ในยามสนธยาเวลาที่ฟ้าไม่ได้เป็นทั้งกลางวันและกลางคืน ก็เป็นเวลาเดียวกับที่รถเก๋งคันสีดำขับเข้าไปในอนาเขตของบ้านหลังใหย่หลังนึง ซึ่งได้มุ่งหน้าไปที่จอดรถของบ้าน.
ร่างที่เปิดประตูรถออกมานั้นเป็นเพียงหญิงสาวร่างบางในชุดนักเรียน ม.ปลาย ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะโรงเรียนเท่านั้น บ่งบอกได้เลยว่าต้องเป็นนักเรียนจากโรงเรียนคุณหนูที่ไหนสักแห่งแน่ๆเลย.
หญิงสาวเดินดุ่มๆไปที่ประตูบ้านบานใหญ่ที่เปีดไว้กว้าง180° ราวกับว่ากำลังรอต้อนรับเธอให้เดีนเข้าไปอย่างงั้น.
"หนูกลับมาแล้วคุณพ่อ"เสียงหวานใสตะโกนทักทายพ่อด้วยน้ำเสียงออดอ้อนน่ารัก ทั้งๆที่ยังไม่เห็นตัวคุณพ่อเลย.
แต่เมื่อเดีนมาถึงที่ห้องโถง ก็ตกใจเมื่อรู้ว่าวันนี้พ่อมีแขกมาที่บ้าน.
"อ้าวคิวโฟลูกรักกลับมาแล้วเหรอ? นี่เพื่อนพ่อเองนะลูก" คุณพ่อทักทายลูกสาว พรางแนะนำคนแปลกหน้าให้เธอได้คลายความสงสัย.
"สวัสดีค่ะคุณลุง" มือสวยยกขึ้นพะนมมือไหว้ชายวัยกลางคนที่พ่อแนะนำไปเมื่อครู่ว่าเป็นเพื่อนของพ่อเอง.
"มานี่มาลูก พ่อมีเรื่องน่ายินดีจะคุยด้วย" คุณพ่อกวักมือเชิญให้ลูกสาวไปนั่งรับฟังสิ่งที่กำลังจะกล่าวต่อไปนี้...
.
.
.
Sushi part
"พ่อ ส่งโลเกชั่นให้เราไปไหนเนี่ย" ผมขับรถไปบ่นไปด้วยความเซ็ง.
"เอาน่า พ่อก็คงมีเรื่องสำคัญจริงๆนั่นแหละถึงรอไปคุยที่บ้านไม่ได้เนี่ย" แซลม่อนน้องชายฝาแฝดของผมผู้ที่เป็นคนคอยดู Google map ให้ผม ก็พยายามพูดให้ผมใจเย็นลง.
หน้าตา ส่วนสูง เสียง ภายนอกพวกเราเหมือนกันทุกอย่าง แต่มีภายในที่แตกต่างกันสุดขั้ว.
สองหนุ่มเดีนทางมาถึงจุดหมายปลายทางที่แผนที่ได้บอกไว้แล้ว ก็เรี่มไม่แน่ใจว่าควรเข้าไปดีมั้ย เพราะแผนที่มันจบที่หน้าบ้านหลังใหญ่ของใครก็ไม่รู้.
"ไม่ใช่ร้านอาหารหรอกหรอวะ?" ผมถามน้องชายเพื่อยืนยันว่าเรามาถูกทางแล้ว.
"ผมว่าหน้าจะบ้านหลังนี้แหละ อาจจะเป็นบ้านเพื่อนพ่อก็ได้"
"แล้วพ่อจะให้เรามาหาเพื่อนพ่อทำไมเนี่ย ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย"
"ไม่แน่พ่ออาจจะกำลังรอจับพี่คลุมถุงชนข้างในนั้นก็ได้" คำตอบของไอ้น้องชายทำให้ผมหงุดหงิดขึ้นทันที.
"หึ...ถ้าเป็นงั้นจริงฉันก็จะคัดค้านสุดชีวิตเลย"
ไอ้แซลม่อนน้องรักมองหน้าผมแล้วยิ้มไปส่ายหัวไป.
แต่ดูเหมือนว่า พวกเราจะจอดลีลาอยู่หน้าบ้านเขานานเกินไป คนเฝ้าประตูถึงกับต้องเดีนออกมาเคาะหน้าต่างรถข้างๆที่นั่งน้องชายผม.
