ผู้หมวดหนุ่มลองคิดทบทวนเรื่องไทม์ไลน์ต่างๆในวันเกิดเหตุ ผู้กองเผด็จกับจ่าองอาจไม่ได้พูดอะไรออกมา หลังจากที่รับหมู่องอาจแล้วก็เปลี่ยนคนขับรถ ทำให้ผู้หมวดคเชนทร์มีเวลาคิดอะไรเพิ่มมากขึ้น ชายหนุ่มเริ่มลำดับภาพในหัวขึ้นมา ย้อนกลับไปตอนที่เด็กหญิงแพรวพบกับนายวีรยุทย์ ที่ประตูหน้าโรงเรียน
"พี่ยุทธ์ ไปส่งแพรวตรงสี่แยกหน่อยสิ" เมื่อเด็กหนุ่มรับคำก่อนจะพาเด็กสาวไปส่ง กับรถเก๋งที่วีรยุทธ์เล่า คเชนทร์สะดุดใจตรงนี้ ทำไมถึงไม่มีใครสืบหารถเก๋งคันนั้นกัน ช่วงเวลาที่คนเห็นเด็กทั้งสองไปด้วยกันและได้ยินเสียงนาฬิกาของโรงเรียนดังขึ้นในช่วงหกโมงเย็น ถ้าปั่นจักรยานออกมาแล้วถ้าหากสิ่งที่วีรยุทธ์พูดเป็นความจริงละ พวกเขาทั้งคู่ก็ต้องใช้เวลาประมาณ15-20 นาที ถึงจะขี่จักรยานมาถึงสี่แยกที่ว่านั้น
หลังจากส่งแพรวแล้ว เด็กหนุ่มก็กลับทันที เมื่อปั่นจักรยานมาได้สักพักก็จอดและหันกลับไปดูเด็กสาวที่ยืนรอใครบางคน ก่อนจะขึ้นรถเก๋งแล้วหายไป ฝ่ายวีรยุทธ์เมื่อเห็นดังนั้นก็รีบปั่นจักรยานกลับบ้าน ก่อนจะไปเจอกลุ่มเพื่อนที่กำลังจะไปเตะบอล แต่ทำไมหนึ่งในนั้นถึงบอกว่าเห็นผู้ต้องสงสัยไปกับเหยื่อได้ละ ชายหนุ่มได้แต่ครุ่นคิด
เมื่อถึงเวลาสองทุ่มตรง นาฬิกาของโรงเรียนก็ดังขึ้นอีกครั้ง ไทม์ไลน์มันก็ดูปกติดีทุกอย่าง มีพยานก่อนและหลังเหตุการณ์ชัดเจน แต่สิ่งที่อัยการพูดก็คือ หลังจากทั้งคู่ออกจากโรงเรียนในตอนหนึ่งทุ่มตรง ก็พากันตรงเข้าไปในป่าเลย และหลังจากนั้นวีรยุทธ์ก็ํก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศและทำร้ายเด็กหญิงจนเสียชีวิต ก่อนจะนำศพของเธอไปซ่อน แล้วก็ปั่นจักรยานกลับบ้านไป แต่วันนี้เขาให้จ่าพิชิตและตำรวจอีกคนไปทดลองกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง การจะขี่จักรยานจากประตูรั้วโรงเรียนไปยังจุดเกิดเหตุ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 12 นาที ยิ่งมีคนซ้อนท้ายไปด้วยยิ่งทำให้เวลาไปถึงที่นั้นช้าลงไปอีก และพอวีรยุทธ์กลับไป เขาก็ยังมีเวลาไปเล่นฟุตบอลต่อกับกลุ่มเพื่อนๆ กว่านาฬิกาจะบอกเวลาสองทุ่มตรง เพราะฉะนั้นเวลาที่จะก่อเหตุจริงๆก็จะยังคงเหลือไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ
