ตอนที่ 3

ที่บ้านของซูชิ

หลังจากที่ชายหนุ่มกลับมาบ้าน ก็มีสายตาเหม่อลอย ในหัวมีแต่ภาพดวงตาดวงนั้นดวงตาที่ว่างเปล่าของหญิงสาว แต่กลับเป็นดวงตาที่ทำให้รู้สึกว่มันสวยอย่างน่าเหลือเชื่อมากๆ ดูเหมือนว่า...ชายหนุ่มจะโดนมนต์สะกดจากสายตาดวงนั้นเข้าให้ซะแล้ว.

"พี่ครับ...พี่...พี่...เหม่อลอยอะไรเนี่ย" แซลม่อนร้องเรียกซูชิแฝดผู้พี่ แต่ดูเหมือนว่าคนที่ถูกเรียกจะไม่รู้สึกตัวเลย.

"ไอ้พี่เวร!!"

"เย้ย! อะไรเล่าไอ้ม่อน!?"

ในที่สุดชายหนุ่มก็รู้สึกตัว หลุดจากภวังค์จนได้.

"เป็นอะไรเนี่ยวันนี้ คิดอะไรอยู่? หะ?"

แม้ว่าชายหนุ่มจะรู้สึกตัวแล้ว แต่ชายหนุ่มก็ยังคงติดอยู่กับภาพเหตุการณ์ ที่น้องชายกับว่าที่คู่หมั้นจูบกันอยู่ดี.

ซูชิ หันไปมองหน้าน้องชายช้าๆ แล้วจับไปที่ไหล่กว้างฟูของแซลม่อนสองที ผู้เป็นน้องชายมองหน้าพี่แล้วก็งง.

"พี่...คงไม่ใช่ว่า...พี่ใจเกเร แล้ว...คิดอะไรอกุศลกับผมใช่มั้ย?" แซลม่อนถามพร้อมกับทำสีหน้า เหยเก.

"ไม่ใช่เว้ย!...คือ เรื่องของแกกับคิวโฟน่ะ ฉันรู้แล้วนะ"

"เรื่องของผมกับคิวโฟ? เรื่องอะไรอ่ะ?" น้องชายยังคงไม่รู้ว่าพี่ชายจะสื่ออะไร.

"วางใจเถอะ ฉันจะไม่ไปแทรกระหว่างกลางพวกนายหรอก"

"พี่พูดบ้าอะไรของพี่เนี่ย! แทรกกลางกะไร?" แซลม่อนรีบปัดมือพี่ออกจากไหล่ แล้วก็ เด้งตัวถอยห่างอย่างรวดเร็ว.

"เรื่องเมื่อตอนกลางวัน ฉันก็จะไม่บอกใคร วางใจ ซะนะ พี่จะเป็นคนบอกแม่เอง ว่าแกชอบคิวโฟ จะให้แกหมั้นกับเธอแทนฉัน"

"เดี๋ยวนะ? พี่ตอนกลางวัน? พี่เห็นหมดแล้วหรอ?"

"ไม่ต้องคิดมากนะ พี่ไม่โกรธแกหรอก ก็แกกับเธอชอบกันนิ"

ซูชิพูดคนเดียว โดยที่ไม่ปล่อยให้น้องชายผู้ที่กำลังพยายามจะพูด ได้มีโอกาศเอ่ยวาจาใดๆเลยแม้แต่คำเดียว.

จนในที่สุด แซลม่อนก็จับไหล่ทั้งสองข้างซูชิ ก่อนจะพูดบางอย่างออกมา.

"พี่ ฟังผมนะ สงบสติอารมณ์ก่อน"

สิ้นสุดคำกล่าวของน้องชายที่เอ่ยมาด้วยท่าทีจริงจัง ผู้เป็นพี่ชายก็ยอมนิ่งฟังแต่โดยดี.

"เอาล่ะๆ เรามานั่งดื่มโคล่าคุยกันหน่อยมั้ย?"

สองพี่น้องย้ายที่คุยมานั่งคุยกันที่ห้องโถงกันแค่สองคน.

"แล้วแกจะพูดอะไรล่ะ?" ซูชิพูดจบก็กระดกโคล่าตามเข้าไปด้วย.

"เรื่องของคิวโฟ...ผมยอมแพ้ไปตั้งนานแล้ว"

"ยอมแพ้? แต่พวกแกพึ่งจูบกันมานะ!"

"จุๆๆ ฟังผมพูดให้จบก่อน" แซลม่อนทำท่าจุ๊ปาก บอกให้พี่เงียบก่อน.

