่กี่คำของผู้มีอำนาจสูงจุด มันทำให้จากลบกลายเป็นบวกได้โดยไม่ต้องออกแรง
แสนน่าประทับใจการปั้นหน้าสวมบทบาทตัวละครเข้าหากัน แม้ภายในใจตอนนี้พวกเขาเหล่านั้นอาจกำลังกร่นด่าเธอว่าอวดดีอยู่ แต่มันไม่ได้สำคัญต่ออีฮวาเลยแม้แต่น้อย
" ถ้าอย่างนั้น ฉันขอตัวก่อนนะคะ "
" คุณอีฮวา ให้ผมไปส— "
" ขอบคุณสำหรับน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ฉันมีคนขับรถส่วนตัวอยู่แล้วค่ะ "
" อ— "
" แล้วก็ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงของทุกคนที่กังวลแทนเรื่องคอลเลคชั่นใหม่ของมิราคอสเมติกนะคะ " อีฮวาเอียงคอเพียงเล็กน้อย และยกมือทาบอกอย่างแผ่วเบา
" ถ้าคอลเลคชั่นนี้มันเจ๊งจริง ๆ ก็ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ เพราะฉันก็รวยอยู่แล้วแค่หอบเงินไปลงทุนกับสินค้าใหม่ก็ได้ แต่น่าเสียดายที่คอลนี้มันทำให้เงินไหลเข้ามาไม่หยุดเลยค่ะ "
หากมีใครชี้หน้าบอกว่าเธออวดดี อีฮวาจะขอน้อมรับด้วยความเต็มใจ หรือหากมีใครบอกว่าเธอหยิ่งผยอง อีฮวาก็ไม่ปฏิเสธ
แล้วถ้าอีฮวาเป็นแบบนี้ ใครจะสามารถทำอะไรได้ ต่อให้ไม่พอใจในตัวเธอมากแค่ไหนก็ทำได้เพียงเก็บไว้ในใจ
เธอไม่ใช่คนใจดีราวกับนางฟ้า และไม่ได้ใจร้ายคล้ายนางมาร ชอนอีฮวา ก็เป็นแค่มนุษย์ที่อาศัยร่วมอยู่กับคนในสังคมโสมมและขื่นขมด้วยความเฮงซวยเท่านั้นเอง
ปึก
" ออกรถเลย "
อีฮวาเอ่ยออกมาเสียงเรียบทันทีที่ร่างระหงหย่อนกายเข้ามานั่งในรถหรู แผ่นหลังบางเอนพิงเบาะหนังชั้นดีทอดสายตามองออกไปนอกถนน
แม้จะเป็นในช่วงเวลายามวิกาลแล้วแต่กรุงโซลก็ไม่ได้หลับไหลอยางที่ควรเป็น ผู้คนบนทางเท้าต่างเดินขวักไขว่ รถรางแล่นสวนกันตามไฟจราจรที่ส่องสว่างทั้งวันไม่เคยหยุดพัก
ได้มาอยู่ในพื้นที่ของตัวเองโดยไม่ต้องปั้นหน้ายิ้ม มันคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับเธอ
" ให้แวะที่ไหนก่อนไหมครับ คุณหนู "
" ไม่ต้อง "
ตอนนี้อีฮวารู้สึกเหนื่อยเหลือเกินกับการเข้าสังคมพบปะผู้มีอิทธิพลในวงการธุรกิจ แม้ช่วงวัยของเธอจะอยู่ในช่วง ม. ปลาย แต่เพราะอีฮวาคือลูกสาวเพียงของเดียวของผู้บริหาร มิรากรุ๊ป
เธอก็จำต้องเรียนรู้งานทุกอย่างของผู้เป็นแม่
ไม่ได้หนักหนาอะไรมากนัก
งานของเธอมันเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเพียงน้อยนิด แต่การที่อีฮวาจะต้องแบกหน้าปั้นรอยยิ้มเข้าหาใครต่างหาก ที่ลำบากสำหรับเธอ
" อีฮวาคนสวยของแม่ กลับมาแล้วเหรอ ~ "
" กลับมาแล้วค่ะ " อีฮวาตอบกลับอย่างเรียบเฉย เธอลืมไปว่าวันนี้แม่ของเธอกลับมาจากการไปดูงานที่ต่างประเทศ
" วันนี้เป็นยังไงบ้างจ๊ะ "
" ก็เหมือนเดิมค่ะ "