"น่าแปลกมากนะครับผู้กอง เด็กอย่างนายวีรยุทธ์ไม่เคยมีประวัติก่อเหตุใดๆ กับเพื่อนฝูงแทบจะไม่มีใครโดนเด็กคนนี้รังแก แถมเป็นคนที่คอยช่วยเหลือเพื่อนที่ถูกแกล้งอีก จะสามารถล่วงละเมิดทางเพศและก่อเหตุทำร้ายคนจนเสียชีวิต และซ่อนศพได้ในระยะเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง"ผู้หมวดหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"แล้วหลังจากนั้นก็ปั่นจักรยานกลับไปได้อย่างหน้าตาเฉย ตามทฤษฎีแล้วมันก็อาจจะเป็นไปได้ที่นายวีรยุทธ์จะลงมือก่อเหตุ แต่เด็กนั้นจะต้องมีความชำนาญมากพอตัวเลยแหละถ้าจะจัดการกับศพเพียงลำพัง" ผู้กองเผด็จและหมู่องอาจพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย ก่อนที่ทั้งหมดจะไปบ้านของวีรยุทธ์ก่อนเป็นหลังแรก
ทางด้านหมอเปรมและผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช ได้สรุปจากเศษอาหารในกระเพาะของเหยื่อว่า
"เวลาเสียชีวิตของเหยื่อหรือการก่อเหตุอยู่ระหว่าง 19.15-19.45 นาฬิกา จากเวลาดังกล่าว ก็มีผู้ก่อเหตุที่เป็นไปได้เพียงคนเดียว นั้นคือเด็กคนนั้นนะแหละ" หมอหนุ่มพูดออกมา เวลาทำไมมันถึงประจวบเหมาะแบบนี้
หลังจากใช้พิจารณาสิบห้าวัน คณะลูกขุนที่เป็นชายฉกมติที่ฉกรรจ์ทั้งหมด ก็มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า วีรยุทธ์ผิดจริง ฐานทำร้ายคนโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ล่วงละเมิดทางเพศและอำพรางศพ ความผิดหลายกระทง ต้องรับโทษประหารชีวิต แต่ในขณะที่ทุกคนลงมติ กลับมีอีกขณะลูกคนหนึ่งเดินออกมาออกมากระซิบข้างหูเด็กหนุ่มอย่างเย้ยหยัน เมื่อเขาเห็นเด็กหนุ่มร้องไห้ และพูดคำเดิมซ้ำๆว่าเขาไม่ผิดมากกว่าและออกมา ผู้เป็นแม่ของเด็กหนุ่มถึงขั้นเป็นลมหมดสติไปในทันที
ทนายของวีรยุทธ์ขอ ยื่นอุทธรณ์ต่อทันที แต่ถูกศาลฎีกาปฏิเสธและยืนกรานคำตัดสินเดิม แต่เด็กหนุ่มก็ถูกจำคุกตลอดชีวิตแทนโทษประหารชีวิต
"ผู้กอง ผู้หมวดครับเราเริ่มที่จะมีความหวังอีกแล้ว เด็กคนนั้นจะไม่ติดคุกฟรีแน่" จ่าพิชิตรีบพาพยานคนสำคัญออกมา ทั้งหมดสอบเข้มอยู่หลายชั่วโมงจนได้เบาะสำคัญเกี่ยวกับรถเก๋งคันนั้น
"วันนั้น ผมพอจะจตำได้ครับผู้กอง ผมจำได้ว่ามีเด็กสาวที่เป็นข่าวอยู่ไปกับผู้ชายอายุสักยี่สิบต้นๆ เป็นผู้ชายหน้าตาดีผิวขาวเหลืองครับ" แล้วเด็กเสิร์ฟหนุ่มคนนั้น จึงเล่าลักษณะของชายที่พาเด็กสาวไป
"รถที่เขาใช้เป็นรถรุ่นใหม่มีสปอยเลอร์ด้านหลังรถ น่าจะแต่งมาครับ"แล้วเขาก็บรรยายลักษณะรถได้ตรงตามที่วีรยุทธ์เล่าทุกอย่าง
"ขอบคุณมากนะ ผมจะกันตัวคุณไว้เป็นพยาน" เมื่อพูดคุยสอบถามจนได้ข้อมูลเป็นที่น่าพอใจ พยานคนนั้นก็ขอตัวกลับไปทันที
Trrrrrrrrrrrrrrrrr....