"ผมน่ะนะ เคยพยายามแล้วพยายามที่จะเข้าไปอยู่ในในใจคิวโฟผมไม่ได้พึ่งเริ่มแต่เริ่มมานานแล้ว"

ซูชิยังคงนั่งฟังเงียบๆ เพราะก็อยากรู้เรื่องราวของว่าที่คู่หมั้นเหมือนกัน.

"เธอคือคนที่ว่างเปล่าที่สุด เท่าที่ผมเคยเจอมา ผมเองก็นึกเสียดาย ที่มาช้าไป"

เล่าเรื่องย้อนอดีต.

Salmon part.

เมื่อสองปีก่อน ผมได้รู้จักกับเธอคนนั้น คนที่มองแว๊บแรกก็รู้สึกว่าสวยมากๆ แต่พอได้บังเอิญไปสบตาเข้า แววตาเธอกลับดูว่างเปล่า ผมไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเธอกำลังรู้สึกยังไง หรือ กำลังคิดอะไร ใช่แล้วครับ ผู้หญิงที่ผมพูดถึงอยู่ ก็คือ คิวโฟ เมื่อสองปีก่อน เราได้เรียนห้องเดียวกัน คนที่นั่งข้างๆเธอ ก็คือผม.

คุณเชื่อในเรื่อง รักแรกพบมั้ย? ผมยอมรับเลยว่าผมอาจจะชอบเธอตั้งแต่แรกพบ เพราะความสวย แต่เมื่อได้ทำความรู้จักแล้ว ผมก็ได้รู้ว่า...เธอเย็นชาสุดๆ ในขณะที่ทุกคนพยายามจะพูดคุยกับเธอ สิ่งที่เธอทำก็คือ ทำเหมือนทุกคนเป็นแค่อากาศธาตุ แม้ว่าเหตุการณ์จะชุลมุนวุ่นวายแค่ไหน เธอก็ไม่เคยแบอส หรือ พูดแม้แต่คำเดียวว่ารำคาญ.

ผมคิดว่าคนแบบนี้ น่าค้นหาดี จึงพยายามที่จะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในชีวิตให้ได้ก่อน ก่อนที่คิดจะจีบเธอ.

ผมพยายามเข้าหาเธอทุกวิถีทาง พยายามชวนไปเที่ยว พยายามหาความชอบของเธอแล้วหามาให้ จ้างคนไปสืบว่าเธอชอบทำอะไร ชอบไปที่ไหน และก็ได้รู้มาว่า เธอชอบแมวมาก.

แล้วผมก็เอาแมวขนฟูสีขาวมาให้เธอ แต่สิ่งที่เธอบอกผมก็คือ...

"ฉันไม่ชอบแมว"

พูดจบเธอก็เดีนเลยผมไป ผมก็วางแมวแล้วพยายามวิ่งตามไปคว้าแขนเธอไว้.

"ทำไมต้องปิดกั้นตัวเองด้วย การชอบแมวมันไม่ได้น่าอายเลยนะ"

"นายเข้าใจผิดแล้ว คนที่ชอบแมว..." เธอพูดเหมือนจะยังพูดไม่จบ แต่ก็ค่อยๆหันหน้ามามองหน้าผม.

"...ไม่ใช่ฉัน"

หลังจากนั้น ผมก็ด่านักสืบชุดใหญ่เลย แต่อีกฝ่ายก็ส่งรูปภาพมา ก็เห็นว่า เธอดูจะชอบแมวจริงๆ.

และแล้ว ผมก็เลิกพึ่งพานักสืบ แล้วตามติดชีวิตเธอแทน แบบ สะกดรอยตามอ่ะนะ.

จนผมได้ไปเห็น ว่าเธอชอบไปที่ร้านหนังสือ ผมก็ตามไปแบบเนียนๆยันในร้าน และ ก็ได้รู้ว่า เธอชอบนิยายสยองขวัญ.

ผมตามติดชีวิตเธอทุกวัน จนวันนึงผมก็ได้เห็น ว่าระหว่างทางไปร้านหนังสือ เธอเจอแมวจรจัดที่ผอมแห้งหิวโซ ร้องเมี้ยวๆอย่าน่าสงสารอยู่ข้างทาง แมวพวกนั้นค่อยๆเดีนออกมาหาเธอ ส่วนเธอที่ไม่ชอบแมว ก็เดีนผ่านไปโดยไม่ใยดี.

"สงสัยจะไม่ชอบแมวจริงๆ"

แต่สิ่งที่ผมไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น คิวโฟ เดีนกลับมาพ้อมอาหารแมว แถมเอาจานมาด้วย เธอนั่งลง วางจานต่อหน้าแมว แล้วแกะซองอาหารแมวเทบนจาน แล้วบรรดาแมวๆก็เดีนมากินอย่างเอร็ดอร่อย.