ชอน ฮายัน ประธานบริษัทมิรากรุ๊ปหญิงสาวผู้มากความสามารถประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจความงามหลากหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอางค์ ร้านเสริมสวย หรือคลีนิคศัลยกรรม ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับรูปลักษณ์หน้าตามิรากรุ๊ปคือผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังทั้งหมด
และเธอก็คือแม่แท้ ๆ ของอีฮวา
" แสดงว่าต้องผ่านไปได้ด้วยดีสินะ ~ " นัยน์ตาสีเข้มมองมารดาของตัวเองยกยิ้มอย่างภาคภูมิใจในตัวเธอ
ถ้าจะให้อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก อีฮวาสามารถบอกได้อย่างเต็มปากว่าเธอ ไม่ได้ชอบแม่ของตัวเอง เดิมทีแล้วอีฮวาควรจะต้องไปอยู่กับพ่อและน้องชายเสียด้วยซ้ำ แต่ในสมัยเด็กเธอไม่ได้เข้าใจเรื่องการตกลงของพวกผู้ใหญ่หรอก
เธอพึ่งจะมารู้หลังจากที่พ่อและน้องชายของเธอเสียว่าความจริงแล้ว อีฮวาควรจะอยู่กับพวกเขามากกว่าจะมาอยู่ตรงนี้
แต่จิตใต้สำนึกเกี่ยวกับแม่ผู้ให้กำเนิดมันจึงมีคำว่า ลูกกตัญญู มาค้ำคอเอาไว้เป็นบ่วงพันธนาการชีวิต เธอจึงไม่สามารถทิ้งผู้หญิงผู้โดดเดี่ยวคนนี้ไปได้
ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าการใช้ชีวิตตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบันนี้ไม่ได้แย่ แต่อีฮวาก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่ามันดี
" ว่าแต่ลูกได้ไปพบคุณลุงเขาบ้างหรือยัง "
กึก
ในประเทศเกาหลีการเป็นแม่ม่ายลูกติดถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ แถมยังเป็นลูกสาวไม่ใช่ลูกชายมันจึงเป็นเส้นแบ่งแยกชนชั้นอย่างชัดเจนรูปแบบหนึ่ง หากจะหาชายพร้อมดามใจหญิงเคยหย่าร้างครั้งหนึ่งมันคงเป็นเรื่องยากสำหรับคนประเทศนี้
เพราะนอกจากต้องแน่ใจว่าชายคนนั้นจะสามารถรักหญิงม่ายได้จริง ก็ต้องแน่ใจอีกว่าลูกสาวที่มีจะปลอดภัย
" งานค่อนข้างยุ่งค่ะ เลยไม่ได้ไปพบท่าน " อีฮวาตอบอย่างเรียบเฉย
แต่ถ้าเป็นกับผู้บริหาร มิรากรุ๊ป ก็คงจะเป็นอีกกรณีหนึ่ง
ปัญหาเรื่องนั้นสามารถแก้ได้อย่างง่ายดาย เพียงเพราะแม่ของเธอเป็นมหาเศรษฐีหญิงโสด หนุ่ม ๆ หรือชายวัยกลางคนที่อยากจะเสพสุขด้วยเงินตราคงพร้อมตราหน้ากันเข้ามาอย่างไม่ลังเล
แน่นอน คุณลุง ที่ว่าก็ไม่พ้นชายที่จะมาเป็นพ่อเลี้ยงของอีฮวาหรอก
" จริง ๆ เลยเด็กคนนี้ อีกไม่นานก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วแท้ ๆ แต่ทำไมถึงไม่คิดจะไปทักทายเขาเลยล่ะเนี่ย "
อีฮวาไม่ได้มีปัญหากับการทีพ่อเลี้ยงและไม่ได้มีปัญหากับการจะมีพี่น้องเพิ่มเข้ามาอีกสักคน ทว่าเธอแค่เบื่อหน่ายกับแม่ของตัวเองที่เอาแต่ยัดเยียดให้ไปตีสนิทกับฝั่งนั้นมากกว่า
" ไว้ถ้ามีเวลาว่าง หนูจะแวะไปหาเขาก็แล้วกันค่ะ " เธอตอบปัดปัญหา
ร่างเพรียวเดินผ่านมารดาไปยังห้องครัว ในงานปาร์ตี้นั้นไม่ได้มีอะไรตกถึงท้องอีฮวาอย่างเป็นชิ้นเป็นอันเลยสักนิด เธอรู้สึกเหนื่อยหน่ายจนกระเดือกอะไรไม่ลง การอยู่รวมกับคนพวกนั้นมันทำให้อีฮวาไม่ได้มีความรู้สึกอยากอาหารเลยแม้แต่น้อย
