ความจริงจากคนตายสู่คนเป็น

"ผู้หมวดครับ ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมมาแล้วครับว่า โรงงานเคมีที่ตั้งใกล้ๆกับโรงงานของนายเปรมชัย ใส่สีย้อมสีเขียวลงในถังเหล็กด้วยครับ"จ่าพิชิตรีบรายงานข้อมูล พร้อมกับยื่นเอกสารให้กับชายหนุ่มไปด้วย

"โรงงานพลาสติกของนายเปรมชัยก็เคยมีการสั่งซื้อจากที่นี่เหมือนกันนี่ มีการสั่งซื้อสีย้อมสีเขียวไปจำนวนล็อตหนึ่ง" หมวดคเชนทร์ค่อยๆเปิดอ่านดูข้อมูลต่างๆ ตอนนี้ข่าวการพบศพหญิงสาวครรภ์แก่ใกล้คลอด ถูกพบเป็นศพในถังเหล็กกำลังเป็นที่โจษจันกันไปทั้งประเทศ

"ใช่ครับ ส่วนใหญ่จะเอาไว้ใช้ในอุตสาหกรรมทั้งหมด เพื่อย้อมหญ้าเทียม พืชพลาสติก และผลิตภัณฑ์อื่นๆด้วยครับ" ดาบพิชัยพูดต่อ

"ผู้หมวดครับ มีสายปริศนาโทรเข้ามาครับ" ร้อยเวรหน้าห้องรีบโทรหาหมวดคเชนทร์ทันที

"สวัสดีครับผู้หมวดคเชนทร์" เสียงแปร่งๆที่ผ่านเครื่องดัดเสียงดังแว่วเข้ามา

"ฟังผมนะ ผมรู้ว่าถังเหล็กนี้มาจากไหน แต่ผมไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงคนที่อยู่ในถังชื่ออะไร แต่ผมรู้จักกับนายเปรมชัยดี" หมวดคเชนทร์รีบบันทึกเสียงของชายลึกลับเอาไว้จนหมด 

"ก่อนหน้านั้นสามปี เขาได้ไปมีชู้กับผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำงานในโรงงานพลาสติก ผมบอกได้แค่เพียงเท่านี้" จากนั้นสายก็หลุดไป ชายหนุ่มเปิดฟังเสียงที่บันทึกเอาไว้ ถูกเปิดฟังอีกครั้ง

"ผมคิดว่าเราควรไปหาคุณเปรมชัยสักทีนะ จัดเตรียมตั๋วเครื่องบินให้ผมด้วย ผมจะไปตามคุณเปรมชัยที่ลำปาง" จ่าพิชิตรีบทำตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว และคืนนั้นตำรวจหนุ่มก็บินไปเชียงราย พร้อมกับผู้ติดตาม และประสานงานไปยังตำรวจในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว

  

เมื่อชายหนุ่มเดินทางไปถึง ก็มุ่งตรงไปยังบ้านของนายเปรมชัยทันทีในตอนเช้า บัดนี้นายเปรมชัยในวัยแปดสิบปี หลังจากตำรวจหนุ่มมาเยี่ยมถึงบ้าน นายเปรมชัยก็ไม่ได้ให้ความร่วมมือมากเท่าไหร่ แต่ก็ยินยอมให้เข้าไปในบ้านได้ เพื่อตอบคำถามสองถึงสามข้อ

"นายเปรมชัย จำถังใบนี้ได้ไหมครับ" ผู้หมวดถามโดยทันที ไม่ยอมเสียเวลา พร้อมกับยื่นรูปภาพให้นายเปรมชัยดู

