ระหว่างที่การโจมตีของงูเหลือมเขาเดียวอยู่ห่างจากฉินหยางไปเพียงไม่กี่ชุ่น ทันใดนั้นจู่ ๆ กลางหน้าผากของเขาก็เรืองแสงสีเหลืองทองสว่างวาบ สาดแสงเจิดจ้าไปทั่วบริเวณจนไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดได้ ก่อนที่เเสงสีเหลืองทองดังกล่าวจะหรี่แสงลงปรากฏให้เห็นจุดแสงจาง ๆ ที่มีสัญลักษณ์ เป็นรูปดวงอาทิตย์ปรากฏขึ้นที่กลางหน้าผากของฉินหยาง ดวงตาที่เคยหม่นแสงกลายเป็นนิ่งสงบราวกับเป็นอีกตัวตนหนึ่ง
พรึ่บบ!!! ตู้ม!!!
การโจมตีของงูเหลือมเขาเดียวพุ่งไปยังฉินหยางด้วยความรวดเร็ว หลังจากการโจมตีดังกล่าวปะทะตัวฉินหยางเข้าอย่างจังก็เกิดเสียงระเบิดดังกึกก้อง ฝุ่นควันพัดโขมงตะหลบอบอวนไปทั่วบริเวณ
ฟ่ออออ!!
งูเหลือมเขาเดียวมองเห็นสายฟ้าของตนโจมตีถูกฉินหยางอย่างจังก็ร้องออกมาด้วยความดีอกดีใจ มันคิดในใจว่าอย่างไรเสียฉินหยางก็ไม่มีทางรอดจากการโจมตีของมันในครั้งนี้อย่างแน่นอน....แต่ว่า....
พรึ่บบบบ!!
เสียงเปลวเพลิงลุกโหมพัดกระพืออย่างรุนแรงก่อนจะเกิดลมกรรโชกพัดฝุ่นควันออกเผยในเห็นฉินหยางในตอนนี้ร่างกายถูกห่อหุ้มไปด้วยเปลวเพลิงสีเหลืองทองดุจเป็นอาภรณ์ศักดิ์สิทธิ์ ดวงตาสีดำแวววาวเปล่งประกายคมกล้ามองตรงไปด้านหน้าด้วยความสงบนิ่งราวกับบ่อน้ำโบราณ กลางหน้าผากปรากฏเป็นสัญลักษณ์รูปดวงอาทิตย์กำลังเรืองเเสงจาง ๆ เส้นผมสีดำขลับปลิวไสวไปตามแรงลม ใบหน้าหล่อเหลาราวกับเป็นร่างจุติของเทพเจ้ากำลังยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนด้วยสภาพไร้รอยขีดขวนราวกับไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ จากการโจมตีเมื่อสักครู่
ฉินหยางยืนนิ่งไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมาก่อนเขาจะวาดฝ่ามือทำสัญลักษณ์บางอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย เขาประกบนิ้วชี้และนิ้วกลางเข้าหากันตั้งไว้ระดับหน้าอกทันใดนั้นบอลเพลิงทั้ง 5 ลูก ก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเขาอีกครั้งแต่ในครั้งนี้บอลเพลิงทั้ง 5 เริ่มหมุนวนโคจรอย่างรวดเร็วก่อนจะเริ่มแปลสภาพและเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์เป็นกระบี่เพลิงที่มีขนาดยาวราว 20 ชุ่น ในเวลาต่อมา
นั่นมัน "กระบี่เพลิง....?? หรือว่า...ปะ..เป็นเจ้าจริง ๆ?"