" ลูกคงไม่ได้จะกินอะไรในเวลานี้ใช่มั้ย " ยังไม่ทันที่มือเรียวจะเอื้อมถึงตู้เย็นตรงหน้าผู้เป็นมารดาก็เอ่ยขึ้นมาอย่างเรียบเฉย
" เปล่าค่ะ หนูแค่จะดื่มน้ำ "
อีฮวาเผลอลืมวินัยการทานอาหารของเธอไปเสียสนิท เวลาดึกขนาดนี้ไม่เหมาะจะทานอาหารและถ้าหากปล่อยความหิวโหยครอบงำคงจะทำให้รูปร่างของเธอพังก็เป็นได้
ซึ่งมันน่ารำคาญมาก
แต่การจะเป็นคนหน้าสวยและหุ่นดีมันก็ต้องอดทน
อีฮวาจึงได้น้ำเปล่าเพียงแก้วเดียวเพื่อดับกระหายและพาตัวเองขึ้นห้องเพื่อพักผ่อน เธอไม่อยากอยู่ตรงนั้นนานเท่าไหร่ การที่ต้องมาคุยกับแม่หลังจากไปพบปะสังคมจอมปลอมมันเหนื่อยเกินไปสำหรับเธอ
พื้นที่ที่สบายใจที่สุดสำหรับอีฮวาคือห้องนอนแห่งนี้ ทันทีที่ได้ย่างกรายเข้ามาราวกับตัดจากโลกทั้งหมด พลังงานขีดสุดท้ายได้ถูกเติมให้เต็มหลอดด้วยเตียงนุ่มนิ่มและหมอนอิงกลิ่นหอม ๆ ของน้ำยาปรับผ้านุ่ม
เด็กสาวพอใจกับคอมฟอร์ทโซนจุดนี้ ไม่ต้องออกไปเจอใคร ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้ามา ถายในห้องโทนสว่างประดับประดาด้วยดอกไม้แห้งมันทำให้เธอได่ดำดิ่งสู่ความฝันแสนสุข
ติ้ง ติ้ง
แต่น่าเสียดายที่แม้จะตัดโลกความจริงได้ โลกโซเชียลกลับไม่ได้หายไปจากเธอ อีฮวาดีดตัวขึ้นนั่งด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์เมื่อครู่นี้เธอกำลังเคลิ้มกับความอบอุ่นของผ้าห่มแต่กลับมีโน้ตข้อความถี่รัวจากกลุ่มเพื่อนร่วมห้องดังมาขัด
บทสนทนาในห้องแชทรวมกำลังเม้าท์มอยกันเรื่องรุ่นน้องหน้าใหม่ในแผนกอย่างสนุกสนาน รายชื่อและรูปภาพนักเรียนควรจะเป็นความลับเฉพาะสถาบันกลับว่อนในห้องแชทส่วนรวม จนอีฮวาสงสัยเกี่ยวกับมาตรการป้องกันข้อมูลของโรงเรียนขึ้นมาเล็กน้อย
มีอย่างที่ไหนเด็กนักเรียนถึงสามารถรับรู้ข้อมูลคนอื่นอย่างนี้ เพื่อนร่วมห้องของเธอเป็นอาชญากรกันหรือ
นิ้วเรียวหมายจะเลื่อนไปกดปิดแจ้งเตือนข้อความเหมือนอย่างเคย แต่ยังไม่ทันที่จะสำเร็จเพื่อนร่วมห้องก็แท็กชื่อเธอให้ไปคุย ราวกับรู้ว่าอีฮวากำลังดูอยู่
มีตาทิพย์กันเหรอ
นัยน์ตาสีเข้มสะท้อนหน้าจอบทสนทนาของเหล่าเด็กสาวแผนกเสริมสวยปีสอง ข้อความวิจารณ์รูปร่างหน้าตาของเด็กปีหนึ่งเด่นหราจนอีฮวาอยากกปิด
เธอไม่เข้าใจว่าคนสมัยนี้ไม่รู้จักคำว่าสิทธิส่วนบุคคลหรืออย่างไร วันนี้ทั้งวันเธอต้องมาวุ่นวายอยู่กับคนที่ชอบพูดเกี่ยวกับหน้าตาคนอื่นจนรู้สึกเอียนกับมันเต็มทน
ติ้ง
Sohyun : อีฮวาอ่านอยู่ปะ เธอคิดว่ารุ่นน้องผู้ชายแผนกเราเป็นยังไง
คนถูกแท็กข้อความถามกระพริบตาปริบ ๆ ตั้งแต่เปิดเรียนปีสองมาสัปดาห์กว่าเธอไม่เคยจะไปทำความรู้จักรุ่นน้องปีนี้เลยสักคน
eihwa : แผนกเสริมสวยปีหนึ่งมีผู้ชายด้วยเหรอ ?
