กระสือซอมบี้: การเดินทางสู่ความมืดมน

กระสือซอมบี้: การเดินทางสู่ความมืดมน

งานเลี้ยงวันเกิด

เวลา 19.18 น. แม้ว่าความมืดจะโรยตัวลงมาครอบคลุมท้องฟ้าไปแล้ว แต่ท้องฟ้าในช่วงกลางฤดูร้อนอย่างนี้ก็ยังคงมีแสงสุดท้ายเรื่อเรืองอ้อยอิ่งอยู่ที่ขอบฟ้าทางทิศตะวันตก ราวกับอาลัยอาวรณ์ไม่อยากจะลาลับจากโลกไป และความร้อนชนิดที่ชวนตับแล่บก็ยังคงไม่ผ่อนคลายลงไปเลยสักนิดเดียว แสงสว่างจากหลอดไฟถนนภายในโครงการหมู่บ้านชลัดดาวิลล์เริ่มสว่างไสวขึ้น หมอทินเพิ่งจะเลื่อนรถเข้าที่จอดเรียบร้อยหลังจากที่ขับกลับมาจากที่ทำงานด้วยอาการกระปกกระเปลี้ยเพลียแรงเต็มทน เขาไม่ได้นอนมาเป็นเวลาเกินยี่สิบสี่ชั่วโมงเข้าไปแล้ว เพราะหน้าที่การงานมันบังคับให้ต้องจำยอมและจำทน

กว่าจะแข็งใจขับรถกลับมาถึงบ้านได้นี่ก็หวิดๆ จะหลับในพุ่งเข้าใส่เสาไฟฟ้าอยู่หลายครั้ง จนถึงตอนนี้เขาแทบจะไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะเปิดสวิตช์ไฟฟ้าด้วยซ้ำ ยังดีที่เขาตัดสินใจทำให้บ้านนี้มันฉลาดเป็นสมาร์ทโฮมไปเมื่อเดือนที่แล้ว แม้ว่าจะต้องปรับเปลี่ยนอะไรหลายอย่างภายในบ้านให้สามารถเชื่อมต่อกันเพื่อให้บ้านของเขาฉลาดสมกับเป็นบ้านของแพทย์นิติเวชมือฉมังอย่างเขา และมันก็คุ้มค่า...รึเปล่านะ?! เขาชักไม่แน่ใจว่าคิดถูกหรือผิดเสียแล้วสิ เพราะสิ่งที่เขาเพิ่งจะใช้การเดาสุ่มเพื่อสั่งให้มันทำงานได้ก็คือการเปิดปิดไฟฟ้าภายในบ้านได้จากสมาร์ทโฟนเท่านั้นเอง เกือบทั้งเดือนที่ผ่านมาเขาแทบจะไม่ได้กลับบ้านเลยด้วยซ้ำ ชีวิตมีแต่งาน งานและงานเท่านั้นในช่วงที่ผ่านมานี้ ยังไม่มีเวลาว่างจะมาเรียนรู้วิธีใช้งานบ้านที่แสนจะฉลาดของเขาเลย

เขาเดินสะโหลสะเหลเข้ามาในบ้านที่สว่างไสวด้วยแสงไฟอัจฉริยะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ค่ำคืนนี้ภายในบ้านดูเงียบกว่าปกติ นั่นก็เป็นเพราะว่าไอริณ ภรรยาสาวของเขามีความจำเป็นที่จะต้องกลับไปดูแลแม่ของเธอที่ล้มป่วยลงด้วยโรคชรา และยังต้องอยู่โยงต่อไปอีกหลายวันจนกว่าน้องชายของเธอจะกลับจากธุระมารับช่วงต่อ มันเป็นเพราะเขาไม่สามารถที่จะหยุดงานได้ จึงจำเป็นต้องยอมปล่อยให้เธอกลับไปคนเดียว ตอนนี้ถึงแม้จะง่วงงุนสักเพียงใด แต่ด้วยความเคยชินกับการจัดการอาการง่วงหงาวหาวนอนอยู่เสมอ แทนที่จะตรงไปหาเตียงแล้วล้มตัวนอนสลบไสลไปจนเช้า เขากลับตรงเข้าครัวแล้วสั่งให้เครื่องต้มกาแฟทำงานเอาไว้ ก่อนจะเดินขึ้นห้องนอนเพื่อผลัดเสื้อผ้าออก จากนั้นก็หายเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำเพื่อเรียกความสดชื่นให้กลับคืนมา และอีกราวยี่สิบนาทีต่อมา นายแพทย์ทิน โชคมงคลกิตติภูมิ ก็ถือถ้วยกาแฟถ้วยโตขึ้นมายืนจิบรับลมร้อนตอนหัวค่ำอยู่ที่ระเบียงห้องนอนของเขา โดยมีเพียงเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวคลุมร่างเพียงตัวเดียว