เสวี่ยอวี๋ที่อยู่กลางอากาศร้องอุทานขึ้นด้วยความไม่อยากจะเชื่อ สีหน้าของเขายังแฝงความตกตะลึงกับสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าในตอนนี้
ฉินหยางยังคงยืนเงียบอยู่ดังเดิม เขาวาดเเขนพร้อมสะบัดนิ้วมือชี้ไปทางด้านของงูเหลือมเขาเดียว ทันใดนั้นกระบี่เพลิงทั้ง 5 เล่ม ก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรงก่อนพุ่งทะยานไปตามทิศทางที่ฉินหยางชี้นิ้วไปด้วยความรวดเร็วจนไม่สามารถมองตามได้ทัน
งูเหลือมเขาเดียวเห็นการโจมตีของฉินหยางพุ่งเข้ามา แต่มันไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบโต้ใด ๆ กระบี่เพลิงทั้ง 5 เล่ม ก็บินทะลุผ่านด้วยความรวดเร็วพริบตาเดียวร่างกายของมันก็ถูกกระบี่เพลิงฟาดฟันกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในทันที แต่กระบี่เพลิงทั้ง 5 เล่ม ยังคงไม่หยุดเพียงแค่นั้นมันพุ่งทะยานต่อไปเรื่อย ๆ จนไปปะทะเข้ากับภูเขาหินด้านหลังของงูเหลือมเขาเดียวจนเกิดเสียงระเบิดดังกึกก้อง
ตู้ม!! ตู้ม!! ตู้ม!! ตู้ม!! ตู้ม!!
เกิดเสียงระเบิดดังต่อเนื่องติดต่อกัน 5 ครั้ง ทำให้ภูเขาทั้งลูกสั่นสะเทือนเศษก้อนหินน้อยใหญ่ร่วงกราวลงพื้นราวกับห่าฝน พื้นดินสั่นสะเทือนเกิดฝุ่นละอองปลิวกระจายคละคลุ้งจนฝุ่นดินปกคลุมไปหลายจั้ง
หลังจากเหตุการณ์สงบลงฝุ่นดินที่ลอยคละคลุ้งก็ถูกแรงลมพัดปลิวไปไกลอีกครั้งเผยให้เห็นร่างของฉินหยางที่สวมอาภรณ์เพลิงศักดิ์สิทธิ์ยังคงยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนก่อนร่างกายที่ยืนนิ่งราวกับท่อนไม้จะหันใบหน้ามองไปยังร่างโปร่งใสของเสวี่ยอวี๋และยกยิ้มมุมปากบาง ๆ ขึ้นดวงตาสีดำแวววาวคู่นั้นจ้องมองเสวี่ยอวี๋ด้วยแววตาลึกซึ้งดูราวกับต้องการจะเอ่ยบางสิ่งแต่เขาก็ยังคงยืนนิ่งไม่ได้เอ่ยสิ่งใด
เสวี่ยอวี๋ที่มองเห็นดวงตาคู่งามคู่นั้นก็เหมือนได้ย้อนกลับไปในอดีตอันแสนคุ้นเคยเขาเองก็กำลังจะกล่าวบางสิ่งแต่จู่ ๆ เปลวเพลิงที่เคยเป็นอาภรณ์ปกคลุมร่างกายของฉินหยางก็ดับวูบไป สัญลักษณ์รูปพระอาทิตย์ตรงกลางหน้าผากของเขาเองก็ค่อย ๆ เลือนหายไปอย่างช้า ๆ ร่างกายของฉินหยางเริ่มโอนเอนไปมาก่อนสติสุดท้ายของเขาจะเลือนหายไปและกำลังจะทิ้งตัวล้มลง
"ฉินลู่หยาง"
เสวี่ยอวี๋ตะโกนชื่อใครบางคนออกมาเขาที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศรีบหายตัวไปก่อนจะมาปรากฏตัวอีกครั้งใกล้ ๆ ฉินหยางเขาสะบัดเเขนไปทางด้านหน้าเบา ๆ พลังโปร่งใสบาง ๆ แผ่ปกคลุมร่างกายของฉินหยางที่กำลังจะล้มลงไว้ได้อย่างทันท่วงที เสวี่ยอวี๋สะบัดฝ่ามือขึ้นอีกครั้งร่างกายหมดสติของฉินหยางก็ค่อย ๆ ลอยขึ้นกลางอากาศก่อนจะเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ มาหยุดอยู่ตรงหน้าของเขา
เขายืนนิ่งจ้องมองสำรวจร่างกายของฉินหยางพร้อมทั้งใช้จิตสัมผัสกวาดผ่านไปทั่วร่างกายของฉินหยางแต่ก็ไม่สามารถตรวจพบสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกก่อนหน้าได้อีก
"เป็นเจ้างั้นสินะ...ถ้าเช่นนั้นร่างนี้ก็คงเป็นร่างที่เจ้าจุติกลับมาใหม่จริง ๆ อย่างที่ข้าคิด แต่ดูเหมือนจิตวิญญาณและความทรงจำเมื่อครั้งอดีตจะยังคงไม่ได้หลอมรวมกับร่างนี้...."
