จู่ๆรูปปั้นของผมก็กลายเป็นหนุ่มหล่อ(omegaverse)
ซินเทียร์ เป็นโอเมก้าที่มีใบหน้าแสนมีเสน่ห์ชวนให้ผู้คนที่พบเหลียวหลังกลับมามองซ้ำ แต่บัดนี้ร่องตาลึกโทรมบ่งบอกถึงความอ่อนล้าจากการทำงานอย่างหนัก
ริมฝีปากที่เคยแดงและเรื่อน่าจูบ กำลังเบะปากคว่ำลง บึ้งตึงเหมือนคนหงุดหงิดอะไรบางอย่าง
กลุ่มผมสีทองสวยที่ซินเทียร์แสนจะรัก กลับยุ่งเหยิงชี้ฟูเหมือนคนพึ่งตื่นนอน แล้วยิ่งสวมเสื้อตัวหลวมโครกยิ่งทำให้ตัวของซินเทียร์เล็กลงไปอีก
ดีแลนด์ อัลฟ่าหนุ่มเพื่อนสนิทดีกรีประธานบริษัทค่ายหนังยักษ์ใหญ่ถึงกับกลัดกลุ้มเสียจนยิ้มไม่ออก เขาแค่ไปทำงานต่างประเทศเพียงสามเดือน แต่เพื่อนคนสวยของเขาเปลี่ยนไปมากจนเขาตกใจไปไม่ถูก
" ซินเกิดอะไรขึ้นกับนายเนี่ย " ดีแลนด์นิ่งไปหลายวิก่อนจะหลุดออกจากภวังค์แล้ววิ่งไปหาเพื่อนตัวเล็กที่กำลังนั่งเหม่อลอยมองภาพในวาดในผ้าใบของตนเอง
" อ้าว ? ดีนมาตอนไหน " ดวงตากลมโตค่อยๆหันมามองเพื่อนสนิทด้วยความฉงน ยิ่งมองใกล้ๆดีแลนด์ก็ยิ่งสังเกตเห็นใต้ตาคล้ำที่ได้มาจากการอดนอนของซินเทียร์
" นี่ทำงานหามรุ่งหามค่ำอีกแล้วเหรอ " ดีแลนด์ปัดเส้นผมที่ปรกดวงตาของซินเทียร์ออกเพื่อให้เห็นใบหน้าของเพื่อนตัวเล็กชัดๆ
" เป็นเรื่องปกติของเด็กศิลป์นี่นา " ซินเทียร์ยิ้ม แต่ดีแลนด์ก็สังเกตเห็นความอ่อนล้าในดวงตากลมโตคู่นั้น
" ไม่ต้องมายิ้มเลย แล้วเป็นญาติกับหมีแพนด้าหรือไงตาดำขนาดนี้ แล้วนี่กินอะไรหรือยัง " ดีแลนด์ถามไปเท่านั้นแหละ เพราะจำนวน แก้วกาแฟที่วางอยู่ไม่ห่าง เป็นสิบแก้วบ่งบอกว่าเพื่อนตัวเล็กของเขาดื่มเพียงกาแฟเท่านั้น
" จะบ่นหรือจะถามก็เอาสักอย่างสิ " ซินเทียร์ว่าก่อนจะหัวเราะออกมา ซึ่งเสียงหัวเราะของคนตัวเล็กกังวานใสราวกับเสียงระฆังแก้ว
" แต่ก่อนอื่นไปอาบน้ำก่อนเลย เดี๋ยวจะพาไปข้างนอก " ดีแลนด์ที่ทนกับสภาพเพื่อตัวเล็กไม่ไหว ถึงกับเอ่ยปากไล่ไปอาบน้ำ
ซินเทียร์กลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ เพราะไม่อยากออกจากสตูดิโอของตนเอง เขายังวาดรูปไม่เสร็จและไม่อยากจะออกไปจากที่นี่
แต่ซินเทียร์ก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะได้รับสายตากดดันมาจากเพื่อนตัวสูงของตนเอง ซินเทียร์ถอนหายใจอย่างปลงๆก่อนจะลุกออกไป