เสียงเพลงของหัวหน้าแก๊งฟันน้ำนมดังแว่วๆ มาพร้อมกับเสียงพวกเด็กๆ ตะโกนว๊ากตามท่อนฮุกของเพลงอย่างเอาจริงเอาจัง และเสียงหัวเราะเฮฮาดังมาจากบ้านของเพื่อนบ้านที่อยู่ถัดไปสองหลัง ดังมาดึงดูดความสนใจของเขา เสียงเด็กๆ ที่หัวเราะอย่างมีความสุขนั้นทำให้เขาเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวได้เสมอ จับใจความได้ว่านั่นเป็นงานเลี้ยงวันเกิดของใครสักคนที่อยู่ในบ้านหลังนั้น และจะต้องเป็นติ่งตัวน้อยๆ ที่เหนียวแน่นของคู่ดูโอ้หัวหน้าแก๊งอย่างแน่นอน ครั้งสุดท้ายที่เขาสัมผัสกับกับบรรยากาศของปาร์ตี้วันเกิดนี่มันเมื่อไหร่กันนะ หมอทินเริ่มปล่อยความคิดให้ล่องลอย ถึงแม้จะแสนเหนื่อยและอ่อนเพลียมากมายอย่างนี้ก็เถอะ และแม้จะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าการพักผ่อนนอนหลับเป็นสิ่งจำเป็นต่อสิ่งมีชีวิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับมนุษย์ผู้ใช้มันสมองเป็นอาวุธก็ตาม แต่เขากลับรู้สึกว่าการนอนหลับนั้นทำให้เขาต้องสูญเสียเวลาอันมีค่าไปอย่างน่าเสียดายตั้งหลายชั่วโมงต่อวัน ดังนั้นเขาจึงไม่ใคร่จะกระตือรือร้นอะไรเมื่อถึงเวลาที่จะต้องเข้านอนวักเท่าไหร่ และดูเหมือนว่าแนวคิดนี้มันจะเหมาะเหม็งกับอาชีพหมอผ่าศพของเขายังกับผีเน่ากับโลงผุเสียด้วยสิ บ่อยครั้งที่ภรรยาของเขา ไอริณ จะแสดงความเป็นห่วงเป็นใยเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง แต่เขาก็มักจะทำเป็นเฉยและเฉไฉไปเรื่องอื่นทุกครั้งไปเช่นกัน

ชายหนุ่มมองไปที่นอกกำแพงรั้วของหมู่บ้านด้านที่ยังคงเป็นที่นาแปลงเล็กๆ ที่อยู่ทางด้านข้างของตัวหมู่บ้าน ถัดไปราวหนึ่งร้อยเมตร เป็นที่ตั้งของบ้านไม้เก่าโกโรโกโสหลังนั้น ที่ไม่รู้ว่ารอดพ้นจากน้ำมือของพวกนายทุนบ้านจัดสรรมาได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ถูกล้อมรอบไปด้วยหมู่บ้านขนาดใหญ่ทั้งสามด้าน ส่วนด้านที่เหลือก็เป็นที่ตั้งของโกดังขนาดใหญ่ของบริษัทขนส่งสินค้าแห่งหนึ่ง ทำให้กลายเป็นที่ตาบอดไปโดยปริยายอย่างนั้น หมอทินสงสัยว่ามันจะมีคนอยู่อาศัยแยู่ในบ้านนั่นหรือเปล่านะ เพราะเท่าที่เคยสังเกตดูตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านนี้ เขาก็ไม่เคยได้เห็นความเคลื่อนไหวใดๆ ของบ้านหลังนั้นเลย