เสวี่ยอวี๋กล่าวสันนิฐานขึ้นมากับตัวเองเสียงเบา ฟังจากคำพูดของเสวี่ยอวี๋ดูเหมือนร่างกายนี้ของฉินหยางจะเป็นร่างจุติใหม่ของใครบางคนในอดีตเมื่อนานมาแล้ว เขายืนจ้องมองใบหน้าอันหล่อเหลาที่ในตอนนี้กำลังหมดสติไม่รู้สึกตัว เสวี่ยอวี๋ยืนนิ่งอยู่สักพักก่อนจะกระทำบางสิ่งที่น่าตกตะลึงออกมา
เสวี่ยอวี๋ค่อย ๆ โน้มตัวลงก่อนจะประทับริมฝีปากบางลงที่ริมฝีปากของฉินหยางอย่างอ่อนโยน แต่ไม่นานเขาก็ผละตัวออกมา สีหน้าของเขากลับมาเรียบนิ่งดังเดิมอย่างรวดเร็ว เขาจ้องมองใบหน้าของฉินหยางอยู่สักพักก่อนจะโอบอุ้มร่างของฉินหยางไว้ในอ้อมกอดและพุ่งลอยตัวเข้าไปยังถ้ำที่จะใช้เป็นสถานที่พักอาศัยในป่ามรณะแห่งนี้
หลังจากเข้ามาในถ้ำแล้วเสวี่ยอวี๋หันหน้ากลับแล้วประกบนิ้วชี้และนิ้วกลางเข้าด้วยกันสะบัดไปมาราวกับกำลังเขียนตัวอักษรอยู่กลางอากาศก่อนจะพูดออกมาเสียงขรึมว่า...
ผนึก"
ทันใดนั้นปากทางเข้าถ้ำก็ดูเหมือนจะมีม่านพลังสีฟ้าขาวก่อตัวขึ้นปิดกั้นทางเข้าออกถ้ำเอาไว้
"เท่านี้ก็คงเพียงพอ"
เสวี่ยอวี๋กล่าวขึ้นกับตัวเองเสียงเบา ๆ ก่อนจะหาสถานที่ดี ๆ เพื่อวางฉินหยางลง หลังจากทะยานเข้ามาในถ้ำได้ไม่นานและพบสถานที่ที่พอจะใช้พักอาศัยได้เขาก็สะบัดมือวางฉินหยางลงอย่างนุ่มนวล
สภาพของฉินหยางในตอนนี้เนื้อตัวเต็มไปด้วยร่องรอยบาดแผล เสื้อผ้าขาดสะบักสะบอมบางแห่งมีรอยเลือดเปรอะเปื้อนจนอยู่ เสวี่ยอวี๋มองดูสภาพของฉินหยางอยู่ไม่นานก่อนจะพลิกฝ่ามือหงายขึ้น ทันใดนั้นก็มีผ้าผืนหนึ่งปรากฏออกมาจากที่ใดก็สุดจะรู้ได้อยู่บนฝ่ามือของเขา
ร่างโปร่งใสของเสวี่ยอวี๋ก้มตัวคุกเขาลงและบรรจงปลดเปลื้องเสื้อผ้าของฉินหยางออกอย่างช้า ๆ เขาค่อย ๆ ปลดเสื้อผ้าแต่ละชั้นออกอย่างช้า ๆ เริ่มเผยให้เห็นแผงอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอันสมบูรณ์แบบสมเป็นชาย แต่ผิวพรรณที่เคยขาวเนียนในตอนแรกกลับเต็มไปด้วยร่องรอยบาดแผลและคราบเลือดแห้งกรังเปรอะเปื้อนทั่วร่างกาย