เมื่อไร้เงาของคนตัวเล็ก ดีแลนด์จึงค่อยๆเดินเก็บของที่วางระเกะระกะอยู่ทั่วพื้น เขานึกในใจพวกประติมากร จิตรกรทุกคนนี่ชอบวางของไปทั่วจนรกแทบไม่มีทางเดิน เหมือนซินเทียร์หรือเปล่านะ
แต่ดีแลนด์ ก็เพิ่งสังเกตว่าจำนวนผ้าใบที่วางอยู่บนพื้นล้วนมีภาพที่ซินเทียร์วาดเอาไว้ มีทั้งยังไม่เสร็จและภาพที่เสร็จแล้ว
แต่ทุกภาพก็จะเป็นภาพของชายผู้หนึ่ง ซึ่งดีแลนด์ไม่เคยเห็น ใบหน้าของเขาถ้าหากจะบอกว่าเป็นใบหน้าของลูกรักพระเจ้าคงไม่ผิด
ไม่ว่าจะดวงตา ปากหรือจมูก ทุกอย่างลงตัวเหมือนพระเจ้าบรรจงปั้น จนเขาไม่สามารถละสายตาได้ ถ้าเป็นอัลฟ่า ก็คงเป็นอัลฟ่าที่ยากจะหาใครมาเปรียบ
และเมื่อหันไปยังมุมห้องเขาก็พบแท่งหินอ่อนมีตำหนิขนาดใหญ่สูงราว 180 ซม วางอยู่ไม่ไกลนัก และเค้าโครงของหินก็ถูกแกะสลักไปมากกว่าสามสิบเปอร์เซ็น ซึ่งก็ดูเหมือนภาพวาดที่ซินเทียร์วาดค้างไว้ นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้ซินเทียร์ ไม่ได้หลับ ไม่ได้นอนสินะ
ถ้าซินเทียร์แกะสลักรูปปั้นนี้เสร็จคงขายได้หลายร้อยล้านปอนด์สเตอร์ลิงเป็นแน่
หลังจากซินเทียร์ อาบน้ำสระผมเรียบร้อย เขาก็พาเพื่อนตัวเล็กออกมาตัดผมข้างนอก ดีที่ช่วงนี้เป็นช่วงหน้าร้อน ลอนดอนก็ชื่อขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่สภาพอากาศร้อนที่สุดและหนาวที่สุดของอังกฤษอยู่แล้ว จึงทำให้เพื่อนตัวเล็กของเขาไม่งอแงที่จะอาบน้ำก่อนมาข้างนอก
และหลังจากแปลงโฉมเสร็จ ซินเทียร์ก็กลับมาเป็นสภาพเดิม ก่อนที่เขาจะบินไปดูงานที่ต่างประเทศ ดวงหน้าสะสวยราวกับตุ๊กตามีชีวิต กำลังเพลิดเพลินกับการกินอาหารบนโต๊ะ ยิ่งมองยิ่งเพลินตา
" นี่ซิน ระหว่างที่ฉันไม่อยู่เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า " ซินเทียร์ที่กำลังจะเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำถึงกับชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะส่ายหน้ากลับไปเบาๆ
แต่สายตาของซินเทียร์ก็สะท้อนถึงความรู้สึกภายใน โดยไม่ต้องเอ่ยปากพูด ดีแลนด์จ้องมองราวกับจะอ่านทะลุเข้าไปในจิตใจ แต่ซินเทียร์ก็หลบสายตาและทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