ผมที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างก็เดีนไปยืนข้างเธอที่ตอนนี้ก็ยังนั่งมองแมวกินอาหาร.

"ไหนบอกไม่ชอบแมวไง?" ผมถามออกไปทั้งที่ตัวเองก็อมยิ้ม.

"ไม่ชอบ แต่ก็ไม่ได้เกลียด" เธอตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่คำพูดแค่นี้ ก็เพียงพอแล้ว ที่จะทำให้ผมรู้ว่า เธอเองก็มีความอ่อนโยนอยู่บ้าง ไม่ได้แข็งกระด้างอย่างที่ใครเขาคิด.

"เรามาเป็นเพื่อนกันได้มั้ย?" ผมถามคำถามที่ผมควรจะถามไปตั้งแต่แรก แทนที่จะมาเสียเวลาเอาใจเธอเหมือนจีบเธออยู่อย่างที่ผ่านมา.

"ได้สิ" เธอตอบตกลงโดยที่ไม่หันมามองหน้าผมเลย.

ผมเผลอดีใจกับคำว่า 'ได้ ' ของเธอได้ไม่นาน ก็มีเรื่องทำให้ผมต้องแปลกใจอีกแล้ว.

"หนอยแก! กล้าดียังไงมาบอกว่าเป็นแฟนของคิวโฟ"

"ทำไมจะไม่ได้! ก็คิวโฟตกลงคบกับฉันแล้ว!"

"ไม่จริง! คิวโฟตอบตกลงคบกับฉันแล้วต่างหาก"

" พวกพี่แหละที่แอบอ้าง ผมต่างหากแฟนตัวจริง"

ชายหนุ่มรุ่นพี่ ม.6 กับรุ่นน้อง ม.3 มายืนทะเลาะกันที่หน้าห้องเรียนของผม นักเรียนพากันมุงดูทั้งยังซุบซิบกันให้วุ่นเลย.

ผมที่พยายามจะเข้าห้องเรียนก็ค่อยๆแทรกตัวเข้าไปจนถึงในห้องจนได้ ในห้องเหลือแค่คิวโฟที่นั่งนิ่งๆอยู่คนเดียว.

"นี่คิวโฟ ข้างนอกเกีดอะไรขึ้นอ่ะ มีแต่คนมาบอกว่าเป็นแฟนเธอหมดเลย"

"ก็แฟนฉันจริงๆนั่นแหละ" แม้คำตอบของเธอจะทำให้ผมจุกหน่อยๆ แต่ลางสังหรณ์ของผมบอกว่าเรื่องนี้มันแปลกๆ.

"แล้วคนไหนอ่ะ?"

"ทั้งหมดนั้น...มาขอฉันเป็นแฟน"

"แล้วเธอก็ตอบตกลงทุกคนเลยใช่มั้ย?"

"เปล่า ฉันตอบว่า 'ได้สิ' " ได้ยินแค่นั้นผมก็กุมขมับเลย.

"เธอจะตอบตกลงกับทุกไม่ได้สิ เธอตกลงได้แค่คนเดียว ก็คือคนที่เธอชอบเท่านั้น คนที่เหลือถ้าไม่ชอบก็ปฏิเสธไป" ผมสั่งสอนเธอยกใหญ่ราวกับเป็นพ่อที่กำลังสอนลูกสาวอายุ5ขวบ

"ทำไมต้องคนเดียว?"

"งั่นถ้าฉันขอเธอเป็นแฟนเพิ่มอีกคนก็จะตอบว่า 'ได้ ' หรอ?"

"ได้สิ" เมื่อเธอตอบมาแบบนั้น ผมก็ต้องกุมขมับอีกครั้ง พร้อมกับอาการปวดหัวนิดๆที่เพิ่มขึ้นมา.

"เธอปฏิเสธคนไม่เป็นใช่มั้ย?"

เธอมองผมหน้านิ่งไม่ตอบอะไร แต่ผมก็จะถือซะว่า นั้นคือคำตอบละกัน.

"งั้นเรื่องข้างนอกเดี๋ยวฉันจัดการให้นะ" ผมเดีนออกไปข้างนอก ซึ่งพวกนั้นก็ยังคงทะเลาะกัน จนถึงขั้นกระชากคอเสื้อกันแล้ว.

"หยุด! อยุดได้แล้ว! ทุกอย่างเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน แยกย้ายกันไปห้องใครห้องมันได้แล้ว" ผมร้องตะโกนอยู่ความชุลมุนทุกอย่าง มันได้ผล.