เสวี่ยอวี๋ปลดเปลื้องเสื้อผ้าท่อนบนของฉินหยางออกจนหมดก่อนจะวาดฝ่ามือและพึมพำบางอย่างเขาพลิกฝ่ามือหงายขึ้นพลังปราณโดยก็รอบเริ่มหมุนวนรวมตัวกันขึ้นบนฝ่ามือของเขาเกิดเป็นหยดน้ำกำลังค่อย ๆ หมุนวนหลอมรวมกันอย่างช้าืๆื หยดน้ำค่อย ๆ รวมตัวกันมากขึ้น ๆ จนกลายเป็นบอลน้ำที่มีขนาดเท่าลูกฟุตบอลลูกหนึ่ง บอลน้ำลูกนั้นลอยตัวอยู่กลางอากาศได้เองอย่างน่าประหลาด
เสวี่ยนำผ้าผืนก่อนหน้าจุ่มลงไปในบอลน้ำก่อนจะบิดผ้าให้หมาดแล้วนำไปเช็ดทำความสะอาดร่างกายของฉินหยาง เขาค่อย ๆ บรรจงเช็ดทำความสะอาดอย่างช้า ๆ ไล่จากคอลงมาที่หน้าอกก่อนจะเช็ดบริเวณหน้าท้องตามลำดับ
หากคนธรรมดาคนอื่น ๆ เดินมาเห็นเหตุการณ์เหล่านี้เข้า พวกเขาจะพบเพียงว่ามีผ้าผืนหนึ่งกำลังขยับถูไปมาตามร่างกายของเด็กหนุ่มที่นอนหมดสติเปลือยท่อนบนอยู่ ดูแล้วช่างเป็นสถานการณ์ที่วิกลยิ่ง เขายังคงเช็ดทำความสะอาดร่างกายไปพรางมองหน้าฉินหยางไปพราง
เขามองใบหน้าอันหล่อเหลาของเด็กหนุ่มที่นอนหลับตาอยู่ตรงหน้าอย่างไม่กระพริบตา แววตาของเขาเผยความเว้าวอนและและรอคอยออกมา เขามองเห็นใบหน้าอันเลือนลางของชายอีกคนทับซ้อนกันกับฉินหยาง ชายคนดังกล่าวสวมชุดสีดำทับด้วยชุดคลุมสีแดงใบหน้าหล่อเหลามีความคล้ายคลึงกับฉินหยางอยู่ 8-9 ส่วน กลางหน้าผากมีตราสัญลักษณ์รูปพระอาทิตย์แบบเดียวกับที่ปรากฏเมื่อตอนที่ฉินหยางต่อสู้กับงูเหลือมเขาเดียวอย่างไม่ผิดเพี้ยน แตกต่างกันเพียงชายคนดังกล่าวมีอายุราว ๆ 25-26 ปี ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาแสดงถึงความเป็นผู้สูงศักดิ์และอยู่เหนือผู้คน เป็นคนที่ทนงค์ในศักดิ์ศรีและมีความกล้าหาญ
ดวงตาสีฟ้าคู่งามของเขาจู่ ๆ ก็มีน้ำตาไหลซึมออกมา ภายในแววตาของเขาเผยความรู้สึกซับซ้อนออกมายากจะอธิบาย มันมีทั้งความคิดถึง โกรธแค้น เจ็บปวดและการเฝ้ารอคอย เขาจ้องมองหน้าของฉินหยางอยู่อย่างนั้นแต่ไม่ยอมเอ่ยสิ่งใดจนเวลาผ่านไประยะเวลาหนึ่ง ฉินหยางที่นอนแน่นิ่งก็เริ่มกระดิกนิ้ว และลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ....
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 29
Comments