" พ่อนายมาอีกแล้วใช่มั้ย " ซินเทียร์ไม่ต้องตอบ เขาก็รู้อยู่แล้วว่าต้องใช้แน่ๆ ตาแก่นั่น นอกจะไม่ทำอะไรแล้วยังเป็นผีพนันชอบมารีดไถเงินจากเพื่อนตัวเล็กของเขาเป็นประจำ
ทั้งที่เขาให้เงินก้อนไปหลายครั้งแล้ว และให้เลิกยุ่งกับเพื่อนตัวเล็ก แต่มันก็ไม่เลิกแถมเอาเงินไปผลาญกับการพนันเสียหมด
" เท่าไหร่ " ดีแลนด์ถามด้วยความหงุดหงิด
" เราจัดการเองได้ นี่ภาพก็ใกล้เสร็จแล้ว " ซินเทียร์ตอบ ซึ่งคนตัวเล็กก็ตอบแบบนี้ทุกครั้ง แต่ภาพของซินเทียร์ขายไม่ค่อยดีนัก เพราะไม่ใช่แนวที่ตลาดต้องการ และเงินที่ได้มาไม่พอที่จะเลี้ยงตัวเองและใช้หนี้ให้พ่อ
เขาอยากจะช่วยแต่อีกฝ่ายก็ไม่เคยจะรับเงินเลย แต่ถึงจะรับไป เมื่อได้เงินจากการขายภาพมาแล้วซินเทียร์ก็นำมาคืนทุกครั้ง
" 100,000 ปอนด์สเตอร์ลิง พอมั้ย " ซินเทียร์ยกมือห้ามทันทีและแสดงออกชัดว่าไม่เห็นด้วย
" อย่าเลย เรารู้นะว่าตอนนี้บริษัทดีนกำลังมีปัญหา เราไม่อยากรบกวนแล้ว " ดีแลนด์หันขวับมาเพราะนึกว่าหูตนเองได้ยินผิดเพี้ยนไป
" แค่นี้ดีนก็ช่วยเรามากพออยู่แล้ว อีกอย่างเจ้าหนี้เขาก็ให้เวลาถึงสิ้นเดือนนี้ เรายังมีเวลาหาเงิน... " แต่านเดือนนี้ก็แปลว่าเหลือเวลาอีกไม่ถึงเดือนแล้ว ราวกับถูกเข็มทิ่มแทงในใจของดีแลนด์ที่ไม่สามารถช่วยเหลือเพื่อนตัวเล็กได้
ซึ่งความจริงที่ว่า บริษัทของเขากำลังประสบปัญหาเพราะว่าหนังภาพยนต์ฟอร์มยักษ์ เรื่องที่ลงทุนทำไปไม่ประสบความสำเร็จและจมทุน ซึ่งเรื่องหนึ่งหมดไปกว่า สิบล้านปอนด์สเตอร์ลิง(ประมาณ 442,100,293 บาท)
" ถ้ามันไม่มากไปฉันก็พอจะช่วยได้ " ซินเทียร์ส่ายหน้าและกอดความอัปยศอดสูเอาไว้กับตนเอง
" ไม่ต้องห่วงเราหรอก แค่นี้ดีนก็เหนื่อยมากแล้ว รีบกลับไปบริษัทเถอะ เราก็จะกลับไปทำงานแล้ว แล้วก็ขอบคุณที่เลี้ยงนะ เราไปก่อนแล้วเจอกัน "
ซินเทียร์กล่าวก่อนจะก้าวเท้าฉับๆหนี โดยไม่หันหลังกลับมามองเพื่อนตัวสูงที่แสดงสีหน้าหมองคล้ำเป็นทุกข์อีก
ดีแลนด์จ่ายเงินและมุ่งตรงไปยังบาร์สถานที่ประจำที่เพื่อนเขาเป็นเจ้าของคลับ เพื่อสืบหาสาเหตุที่เพื่อนตัวเล็กของเขาเป็นแบบนี้
" แหม หน้าหงิกมาเชียว " ทันทีที่เปิดประตูเข้ามายังห้อง VVVIP ก็พบใบหน้าเข้มสมชายชาตรีของโจอี้เพื่อนสนิทสมัยไฮสคูล โดยมีสาวสวยประกบอยู่ทั้งสองข้าง