แซลม่อนค่อยไปลดกระจกรถลง เพื่อที่จะได้ฟังเสียงของผู้มาเยือนได้อย่างชัดเจน.
"เอ่อ...ไม่ทราบว่า พวกคุณมาหาใครหรอครับ?"
"พวกเรา มาหาคุณพ่อตามข้อความที่คุณพ่อส่งมาครับลุง" น้องชายผมยื่นรูปพ่อเราไปให้คุณเฝ้าประตูดู.
ส่วนผมก็ถึงกับกุมขมับ ที่น้องชายผมทำแบบนั้น ทำอย่างกับว่าพ่อเราหาย กำลังตามหาพ่อ.
และอีกอย่างต่อให้พ่ออยู่ที่นี่จริง ลุงจะเหันหน้าพ่อเราได้ไง ในเมื่อลุงเฝ้าอยู่หน้าประตู.
"อ้อ!! ท่านชายผู้นี้คือพ่อของพวกเธอเองหรอ เชิญเลยครับคุณหนู" คุณลุงรีบเปีดประตูรั้วให้พวกเราขับรถเข้าไปย่างง่ายดายทันทีที่ได้เห็นรูปพ่อพวกเรา.
"ลุงเคยเห็นหน้าพ่อเราด้วยหรอ?" ผมขับรถเข้าไปแต่โดยดี แต่ก็ไม่วายถามน้องชายต่อ.
"พี่คิดลุงเฝ้าประตูจะปล่อยให้คนแปลกหน้าเข้าไปโดยที่ไม่ดูหน้าหน่อยหรอ? พี่ก็ออกจะเป็นคนฉลาดทำไมแค่นี้คิดไม่ได้นะ"
"หงุดหงิดอยู่เลยไม่ทันคิด"
"เอ้า! ขับไปๆ"
กลับมาที่คิวโฟของเรา.
"พ่อคุยกันแล้วนะ พ่อกับคุณลุงก็เป็นเพื่อนสนิทกันมานาน พ่อก็เลยคิดว่า ถ้าจะฝากลูกสาวไว้กับครอบครัวใหม่ในอนาคตของลูก ก็อยากให้เป็นครอบครัวของคุณลุงเขา เพราะพ่อเชื่อว่าพวกเขาจะต้องรักลูกเหมือนเป็นลูกสาวอีกคนแน่ๆ"
ฉันนั่งนิ่งฟังบทสนทนาของคุณพ่อกับคุณที่คุยกันแล้วหัวเราะชอบใจกัน.
"หนูว่ายังไงล่ะลูก คิวโฟ?" คุณลุงเอ่ยถามฉัน พร้อมกับสายตาคุณพ่อที่คาดคั้นคำตอบจากฉัน.
"หนู ยังไม่เคยเจอหน้าคนๆนั้น เลยยังให้คำตอบไม่ได้ค่ะ" แม้ว่าฉันจะตอบไปอย่างงั้น แต่ในใจฉันก็รู้ดี ว่าตัวเองไม่สามารถเลือกได้อยู่แล้ว.
"อ้อ ถ้าเรื่องนั้นไม่ต้องห่วง เดี๋ยวก็เจอกันแล้ว" คุณลุงตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ใจดี แล้วท่านก็มองนาฬิกาไป.
"พ่อครับ อยู่ที่นี่รึเปล่า?" เสียงชายหนุ่มดังก้องห้องโถงมาจากทางเข้า ทำให้ทุกคนหันไปมองกันเป็นตาเดียว รวมถึงฉันด้วย.
สิ่งที่ฉันพบก็เป็นสิงมีชีวิตเพศผู้ยืนสองขา ตัวสูงๆ หน้าตาก็เอี่ม...คิดว่าพอใช้ได้ และก็คิดว่าคงไม่แย่นักถ้าจะต้องใช้ชีวิตโดยการตื่นมาเจอหน้าผู้ชายคนนี้ทุกวันอย่างน้อย ก็ไม่ขี้เหร่จนทนดูไม่ได้.