"ครับคุณหมอเปรม มีอะไรคืบหน้าเหรอครับ ครับขอบคุณครับ" ชายหนุ่มรับเอกสารที่หมอเปรมก็ส่งแฟกซ์มา ก็พบสิ่งที่ผิดสังเกตจริงๆ ร่างกายของเหยื่อไม่มีร่องรอยสกปรกอะไรเลย ทั้งที่เพื่อนที่ตรงนั้นมีแต่ดินและหญ้าเต็มไปหมด แต่ร่างกายกลับสะอาด แล้วหมอหนุ่มก็บอกว่าพบดีเอ็นเอในซอกเล็บของเด็กหญิงด้วย จะเร่งตรวจสอบให้ว่าเป็นของใคร"
"เอาละ อย่างน้อยเราก็พอมีความหวังแล้ว ว่าอย่างน้อยเราก็เลือกช่วยคนไม่ผิด" ผู้กององอาจให้ทนายยื่นอุทธรณ์ใหม่ ซึ่งรอบนี้ ศาลท่านให้ยื่นได้ ท่ามกลางความดีใจของครอบครัวนายวีรยุทธ์ที่ช่วยเหลือเด็กหนุ่มอย่างเต็มที่
"ยุทธ์ อดทนหน่อยนะลูก ตอนนี้ครอบครัวเรา และคุณตำรวจจะพยายามช่วยลูกเต็มที่" คนเป็นแม่เมื่อเห็นลูกที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ ที่ตอนนี้นี้มีสภาพซูบผอมลงก็ได้แต่ปวดใจ
"ครับแม่ ผมไม่ผิด แม่เชื่อยุทธ์นะ" เด็กหนุ่มร้องไห้ออกมาก่อนจะยกมือไหว้หมวดคเชนทร์และจ่าพิชิต
"ขอบคุณนะครับ ถ้าไม่ได้พวกท่านผมคงแย่ไปมากกว่านี้ ขอบคุณที่เชื่อมั่นว่าผมจะไม่ทำเรื่องเลวร้ายพวกนั้น เด็กหนุ่มก้มลงกราบทั้งน้ำตา แค่นี้เขาก็ดีใจและซาบซึ้งจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว คำพูดคณะลูกขุนคนนั้นยังดังในหัวข้อเขาตลอดเวลา
"กูละอยากเห็นมึง โดนประหารให้ๆตายห่าต่อหน้ากูจริง" เขาทั้งโกรธทั้งเคียดแค้นคนพวกนี้ เขาไม่ผิดทำไมเขาจะต้องถูกประหารด้วย เมื่อหมดเวลาเยี่ยม เขาก็ถูกส่งตัวกลับเขาไปด้านใน แววตาของเขาเริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
หลังจากนั้นไม่นาน ข่าวเกี่ยวกับเวลาการเสียชีวิตของเด็กหญิงแพรวก็ถูกเปิดเผยออกมา โดยนายแพทย์เปรม ออกมาแถลงการณ์ต่อหน้าสาธารณชนอีกครั้ง
"การเสียชีวิตเป็นช่วงเวลาที่ระบุไว้แน่ชัดแล้ว แต่ตัวเหยื่อไม่ได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ แต่ถูกทำให้เสียชีวิตมาจากที่อื่น ก่อนจะนำศพมาทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ และผมก็ได้ตัวอย่างดีเอ็นเอของคนร้ายมาไว้ในมือแล้ว แต่ผมจะยังไม่บอกไม่บอกว่าเป็นใคร ขอเก็บไว้เป็นความลับไปก่อน เพราะผมไม่อยากให้รูปการณ์ของคดีเสียหาย" เมื่อกล่าวจบหมอหนุ่มก็เดินออกจากห้องแถลงข่าวในทันที เสียงนักข่าวถามเซ็งแซ่ไปทั่วห้อง แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ ตอนนี้โลกออนไลน์เริ่มเดือดเป็นอย่างหนัก เมื่อคดีมีแววว่าจะพลิกกลับกลายเป็นว่าตำรวจจับแพะ เพียงชั่วข้ามคืนแฮชแท็กตำรวจจับแพะ และ saveวีรยุทย์ก็ขึ้นเทรนอันดับหนึ่งในประเทศไทยทันที
"บ้านหลังนี้แน่จ่า" หมวดเปรมมองเข้าไปในบ้าน เขาได้เบาะแสเจ้าของรถเก๋งคันนั้นมาจากคนที่ซื้อรถไปต่อ โดยเจ้าของคนใหม่ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ยังไม่ทันที่จะทำอะไร เสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดของหญิงสาวก็ดังแว่วออกมา เนื่องจากบ้านของนายประกิต ผู้ต้องสงสัยอยู่ห่างจากเพื่อนบ้าน ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าอาจจะมีการทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น ทั้งหมดจึงบุกเข้าไป เป็นจังหวะที่นายประกิตกำลังบีบคอ และเตรียมเอามีดแทงหญิงสาวที่นอนเปลือยกาย เพราะขัดขืนมัน เมื่อผู้หมวดหนุ่มก็เข้าไปกระชากตัวมันออกมา หญิงสาวร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว จ่าพิชิตรีบเอาผ้าคลุมห่อตัวหญิงสาวไว้ ส่วนคนร้ายโดนรวบตัวไว้เป็นที่เรียบร้อย