ถึงโจอี้จะไม่ใช่อัลฟ่า แต่จุดเด่นของคือสันกรามที่ชัดเจนและผิวสีเข้ามคล้ามแดด ความเจ้าชู้และกวนตีนของโจ้อี้ทำให้ใครต่อใครต่างก็หลงรัก
" ออกไปก่อนนะ " โจอี้ไล่สาวนั่งดริ๊งในห้องออกไปเพื่อจะได้คุยกับเพื่อนหนุ่มที่ทำหน้าไม่รับแขก แต่ก่อนจะออกไปก็ชิงหอมแก้มเนียนนุ่มของสาวๆคนละครั้ง
" ทำหน้าแบบนี้เพราะเรื่องซินหรือเรื่องหนังที่จ่มทุนวะ " โจอี้ถามจี้จุด ดีแลนด์ชำเลืองมองด้วยสายตาเฉือดเฉือน ทำให้เพื่อนตัวใหญ่หัวเราะออกมาเสียงดังลั่นห้องด้วยความถูกใจ
" เกิดอะไรขึ้นกับซินตอนฉันไม่อยู่ นายได้ไปดูตามที่ฉันบอกรึเปล่า " ก่อนที่ดีแลนด์จะเดินทางไปต่างประเทศเขาก็ได้ฝากฝังให้เพื่อนตัวสูงดูแลซินเทียร์ให้ แต่สภาพที่เขาเจอซินเทียร์เมื่อเช้า อีกฝ่ายดูไม่ได้เลยสักนิด
" ก็ไปดูตลอดนั่นแหละ แต่มึงก็รู้ซินเทียร์ไม่ฟังใครหรอกนอกจากมึง "
" นอกจากนั้นล่ะ ไอ้แก่นั่นมันมาขโมยเงินอีกแล้วใช่ไหม "
" ใช่ แต่ไม่ต้องห่วง ครั้งนี้กูไปช่วยทันซินเลยไม่โดนทำร้ายร่างกาย แต่มันมีเรื่องที่น่าห่วงอยู่เรื่องนึงนะ " โจอี้บอกก่อนจะยกเบียร์ขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด
" เรื่องน่าห่วงคืออะไร " ดีแลนด์นั่งเหยียดหลังตรงอัตโนมัติ เพราะลุ้นกับคำตอบของโจอี้
" รอบนี้ไอ้แก่นั่นมันติดหนี้ 2,000,000 ปอนด์สเตอร์ลิง " ดวงตาคมเบิกกว้างอย่างตกใจกับยอดเงินที่พ่อของซินเทียร์ติดหนี้ไว้
*ประมาณ 88,420,058 บาท
อย่างที่บอกไว้ว่าเขาให้เงินพ่อของซินไปหลายรอบแล้ว โดยไม่ให้ซินรู้ และแต่ละครั้งไอ้แก่นี่ก็มักจะนำเงินไปเล่นการพนันเสียหมดแต่ครั้งนี้มันมากเกินไป และบริษัทของเขากำลังเกิดปัญหา จนไม่สามารถที่จะนำเงินมากขนาดนั้นมาช่วยเพื่อนตัวเล็กได้
" และนั่นยังไม่หมด ไอ้แก่นั่นจะเอาซินไปขัดดอกก่อน " ดวงตาโชนไปด้วยความเดือดดาลเมื่อฟังจบ และขว้างปาข้าวของบนโต๊ะด้วยแรงอารมณ์
" อย่าเพิ่งโมโหไป เจ้าหนี้ของไอ้แก่นั่นเป็นคนดี เขาให้เวลาซินเทียร์ถึงวันจันทร์นี้ ถ้าหาเงินมาคืนไม่ได้ก็ไปอยู่กับเขา "
" ว่าไงนะ! ไหนซินบอกว่าสิ้นเดือนไง แล้วไหงเหลือแค่ถึงวันจันทร์นี้!! " เขาฟิวส์ขาด ทุบโต๊ะเสียงดังอย่างโมโห