"จะเข้าไปผิดไปได้ไง! ในเมื่อคิวโฟเป็นคนตอบตกลงแล้ว"

"พี่โฟตกลงคบกับผมต่างหาก"

"ฉันต่างหากเฟ้ย"

แต่กลายเป็นว่า จากที่พวกเขาทะเลาะกันเมื่อกี้ ก็รวมตัวกันมาทัวร์ลงที่ผมแทน.

"เห้ย นี่ใจเย็นๆ ก่อนสิพวกนาย" ในขณะที่สถานการณ์เริ่มไม่ค่อยสู้ดี ที่จริงก็ไม่ดีตั้งแต่แรกแล้ว.

ทันใดนั้น ก็มีมือเล็กๆมาจับที่แขนผมไว้ แล้วเดีนออกมาเผชิญหน้ากับสามหนุ่มคลั่งรักนั่น.

"คิวโฟ?"

"ทุกคน เราเลิกกันเถอะ" เธอพูดจบแค่นั้นแล้วก็ดึงแขนผมออกไปจากตรงนั้น.

ชายหนุ่มคลั่งรักทั้งสามก็นิ่งตะลึง และ ทุดคนที่ยืนล้อมกันก็ตะลึงยิ่งก่วา เพราะเห็นว่าคิวโฟไม่ได้ออกมาคนเดียว แต่จูงแขนผมไปด้วย.

"เอ้~~หรือว่าแฟนตัวจริงจะเป็นแซลม่อนหรอ?"

"ไม่เห็นจะเป็นไรเลย สองคนนั้นดูเหมาะสมกันออก"

เสียงซุบซิบราวกับว่ากำลังรู้สึกปีติยินดีดังส่งตามหลังพวกเรามา.

เธอพาผมมาที่ลับของเธอ สถานที่ๆบรรยากาศราวกับป่าช้า ซึ่งมีแต่เธอเท่านั้นที่กล้ามานั่งเล่นตรงนี้ สถานที่นี้ก็คือ ป่าหลังตึกโรงเรียน เป็นตึกเงียบเพราะตึกนี้ใช้เก็บ อุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ที่ทั้งยังไม่ใช่และใช้แล้ว จึ่งจะมีคนมาแถวนี้แค่วันเปีดเทอมหรือ มีนักเรียนย้ายมาใหม่แล้วโต๊ะไม่พอ.

เธอจูงแขนผมมาถึงที่ ก็ปล่อยมือแล้วเดีนไปนั่งที่ม้านั่งหินอ่อนคนเดียว.

"เธอไม่กลัวที่นี่หรอ? ไม่สิ เธอจะบอกเลิกทุกคนแบบนั้นพร้อมกันไม่ได้ อย่างน้อยก็บอกความจริงพวกเขาหน่อยสิ ว่าแค่ตอบส่งไป ไม่ได้จะตกลงคบจริงๆ เดี๋ยวพวกนั้นมันจะหาว่าเธอคบซ้อนเอานะ" ผมพล่ามอะไรของผมออกไปมากมายก็ไม่รู้ ตอนนี้ผมไม่สนอะไรแล้ว ผมสนใจแค่ว่าชื่อเสียงเธอจะเสียหาย เธอจะกลายเป็นขี้ปากของคนอื่นรึเปล่า.

"นั่งลงสิ" และนี้คือสิ่งที่เธอพูดหลังจากผมบ่นไปตั้งมากมาย.

ผมยอมซะที่ไหนล่ะ ใช่ ผมยอมนั่งลงข้างๆเธอแต่โดยดี.

.........เงียบ

เราสองคนนั่งเงียบๆอยู่อย่างงั้นได้ซักพัก ผมก็ง่วงนอนเลย หนังตาผมแทบจะปิดอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะมีหลับก่อนผม คิวโฟ ล้มหัวมาซบไหล่ผม และเมื่อผมหันไปมอง ก็ปรากฏว่าเธอกำลังหลับอยู่.

และวันนั้น ก็เป็นวันที่ผมโดดเรียนเป็นครั้งแรกในชีวิต.

โดดเรียนมาเฝ้าผู้หญิงคนหนึ่งนอน ไร้สาระชิบเป๋ง.

ณ ตอนนั้น ผมได้รู้แล้วว่า ตกหลุมรักผู้หญิงประหลาดคนนี้เข้าแล้ว.

