บทที่2 อาจารย์และศิษย์ 1

มหาเทพมองเซียนสตรีตรงหน้า ปรากฏว่ามีกลีบบุปผาติดอยู่บนปอยผม ไวกว่าความคิดมือของเขาก็เอื้อมไปหยิบบุปผากลีบนั้นออกแล้ว

"ท่านอาจารย์" ฮวาหลันช้อนตามองคนตรงหน้า ทว่าสีหน้าของเขานั้นราวกับคิดถึงบางอย่าง ทั้งอ้างว้าง เปลี่ยวเหงา และรวดร้าว เมื่อมหาเทพเห็นว่าฮวาหลันมองตนอยู่จึงชักมือกลับ ฮวาหลันเห็นดังนั้นจึงไม่คิดเอ่ยถามสิ่งใดต่อ บางสิ่งนั้นช่างยากเอ่ยถึง นางรู้ดีแก่ใจเพราะนางก็มีสิ่งที่ยากจะเอ่ยเช่นกัน เมื่อนางทำความเคารพเรียบร้อยแล้วนั้น บทเรียนระหว่างเขาและนางก็ได้เริ่มขึ้น

"บอกข้าได้หรือไม่ สงครามเมื่อ40,000ปีก่อนเกิดขึ้นเพราะเหตุใด" มหาเทพจรดปลายพู่กันหางจิ้งจอกลงบนแผ่นไม้ ตรวจทานตัวหนังสือที่ถูกเขียนลงเมื่อครั้งก่อนที่ได้พบกัน กาลเวลาผ่านมาเนิ่นนาน ไม่คาดคิดว่านับตั้งแต่เหตุการณ์วุ่นวายครานั้นได้ผ่านพ้นไปถึง6,000ปีแล้ว

"ตามตำราบันทึกสงครามสวรรค์กล่าวว่า ครั้นเมื่อยามบุปผชาติทั่วทั้งแดนสวรรค์เหี่ยวเฉาไร้ซึ่งสีสัน เทพปรภพและเทพมารผิดใจและทำสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ เมื่อสงครามยุติลงก็ไม่มีผู้ใดพบเห็นเทพปรภพและเทพมารอีกเลย"

"ข้าตอบถูกหรือไม่ ท่านอาจารย์" ประมุขน้อยแห่งแดนบุปผากล่าวด้วยน้ำเสียงใส ตำราบันทึกสงครามสวรรค์นี้นับว่าน่าสนใจนักหากเทียบกับบันทึกบรรพชนที่มีรายนามบุคคลสำคัญให้ต้องจดจำ

"ถูกต้อง เช่นนั้นเจ้ารู้หรือไม่เหตุใดแดนบุปผาจึงใช้นามว่าฮวาหลินหลิง"

"เพราะฮวาหลินหลิงนั้นคือนามเทพธิดาแดนบุปผาองค์ก่อน เพื่อเป็นการเคารพท่านที่ดับขันธ์ลงจึงนำนามของท่านมาตั้งเป็นชื่อดินแดน" เรื่องราวนี้ฮวาหลันเข้าใจอย่างแจ่มชัด เพราะเปรียบเสมือนเรื่องเล่าในแดนบุปผา พร้อมยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจในความรู้ของตน มหาเทพเมื่อเห็นดังนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย

"อ๊า!!!! ท่านอาจารย์ ท่านยิ้มเป็นด้วยหรือ ประหลาดจริงแท้" ฮวาหลันเมื่อเห็นดังนั้นก็ตะโกนออกมาพร้อมยืนขึ้น ดูท่าคงต้องสอนมารยาทให้อีกสักหน่อย

"นี่...ข้ายิ้มหรือ" เขาจับใบหน้าตนที่เปื้อนยิ้มอยู่ คิดประหลาดใจ ทั้งที่ตัวเขาควรไร้ความรู้สึกใด ๆ แล้ว เหตุใดจึงยิ้มออกมา 

"นี่เจ้า เมื่อครู่นี้บอกว่าข้าประหลาดใช่หรือไม่ พูดเช่นนั้นกับข้าที่เป็นอาจารย์สมควรแล้วหรือ" เมื่อนางได้ยินดังนั้น ใบหน้าเปื้อนยิ้มของนางก็หุบลง หยดน้ำสีใสค่อย ๆ ไหลไปตามกรอบหน้า ในใจคิดว่าซวยแล้ว 

"อะ อาจารย์ ท่าน...จะไม่ลงโทษข้าใช่หรือไม่"

"นั่นสิ ข้าจะลงโทษเจ้าอย่างไรดีนะ"