"คุณเคยใช้ถังเหล็กแบบนี้ในโรงงานของคุณหรือไม่" เขาซักถามข้อต่อไปทันที

"ไม่ครับผู้หมวด โรงงานของผมไม่เคยใช้ถังเหล็กแบบนี้" นายเปรมชัยกล่าวปฏิเสธไป

"แล้วโรงงานของคุณเคยใช้สีย้อมสีเขียวไหม" เขาถามต่อ

"ไม่ครับ โรงงานของผมไม่เคยใช้สีย้อมชนิดนี้มาก่อน โรงงานของผมไม่จำเป็นจะต้องใช้สารเคมีเหล่านี้" ยิ่งนายเปรมชัยปฏิเสธมากเท่าไหร่ เขายิ่งมั่นใจว่านายเปรมชัยคือคนที่เขาต้องการตัวอยู่ และชายหนุ่มได้ถามคำถามสุดท้ายไปว่า

"คุณมีชู้หรือไม่" ชายหนุ่มยิงคำถามที่ได้มาจากบุคคลปริศนา แต่เปรมชัยกลับยอมรับมัน โดยบอกว่า

"ครับ ผมเคยมีชู้และนอกใจภรรยา แต่มันเรื่องเมื่อสามสิบกว่าปีก่อนโน้น แล้วผมก็ได้ลืมไปแล้วว่า ผู้หญิงที่ผมเคยคบ รูปร่างหน้าตาเป็นยังไง" ชายชรากล่าวออกมาในที่สุด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามมา ก็ได้หยิบชุดเครื่องมือเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ ออกมาวางไว้บนโต๊ะ ถ้าหากได้ดีเอ็นเอของนายเปรมชัย ก็สามารถนำไปเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอทารกในครรภ์ของผู้หญิงในถังเหล็ก ว่าเป็นลูกของนายเปรมชัยหรือไม่

"คุณยินดีที่จะมอบดีเอ็นเอของคุณหรือไม่" ผู้หมวดหนุ่มถาม หลังจากที่นายเปรมชัยได้ยินก็รีบลุกขึ้นทันที เพราะเขาถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่หยาบคายมาก กับการร้องขอของนายตำรวจหนุ่ม

"กรุณาออกจากบ้านผมไปด้วยครับ เด็กๆส่งแขก" พูดจบ นายเปรมชัยก็เดินเลี่ยงออกไปทันที

ทางด้านฝั่งห้องปฏิบัติการในกรุงเทพ การกู้สิ่งของหลักฐานในถังเหล็กก็ยังคงดำเนินต่อไปอย่างเต็มที่ จากความพยายาม ในที่สุดช่างเทคนิคก็สามารถกู้คืนได้ส่วนหนึ่งของสมุดโทรศัพท์ได้แล้ว และสิ่งที่พวกเขาว่า ในบรรทัดที่สองของหน้าหนึ่ง มีชื่อของนายเปรมชัยไว้ข้างหลังอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังได้เขียนชื่อที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ในเขตพื้นที่เอาไว้ชัดเจน และในอีกหน้าหนึ่งของสมุด ยังเขียนชื่อ"นีรนุช สุขนิยม"และเบอร์โทรไว้ด้านล่างด้วย 

"ช่วยตรวจสอบชื่อนีรนุช สุขนิยมให้ผมทีนะครับ คุณองอาจ" หมอเปรมยื่นรายชื่อให้อีกฝ่ายรีบดำเนินการ ทางด้านหมู่องอาจได้รับข้อมูลสำคัญก็รีบโทรรายงานหมวดคเชนทร์ทันที

"ครับผู้หมวด ผมกับผู้เผด็จกำลังจะไปตรวจสอบก่อน ครับๆ" หลังจากวางสายแล้ว ทั้งคู่ก็รีบไปพบผู้หญิงที่ชื่อนีรนุช อย่างน้อยก็พอจะได้รู้ว่าเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเป็นใคร

ผู้กองเผด็จและหมู่องอาจได้มาตามที่อยู่ในสมุดบันทึก ก่อนจะพบว่า นีรนุชยังอาศัยอยู่ที่คอนโดแห่งนี้เหมือนเดิม และยังใช้เบอร์โทรศัพท์เบอร์เดิมที่ยังสามารถติดต่อได้ ผู้กองเผด็จจึงสามารถติดต่อนางได้ทันที