(นั้นเป็นเพียงความคิดในหัวของคิวโฟนะทุกคน ความจริงแล้ว ลักษณะของชายหนุ่มจะเป็นคนที่มีร่างกายสูง หุ่นดีสมส่วน ผิวขาวเนียน หน้าตาหล่อเหลาเป็นเอกลักษณ์ จมูกโด่งได้รูปทรงสวย ดวงตาคมเข้ม ขนตายาวแบบที่ผู้หญิงเองยังต้องอิจฉา รีมฝีปากเปันทรงกระจับเล็กไม่ชัดเจน แต่เป็นสีชมพูอ่อนน่าจุ๊บ อ๊ะ! ปล่อยให้คิวโฟพูดต่อดีก่วา!😊)
ฉันมองหน้าเขาโดยที่ไม่ได้มีปกติกิริยาอะไรเป็นพิเศษ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะดูตกใจมากเมื่อได้พบหน้าฉัน เขายืนนิ่งตาค้างนานประมานนาทีได้.
"อ้าว ซูชิ แซลม่อน มาถึงแล้ว มานี้เร็ว" คุณลุงเรียกลูกชายทั้งสองมานั่งร่วมวงคุยกันด้วย.
แต่สิ่งที่ฉันสนใจ ดันเป็นชื่อของพวกเขา.
'ซูชิ กับ แซลม่อน สงสัยคุณลุงกับคุณป้าคงจะชอบอาหารญี่ปุ่นมาก'
ฉันคิดในใจไปก็เผลออมยิ้มไป จนคุณพ่อทัก
"แหม่ พอเจอหน้าก็ถูกใจเลยใช่มั้ย แบบนี้ทางเราก็ไม่มีปัญหาแล้วล่ะมั้ง" คุณพ่อคิดเอง เออเองเป็นตุเป็นตะ แต่ฉันก็ไม่อยากจะขัดใจพ่อ ยังไงซะ หัวใจของฉันมันก็ว่างเปล่าอยู่แล้ว.
"นี่มันเรื่องอะไรกันหรอครับ?"ชายหนุ่มที่ฉันเองก็ไม่รู้ว่าคนไหนชื่ออะไร ถามขึ้นมาด้วยความสับสน.
"ซูชิ วันนี้พ่ออยากจะแนะนำให้ลูกรู้จัก นี่หนูคิวโฟ ว่าที่คู่หมั้นของลูก" คุณลุงผายมือชี้มาทางฉันเพื่อแนะนำตัว.
"หะ!?" ซูชิร้องอุทานทำหน้าตาสับสน มองหน้าฉันสลับกับมองหน้าคุณลุง.
"เดี๋ยวสิครับพ่อ..."ซูชิ พยายามแย้ง แต่ก็ไม่ทันพูดจบโดนคุณลุงแย่งพูดเสียก่อน.
"พ่อรู้ พวกลูกจะต้องไปกันได้ด้วยดีแน่ๆ นับจากนี้ไปก็ค่อยๆทำความรู้จักกันซะนะ" คุณลุงพูดไปก็ตบไหล่ลูกชายไป.
"แต่ว่าผม...แล้วฝาแฝดอีกคนล่ะ?" คำที่เขาพูดออกมาก็ทำให้ฉัน ต้องสตั้นไปนิดนึง.
"แฝดอีกคนหรอ?" คุณลุงถามทวนด้วยความสงสัย.
"คุณซูชิ ฉันขอคุยกับคุณเป็นการส่วนตัวได้มั้ยคะ?" ฉันยืนขึ้นมองเขาด้วยสายตาที่บังคับให้เขายอมไป.
"เชิญค่ะ" ฉันผายมือเชิญให้เขาไปคุยกับฉันข้างนอก.
แล้วเขาก็ยอมเดีนตามฉันมาแต่โดยดี.
"มีอะไรหรอ?" เขาเดีนออกมาถามฉันเสียงอ่อย.
"นายคงจะชอบ โมนะ ใช่มั้ย?"ฉันยิงคำถามทันทีโดยที่ไม่สนใจคำถามของเขาเลย.
เขาทำหน้าจริงจังแล้วตอบฉันทันว่า...
"ถึงพวกเธอจะหน้าตาเหมือนกัน แต่ฉันก็ดูออก ฉันหมั้นใจแน่ๆว่าคนที่ฉันชอบคือโมนะ ไม่ใช่เธอ"
"แล้วโมนะ ชอบนายหรอ?" ดูเหมือนว่าคำถามของฉันจะทำให้เขาชะงักไป.
"โมนะคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตฉัน เพราะฉะนั้น..." ฉันพันมมือไหว้ผู้ชายที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับฉัน จนเขาเองก็มีท่าทีที่งงเป็นไก่ตาแตก.
"ฉันขอร้อง อย่ายุ่งกับโมนะ"
"เฮ้ๆ ต้องทำขนาดนี้เลยหรอ?" ซูชิรีบพุ่งมาจับมือฉันแยกออก.
"นายคงยังไม่รู้สินะ" ฉันเงยหน้ามองหน้าเขาที่ตอนนี้อยู่ใกล้ฉันมากๆ.
"อะไรละ?"
"โมนะน่ะ มีแฟนแล้วนะ"
"โถเอ้ย...ก็บอกแค่นี้ก็ได้มั้ยล่ะ ทำไมต้องถึงขั้นมาไหว้กันด้วย"
เขาบ่นเหมือนเขาเข้าใจทุกอย่าง แต่ก็ไม่ใช่ เขาไม่ได้เข้าใจอะไรเลย.
"ฉันยอมรับนะว่าฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน แต่ถึงฉันจะชอบโมนะมากๆ แต่ฉันก็ไม่เลวพอถึงขั้นจะไปแย่งเขามานะ นี่เธอเห็นฉันเป็นคนเลวร้ายขนาดนั้นเลยหรอเนี่ย...#(-(-)&@2(99(€•£{¶" เขาบ่นยาวๆจนฉันเรี่มรู้สึกรำคาญแล้วแล้วสิ แต่หน้าตาฉันก็นิ่งไม่แสดงออกอะไรเลย.
"นี่..." ฉันเอ่ยแทรกตอนเขาพูด
"อะไรอีกล่ะทีนี้?" เขาถามฉันด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ทั้งๆที่คนที่ควรหงุดหงิดมันคือฉัน
แต่ฉันก็ไม่ต่อปากต่อคำกับเขา แล้วก็เหลือบมองที่มือฉันแทน ให้เขาได้รู้ตัวว่า เขาจับมือฉันนานเกีนไปแล้ว.
"อะ...ขอโทษ" เขารีบหันหลังให้ฉันและเตรียมจะเดีนกลับเข้าไปในบ้าน แต่อยู่ดีๆก็อยุดแล้วหันมาคุยกับฉัน.
"แล้วเรื่องของเราล่ะ จะเอายังไงดี?" นั้นคือคำถามของเขา
"ฉันยังไงก็ได้"
"เอาจริงดิ ไม่คิดจะคัดค้านหน่อยหรอ? หรือ...หรือว่าเธอจะชอบฉันเข้าแล้ว?"
"ฉันไม่เคยสนใจสิ่งมีชีวิตเพศผู้ ฉันสนใจแค่ครอบครัวของฉันเท่านั้น."
"โอ้โห...ดูเรียก" เขาทำหน้าตะลึงกับ คำศัพท์ที่ฉันเรียกผู้ชายอย่างเขาว่าสิ่งมีชีวิตเพศผู้.
เขาดูเหมือนไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดกับฉัน เลยเลือกที่จะเดีนกลับเข้าไปในบ้าน แต่ก็อยุดเดีนอีกแล้ว.
แล้วเขาก็กลับมา เดีนมาหาฉันแล้วจูงมือฉันเข้าบ้านไปด้วย.
เมื่อกลับมาพบกับคุณพ่อคุณลุงอีกครั้ง เขาก็ปล่อยฉัน แล้วทำสีหน้าจริงจัง.
"เรื่องหมั้น ขอเวลาผมคิดอีกหน่อยนะครับ"
"อะไรกัน ไม่ชอบลูกสาวของลุงหรอ?" คุณพ่อถามซูชิด้วยสีหน้าดูเศร้าทิพย์.
ส่วนในใจของฉันก็ยิ้มไปเรียบร้อยแล้ว ในเมื่อฉันไม่สามารถปฏิเสธได้ ก็ให้อีกฝ่ายปฏิเสธแทนซะก็สิ้นเรื่อง.
"ไม่ใช่ครับ ผมอยากจะทำความรู้จักกับเธอให้มากก่วานี้ก่อนครับ" คำตอบของซูชิ ทำให้ฉันรู้สึกดิ่งลงเหว.
โถเอ้ย! คิดว่าจะได้หนีพ้นแล้วเชียว ไหงมาพูดแบบนั้น ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ต้องถูกจับคู่แบบนี้ไปเลยน่ะสิ.
.
.
.
.....ติดตามตอนต่อไป
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 12
Comments