ตอนที่ 3 กายาศักดิ์สิทธิ์และเพลิงศักดิ์สิทธิ์ชำระล้าง

ตึก ๆ !!ตึกๆ !!

วินาทีเเรกที่ฉินหยางจ้องมองไปยังใบหน้าของไป่ เสวี่ยอวี๋เป็นครั้งแรกจู่ ๆ หัวใจภายในส่วนลึกของจิตวิญญาณของเขาก็กรีดร้องคร้ำครวญราวกับได้พบคนรักที่พลัดพรากจากกันมานานแสนนาน

แต่พริบตาต่อมาความรู้สึกเหล่านั้นกลับหายวับไปราวกับความฝัน

"นี่มันอะไร"

จู่ ๆ ฉินหยางก็

"ข้าร้องไห้งั้นรึ เหตุใดข้าจึงร้องไห้กัน?" 

"แล้วก็ความรู้สึกเมื่อครู่มันอะไร ทำไมชั่วพริบตาหนึ่งข้าถึงรู้สึกราวกับหัวใจของข้ากำลังร่ำไห้อาวรณ์"

จู่ ๆ คำถามมากมายก็ถาโถมเข้าหาจนไม่สามารถประมวณเหตุการณ์ใด ๆ ได้

"เด็กน้อย เจ้าเป็นอะไรของเจ้า?"

ไป่ เสวี่ยอวี๋ที่สังเกตเห็นอาการแปลก ๆ ของฉินหยางจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย

"อ่อ ปะ เปล่า ไม่มีอะไร ข้าแค่รู้สึกล้านิดหน่อยน่าจะเพราะก่อนหน้าที่ข้าใช้ปราณมากไป"

"เช่นนั้นรึ"

เสวี่ยอวี๋หลี่ตาลงเล็กน้อย เขาหยุดชะงักไปสักครู่ก่อนเอ่ยต่อว่า

"​​​​​หากไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว  เช่นนั้นเรามาคุยเรื่องข้อตกลงของเราก่อนหน้านี้กันดีหรือไม่? 

เสวี่ยอวี๋เอ่ยเปลี่ยนบทสนทนา

"แต่ก่อนอื่นเพื่อความสนิทสนมเจ้าสามารถเรียกข้าว่า เสวี่ยอวี๋ เฉย ๆ ก็ได้ยังไงซะหลังจากนี้เจ้ากับข้าก็ต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน ส่วนเจ้าข้าจะเรียกเจ้าว่า เด็กน้อยละกัน "

"เด็กน้อย? เหตุใดชื่อข้าถึงเป็นเด็กน้อยได้กัน"

ฉินหยางกล่าวขึ้นด้วยความขุ่นเคืองเล็ก ๆ 

"เด็กน้อยมันไม่ดีอย่างไร เจ้าก็ดูยังเป็นเด็กมันไม่ดีเช่นนั้นรึ"

ฉินหยางกรอกตามองบนกับคำพูดของเสวี่ยอวี๋ แต่เขาก็ขี้เกียจจะโต้เถียงจึงเอ่ยตอบไปว่า

"เอาเถอะ จะเรียกข้าว่าอย่างไรก็แล้วแต่เจ้า แล้วเราจะคุยเรื่องข้อตกลงกันได้หรือยัง"

ฉินหยางถามขึ้น

"เด็กเจ้านี่ช่างเข้าใจอะไรได้ง่ายดี!!

"งั้นมาเข้าเรื่องกันเลย...เนื่องจากเจ้าได้ช่วยข้าออกมาจากผนึกได้สำเร็จ ตามข้อตกลง ข้าจะติดตามเจ้าไปเพื่อรักษาอาการป่วยของเเม่เจ้าเป็นการแลกเปลี่ยน แต่ก่อนอื่นเรามาคุยเรื่องข้อตกลงที่เหลือก่อนหน้ากันเสียก่อน"

"อื้ม เชิญเจ้าว่ามาได้เลย" 

ฉินหยางพูดพร้อมผายมือ

"ก่อนหน้านี้ข้าเคยบอกเจ้าว่าหลังจากเจ้าช่วยข้าออกจากผนึกได้แล้ว เจ้าจะต้องช่วยข้าตามหาเศษเสี้ยวดวงจิตที่เหลือของข้า เจ้ายังจำได้หรือไม่"

เสวี่ยอวี๋กล่าวถาม

"แน่นอน ข้าจำได้"

ฉินหยางพยักหน้าตอบรับ

"เช่นนั้นก็ดี ความจริง แล้วดวงจิตของข้านั้นถูกแบ่งออกทั้งหมด 7 ดวง ซึ่งข้าเองก็ไม่รู้ว่าเศษเสี้ยวดวงจิตอีก 6 ดวงนอกจากข้าจะถูกผนึกอยู่ที่ใดบ้าง แต่ข้าสามารถรับรู้ถึงทิศทางลาง ๆ ของดวงจิตแต่ละดวงได้ แต่หากจะสัมผัสเพื่อให้รับรู้ตำแน่งที่ชัดเช่นข้าต้องอยู่ห่างจากดวงจิตดวงอื่นในระยะไม่เกิน100 ลี้เท่านั้น แต่ข้าในตอนนี้เป็นสิ่งมีชีวิตรูปแบบจิตข้าไม่สามารถเคลื่อนออกห่างจากไข่มุกจิตวิญญาณได้เกิน 20 ลี้ ไม่เช่นนั้นดวงจิตของข้าจะไม่สามารถคงสภาพเอาไว้ได้และดวงจิตอาจแตกสลายไปในที่สุด ดังนั้นข้าจำเป็นต้องพึ่งพาเจ้าให้ช่วยตามหาดวงจิตอีก 6 ดวงที่เหลือหลังจากนี้"

เสวี่ยอวี๋กล่าวจบก็กวาดมือไปด้านข้างลูกแก้วโปร่งใสที่ลอยอยู่กลางอากาศจู่ ๆ ก็หมุนวนเคลื่อนตัวมาหยุดอยู่ในฝ่ามือของเขาหลังจากนั้นจึงส่งต่อให้แก่ฉินหยางพร้อมเอ่ยว่า

"รับไว้สิ สิ่งนี้คือ "ไข่มุกจิตวิญญาณ" เป็นของวิเศษสำหรับกักเก็บจิตวิญญานมันสามารถเป็นสถานที่อาศัยของดวงจิตแม้ว่าบรรยากาศด้านในจะไม่ได้น่าอยู่อะไรมากก็เถอะ แต่เอาเถอะหลังจากนี้ไปข้าจะอาศัยอยู่ในนี้ชั่วคราว แต่หากเจ้ามีเรื่องเร่งด่วนอันใดเจ้าสามารถสื่อสารกับข้าได้ตลอดเวลาเพียงเพ่งความคิดไปที่มัน"

ฉินหยางยืนฟังที่เสวี่ยอีกพูดอย่างตั้งใจ แต่ในขณะที่ เสวี่ยอวี๋ ก้มลงและยืนมือมอบไข่มุกจิตวิญญาณให้เขา จู่ ๆ ความรู้สึกประหลาดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง หัวใจของเขาเต้นแรงความรู้สึกอาลัยอาวรณ์และคิดถึงผุดขึ้นมาอีกครั้ง เขาพยายามข่มความรู้สึกดังกล่าวไว้ก่อนจะยื่นมือไปรับไข่มุกลูกนั้นมาอย่างรวดเร็ว ไม่นานความรู้สึกที่เหล่านั้นก็หายลับไปราวกับเข้าสู่กันลับไหลอีกครั้ง 

"นะ นี่มันเป็นอะไรกันเหตุใดข้าถึงรู้สึกว่าข้ารัก เมื่ออยู่ต่อหน้าชายคนนี้ เขาพยามควบคุมอารมณ์อีกครั้งก่อนจะทำหน้าเคร่งขรึมจริงจังแล้วพูดว่า

"ข้าไม่มีปัญหาหากเจ้าคิดว่าข้าจะสามารถทำได้ ข้าก็จะลองทำดู แต่ก่อนอื่นข้าขอถามได้หรือไม่ว่าเหตุใดเจ้าถึงถูกผนึก ทั้งยังถูกผนึกด้วยวิธีการแยกจิตวิญญาณออกมาเป็นส่วนเพื่อผนึก แม้ว่าข้าจะยังไม่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับโลกของผู้วิเศษมากนัก แต่ข้าก็มั่นใจว่าการที่ถึงขั้นต้องแยกส่วนจิตวิญญาณเพื่อผนึกมันต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดา ๆ ทั่วไปอย่างแน่นอน"

ฉินหยางเอ่ยถามด้วยสีหน้าจริงจัง เสวี่ยอวี๋ได้ยินคำถามก็มีสีหน้ามืดครึ้มขึ้นมาทันทีเขาแอบหลี่ตาลงเผยจิตสังหาออกมาเล็กน้อยจนแทบจะไม่สังเกตเห็นก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีหน้าเจ็บปวดและถอนหายใจกล่าวว่า"

"จริง ๆ แล้วตัวข้าในอดีตเมื่อนานมาแล้ว เคยทำให้ 7 ตระกูลใหญ่แห่งแดน ๆ หนึ่งต้องขุ่นเคือง ในตอนนั้นตระกูลใหญ่ทั้ง 7 ได้ส่งคนมาหวังจะสังการข้าให้สิ้น แต่พวกมันก็ต้องผิดหวัง ข้าต่อสู้กับพวกมันนานกว่า7วัน7คืน แต่พวกมันทั้ง 7 ตระกูลกลับเล่นวิธีสกปรกแอบรอบใช้อาวุธพิษเล่นงานข้า แม้ว่าพิษนั้นจะไม่ส่งผลถึงชีวิตข้า ณ ตอนนั้นแต่นั่นก็ทำให้ข้าสูญเสียพลังไปหลายส่วน พวกมันถึงใช้จังหวะที่ข้าอ่อนแอใช้วิชาลับแยกดวงจิตของข้าออกทั้งหมด 7 ส่วน และนำไปผนึกไว้ในสถานที่ต่าง ๆ

เสวี่ยอวี๋เล่าเรื่องราวในอดีตของเขาให้ฉินหยางฟัง ด้วยท่าทีเจ็บปวดและแค้นใจ ฉินหยางเห็นดังนั้นจู่ ๆ ในใจก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาราวกับเป็นเขาเองที่ถูกกระทำ

"เอ่อ เสวี่ยอวี๋ ข้าขอโทษ ข้าไม่น่าถามคำถามนี้"

ฉินหยางกล่าวขอโทษด้วยความรู้สึกผิดจากใจ เสวี่ยอวี๋ โบกมือปัดไปมาก่อนจะพูดว่า

"ข้าไม่เป็นไรเจ้าไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง เอาล่ะเรื่องนี้ค่อยว่ากันทีหลังก่อนอื่นข้าต้องบอกเจ้าให้รับรู้เกี่ยวกับโลกของผู้วิเศษให้เจ้าได้รับรู้เพราะในโลกของผู้วิเศษนั้นพลังและความแข็งแกร่งคือทุกสิ่ง หากเจ้าแข็งแกร่งมากพอเจ้าจะสามารถเปลี่ยนผิดเป็นถูก เปลี่ยน เปลี่ยนถูกเป็นผิด ตามแต่เจ้าพอใจ"

เสวี่ยอวี๋เปลี่ยนหัวข้อสนทนา เขาเริ่มอธิบายเรื่องโลกขอผู้วิเศษให้ฉินหยางฟังว่า

ในโลกของผู้วิเศษมีการแบ่งลำดับขั้นการฝึกตน 7 ขั้น คือ

...ระดับดูดซับลมปราณ ...

...ระดับหลอมรวมลมปราณ...

...ระดับผู้ใช้ปราณแท้จริง...

...ระดับเหนือมนุษย์ ...

...ระดับราชันย์มนุษย์ ...

...ระดับจักรพรรดิมนุษย์ ...

และสุดท้ายระดับบรรพชนมนุษย์เป็นขอบเขตที่สูงที่สุดบนโลกมนุษย์ระดับที่สูงขึ้นไปกว่านี้จะเป็นผู้วิเศษที่อยู่ในแดนที่สูงขึ้นซึ่งเรื่องนี้เจ้าจะรู้เองในภายหลัง"

เสวี่ยอวี๋หยุดไปสักพักก่อนพูดต่อว่า

"ในแต่ละระดับพลังของแต่ละขั้นจะเเบ่งแยกย้อยออกเป็น 9 ขั้น ก่อนจะทะลวงสู่ขั้นถัดไปได้

นอกเหนือจากนี้ในหมู่ผู้ฝึกตนต่างคนต่างเกิดมากับพรสวรรค์ที่แตกต่างกันซึ่งจะมีมากมีน้อยนั้นขึ้นอยู่กับระดับของรากวิญญาณที่มีติดตัวมาแต่กำเนิด ได้แก่

รากปราณระดับมนุษย์

รากปราณระดับพสุธา

รากปราณระดับสวรรค์

และรากปราณระดับตำนาน

ส่วนคนที่เกิดมาไม่มีรากปราณก็จะไม่สามารถฝึกตนได้เป็นได้เพียงมนุษย์ทั่ว ๆ ไปยังไงละ

แต่มันก็ยังมีกรณียกเว้นอยู่คือนอกเหนือจากผู้มีพรสวรรค์แล้วก็ยังมีคนจำพวกหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในกฏเกณฑ์ทั่วไป คนเหล่านี้ตอนเกิดมาดูราวกับเป็นมนุษย์ธรรมดา ๆ ทั่วไปคนหนึ่งบางคนเกิดมาไม่มีแม้แต่รากปราณ แต่หากวันใดวันหนึ่งพลังของคนเหล่านี้ตื่นขึ้น พวกเขาเหล่านี้จะกลายเป็นผู้ที่อยู่เหนือผู้คนทั้งมวลเป็นผู้ที่เกิดมาพร้อมกับกายาศักดิ์สิทธิ์และถือครองพลังศักดิ์สิทธิ์ ตัวอย่างเช่นเจ้า"

"ผู้ถือครองกายาศักดิ์สิทธิ์และเพลิงชำระล้างศักดิ์สิทธิ์"

พูดถึงตรงนี้ไปเสวี่ยอวี๋ก็หยุดชะงักไปชั่วขณะ

ฉินหยางได้อินก็รู้สึกตกตะลึงในใจเพราะไม่คิดว่าตนจะเป็นผู้ถือครองกายาศักดิ์สิทธิ์เพลิงชำระล้าง แต่ก็ก็ไม่ได้เอ่ยเเทรกถามแต่อย่างใดเขาจะคงยืนนิ่งตั้งใจฟังสิงที่เสวี่ยอวี๋หกล่าวต่อ

หลังจะหยุดชะงับไปขณะหนึ่งเสวี่ยอวี๋ก็พูดต่อว่า

"กายาศักดิ์สิทธิ์คือร่างกายที่สุดแสนวิเศษมีไว้เพื่อบรรจุพลังศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนั้นกายาศักดิ์สิทธิ์ยังมีความสามารถในการดูดซับปราณฟ้าดินได้ด้วยตัวเอง ทำให้ผู้ที่ครอบครองมีระดับฝึกตนก้าวล้ำกว่าคนทั่ว ๆ ไปอย่างเทียบไม่ติด

แต่ถึงอย่างนั้นกายาศักดิ์สิทธิ์ก็ถือว่ายังมีจุดอ่อน คือ หากผู้ที่ครอบครองกายาศักดิ์สิทธิ์ปล่อยให้ระดับพลังของตนเลื่อนระดับเร็วเกินไปก็อาจจะส่งผลเสียต่อรากฐานการฝึกตนได้ ส่วนพลังศักดิ์สิทธิ์คือพลังปราณทั่วไปที่มีปราณศักดิ์สิทธิ์รวมอยู่ หากนำพลังธาตุเดียวกันมาปะทะกันฝั่งที่ไม่มีปราณศักดิ์จะไม่ใช่คู่ต่อสู้แม้แต่น้อย

เเต่เนื่องจากคนเหล่านี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่เหนือขอบเขตของฟ้าดินทำให้ทุกครัังที่เลื่อนระดับขั้นจะต้องรับทัณสวรรค์ที่รุนแรงกว่าผู้ฝึกตนทั่วไปหลาย 10 เท่า หากไม่มีการเตรียมตัวเพื่อรับทัณฑ์สวรรค์นั้นก็คงเดาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้ไม่ยาก เสวี่ยอวี๋พูดพร้อมปลายตามองไปยังฉินหยาง ฉินหยางที่กำลังตั้งใจฟังก็ต้องขมวดคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยและเอ่ยถามว่า

"เช่นนั้นเจ้าหมายความว่าก่อนที่จะเลื่อนขั้นแต่ละขั้นข้าต้องกดพลังไว้ให้พลังเสถียรเสียก่อนงั้นสินะ"

"ไม่เลว เจ้าเข้าใจได้ถูกต้องแต่นั่นก็ถูกเพียงครึ่งเดียวนอกจากจะกดพลังไว้แล้วเจ้าต้องบีบอัดมันยิ่งเจ้าบีบอัดได้หนาแน่นเพียงใดพลังปราณของเจ้าก็จะยิ่งมันคงและทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น"

"แต่ไม่ใช่ว่าพูดแล้วจะสามารถทำได้อย่าดูถูกพลังของกายาศักดิ์สิทธิ์แม้ในยามเจ้าหลับหากเจ้ากดพลังไม่อยู่แล้วเผลอทะลวงระดับตอนยังไม่ได้เตรียมพร้อมนั่นก็เป็นหายนะเช่นกัน"

เสวี่ยอวี๋เงียบไปอีกครั้งก่อนจะพูดต่อว่า

"เเต่เจ้ายังไม่ต้องกังวลไป ปกติแล้วผู้ที่จะชักนำทัณฑ์สวรรค์ได้ต้องก้าวเข้าสู่ระดับราชันย์มนุษย์เสียก่อนหรือต่อให้เป็นผู้อยู่เหนือกฏฟ้าดินก็ต้องก้าวเข้าสู่ระดับเหนือมนุษย์เพราะฉะนั้นยังมีเวลาให้เจ้าได้เตรียมตัวอีกมาก"

ฉินหยางที่ได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้ว เขาพึ่งก้าวเข้าสู่วัฏจักรของผู้ฝึกตนไม่นานเรียกได้ว่าแค่คืนเดียว การที่เขาต้องมาย่อยข้อมูลเหล่านี้แน่นอนว่าสำหรับเด็ก 15 ปี อาจรู้สึกหนักหนา ก่อนจะเอ่ยถามบางอย่างขึ้นมา

" เสวี่ยอวี๋ เจ้าพอจะรู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้ามีพลังระดับใด"

จู่ ๆ ฉินหยางก็โพร่งคำถามขึ้นมา

"ดูดซับลมปราณขั้นที่ 5 เจ้าสามารถรับรู้ด้วยตัวเองได้ลองตั้งสมาธิเพ่งจิตไปมีาจุดตันเถียรของเจ้า"

ฉินหยางลองทำตามที่ เสวี่ยอวี๋พูดในทันทีหลังจากที่เขาเพ่งจิตสมาธิไม่นานเขาก็พบเข้ากับเเสง 5 จุดที่มีเปลวเพลิงห่อหุ้มอยู่ภายในจุดตันเถียรของเขา

"เจ้าเห็นแล้วใช่หรือไม่ กลุ่มก้อนพลังนั่นคือปราณฟ้าดินที่เจ้าดูดซับเข้าไปยังไงล่ะ โดยระดับดูดซับลมปราณขั้นที่ 5 คือการดูดซับปราณฟ้าดินเข้าไปกักเก็บในร่ากาย จนสามารถกักเก็บในร่างกายได้ 5 จุด ซึ่งผู้วิเศษระดับดูซับลมปราณทั่วไปต้องดูดซับและกักเก็บปราณฟ้าดินให้ได้ 9 จุด หรือที่เรียกว่าดูดซับลมปราณขั้นที่ 9 จึงจะสามารถยกระดับพลังถัดไป "

เสวี่ยอวี๋พูดแทรกขึ้นมาในขณะที่ฉินหยางกำลังเพ่งสมาธิ ฉินหยางครุ้นคิดตามคำพูดของเสวี่ยอวี๋และดูเหมือนเขาจะคิดอะไรได้บางอย่างจู่ ๆ เขาก็นั่งลงขัดสมาธิ

"เจ้าคิดจะทำอะไร"

เสวี่ยอวี๋เอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัยในการกระทำของฉินหยาง

"ข้าอยากจะทดลองทำบางสิ่งบางอย่าง"

พูดจบฉินหยางก็หลับตาลงเข้าสู่สมาธิ เขาเพ่งจิตสมาธิไปยังกลุ่มก้อนปราณทั้ง 5 จุด ก่อนจะควบคุมให้พลังงานทั้ง 5 จุด หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว

"บีบอัด!!"

ฉินหยางตะโกนขึ้นในใจ กลุ่มก้อนปราณทั้ง 5 จุด ที่อยู่ภายในตันเถียรของฉินหยางเริ่มมีการขยับเคลื่อนไหวช้า ๆ และต่อมาไม่นาน ก้อนปราณทั้ง 5 จุด ก็หมุนวนโคจรเป็นวงกลมและค่อย ๆ เคลื่อนที่เข้าหากันมากขึ้นเรื่อย ๆ

เสวี่ยอวี๋สังเกตเห็นพลังงานภายในร่างกายของฉินหยางเขาถึงกับตกตะลึงและอุทานอยู่ในใจ

"บ้าน้า..เด็กนี่ อย่าบอกว่าเขาคิดจะ.."

ยังไม่ทันที่เสวี่ยอวี๋จะตกตะลึงเสร็จจู่ ๆ กลุ่มก้อนปราณ 4 ใน 5 ก้อนก็ถูกฉินหยางบีบอัดจนกลายเป็นก้อนเดียวกันได้ในที่สุด ก้อนปราณที่ถูกบีบอัดเปล่งแสงสว่างจ้ามากกว่าก้อนปราณทั่วไปหลายเท่า

แต่ยังไม่จบเเค่นั้นฉินหยางพยายามจะรวมอีกก้อนเข้าไป แต่ทำอย่างไรเขาก็ไม่สามารถทำให้มันหลอมรวมได้ ถึงอย่างนั้นในตอนนี้ร่างกายของฉินหยางก็เกิดการเปลี่ยนแปลงมหาศาล กลิ่นอายรอบตัวเขาที่แผ่ออกมานั้นแตกต่างจากตอนก่อนหน้าอย่างชัดเจน หลังจากพยายามอยู่นานก้อนปราณก็ไม่ยอมหลอมรวมเข้ากับส่วนที่เหลือ ฉินหยางก็ลืมตาขึ้น เขาจึงถอนหายใจออกมาก่อนบ่นพึมพำว่า

"น่าเสียดายจริง ๆ ข้าไม่สามารถหลอมรวมทั้ง 5 จุด ให้เป็นก้อนเดียวได้ไม่เช่นนั้นละก็…"

เสวี่ยอวี๋ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ฉินหยางมาตลอดได้ยินสิ่งที่ฉินหยางพูดก็ได้แต่เบ้ปากพูดขึ้นในใจ

"เด็กนี่มันปีศาจชัด ๆ แค่คิดจะทำก็ทำได้เลยงั้นรึ..ก็พอเข้าใจว่าเป็นตัวตนเหนือกฏฟ้าดินแต่แบบนี้มันเกินไปหน่อยหรือไม่ต่อให้เป็นข้าในยุคนั้นก็ไม่สามารถทำได้ถึงขนาดนี้อย่างมากข้าคงบีบอัดเข้าด้วยกันได้เพียง 2 ลูกเท่านั้น แต่นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดียิ่งเด็กคนนี้แข็งแกร่งเท่าไหร่ก็จะยิ่งเป็นผลดีต่อแผนการของข้าในอนาคตมากเท่านั้น"

เสวี่ยอวี๋พึมพำกับตัวเอง ก่อนจะยกยิ้มมุมปากราวกับมีแผนการในใจ

"อะ แฮ่ม ยอดเยี่ยมมากทำได้ไม่เลว เจ้าช่างทำให้ข้าประหลาดใจจริง ๆ หากเป็นเช่นนี้เรื่องการตามหาดวงจิตที่เหลือของข้าคงไม่ต้องห่วงอันใดแล้ว"

ฉินหยางได้ยินก็ทำเพัยงยกยิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดตัดบทขึ้นว่า

"เอาละข้าว่าถึงเวลาที่จะต้องเดินทางกลับบ้านแล้วข้ารู้สึกเป็นห่วงแม่ข้าเหลือเกินหวังว่าจะสามารถรักษาอาการป่วยของแม่ข้าได้"

ฉินหยางพูดพร้อมลุกขึ้น

"เรื่องนั้นเจ้าไม่ต้องกังวล"

เสวี่ยอวี๋ตอบกลับเพียงสั้น ๆ ก่อนจะสบัดแขนเสื้อเบา ๆ หนึ่งครั้งร่างของเขาค่อย ๆ เลือนรางและหายไปอย่างสมบูรณ์

"ข้าจะอาศัยอยู่ในไข่มุกนี้เพื่อคงพลังวิญญาณไว้ หากเจ้ามีปัญญาใดเพียงเพ่งสมาธิมาที่ไข่มุก เจ้าจะสามารถคุยกับข้าได้"

เสียงของ เสวี่ยอวี๋ที่หายตัวไปดังขึ้นมาอีกครั้งจากไข่มุกในมือของฉินหยาง

ฉินหยางพยักหน้าตอบตกลง เขาเก็บไข่มุกจิตวิญญาณเข้าไว้บริเวณอกเสื้อแล้วออกเดินทางกลับเพื่อไปรักษาแม่ของตน...

เลือกตอน
1 ตอนที่ 1 กำเนิดอัจฉริยะเหนือสวรรค์
2 ตอนที่ 2 การพบพานแห่งโชคชะตา
3 ตอนที่ 3 กายาศักดิ์สิทธิ์และเพลิงศักดิ์สิทธิ์ชำระล้าง
4 ตอนที่ 4 เคล็ดวิชาลับต้องห้าม
5 ตอนที่ 5 เรื่องราวในอดีต
6 ตอนที่ 6 การต่อสู้ระดับบรรพชนมนุษย์
7 ตอนที่ 7 เมืองเฉินตู่
8 ตอนที่ 8 หลงอี้เทียน
9 ตอนที่ 9 ความลับของพลังที่ซ่อนอยู่
10 ตอนที่ 10 คำคืนสองต่อสองภายในห้องน้ำใต้แสงจันทร์
11 ตอนที่ 11 ฝันเปียก (NC)
12 ตอนที่ 12 เม็ดยาปราณแท้ระดับสุดยอด
13 ตอนที่ 13 พลังของเม็ดยาปราณแท้ระดับสุดยอด
14 ตอนที่ 14 อาหารอันโอชะ
15 ตอนที่ 15 ป่ามรณะ
16 ตอนที่ 16 กิ้งก่ายักษ์อำพราง
17 ตอนที่ 17 งูเหลือมเขาเดียว
18 ตอนที่ 18 การต่อสู้
19 ตอนที่ 19 ตัวตนที่ตื่นขึ้น
20 ตอนที่ 20 เรื่องราวเมื่อ 1,200 ปีก่อน (การต่อสู้)
21 ตอนที่ 21 อดีตเมื่อ 1,200 ปีก่อน (รักแรกพบ)
22 ตอนที่ 22 อดีตเมื่อ 1,200 ปี (เรื่องราวก่อนจากกัน 1,200 ปี)
23 ตอนที่ 23 เริ่มการฝึกฝน ปะทะ หมีพสุธา
24 ตอนที่ 24 บ่อน้ำบำรุงวิญญาณและหมอกปราณลวงตา 1
25 บ่อบำรุงวิญญาณและหมอกปราณลวงตา (จบ)
26 ตอนที่ 25 ปะทะแมงมุมปีศาจ (1)
27 ตอนที่ 25 ปะทะแมงมุมปีศาจ (จบ)
28 ตอนที่ 26 หนทางใหม่ที่ต้องก้าวเดิน (1)
29 ตอนที่ 26 หนทางใหม่ที่ต้องก้าวเดิน (จบ)
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 29

1
ตอนที่ 1 กำเนิดอัจฉริยะเหนือสวรรค์
2
ตอนที่ 2 การพบพานแห่งโชคชะตา
3
ตอนที่ 3 กายาศักดิ์สิทธิ์และเพลิงศักดิ์สิทธิ์ชำระล้าง
4
ตอนที่ 4 เคล็ดวิชาลับต้องห้าม
5
ตอนที่ 5 เรื่องราวในอดีต
6
ตอนที่ 6 การต่อสู้ระดับบรรพชนมนุษย์
7
ตอนที่ 7 เมืองเฉินตู่
8
ตอนที่ 8 หลงอี้เทียน
9
ตอนที่ 9 ความลับของพลังที่ซ่อนอยู่
10
ตอนที่ 10 คำคืนสองต่อสองภายในห้องน้ำใต้แสงจันทร์
11
ตอนที่ 11 ฝันเปียก (NC)
12
ตอนที่ 12 เม็ดยาปราณแท้ระดับสุดยอด
13
ตอนที่ 13 พลังของเม็ดยาปราณแท้ระดับสุดยอด
14
ตอนที่ 14 อาหารอันโอชะ
15
ตอนที่ 15 ป่ามรณะ
16
ตอนที่ 16 กิ้งก่ายักษ์อำพราง
17
ตอนที่ 17 งูเหลือมเขาเดียว
18
ตอนที่ 18 การต่อสู้
19
ตอนที่ 19 ตัวตนที่ตื่นขึ้น
20
ตอนที่ 20 เรื่องราวเมื่อ 1,200 ปีก่อน (การต่อสู้)
21
ตอนที่ 21 อดีตเมื่อ 1,200 ปีก่อน (รักแรกพบ)
22
ตอนที่ 22 อดีตเมื่อ 1,200 ปี (เรื่องราวก่อนจากกัน 1,200 ปี)
23
ตอนที่ 23 เริ่มการฝึกฝน ปะทะ หมีพสุธา
24
ตอนที่ 24 บ่อน้ำบำรุงวิญญาณและหมอกปราณลวงตา 1
25
บ่อบำรุงวิญญาณและหมอกปราณลวงตา (จบ)
26
ตอนที่ 25 ปะทะแมงมุมปีศาจ (1)
27
ตอนที่ 25 ปะทะแมงมุมปีศาจ (จบ)
28
ตอนที่ 26 หนทางใหม่ที่ต้องก้าวเดิน (1)
29
ตอนที่ 26 หนทางใหม่ที่ต้องก้าวเดิน (จบ)

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!