แต่ก็นั่นแหละ เขาจะไปรู้ได้ยังไง นับครั้งได้ที่เขาจะให้ความสนใจกับบ้านเก่าๆ หลังนั้น อย่าว่าแต่บ้านร้างนั่นเลย แม้แต่บ้านใกล้เรือนเคียงรั้วชิดติดกันอย่างบ้านข้างๆ นี่ เขายังไม่รู้เลยว่าใครเป็นใครบ้าง เพราะไม่มีโอกาสที่จะไปทำความรู้จักเนื่องจากการงานที่รัดตัวจนแทบกระดิกปลีกตัวไปไหนไม่ได้เลย อีกอย่างมันก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรที่เขาจะต้องไปจับตามองเสียหน่อย เขายืนจิบกาแฟไปอย่างทอดอารมณ์ พยายามอย่างยิ่งที่จะผ่อนคลายกายและถอนใจออกห่างจากงานชั่วคราวเพื่อที่จะได้พักผ่อนเสียที แต่กลับกลายเป็นว่าความนึกคิดของเขาก็ตีรวนหวนกลับไปที่ห้องทำงานของเขาอีกจนได้

ตั้งแต่ทำงานนิติเวชมาเป็นเวลาสิบสามปี เคสล่าสุดนี้ดูเหมือนจะเป็นเคสที่แปลกและน่าตื่นตะลึงสะพรึงที่สุดในชีวิตการทำงานของเขาเลยก็ว่าได้ เขาเคยผ่าชันสูตรศพที่ตายอย่างผิดธรรมชาติมาก็ไม่น้อย แต่ไม่มีเคสไหนที่จะทั้งน่าสยองและแปลกประหลาดเทียบกับเคสนี้ได้เลย ศพถูกพบอยู่ในโกดังร้างที่อยู่ห่างจากหมู่บ้านที่เขาอยู่นี้ไปเพียงแปดร้อยเมตรเท่านั้น เป็นศพของผู้หญิงคนหนึ่งสภาพศพของเธอดูสดใหม่แต่ไม่มีหัวและกระดูกสันหลัง รวมถึงอวัยวะภายในบางชิ้น อย่างหลอดอาหารลำไส้และกระเพาะอาหารถูกเอาออกไปจากร่างของเธอ จนถึงตอนนี้ก็ยังคงไม่มีใครค้นหาชิ้นส่วนเหล่านั้นเจอเลย จากการผ่าพิสูจน์ที่เขาหน้าดำคร่ำเคร่งทำมาตลอดเวลามากกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมงก่อนนี้ พบว่าเส้นใยประสาทส่วนบนของลำตัวก็หายไปด้วยเช่นกัน

ที่น่าประหลาดก็คือ กระดูกซี่โครงของศพถูกแหวกออกจนอ้ากว้างตรงกึ่งกลางของกระดูกสันอกแมนูเบรียมบริเวณใต้ลูกกระเดือกลากยาวลงไปถึงใต้สะดือ ในความเป็นจริงแล้ว การที่ศพถูกแหวกอกอย่างนี้ เป็นเรื่องปกติไม่ใช่รึไงที่จะต้องมีเลือดทะลักออกมาจากบาดแผลที่เกิดการฉีกขาดเนืองนองเต็มเพื้นไปแล้ว แต่ศพนี้กลับไม่มีเลือดออกเลยแม้แต่หยดเดียว แถมรอยแหวกต่างๆ ทั้งรอยแยกระหว่างกระดูกหน้าอกและกล้ามเนื้อต่างๆ ที่เกิดขึ้นตอนที่ฆาตกรตัดเอาหัวและกระดูกสันหลังออกไปนั้น กลับไม่ทิ้งร่องรอยรูปแบบของมีคมใดๆ ปาด เฉือนหรือเฉาะผ่านเนื้อหนังเข้าไปไว้ให้เห็นเลยแม้แต่รอยขีดข่วน คล้ายกับว่ามันถูกถอดออกไปเหมือนแยกส่วนตัวต่อเลโก้ยังไงยังงั้น "มันจะเป็นไปได้ยังไงวะ!" เขาเผลอสบถออกมาเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้อย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นนี้