วาโยเอื่อยพัดกลีบดอกท้อปลิวไสว เสียงบ่นงึมงำที่ลอยมากับสายลมดึงความสนใจจากคนผู้หนึ่งขณะยืนชมป่าท้อ เขามองเซียนสตรีนางหนึ่งที่กำลังกวาดพื้นอยู่พลางครุ่นคิด 

"ที่แห่งนี้ไม่อนุญาตให้ผู้ใดย่างกรายเข้ามามิใช่เหรอ" เขาเอ่ยพร้อมเดินไปทางสตรีนางนั้น หมายจะสอบถามให้กระจ่าง 

"เจ้าคือผู้ใด เหตุใดจึงลักลอบเข้ามายังที่แห่งนี้ ไม่รู้หรือว่าที่นี่ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้ามา" เมื่อนางได้ยินดังนั้นจึงหันกลับมามอง เรือนผมสีดอกฝ้ายของนางปลิวไสวไปตามสายลม ทว่าสิ่งที่ออกมาจากปากสีกุหลาบของนางนั้นตัวเขาเองกลับไม่เข้าใจแม้แต่น้อย

"หาว่าข้าลักลอบเข้ามาอย่างนั้นเหรอ ข้าต่างหากต้องถามว่าเจ้าเป็นผู้ใด เหตุใดจึงเข้ามายังที่แห่งนี้ ผู้บุกรุก" นางกล่าวพร้อมยกไม้กวาดขึ้นมาชี้หน้าเขา ใบหน้าขาวคิ้วขมวดอย่างเห็นได้ชัด 

"เจ้าไม่รู้จักข้าอย่างนั้นเหรอ ข้าว่าข้าก็โด่งดังอยู่พอสมควรนะ หรือว่าเจ้ามาในป่าเขาที่ใดกัน"

"จริงอยู่ สถานที่ที่ข้าจากมานั้นเต็มไปด้วยหุบเขาและมวลพฤกษา ทว่าตัวเจ้าที่แม้แต่ข้ายังไม่รู้จักนั้นมิใช่ว่ามาจากเขตชายแดนสวรรค์เหรอ"

"นี่เจ้า!!!" ราวกับภาพหยุดนิ่ง ทั้งสองจ้องกันอย่างไม่ละสายตา จนเวลาผ่านไปครู่หนึ่งเขาจึงยอมบอกเหตุผลที่มายังที่แห่งนี้ 

"ข้ามาพบมหาเทพ ส่วนเจ้าข้าไม่สนใจหรอกนะว่าคือผู้ใด แต่ถ้าเจ้าทำสิ่งใดที่สร้างปัญหาให้ที่แห่งนี้ล่ะก็ข้าไม่ปล่อยไว้แน่" กล่าวจบเขาจึงเดินจากไป คำกล่าวของเขานั้นขัดใจนางนัก จริงอยู่ที่นางนั่นชอบสร้างปัญหาและแอบหนีเรียนไปบ้าง ทว่ากับสถานที่ที่งดงามอย่างป่าท้อนี้นางไม่เคยคิดสร้างปัญหาให้แม้แต่น้อย

"ข้ากวาดกลีบดอกท้อเสร็จแล้ว ท่านอาจารย์" ฮวาหลันย่างกรายเข้ามาในศาลาสีชาด ภาพเทพทั้งสอง ผู้หนึ่งเกศาขาวอาภรณ์ดำ อีกผู้หนึ่งเกศาดำอาภรณ์ม่วง กำลังดวลหมากล้อมกันอย่างดุเดือด บรรยากาศเงียบงันที่เต็มไปด้วยแรงกดดันนี้ทำให้นางไม่กล้าเอ่ยปากทำได้เพียงเดินเข้าไปนั่งมองอย่างเงียบเชียบเท่านั้น

'กลยุทธ์ศึกของท่านอาจารย์นั้นช่างแยบยลนัก เพียงไม่นานกลับล้อมเทพผู้นี้จนอยู่หมัด' นางคิดเช่นนั้น เพียงไม่นานนักตัวหมากของมหาเทพก็เต็มกระดานเป็นผลให้เขาชนะเป็นที่เรียบร้อย

"ต้าเหนิง เรื่องที่เจ้ากล่าวมานั้นเป็นความจริงหรือไม่" เมื่อมหาเทพวางหมากตัวสุดท้ายลงจึงได้ทบทวนเรื่องที่คุยกับเทพตรงหน้าอีกรอบหนึ่ง เขารู้อยู่แล้วว่าสักวันต้องเกิดเรื่องเช่นนี้ ทว่าไม่คาดคิดว่าเรื่องจะถูกเตรียมการไว้รวดเร็วถึงเพียงนี้

"เป็นเรื่องจริง ดังที่ท่านได้ทำนายไว้ ณ ตอนนี้สถานการณ์ไม่น่าไว้ใจ เผ่ามารเริ่มรวบรวมกำลังพล คาดว่าอีกไม่เกินสองหมื่นปีเผ่ามารต้องทำลายสนธิสัญญาระหว่างเผ่าเทพและเผ่ามารแน่นอน" คำพูดของเทพท่านนี้ช่างเข้าใจยาก สัญญาระหว่างเผ่าเทพและเผ่ามารมีมาแล้วก็ว่า30,000ปี เหตุใดเผ่ามารต้องทำลายด้วย เรื่องในครานี้ฮวาหลันฟังไม่เข้าใจแม้แต่น้อย

"หากเราทำลายเผ่ามาร สังหารจักรพรรดิมารเสียตั้งแต่ตอนนี้ท่านคิดเห็นอย่างไรท่านอาจารย์"

"ไม่ได้!!!" มหาเทพตอบทันควัน ลุกขึ้นยืนกะทันหันจนเก้าอี้นั่งล้มลง ฮวาหลันและเทพอีกองค์เมื่อได้ยินดังนั้นจึงแสดงอาการณ์ตกตะลึง เดิมทีมหาเทพมิใช่ผู้ที่จะกล่าววาจาด้วยท่าทีโกรธเกรี้ยวเช่นนี้ เหตุใดครานี้จึงมีอารมณ์รุนแรงนัก 

"มีเพียงสงครามเท่านั้นที่จะให้เกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด เจ้าเข้าใจหรือไม่ต้าเหนิง" มหาเทพยกเก้าอี้นั่งกลับเหมือนเดิมแล้วนั่งลง ความอึดอัดใจนี้แผ่กระจายไปทั่วศาลาสีชาดจนเหล่าผีเสื้อและนกน้อยหนีหายไปครู่หนึ่งจึงถูกทำลายลงโดยฮวาหลัน

"จะว่าไปข้ายังไม่ได้แนะนำตัว ข้า ฮวาหลัน ประมุขน้อยแห่งฮวาหลินหลิง ขอให้ข้าได้รินชาให้ท่านสักถ้วยเพื่อขออภัยที่ข้าเสียมารยาทต่อท่านเทพเมื่อสักครู่ได้หรือไม่"

"แน่นอน ตัวข้านั้นมีนามว่า ต้าเหนิง เทพอัคคีแห่งหุบเขาอิ๋งโฮ่วฉง แดนทักษิณ ยินดีรับคำขอโทษของท่านประมุขน้อย" เมื่อเห็นว่าฮวาหลันคำนับตน ต้าเหนิงจึงรับคำนับด้วยความยินดี

"ในเมื่อรู้จักกันแล้วก็ดี ต้าเหนิง ประมุขน้อยแห่งแดนบุปผาผู้นี้คือคู่หมั้นของข้า ฮวาหลัน เทพอัคคีผู้นี้คือศิษย์พี่ของเจ้า"

"ว่ายังไงนะ!!!" ทั้งสองหันหน้ามาหาผู้ที่เป็นอาจารย์ตนโดยมิได้นัดหมายทั้งยังตะโกนดังลั่นด้วยความตกใจ 

"ต้าเหนิง ประมุขน้อยแห่งแดนบุปผาผู้นี้คือคู่หมั้นของข้า ฮวาหลัน เทพอัคคีผู้นี้คือศิษย์พี่ของเจ้า" เขาทวนซ้ำอีกคราหนึ่ง เพราะคิดว่าศิษย์ของเขาทั้งสองไม่เข้าใจสิ่งที่เขาเอ่ยเมื่อครู่ ทว่าสิ่งที่ได้รับกับมานั้นมีเพียงความเงียบไร้ซึ่งการตอบสนองใด ๆ จากศิษย์ทั้งสองคนทำให้เขาพูดอีกครั้งหนึ่ง

"ต้าเหนิง ประมุขน้อยแห่งแดนบุปผาผู้นี้คือคู่หมั้นของข้า ฮวาหลัน เทพอัคคีผู้นี้คือศิษย์พี่ของเจ้า"

"ข้าเข้าใจคำพูดท่านท่านอาจารย์ ข้าเพียงตกใจเล็กน้อยที่ท่านเลือกเซียนสตรีปากจัดผู้นี้มาเป็นคู่ครองและศิษย์ท่าน"

"ข้าเองก็คิดเช่นกันท่านอาจารย์ ไม่คาดคิดว่าข้าจะได้เทพปากจัดเช่นนี้มาเป็นศิษย์พี่ร่วมอาจารย์เช่นกัน"

"นี่เจ้า!!! ไม่ใช่ว่าเมื่อครู่ยังกล่าวขอโทษข้าอยู่เหรอ เพียงแค่พริบตาจากเรียบร้อยรู้มารยาทกลับเปลี่ยนท่าทีเป็นปากจัดทั้งยังแก่นแก้วเช่นนี้ ท่านอาจารย์ ท่านคิดอะไรจึงรับนางเป็นศิษย์กัน" ทั้งสองหันมาทางอาจารย์ของตน ทว่าสิ่งที่ได้กลับมานั้นมีเพียงความนิ่งเงียบไร้ซึ่งท่าทีใด ๆ

"พวกเจ้าทั้งสองนั้นก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ ไม่เพียงแค่พูดจาขวานผ่าซาก ดื้อรั้น ไร้มารยาท กล่าวสิ่งใดก็ไม่ฟัง โดดเรียนอยู่บ่อยครั้ง รังแกผู้อื่น ทั้งยังสร้างความเดือดร้อนไปทั่วสวรรค์9ชั้นฟ้าอยู่ทุกวัน ข้าคิดว่าข้าเลือกศิษย์ได้ดีอยู่นะ" ราวกับประชด แม้ใบหน้าของมหาเทพจะถูกแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มที่ไม่ว่าสตรีนางใดได้พบเห็นล้วนต้องหลงใหล ทว่าต้าเหนิงและฮวาหลันที่ได้เห็นรอยยิ้มนั้นกลับไม่รู้สึกยินดีแม้แต่น้อย

"เจ้าทั้งสองคิดเห็นอย่างไรศิษย์รักของข้า" ทั้งคู่สะดุ้งเล็กน้อย ต้าเหนิงจึงตอบกลับไป

"แน่นอนว่าความคิดของท่านนั้นยอดเยี่ยมที่สุดท่านอาจารย์"

"ใช่แล้วท่านอาจารย์ ความคิดท่านนั้นยอดเยี่ยมแน่นอนอยู่แล้ว" ฮวาหลันกล่าวเช่นเดียวกับต้าเหนิง ในยามนี้ผู้ใดเล่าจะกล้าขัดใจอาจารย์ตน ทั้งสองจึงทำได้เพียงยอมรับบุคคลตรงหน้าเป็นศิษย์พี่และศิษย์น้องเท่านั้น มหาเทพมองภาพตรงหน้าอย่างยินดี ทว่าในใจนั้นยังคงวิตกเรื่องเผ่ามารอยู่ 

"เช่นนั้นแล้วต้าเหนิง เรื่องของเผ่ามารนั้นต้องฝากเจ้าคอยสอดส่องแล้ว"

"ขอรับท่านอาจารย์" เมื่อรับคำสั่งจากอาจารย์ตนเรียบร้อยแล้ว ต้าเหนิงจึงขอตัวกลับหุบเขาอิ๋งโฮ่วฉงทันที ท่าทีรีบร้อนของศิษย์พี่นั้นทำให้นางเข้าใจว่าเรื่องครานี้ต้องสร้างความลำบากและกลายเป็นเรื่องยาวใหญ่โตมากเป็นแน่ 

"ท่านอาจารย์ เผ่ามารคิดจะทำลายสัญญาจริงเหรอ เพราะเหตุใดกัน เช่นนั้นสองครามระหว่างเผ่าเทพและเผ่ามารจะเริ่มขึ้นใช่หรือไม่" แม้เดิมทีนางจะแก่นแก้วและสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นมากเพียงใด ทว่ากับสงครามนั้นเป็นสิ่งที่นางไม่เคยสัมผัสพบเจอมาก่อน สิ่งที่นางได้เรียนรู้มานั้นมีเพียงเรื่องเล่าที่ถูกถ่ายทอดต่อมาผ่านตำราบันทึกสงครามสวรรค์เท่านั้น มือของนางสั่นเทาเล็กน้อยด้วยความหวั่นวิตก สิ่งที่นางทำได้ในตอนนี้มีเพียงกุมมือตนไม่ให้สั่นไปมากกว่านี้เท่านั้น

"เป็นเรื่องจริง แม้ในยามนี้เผ่ามารจะยังคงเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบ ทว่าอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ หากในยามนี้เราบุกไปสังหารเผ่ามารจนสิ้น ในอนาคตย่อมต้องมีผู้อื่นก่อสงครามระหว่างเผ่าอีกอยู่ดี"

ฮอต

Comments

ฟิวแห่งแสงจันทรายามค่ำคืน☆

ฟิวแห่งแสงจันทรายามค่ำคืน☆

อัพอีกนะ

2023-08-12

0

ทั้งหมด

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!