แม้ว่าผมจะได้สนิทกับเธอมากกว่าใครๆ แต่กำแพงที่เธอสร้างก็สูงเกินไป ผมพยายามเข้าไปอยู่ในหัวใจเธอ แต่ก็ถูกปฎิเสธมาตลอด บางครั้งเธอก็ตอบว่า'ได้ ' เหมือนที่เธอตอบว่า'ได้ ' กับคนอื่น แน่นอนมันไม่ได้มากจากใจ ผมไม่ได้ต้องการแบบนี้ ที่ผมต้องการ คืออยากให้เธอชอบผมจริงๆ แล้วตอบว่า'ได้ ' เพราะว่าชอบผมจริงๆ.

แต่ผมพยายามมาสองปีเต็มจนผมตัดสินใจแล้ว ว่าจะอยู่เคียงข้างเธอในฐานะเพื่อน แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว เธอจะหันมาชอบผมหารือไม่ นั่นก็แล้วแต่โชคชะตาแล้ว.

เอาล่ะ! ตอนนี้เรากลับมาที่ปัจจุบันกัน.

"โห...โรแมนติกอะไรขนาดนั้น😮" ซูชินั่งอ้าปากค้างให้กับเรื่องราวที่น้องชายเล่าให้ฟัง แบบชนิดที่ว่า ไม่คิดเลยว่าน้องชายสุดกวนทีนของตัวเองจะมีโมเม้นท์ไรแบบนี้กับเขาด้วย.

"น้ำเน่าชิบหาย ถึงว่า ทำไมแกดูไม่ค่อยสนใจผู้หญิง ที่แท้ก็ชอบของแปลกนี่เอง"

"โห ดูพูดเข้า เรื่องแบบนี้ไม่เจอเองไม่รู้หรอก"

"แล้วแกไม่ชอบเขาแล้วรึไง? จะยอมแพ้ง่ายไปมั้ย?"

"พี่...คนมันไม่ใช่พยายามให้ตายยังไงเขาก็ไม่รักหรอก"

"แล้วแกจูบเขาทำไม? ทำเพื่อ?" ซูชิถามด้วยท่าทีอารมณ์เสีย แลดูเขาหงุดหงิดสุดๆกับเรื่องนี้.

"โธ่...พี่ คิวโหจูบผมก่อนนะ"

"ฉันเห็นเขาจูบแค่แปปเดียว แล้วแกจะดึงเขามาจูบอีกทำไม? หืม?" ซูชิยิ่งมีท่าทีหงุดหงิดมากขึ้นเมื่อตัวเองยิ่งถามเรื่องนี้.

"ก็เธอมาดูถูกผมก่อน ว่าจูบไม่ฟินเอาซผมเลยจัดให้ ขอโทษคร้าบบ ผมลืมคิดไปว่าเธอคือคู่หมั้นพี่" แซลม่อนพนมมือกราบพี่ชายงามๆอย่างนอบน้อม.

"ยังไม่ได้หมั้นโว้ย!" ซูชิคะคอกเสียงแข็งใส่น้องชายเฉยเลย แต่การจะคิดนั้นก็ไม่ได้สะทกสะท้านใดๆ แก่แซลม่อนเลย ทั้งยังแซวพี่ชายกลับอีก.

"ไม่แน่นะ พี่อาจจะเป็นบุพเพสันนิวาสของเธอก็ได้"

"มันจะเป็นไปได้ไง ยัยนั่นดูไม่สนโลกเลยด้วยซ้ำ"

"ลองทำความรู้จักกันไปนะ ยังไงก็คู่หมั้นกัน" แซลม่อนตบไหล่พี่ชายเบาๆ แล้วก็เดีนจากไป.

"ยังไม่ได้หมั้นกันเว้ย!" ซูชิร้องตะโกนตามหลังน้องชาย ที่เดีนไปโดยไม่หันมาตอบโต้.

ชายหนุ่มกลับมานั่งพึมพำคนเดียวด้วยความหงุดหงิด ทั้งๆที่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะหงุดหงิดไปทำไม.

"แล้วนี่เราจะหงุดหงิดไปทำไมวะ?" ชายหนุ่มส่ายหัวสบัดความฟุ้งซ่านในหัวให้หลุดออกไป. แล้วก็เดีนกลับเข้าห้องนอนไป.

ตัดภาพมาดูฝั่งของหญิงสาว ผู้ตกเป็นหัวข้อเรื่องนินทาของสองพี่น้องฝาแฝดเมื่อกี้กัน.

ตอนนี้เธอเอง ก็กำลังนอนอยู่บนเตียง ขนาดคิงไซส์ มือเรียวสวยก็ค่อยๆยกขึ้นมาลูบริมฝีปากสวยๆของตัวเอง แล้วนึกถึงจูบอันแสนเร่าร้อนที่ได้รับมาวันนี้.

.....โปรดติดตามตอนต่อไป

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!