จากการเปรียบเทียบลายนิ้วมือของศพเพื่อระบุอัตลักษณ์บุคคลที่เขาได้รับข้อมูลมาจากทางตำรวจ เป็นหลักฐานเพียงอย่างเดียวที่ทำให้รู้ว่าศพนี้เป็นของหญิงสาว อายุประมาณ 25-30 ปี ชื่อนางสาวราตรี เพ่งตามอง มีอาชีพเป็นพนักงานขายของร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง มีการพบเห็นเธอเป็นครั้งสุดท้ายที่บริเวณร้านค้าริมถนนใกล้ที่พักของเธอ ก่อนที่จะมีคนไปพบว่าเธอกลายเป็นศพไม่มีหัวไปเสียแล้ว อยู่ในโกดังร้างแห่งย่านชานเมืองใกล้ๆ กับที่ทำงานของเธอนั่นเอง ไม่มีใครรู้ว่าเธอไปทำอะไรที่นั่นกันแน่ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่เขาจะต้องไปใส่ใจ คำถามตัวโตเท่าตึกวนเวียนอยู่ในหัวของเขาตลอดเวลานับตั้งแต่เดินออกจากห้องทำงานเมื่อชั่วโมงที่แล้ว และมันก็ยังอ้อยอิ่งอยู่กับเขามาจนถึงตอนนี้ แต่เขาก็ไม่สามารถหาคำตอบให้กับคำถามนั้นได้เลย นั้นก็คือ...แล้วหัวของศพนั่นหายไปไหน??!

แล้วความคิดของเขาก็มีอันต้องสะดุดลง เมื่อมีบางสิ่งดึงดูดความสนใจไปหาอย่างปุบปับฉับพลัน สายตาของเขาสะดุดเข้ากับดวงไฟสีแดงปนเขียวสามดวงลอยออกมาจากมุมมืดของบ้านไม้เก่าหลังนั้น แสงนั่นกระพริบสลับสีไปมาระหว่างเขียวกับแดงเป็นจังหวะกระชั้นวิบวับอยู่ในอากาศที่มืดมิดข้างนอกแนวรั้ว มันใหญ่เกินกว่าที่จะเป็นหิ่งห้อยและอยู่สูงเกินกว่าที่ไฟฉายหรือไฟประดิษฐ์ใดๆ จะขึ้นไปทำแสงแบบนั้นได้ และเขาก็มั่นใจสุดๆ ว่าสิ่งนั้นไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับ UFO หรือมนุษย์ต่างดาวอย่างแน่นอน พวกมันฉวัดเฉวียนตรงรี่เข้าหาหมู่บ้านอย่างรวดเร็วและ ดูเหมือนว่าพวกมันจะมีจุดหมายที่แน่นอนอยู่ที่บ้านหลังที่กำลังมีปาร์ตี้วันเกิดที่กำลังสนุกสนานครึกครื้นนั่น หมอทินพยายามเขม้นมองจนลูกตาแทบจะทะลุกระจกแว่นตาออกมาอยู่แล้ว แต่ในระยะไกลขนาดนี้เขาก็ไม่สามารถบอกได้ว่ามันเป็นแสงของอะไรกันแน่ มันลอยลิ่วๆ เข้ามาทางหมู่บ้านและถูกตัวบ้านหลังใหญ่สองชั้นที่อยู่ถัดจากบ้านของเขาบดบังไปเสียจากสายตา