" ซินคงโกหกให้มึงสบายใจ " ดีแลนด์พยายามข่มอารมณ์ที่พุ่งพ่านขึ้นมาให้สงบ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งกระแทกบนโซฟาอย่างแรง
" กูจะทำยังไงดี " ใบหน้าหล่อตี๋ของดีแลนด์ บ่งบอกถึงความซับซ้อนยากจะอธิบาย
" แต่งงานไง "
" อะไร!? เวลานี้ยังมาเล่นอีก "
" กูพูดจริง แต่งงานกับคนรวยแล้วปัญหาทุกอย่างจะถูกแก้ เงินที่จมทุนหรือช่วยซินเทียร์มึงก็จะทำได้ " โจอี้แนะนำด้วยท่าทางสบายๆ ยุคนี้มันขับเคลื่อนด้วยเงิน ถ้าเรามีปัญหาเพราะเงินเราก็ต้องใช้เงินแก้ปัญหา โลกนี้มันก็เป็นแบบนี้แหละ
" กูรู้ว่ามึงรักซิน แต่ยังไงมึงก็ลองไปคิดดูแล้วกัน ความรักมันกินไม่ได้ แล้วมันก็ช่วยเหลืออะไรใครไม่ได้เหมือนกัน " โจอี้กล่าวทิ้งท้ายก่อนจะเดินไปตบบ่าเพื่อนสนิทเบาๆให้กำลังใจแล้วเดินออกไปจากห้อง ทิ้งดีแลนด์ไว้เพียงคนเดียว
ในขณะเดียวกัน ซินเทียร์กำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่ที่ตรอกข้างสตูดิโอที่ดีแลนด์ซื้อให้เป็นของขวัญวันเรียนจบ ควันบุหรี่ถูกพ่นออกมา พร้อมกับเสียงถอนหายใจ
ดวงตาที่เคยสดใสตอนนี้กลับหม่นหมองเหมือนคืนไร้ดาว ซินเทียร์เคยเป็นคนที่ไม่ชอบบุหรี่และให้ดีแลนด์กับโจอี้เลิกบุหรี่ แต่ตอนนี้กลับเป็นเขาเองที่สูบบุหรี่ที่ตนเกลียดนักหนา
กลิ่นขมๆของบุหรี่ติดอยู่ในลมหายใจ แต่มันก็ไม่ขมและทรมานเท่ากับชีวิตของเขาตอนนี้เลยสักนิด
" มีเรื่องทุกข์ใจเหรอคุณปติมากร " ซินเทียร์สดุ้งแรงจนเผลอปล่อยบุหรี่ในมือตกสู่พื้น เขารีบเหยียบมันทันทีเมื่อเห็นว่าบุคคลที่เข้ามาทักเขาเป็นหญิงชราผู้หนึ่ง
หญิงชราคนนี้สวมผ้าคลุมปิดทั้งร่างกายเห็นเพียงใบหน้าและดวงตาเพียงเล็กน้อย
" คุณยายรู้จักผมด้วยหรอครับ " ซินเทียร์ถามด้วยความประหลาดใจ เขาเรียนวิจิตรศิลป์มาก็จริง แต่เขาชอบวาดรูปมากกว่างานปั้นเพราะงานมันเสร็จเร็วและหาเงินได้เร็วกว่า แต่ผลงานของเขาก็เป็นเพียงผลงานธรรมดาไม่ได้โดดเด่น จนกว่าจะมีคนเข้ามาทักแบบนี้
" นี่หนูเคยได้ยินตำนานพิกมีเลียนหรือเปล่า ตำนานประติมากรผู้หลงรักรูปปั้นของตนเองน่ะ "
......................
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments