หลังจากที่ทั้งคู่ผ่านคืนพิธีวิวาห์ที่หวานชื่นมาแล้ว แม้ว่าเมื่อคืนจะไม่ได้มีการล่วงเกินมากกว่าการกอดและจูบ ลู่หลินก็รู้สึกโชคดีที่ผู้เป็นสามีให้เกียรติตนเอง ไม่ข่มเหงน้ำใจในวันที่เขายังไม่พร้อม ทั้งคู่ตื่นขึ้นมาด้วยความสดใส สดชื่นหลิวหยางยังคงรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในห้วงของความฝันด้วยซ้ำ ทั้งคู่ตื่นพร้อมกันอาบน้ำแต่งตัวให้กัน โดยมีลู่หลินคอยจัดการทุกอย่างให้สามี ก่อนจะจูงมือกันเพื่อไปไหว้พ่อแม่และบรรพบุรุษ
"มากันแล้วหรือ" ฮูหยินเจินค่อนข้างแปลกใจกับท่าทีของบุตรชาย เมื่อวานทำท่าเหมือนไม่อยากจะเข้าหอ แต่วันนี้คืออะไรท่าทางมีความสุขเหลือเกินนั้นมันคืออะไรกันแน่
"ท่านพ่อท่านแม่ขอรับ ข้าอาจจะเคยบอกเรื่องคนในใจของข้าบ้างแล้ว ท่านพ่อท่านแม่นี่คือลู่ลู่ที่ข้าเคยเล่าให้พวกท่านฟัง" ลู่หลินรีบทำความเคารพพ่อแม่สามีด้วยความเคารพ
"อืม..คนเราเมื่อชะตาต้องกันแล้ว อย่างไรเสียก็ไม่แคล้วคลาดกันจริงๆ วันนี้ข้าเรียกบ่าวไพร่ในเรือนออกมาจนครบแล้ว ข้าขอประกาศเอาไว้ให้พวกเจ้าทราบโดยทั่วกัน พวกเจ้าบ่าวไพร่ในเรือนจงเคารพต่อฮูหยินน้อย ให้เหมือนเคารพฮูหยินใหญ่ คำสั่งของเขาก็เท่ากับคำสั่งของข้า ใครที่คิดว่าตัวเองจะอยู่ในเรือนของข้าไม่ได้ก็จงออกไปเสีย เรือนนี้จะไม่มีวันเก็บผู้ที่ไม่เคารพต่อนาย ใครเป็นนายเป็นบ่าวพวกเจ้าคงไม่ต้องให้ข้าบอกหรอกนะ" สิ้นคำพูดของฮูหยินใหญ่ ดวงตาดุจดังนางสิงห์จ้องไปที่บ่าวรับใช้ที่คิดจะปีนเตียงบุตรชายของนาง ทำไมนางจะไม่รู้ว่าสตรีผู้นี้คิดสิ่งใดกับบุตรชายของตน
"เรื่องภายในจวนล้วนเป็นเรื่องของฮูหยินใหญ่และฮูหยินน้อย สิ่งที่พวกเจ้าพึงกระทำต่อไปทั้งสองคนจะเป็นผู้บอกพวกเจ้า ต่อไปก็จงเชื่อฟังฮูหยินน้อยไม่ต่างกับฮูหยินใหญ่ เอาละต่อไป ข้าจะพาพวกเจ้าไปไหว้บรรพบุรุษ" ทั้งหมดจึงพากันไปยังหอที่สร้างไว้สำหรับเก็บป้ายและเพื่อมีไว้ไหว้บรรพบุรุษ
"เอาละเขามาสิ ตอนนี้เจ้าคือสะใภ้ใหญ่ของตระกูลเจินแล้ว เป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ สิ่งที่เจ้าพึงกระทำก็ควรทำเสีย" หลิวหยางจูงมือลู่หลินเข้าไปด้านใน ก่อนจะคุกเข่าต่อหน้าบรรพบุรุษ มือหนาจับธูปมาจุด ก่อนจะส่งให้ร่างบาง ลู่หลินรับมาถือไว้ ก่อนที่ทั้งคู่จะกราบไหว้บรรพบุรุษ เมื่อเสร็จสิ้นพิธีก็ปักธูปลง ฉับพลันลมเย็นๆก็พัดวูบผ่านทั้งคู่ไป ราวกับรับรู้แล้ว
ทั้งคู่เดินออกจากหอไหว้บรรพบุรุษอย่างมีความสุข ลู่หลินที่อยู่ในชุดที่ขาวลายนกยูงทั้งชุดสวมกวานบ่งบอกตำแหน่งของตนเอง พร้อมกับร่างสูงที่อยู่ในชุดดำแดง ลวดลายพยัคฆ์ที่บ่งบอกถึงตำแหน่งของตน บ่าวไพร่ทุกคนต่างเห็นพ้องต้องกันว่าช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกันยิ่งนัก แต่มีผู้หนึ่งที่ไม่ยินดีเลยแม้แต่น้อย แต่นางก็ทำอะไรไม่ได้ แค่คำพูดของเจินฮูหยินก็พอจะทำให้นางรู้ตัวแล้วว่า ทุกๆการกระทำของนางเจินฮูหยินจับตามองดูอยู่เสมอ
"เอาละไปทานข้าวทานปลากันเถิด สายมากแล้ว"เสนาบดีฮุ่ยหมินเดินนำทุกคนไปยังห้องโถงของบ้าน สำรับอาหารถูกจัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว ทุกคนนั่งลงประจำตำแหน่งอย่างเรียบร้อย ประมุขของบ้านเริ่มลงมือทานอาหารก่อน ทุกคนในบ้านจึงเริ่มทานบ้าง
"ลู่ลู่เจ้าลองทานนี่ดูสิ อันนี้เป็นสิ่งที่พี่ชอบมาก" ร่างสูงคีบอาหารใส่ถ้วยให้คนรักอย่างเอาใจ
"ขอบคุณขอรับท่านพี่" ลู่หลินกล่าวขอบคุณด้วยรอยยิ้ม การกระทำนั้นยิ่งสร้างอิจฉาริษยาให้กับนางเป็นอย่างมาก คราวแรกจื่อรั่วคิดว่านางก็คงพอมีหวังบ้างเรื่องคุณชายใหญ่ เพราะยังไงฮูหยินที่แต่งเข้ามาก็คงแต่งเพียงในนาม แต่ใครจะคดเลยว่าทั้งคู่ดันเป็นคู่รักกัน คนที่อยู่ในใจของท่านแม่ทัพเสมอ ยิ่งคิดยิ่งแค้นจนทุกอย่างแสดงออกมาทางสีหน้าของนางอย่างชัดเจน ยิ่งเห็นว่าคุณชายใหญ่เอาใจใส่มันผู้นั้นมากเพียงใด ภายในใจของนางกลับเหมือนไฟที่สุ่มจนร้อนรุ่มไปหมด
"ว่าแต่พวกเจ้าตั้งใจจะมีหลานให้พวกข้ากี่คนดีล่ะ" เสนาบดีฮุ่ยหมินถามออกมาตรงนั้น จนลู่หลินหน้าแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด ตากลมสวยช้อนขึ้นมองผู้เป็นสามีที่มองมาอย่างเอ็นดู
"หึหึ ข้ากะจะมีสักสามคนขอรับท่านพ่อ" ร่างสูงพูดออกมาพร้อมกับมองคนตัวเล็กที่ยิ่งเขินอายเข้าไปใหญ่
"ทะ..ท่านพี่มันใช่เรื่องที่ต้องมาพูดตอนนี้หรือขอรับ" คนตัวเล็กพูดด้วยความเขินอาย ใบหน้างามร้อนจนแทบจะไหม้อยู่แล้ว เสียงหัวเราะของทุกคนทำให้ลู่หลินรู้สึกผ่อนคลายอย่างประหลาด
"เอาเถิดค่อยๆเป็นค่อยๆไป ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ หลานของแม่จะได้สุขภาพแข็งแรงดี" เพียงคำพูดของแม่สามีก็ทำเอาร่างบางน้ำตาคลอด้วยความตื้นตันใจ การได้รับการยอมรับมันดีแบบนี้เอง
"เอ้าๆอย่าขี้แยสิ เอาทานเยอะๆเจ้าผอมเกินไปแล้ว ส่วนเจ้านะหลิวหยางขุนเมียเจ้าให้อ้วนกว่านี้หน่อย บำรุงสะใภ้ของข้าให้ดี"
"ข้าเข้าใจแล้วขอรับท่านแม่" ร่างสูงตอบรับผู้เป็นมารดา ชายหนุ่มรู้สึกยินดีที่มารดายอมรับในตัวคนรักของเขา เมื่อมื้ออาหารจบลงทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันไป วันนี้เขาจะอยู่กับภรรยาไปอีกเจ็ดวัน ถึงจะกลับไปทำงานว่าราชการตามปกติ
"ท่านพี่ขอรับ คนนั้นนางไม่ชขอบข้าหรือ ข้าเห็นนางจ้องมองข้าตั้งแต่อยู่ที่ห้องโถงแล้ว ข้าไปทำอะไรให้นางไม่ชอบหรือเปล่าขอรับ" ร่างสูงหันไปมองตามที่คนตัวเล็กบอกทันที ตาคมมองเห็นจื่อรั่วที่มองมายังภรรยาของเขาด้วยสายตาชิงชังและโกรธแค้น เมื่อเห็นดังนั้นหลิวหยางก็เข้าใจได้ในทันทีว่า หญิงรับใช้นางนี้จะเป็นปัญหาให้เขาในอนาคตอย่างแน่นอน จื่อรั่วราวกับรู้ว่าถูกจ้องมองอยู่ นางจึงละสายตาออกจากลู่หลินก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นว่าคนที่นางหมายปอง จ้องมาที่นางด้วยสายตาที่น่ากลัวมากเพียงใด
"เอาเถิดเดี๋ยวพี่จัดการนางให้ พวกเจ้าอยู่เป็นเพื่อนฮูหยินน้อยไปก่อน เดี๋ยวพี่มานะ" ร่างสูงหันไปบอกผู้เป็นภรรยาก่อนจะเรียกจื่อรั่วให้เดินตามไป นางหันมาทำหน้าเยาะเย้ยลู่หลินก่อนจะเดินตามชายหนุ่มไป ด้วยใจที่พองโตในที่สุดคุณชายใหญ่ก็มองเห็นนางเสียที ร่างสูงพานางเดินไปยังจวนของมารดา ซึ่งจื่อ รั่วอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ นางคิดไปไกลว่านางอาจจะได้เป็นฮูหยินอีกคนของคุณชายใหญ่แน่นอน ในใจของนางคิดถึงแต่ความสุขสมหวัง ความสุขที่นางจะได้เคียงข้างคุณชายใหญ่
"ไปบอกท่านพ่อท่านแม่ว่าข้าขอเข้าพบ" บ่าวรับใช้รีบไปรายงาน ร่างสูงนำหญิงรับใช้ที่คิดอยากจะปีนขึ้นมาเป็นนายหญิงอีกคนไปเงียบๆ
"มีอะไรหรือหลิวหยาง" ผู้เป็นมารดาถามอย่างสงสัย ตาดุจดั่งแม่พยัคฆ์จ้องมองหญิงสาวที่ยืนยิ้มหวานให้ตน
"ท่านแม่ว่าบ่าวรับใช้ที่มองผู้เป็นอย่างอาฆาตมาดร้าย ท่านคิดว่าข้าควรจะเลี้ยงนางต่อไปดีหรือไม่ขอรับ" สิ้นคำถามของร่างสูง หญิงสาวที่กำลังฝันหวาน ถึงกลับหน้าซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด
"คุณชายใหญ่เจ้าค่ะ ที่ท่านเรียกข้ามาไม่ใช่ว่าท่านจะมาคุยเรื่องของข้ากับท่านหรือเจ้าค่ะ" หญิงสาวน้ำตาคลอเมื่อเห็นสายตาเย็นชานั้น ยิ่งเห็นสายตาบ่าวไพร่ในจวนด้วยกันที่มองยิ่งนางอย่างสมเพช นางก็หญิงเจ็บปวดใจ
"จื่อรั่วเอ่ยจื่อรั่ว เจ้าเอาสติปัญญาที่ไหนมาคิดว่าบุตรชายข้าจะยกย่องเจ้า ตั้งแต่ข้าไถ่ถอนเจ้าจากหอนางโลมมามันคงไม่มากพอ ที่จะทำให้เจ้าสำนึกได้เลยสินะ ว่าเจ้าควรยืนอยู่จุดใด" เจินฮูหยินตำหนินางออกมา จนหญิงสาวหน้าม่านด้วยความอับอาย
"ท่านแม่จงจัดการนางเสีย อย่าให้ข้าต้องลงมือเอง สำหรับเจ้าจงจำใส่ใจของเจ้าเอาไว้ ว่าแม้แต่ชีวิตของเจ้ายังไม่มีค่าเท่ากับฮูหยินของข้า จงเก็บดวงตาสกปรกของเจ้าเอาไว้ หากเจ้ายังคงกระทำมันอีกข้าจะควักมันออกมาเสีย" ร่างสูงเดินจากไปพร้อมกับจื่อรั่วที่ทรุดลงร้องไห้ออกมา นางไม่ดีตรงไหน ไอ้เกอผู้นั้นมันดีกว่าข้าตรงไหน
"ข้าว่าบุตรของข้าพูดชัดอยู่นะ แต่หญิงใจทรามเช่นเจ้าก็ยังไม่มีสามัญสำนึกอันใดเลย" เสียงของเจินฮูหยินเรียกสติของหญิงสาวให้กลับมา เมื่อรู้ว่าตนเองได้ทำในสิ่งที่พลาดไปเสียแล้ว
"อาซู่ส่งนางกลับไปในที่ๆนางจากมา ให้นางไปในที่ๆนางไม่อาจจะหวนกลับมาเมืองหลวงได้อีกชั่วชีวิต" สิ้นคำสั่งอาซู่ก็ให้ชายฉกรรจ์ลากตัวจื่อรั่วออกไป นางกรีดร้องขอความเมตตาอย่างสำนึกได้ว่าไม่ควรท้าทายอำนาจของเจินฮูหยิน ถึงตอนนี้นางจะเป็นภริยาของเสนาบดีฮุ่ยหมิน แต่นางก็มีสายสัมพันธ์อันดีกับฮองเฮา อำนาจที่ตระกูลเจินไม่ใช่ผู้ใดจะมองข้ามไปได้เลย
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 52
Comments