"สวัสดีครับ ใช่คุณนีรนุชใช่ไหมครับ ผมร้อยตำรวจเอกเผด็จและนี้คือหมู่องอาจ ขออนุญาตสอบถามอะไรบ้างสักครู่ได้ไหมครับ" หญิงชราก็พยักหน้าอย่างยินยอม พร้อมกับเปิดประตูต้อนรับนายตำรวจทั้งสองให้เข้าไปในห้อง  หลังจากที่ผู้กองหนุ่มอธิบาย หญิงชราก็กล่าวออกมาอย่างมั่นใจว่าผู้หญิงในถังเหล็กคือใคร

"นั้นนะ นังแก้วกาหลง ศุภมงคล เป็นเพื่อนของฉันเองแหละคะคุณตำรวจ" หญิงชราพูดพลางหยิบอัลบั้มรูปเก่าๆออกมา พร้อมกับหยิบรูปหญิงสาวรูปร่างผอมบาง ใบหน้าสวยงามออกมายื่นให้กับตำรวจ

"เมื่อสามสิบปีก่อน ฉันกับนังแก้วเคยทำงานที่โรงงานพลาสติกด้วยกัน ฉันกับนังแก้วอายุไม่ห่างกันนัก ก็เลยเป็นเพื่อนกันได้ ตอนนั้นพศ.2526 ฉันอายุยี่สิบหก ส่วนนังแก้วยี่สิบห้า เราทั้งคู่ต่างพากันไปสมัครงานที่โรงงานพลาสติกของนายเปรมชัยทั้งคู่" หญิงชราหยุดเล่า พร้อมกับนึกถึงเรื่องเก่าๆไปด้วย

"นังแก้วมันมาเช่าห้องๆนี้ แล้วอาศัยอยู่คนเดียวตอนที่เข้ามาในกรุงเทพใหม่ๆ หลังจากที่เข้าไปทำงานที่โรงงานดอกไม้พลาสติก นังแก้วเป็นคนที่นิสัยดีมาก ไม่ว่ามันจะทำอะไรก้มักจะมาปรึกษาฉันตลอด" เธอหยุดพูดแล้วยกน้ำขึ้นดื่ม

"มันฝันไว้ซะสวยหรูว่าอยากมีบ้านหลังงามในกรุงเทพ แล้วจะพาพ่อกับแม่ของมันมาอยู่ด้วย แล้วก่อนมันจะหายไป มันมาบอกฉันว่า มันกำลังจะมีลูก แต่นังแก้วมันยังไม่ได้บอกหรอกนะว่าใครเป็นพ่อของเด็กในท้อง" นางหยุดพูดไปครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มเล่าใหม่อีกครั้ง

"แล้วคุณป้าเคยถามคุณแก้วไหมครับ ว่าใครเป็นพ่อของเด็กในท้อง" ผู้กองเผด็จถามต่อ

"ฉันก็ถามมันนะ แต่มันไม่ได้บอกจริงๆ ฉันเลยถามไปอีกว่า ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันจะรับผิดชอบและแต่งงานเอามันเป็นลูกเป็นเมียไหม นังแก้วก็ตอบมาว่าผู้ชายขอมันแต่งงานแล้ว และเขาจะรับผิดชอบทุกอย่าง แต่นังแก้วมันบอกมาว่า ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันแต่งงานแล้ว มีลูกด้วยกันสามคน ตอนนั้นฉันยังตกใจ เมื่อรู้ว่าเพื่อนฉันมันเป็นเมียน้อย" และป้านีรนุชยังเล่าอีกว่า

"มันโทรมาหาฉัน ร้องไห้ฟูมฟายว่าผู้ชายที่เคยบอกว่าจะแต่งงานกับมัน ไม่มีท่าทีที่จะอยากแต่งงานกับมัน" ผู้กองหนุ่มหยิบผ้าเช็ดหน้าให้กับหญิงชรา นางรับมาเช็ดออกลวกๆ