"อะไรวะน่ะ?" เขาพึมพำถามตัวเอง แต่แล้ว...การเพ่งตามองแสงประหลาดนั้นมันทำให้เขาเกิดอาการปวดขมับจิ๊ดขึ้นมา "โอย...บ้าเอ๊ย!" เขาสบถ พลางถอดแว่นตาทรงเหลี่ยมกรอบบางออกแล้วใช้นิ้วนวดขมับและหัวคิ้วเพื่อบรรเทาอาการ ดูเหมือนว่าการเพ่งตามองเข้าไปในจุดโฟกัสเล็กๆ ในความมืดนั่นจะทำให้เกิดอาการตาล้าเสียแล้วสิ ชายหนุ่มสวมแว่นตากลับเข้าที่ แล้วจู่ๆ ความง่วงหงาวหาวนอนก็เปิดฉากโจมตีเขาอย่างฉับพลัน เขาสะบัดหัวไล่ความง่วงงุนแล้วเปิดปากหาว พลางคิดว่าคงจะต้องถึงเวลาชาร์จแบตเตอรี่ให้ร่างกายเสียแล้วสินะ เขาตัดสินใจปล่อยเรื่องลูกไฟประหลาดนั่นออกไปจากหัวขณะที่เปิดปากหาวหวอดๆ อย่างต่อเนื่อง ทันใดนั้นเอง ปากของเขาก็ใีอันต้องค้างเติ่งอยู่กลางอากาศก่อนที่ความง่วงจะหายมลายวับไปเกือบจะในทันทีอย่างกับมีใครมาบีบท่อน้ำเลี้ยง กลายเป็นความตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้งด้วยอะดรีนาลีนที่ถูกสูบฉีดไปทั่วร่างกายอย่างปุบปับฉับพลัน

เสียงหวีดร้องเอะอะโวยวายอย่างแตกตื่นตกใจดังกระหึ่มขึ้นอย่างกะทันหัน กลบเสียงเพลงรื่นเริงของปาร์ตี้วันเกิดจนเกือบจะหมดสิ้น พร้อมกันกับที่เสียงหัวเราะเหือดหายไปจนหมดสิ้น กลับกลายเป็นเสียงร้องไห้ของพวกเด็กๆ ขึ้นมาแทน "หนีออกมา เร็วเข้า! มันไปทางนั้นแล้ว โอ้ย! ไปให้พ้นนะ!" เสียงของผู้ชายแหกปากร้องด้วยความเจ็บปวดดังลั่น "ว๊ายๆๆ เขาโดนมันกัดแล้ว ตายๆๆๆ ห้ามเลือดเขาก่อนเร็วเข้า ตะเอง...พาเด็กๆ เข้าบ้านไป" อีกเสียงของผู้ชายอีกคนที่ลีลาการพูดไม่ได้ตรงกับน้ำเสียงที่แหบห้าวนั่นเลยสักนิด เขาตะโกนโหวดเหวกเสียงแปร๋นๆ พอๆ กับช้างตื่นไฟ ประสานกับเสียงเด็กๆ ร้องไห้จ้าและเสียงแหลมปรี๊ดกรี้ดสนั่นของผู้หญิงอีกหลายคนดังประสานกันระงมไปหมด ไม่ทันไรเสียงหวีดร้องของผู้หญิงในวอลลุ่มที่ดังกว่าเป็นสิบเท่าก็ดังขึ้นมาข่ม "อย่าาาาา! ว้ายยยยย กรี้ดดดดด!" "อั๊ย! ออกไปให้พ้นนะ ไอ้ตัวบ้า! ช่วยด้วยค้าาาาคุณขาาาา...ช่วยด้วย!" เสียงผู้ชายคนเดิมตะโกนร้องขอความช่วยเหลือดังลั่น ทุกอย่างฟังดูสับสนวุ่นวายไปหมด

"เกิดบ้าอะไรขึ้นวะนั่น!?" หมอทินสบถอย่างตื่นตระหนกต่อสิ่งที่เขาได้ยิน อาการง่วงหงาวหาวนอนหายเป็นปลิดทิ้ง เขาวิ่งกลับเข้าไปในห้องนอนตรงไปยังลิ้นชักของโต๊ะหัวเตียง เปิดลิ้นชักบนสุดออกแล้วคว้าเอาปืนลูกโม่สมิทธิ์แอนด์วัตสัน687ขึ้นมาตรวจเช็ครังเพลิงให้แน่ใจว่ากระสุนถูกบรรจุไว้ครบทั้งหกนัดแล้ว จากนั้นก็วิ่งออกจากห้องนอน กระโจนลงบันไดตรงไปหาประตูหน้าบ้าน โดยที่เขาลืมไปเสียสนิทว่าทั้งเนื้อทั้งตัวมีเพียงเสื้อคลุมอาบน้ำตัวเดียวเท่านั้นที่ปกปิดร่างกายอยู่

เมื่อเขาวิ่งออกมาจากประตูรั้วบ้านมุ่งตรงไปยังบ้านหลังที่เกิดเหตุ ตอนนี้ความโกลาหลกำลังลุกลามออกมาจากบ้านหลังนั้นแล้ว ร่างที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือดของชายหญิงสี่ห้าคนวิ่งถลาออกมาสู่ถนนหน้าบ้านแล้วเตลิดเปิดเปิงไปกันคนละทิศละทาง รวมถึงผู้ชายเจ้าของเสียงร้องขอความช่วยเหลือคนนั้นด้วย "ช่วยด้วยค่าาา...อยู่ไม่ไหวแล้ว ตัวใครตัวมันก่อนนะคะคุณแม่ขาาาา!" เขาแหกปากไปพร้อมกับวิ่งตูดแป้นหนีไปทางท้ายหมู่บ้าน บ้านหลายหลังในละแวกนั้นเริ่มออกจากบ้านมาชะเง้อคอยาวยืดเป็นยีราฟขี้สงสัยเพื่อมองดูเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น หลายคนเริ่มจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเมามัน ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งวิ่งออกมาเพื่อที่จะให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ

"เกิดอะไรขึ้นครับคุณ เฮ้...คุณ!" หมอทินพยายามตะโกนถามชายหญิงวัยรุ่นคู่หนึ่งที่วิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากประตูรั้วบ้านมาทางเขาพร้อมกับร่างที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือดที่ส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ แต่สองคนนั้นกลับวิ่งเตลิดหนีออกไปโดยที่ไม่สนใจจะหันมาแม้แต่จะมองเขาด้วยซ้ำ "เกิดอะไรขึ้นครับคุณหมอ!" เป็นเสียงละล่ำละลักถามดังมาจากทางด้านหลัง ตามมาติดๆ ด้วยเสียงโลหะกระทบกันดังแกร๊ก "ปัดโธ่เว้ย! จะมาหลุดอะไรตอนนี้วะเนี่ย!" หมอทินหันไปมองก็พบว่าเขาคือรปภของหมู่บ้านที่กำลังทิ้งจักรยานตรวจการณ์ของเขาที่เหมือนจะมีปัญหากับโซ่ลงข้างทางโครมเบ้อเร่อเพราะลืมตั้งขาตั้ง เขาปล่อยให้มันล้มนอนแอ้งแม้งอย่างไม่แยแสแล้ววิ่งตรงเข้ามา "เกิดอะไรขึ้นครับคุณหมอ ทำไมสองคนนั้นถึงได้เลือดโชกอย่างนั้นล่ะครับ ผมเรียกก็ไม่ยอมตอบ วิ่งแน่บเข้าบ้านไปเลย" รปภหนุ่มถามด้วยความตื่นตกใจ "สองคนนั่นเป็นคนในหมู่บ้านเราเหรอ" หมอทินถาม "ครับ ลูกสาวบ้านตรงข้ามบ้านคุณหมอนั่นแหละครับ แล้วผู้ชายคนนั้นก็น่าจะเป็นแฟนเธอมั้งครับ แต่...ผมก็ไม่แน่ใจหรอกนะครับ" รปภตอบเร็วปรื๋อ

"แล้วนี่...เกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ มีใครเป็นอะไรอีกรึเปล่า แล้วคุณหมอเป็นอะไรรึเปล่าครับ" รปภหนุ่มร่างเล็กจัดการรัวคำถามชุดใหญ่ไฟกระพริบใส่ยังกับเป็นหมอซักคนไข้เสียเอง ไม่ทันที่หมอทินจะได้ตอบอะไร เสียงกรีดร้องของผู้หญิงมากกว่าหนึ่งคนก็ดังขึ้น เสียงร้องนั้นโหยหวนอย่างคนที่ได้รับความเจ็บปวดทรมานอย่างสาหัสสากรรจ์เอามากๆ และน่าจะดังมาจากทางสนามด้านข้างของตัวบ้าน "พจน์ ช่วยโทรเรียกรถฉุกเฉินที ตำรวจด้วย...ด่วนเลย!" ชายหนุ่มตะโกนสั่งรปภหนุ่มที่ทำหน้าตื่น พยายามชะเง้อคอมองข้ามกำแพงรั้วบ้านที่สูงเกินกว่าที่คนตัวเล็กอย่างเขาจะมองอะไรเห็นได้ "แล้วจะให้เรียกปอเต็กตึ๊งหรือร่วมกตัญญูดีครับหมอ!" ไอ่หนุ่มรปภลนลานถาม "จะเรียกให้มาแย่งกันเก็บศพแมวตายท้องกลมรีไง...ไม่ต้อง!" หมอทินตะคอกอย่างเผลอตัว ก่อนที่เขาจะหมุนตัวกลับและวิ่งเข้าในเขตบ้าน เพื่อตรงไปหาต้นเสียง

เขาวิ่งเร็วจี๋ผ่านเข้าประตูรั้วบ้านที่เปิดกว้างมาถึงสนามหญ้าหน้าบ้านที่ตอนนี้ร้างราผู้คนไปแล้วโดยไม่มีใครเต็มใจจะดุษณีแน่ๆ ข้าวของสำหรับงานเลี้ยงกลับกลายเป็นเพียงเศษขยะที่แตกหักเสียหายและระเนระนาดกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ บนพื้นหญ้ามีกองเลือดสดๆ ติดอยู่เต็มไปหมด เขาเห็นคนกลุ่มหนึ่งซึ่งมีทั้งเด็กชายหญิงรวมสามคนกับผู้ชายอีกหนึ่งและผู้หญิงอีกสองคน จับกลุ่มกันอยู่หลังประตูกระจกเลื่อนที่น่าจะปิดสนิทไปแล้วเพื่อกันไม่ให้อะไรที่พวกเขาต้องหนีนั่นบุกเข้าไปได้ พวกเขามีอาการตื่นกลัวอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะพวกเด็กๆ ที่พากันร้องไห้กระจองอแงเสียงลั่นจนทะลุกระจกมาเข้าหูเขา "บ้าอะไรวะเนี่ย!" หมอทินสบถ

ชายหนุ่มวิ่งตรงไปตรงจุดที่เขาคิดว่าจะเป็นจุดที่เสียงกรีดร้องนั้นดังมา และทันทีที่เขาโผล่พ้นมุมบ้าน"เห้ยเชี่ย!" หมอหนุ่มต้องหลุดอุทานเสียงหลง สองเท้าหยุดชะงักกึกอย่างกะทันหันจนหัวแทบคะมำ เมื่อเห็นภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า ร่างสามร่างนอนเหยียดยาวอยู่บนพื้นหญ้าสีเขียวสดที่ถูกตัดแต่งไว้เป็นอย่างดี ที่กลางหน้าอกของร่างเหล่านั้น เสื้อที่สวมใส่อยู่ฉีกขาดออกกระจุยกระจาย กระดูกซี่โครงถูกแหวกอ้าออกกว้างจนมองเห็นอวัยวะภายในเกือบจะครบถ้วนทุกชิ้นเหมือนหุ่นประกอบการเรียนวิชากายวิภาคที่เป็นเนื้อหนังของคนจริงไม่อิงตัวแสดง และที่สำคัญที่สุดก็คือ...ร่างทั้งสามที่นอนเป็นศพอยู่นั่น...ไม่มีหัวคิดอยู่เลยสักศพเดียว! "นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นวะเนี่ย!" ชายหนุ่มพึมพำขณะที่ตาจับจ้องอยู่กับร่างไร้หัวบนพื้นหญ้าอย่างตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น เขาค่อยๆ ก้าวเท้าเข้าไปดูศพที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วต้องเบิกตากว้างพลางยกมือขึ้นปิดปากไม่ให้หลุดเสียงร้องด้วยความตกใจออกมา แต่มันก็ไม่ได้ผลสักนิด "เชี่ย!" ชัดเลย สภาพศพทั้งสามเป็นเพศหญิงทั้งหมดและพวกเธอมีลักษณะเดียวกับศพที่เขาเพิ่งจะผ่าพิสูจน์ไปหมาดๆ ไม่มีผิดเพี้ยนเลย ทั้งๆ ที่สภาพศพถูกแหกอกจนซี่โครงเปิดอ้าออกอย่างนี้ แต่กลับไม่มีเลือดให้เห็นบนตัวหรือบริเวณรอบๆ ตัวศพเลยแม้แต่หยดเดียว แล้วรอยแหวกที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้มีลักษณะของการถูกของมีคมใดๆ ปรากฏให้เห็นเช่นกัน "ให้ตาย เกิดบ้าอะไรขึ้นที่นี่วะเนี่ย!" เขาครางเสียงเบาหวิวผ่านลำคอที่ตีบตันและแห้งผากขึ้นมาดื้อๆ