Sohyun : กะแล้วว่ายัยคุณหนูนี่ต้องไม่รู้เรื่องรุ่นน้อง
yujeedapuink : รุ่นน้องผู้ชายที่หน้าตาดี ๆ ไง ชื่อว่าอะไรนะ
พอเป็นเรื่องผู้ชายเหล่าเด็กสาวแผนกเสริมสวยก็ต่างหัวใจสั่นไหวไปกับมัน อีฮวาไม่ได้หลงไหลผู้ชายเธอไม่ได้สนใจเรื่องความรักในตอนนี้
ไม่ใชว่าเธอไม่เคยมีแฟน แต่ความรักดี ๆ จะมีสักทีมันคงยากเกินไปสำหรับเธอ หากไม่โดนนอกใจเพราะความเบื่อหน่าย ก็ถูกทิ้งด้วยเหตุผลของการไม่มีเวลาใส่ใจกัน เพราะอย่างนั้นอีฮวาจึงตัดปัญหาเกี่ยวกับการมีแฟนทิ้งไปเลยดีกว่า
Sohyun : เห็นว่าชื่อจางฮยอนนะ
อีฮวากระพริบตาปริบ ๆ ไล่อ่านข้อความอวยรูปร่างหน้าตามากมายหลังจากชื่อของเด็กหนุ่มรุ่นน้องผู้ชายเพียงหนึ่งเดียวในแผนกเสริมสวยปรากฏขึ้น มันยาวเสียจนอีฮวาสงสัยว่าเด็กหนุ่มคนนั้นหน้าตาดีเพียงใดถึงได้ใจสาว ๆ รุ่นพี่และรุ่นเดียวกันมากมายขนาดนี้
ว่าแต่ปีหนึ่งมีคนชื่อจางฮยอนด้วยเหรอ
ไม่เห็นจะรู้เลย
...----------------...
...chon eihwa...
...168 cm...
..." ฉันต้องพูดอะไรด้วยเหรอ "...
...----------------...
...----------------...
...Cr. Art by icemilky_♡ ( me )...
...* ไม่อนุญาตให้นำรูปไปใช้ในงานอื่นเด็ดขาด *...
...----------------...
...----------------...
Talk : ใช้แล้วค่ะ รูปตัวละครเราวาดเอง สามารถไปชมสปีดเพ้นท์ได้ที่ TikTok : _icemilky._
พึ่งจะเคยลงงานเขียนใน noveltoon ครั้งแรกเลยค่ะ ยังงง ๆ ระบบอยู่บ้าง เพราะปกติเราลงแต่ในรี๊ดอะไรท์กับเด็กดี รู้สึกตื่นเต้นได้พาลูกมาวิ่งเล่นในแอปนี้
เรื่องนี้จะดำเนินเรียบ ๆ เรื่อย ๆ ไม่หวือหวาอะไรค่ะ มีความรักมาแทรกบ้าง ยังไม่ได้ปักพระเอกแน่นอนเราเน้นขายจิ้นไปทั่ว
ขอฝากพี่อีฮวาเอาไว้ในอ้อมอกด้วยนะคะ ถ้าหากชอบอย่าลืมกดใจและสามารถคอมเม้นท์ได้นะคะ (。・ω・。)ノ♡
* ยังไม่แก้คำผิด *
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments
คุณแพรว ค่ะ
ฮ่าฮ่าฮ่า!
2023-09-19
1