"มันบอกว่า เคยโทรไอ้ผู้ชายคนนั้น แต่เมียเขาดันเป็นคนรับ นังแก้วก็เลยเล่าเรื่องทุกอย่างให้เมียเขาฟังจนหมด ว่ามันเกิดอะไรขึ้น"

"แล้วทางนั้นเขาว่ายังไงกับคุณแก้วครับป้า"หมู่องอาจชักถามต่อ

"มันก็บอกเขาไปหมด รวมเรื่องที่มันกำลังท้องด้วย หลังจากนั้นไม่นานไอ้ตัวผู้ชายก็โทรกลับมาหานังแก้ว นังแก้วบอกว่าผู้ชายคนนั้นโกรธมันมาก และจะขู่ฆ่ามันด้วย มันกลัวมากก็เลยรีบโทรหาฉัน" หญิงชรามองไปรอบๆห้องด้วยความเศร้าสร้อย

"หลังจากที่มันโทรมาหาฉัน ด้วยความที่ฉันเป็นห่วงมัน ฉันก็เลยรีบมาหามันที่นี่" ป้านีรนุชพูดไป น้ำตาไหลไป

"พอฉันมาถึงที่นี่ ฉันก็เห็นว่าประตูห้องของมันไม่ได้ล็อก ฉันเดินเข้ามาในห้องนี้ มองไปรอบๆก็ไม่เจอนังแก้ว หาทั่วห้องก็ไม่เจอ ฉันเองก็ไม่รู้จะไปตามหาที่ไหน ฉันจึงนั่งรอมันอยู่ที่นี่ ฉันรอมันนานมาก นานจนรู้ไม่ตัวเลยว่ารอมันข้ามวันไปแล้ว แต่นังแก้วมันก็ไม่กลับมาอีกเลย" หญิงชราพูดออกมาอย่าเจ็บปวด และเสียใจ ไม่มีคืนไหนเลยที่เธอไม่นอนฝันร้าย เธอตั้งใจจะรอแก้ว จนวันหนึ่งเธอมีเงินเก็บมากพอ ก็เลยซื้อห้องนี้เป็นของตัวเองซะเลย

"แล้วป้าได้ไปแจ้งความคนหายไว้ไหมครับ" ผู้กองเผด็จถาม

"ไปสิ ฉันไปแจ้งความที่สน.ใกล้ๆนี่แหละ แต่ตำรวจมันถามว่าเป็นญาติของคนที่หายไปหรือเปล่า ฉันเลยตอบไปว่าไม่ใช่ ฉันเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น" หญิงชราตอบกลับไป

"แต่ตำรวจกลับตอบมาว่า นังแก้วมันอาจจะไปซื้อของที่ไหนหรือเปล่า ตำรวจที่ฉันไปแจ้งความในตอนนั้น มันไม่ความกระตือรือร้นอะไรเลย มันไม่ได้ให้ความสนใจอะไรเลย เดิมทีฉันก็ให้ข้อมูลทั้งหมดกับตำรวจไปแล้วนะ ทั้งเรื่องผู้ชายที่เป็นผัวของนังแก้ว ทั้งที่ไอ้นั่นมันข่มขู่นังแก้วด้วย แต่ฉันไม่รู้จักชื่อผู้ชายคนนั้น และฉันกลัวว่ามันจะส่งผลกระทบต่อนังแก้วด้วย เรื่องพวกนี้ฉันจึงไม่ได้แจ้งไปด้วย"หญิงชราถอดถอนใจ

"ปีแล้วปีเล่าที่กาลเวลามันผ่านไป นังแก้วมันก็หายตัวไปเลย จนถึงทุกวันนี้ ถ้าไม่มีข่าวนี้ออกมา ฉันก็คงจะเฝ้ารอมันอยู่แบบนี้ ฉันตั้งใจไว้แล้วละคุณตำรวจ ว่าจะรอจนกว่าจะเจอมันอีกครั้ง ในที่สุดก็เจอมันสักที" หญิงชราพูดทั้งที่น้ำตานองหน้า สองตำรวจหนุ่มได้แต่มองป้านีรนุชด้วยความสงสารจับใจ

เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 29

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!