"ขอกำลังเสริมด่วน ตอนนี้จับตัวผู้ต้องหาได้แล้ว ย้ำรีบนำกำลังมาโดยด่วน" เพียงไม่นาน เจ้าหน้าที่ตำรวจนับสิบนายก็มาพาตัวนายประกิตไป ท่ามกลางเสียงสาปแช่งของประชาชนที่มามุงดู ส่วนหญิงสาวชายหนุ่มให้รถมูลนิธินำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อน เพราะหญิงสาวมีอาการตื่นกลัวแล้วก็บาดเจ็บ
"ผู้หมวดคเชนทร์ค่ะ นายประกิตคือผู้ร้ายตัวจริงที่ลงมือฆาตกรรมเด็กหญิงแพรวใช่ไหมคะ" นักข่าวสาวรีบยื่นไมค์เข้าไปสัมภาษณ์ แต่ชายหนุ่มก็ตอบไปบ้างเท่าที่จะตอบได้ ฝั่งโลกออนไลน์เริ่มมีกระแสเดือดขึ้นมาอีกครั้งหลังจากการจับกุมตัวนายประกิต หลายคนที่ด่านายวีรยุทธ์ก็ออกมาขอโทษครอบครัวและตัวนายวีรยุทธ์ รวมทั้งกดดันบางคนที่ยังฝังใจและปรักปรำว่าเด็กหนุ่มคือคนผิด แน่นอนกระแสที่เห็นด้วยก็มากกว่าและเกิดการล่าแม่มดกันเกิดขึ้น จนคนที่ยังด่าถึงขั้นออกมาขอโทษและปิดบัญชีผู้ใช้ไปเงียบๆ เพราะบางคนโดนล่าจนถึงขั้นกระทบกับหน้าที่การงาน
"หลังจากเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ ที่รับผิดชอบก่อนหน้าหมวดคเชนทร์โดนสังคมกดดันอย่างหนัก ทั้งเรื่องการสอบพยานที่หละหลวม ตัดสินคดีทั้งที่ไม่มีการหาหลักฐานและวัตถุพยาน ซึ่งตอนนี้มีการพบว่าอาจจะมีผู้ให้การอันเท็จหลายราย" เสียงผู้สื่อข่าวรายงานท่ามกลางชาวบ้านที่ด่ากันอย่างหนัก
"กูว่าแล้ว ไอ้ยุทธ์วันบื้อมันซื่อจะตาย มันจะไปทำใครเขาได้ถ้าเขาทำมัน กูจะยังเชื่อมากกว่า" ป้าแต๋น ป้าที่อยู่ข้างบ้านมาตั้งแต่หนุ่มเกิด เห็นมาตลอดตอนพ่อแม่ของวีรยุทธ์ขึ้นโรงขึ้นศาลก็ได้แก่นี่แหละที่คอยช่วยเหลือมาโดยตลอด
เพียงไม่นาน นายประกิตก็รับสารภาพจนหมดเปลือก รวมถึงการฆาตกรรมเด็กหญิงแพรวด้วย
"จากการให้การรับสารภาพ นายประกิตอาศัยที่ตัวเองมีรูปร่างหน้าตาที่ดี มีรถขับราคาแพง เขาได้เขาไปตีสนิทกับเด็กสาวว่าสามารถพาเด็กสาวไปเป็นศิลปิน เป็นไอดอลชื่อดังได้ ซึ่งเหยื่อก็หลงเชื่อ และเมื่อเหยื่อไว้ใจ มันก็จะล่อลวงและลงมือข่มขืน ซึ่งผู้เสียหายไม่ได้มีแค่เด็กเท่านั้น คนที่นายประกิตมีทั้งผู้ใหญ่และเด็กผู้ชายด้วย" หลังจากสารวัตรไพบูลย์แถลงข่าวจบ ก็มีการติดแฮชแท็กในแอปพลิเคชันหนึ่งให้มีการประหารชีวิตนายประกิต ส่วนเหยื่อที่หมวดคเชนทร์ให้ความช่วยเหลือก็ออกมาแฉอีกครั้งอย่างโกรธแค้น เพราะเธอก็คือเหยื่ออีกคนของเดนมนุษย์เช่นกัน
"ขอบคุณนะหมอสำหรับทุกอย่าง ตอนแรกผมเห็นก็นึกว่า..." ชายหนุ่มยังไม่ทันพูดจนจบ หมอเปรมก็พูดแทรกขึ้นมาว่า
"ผมมีจรรยาบรรณพอหรอกนะหมวดเชนทร์ ผมก็มองคดีมันผิดปกติอยู่แล้ว อย่าพึ่งชวนผมคุย ผมเหนื่อย" ตำรวจหนุ่มยกมือเสมอไหล่ ราวกับจะบอกว่าตามใจ หมอเปรมมองอีกฝ่ายอย่างระอา ก่อนจะยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 29
Comments