ฮอต

Comments

Tomoko Kuroki

Tomoko Kuroki

ถ้าไม่อัพเร็วๆ ฉันจะเสียใจแล้วนะ

2023-08-01

0

ทั้งหมด
เลือกตอน
1 งานเลี้ยงวันเกิด
2 เก็บตัวอย่าง
3 ห้องปฏิบัติการปรสิตวิทยา
4 ผู้ติดเชื้อ
5 เทียบเชึ
6 ศูนย์วิจัยอาร์ซีเอฟเอช
7 งานวิจัย
8 รายงานข่าวด่วน
9 ทางลัด
10 การกระจายพันธุ์
11 ความลับที่ถูกเปิดเผย
12 กองกอย
13 หมู่บ้านชลัดดาวิลล์
14 ไอริณ
15 S.O.S
16 กระสือและซอมบี้
17 เก็บกวาด
18 ทางเลือกจองคุณหมอ
19 การสอบสวน
20 ความแตกต่าง
21 องค์กรคู่ปรปักษ์
22 เทอเทิลแอนด์สเนล
23 สะกดรอยตาม
24 ปฏิบัติการปริศนา
25 ฐานวิจัยลับ
26 ทะลายรัง
27 โคตรว่านโพง
28 พ่อ แม่ ลูก
29 การลักพาตัว
30 ด็อกเตอร์ธานินทร์
31 คนทรยศ
32 คลังแสง
33 กองกอยวอริเออร์
34 พี่น้องเคลียร์ใจ
35 ล่าถอย
36 ปั๊มน้ำมัน
37 ด่านทหาร
38 หอพักหญิง
39 อุโมงค์ซิตี้
40 บันไดหนีไฟ
41 จตุรัสกลางเมือง
42 ทหารรับจ้าง
43 อุโมงค์ระบายน้ำ
44 ตึกใบหนาด
45 บนดาดฟ้า
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 45

1
งานเลี้ยงวันเกิด
2
เก็บตัวอย่าง
3
ห้องปฏิบัติการปรสิตวิทยา
4
ผู้ติดเชื้อ
5
เทียบเชึ
6
ศูนย์วิจัยอาร์ซีเอฟเอช
7
งานวิจัย
8
รายงานข่าวด่วน
9
ทางลัด
10
การกระจายพันธุ์
11
ความลับที่ถูกเปิดเผย
12
กองกอย
13
หมู่บ้านชลัดดาวิลล์
14
ไอริณ
15
S.O.S
16
กระสือและซอมบี้
17
เก็บกวาด
18
ทางเลือกจองคุณหมอ
19
การสอบสวน
20
ความแตกต่าง
21
องค์กรคู่ปรปักษ์
22
เทอเทิลแอนด์สเนล
23
สะกดรอยตาม
24
ปฏิบัติการปริศนา
25
ฐานวิจัยลับ
26
ทะลายรัง
27
โคตรว่านโพง
28
พ่อ แม่ ลูก
29
การลักพาตัว
30
ด็อกเตอร์ธานินทร์
31
คนทรยศ
32
คลังแสง
33
กองกอยวอริเออร์
34
พี่น้องเคลียร์ใจ
35
ล่าถอย
36
ปั๊มน้ำมัน
37
ด่านทหาร
38
หอพักหญิง
39
อุโมงค์ซิตี้
40
บันไดหนีไฟ
41
จตุรัสกลางเมือง
42
ทหารรับจ้าง
43
อุโมงค์ระบายน้ำ
44
ตึกใบหนาด
45
บนดาดฟ้า

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!