แก๊งป่วนก๊วนพ่อลูกอ่อน

แก๊งป่วนก๊วนพ่อลูกอ่อน

บทที่ 1

"เอาล่ะวันนี้พอแค่นี้ จบการประชุมครับ"

ภายในห้องประชุมของบริษัท พนักงานต่างพากันเก็บเอกสารเพื่อเตรียมกลับไปทำงานของตัวเอง

โจเซฟ

ประธานใหญ่ของบริษัทอสังหา ที่ไม่ใช่เพียงแต่สร้างบ้าน โรงแรม รีสอร์ต แต่เขายังเป็นผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยอัลไพน์อีกด้วย เขาร่วมก่อตั้งมหาวิทยาลัยนี้พร้อมกับผู้ถือหุ่นใหญ่อีกสองคน นั่นก็คือเพื่อนสนิทของเขาเอง แม็กเวล และ ไป๋เทีย

ดูจากชื่อของมันสองคนก็รู้แล้วว่าไม่ธรรมดา แต่ละคนคือตัวตึงทั้งนั้น ครึ่งฝรั่ง ครึ่งจีน

ตั้งแต่เรียนจบมาเขาก็เข้ามาบริหารงานที่บริษัทอย่างเต็มตัว แต่ก็ไม่ลืมความฝันในวัยเด็กของตัวเองและกลุ่มเพื่อนสนิท ที่วาดฝันเอาไว้ว่าอยากมีมหาลัยเป็นของตัวเอง เพื่อที่จะให้ลูกให้หลานได้เรียนที่ดีๆ และจบออกมาอย่างมีคุณภาพ

แม้ว่าพวกเขาจะได้รับฉายาเจ้าชู้ตัวพ่อก็เถอะ แต่หากเขาถูกใจใครขึ้นมาจริงๆ เขาก็พร้อมที่จะถอดเขี้ยวถอดเล็บออกได้เหมือนกัน

"ท่านประธานคะ วันนี้มีนัดทานอาหารเย็นกับลูกสาวนายกรัฐมนตรี จะให้เตรียมรถไว้รอเลยไหมคะ"

"ไม่ต้องครับ เดี๋ยววันนี้ผมขับไปเอง"

"รับทราบค่ะ"

นัดทานอาหารเย็นกับลูกสาวนายกรัฐมนตรีเอาจริงๆ ผมก็ไม่ค่อยอยากจะไปสักเท่าไหร่หรอก เพราะว่าครั้งก่อนก็มีนัดทานอาหารกับลูกสาวท่านทูตของต่างประเทศ แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้นจบลงที่เตียงอย่างเคย ไม่ต้องถามว่าทำไมผมถึงไปติดต่อกับพวกคนใหญ่คนโต เพราะว่าผมไม่ได้ติดต่อเองแต่เป็นมัมของผมต่างหากที่ติดต่อให้

ข้อความ

"วันนี้ลูกชายของมัมอย่าลืมนัดทานอาหารเย็นกับลูกสาวเพื่อนมัมนะคะ"

แม่ของผมรู้จักกับพวกผู้ใหญ่ที่มีหน้ามีตามากมาย ทำให้ผมค่อนข้างทำงานสะดวกหน่อย เพราะไม่ว่าจะเริ่มลงทุนที่ไหน ก็จะมีคนมาคอยสนับสนุนตลอด

เวลา 19.00 น.

อีกด้าน

"พ่อคะ โรสไม่อยากไปค่ะ"

"ไม่ไป ไม่ได้ แม่แกนัดเขาไว้แล้ว มันจะเป็นการเสียมารยาทมากนะถ้าแกไม่ไป อยากหักหน้ากันหรือไง"

"เปล่าค่ะ ไม่ใช่แบบนั้น"

"ถ้าไม่ใช่ งั้นแกก็ไปแทนน้องสาวแกหน่อยเถอะ"

นั่นแหละที่ทำให้ฉันไม่อยากไป เพราะทุกครั้งเวลาเกิดปัญหาหรือมีอะไรผิดพลาด ทุกปัญหาจะมาตกอยู่ที่เธอ

ฉันชื่อโรส เป็นลูกสาวบุญธรรมของท่านนายกรัฐมนตรี พ่อกับแม่แท้ๆ ของเธอเสียไปเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่ว่าก็ได้ท่านผู้นี้นี่แหละที่ชุบชีวิตเลี้ยงเธอมาอย่างดี แต่เสียตรงที่เธอมักจะถูกมองข้ามอะไรหลายๆ อย่าง บางครั้งก็จะต้องไปเป็นเหมือนตัวแทนของน้องสาวเสมอ เหมือนกับครั้งนี้ด้วย

พริมา ลูกสาวแท้ๆ ของท่านนายกเธอชอบปฏิเสธนัดอะไรแบบนี้อยู่บ่อยๆ โดยให้เหตุผลแค่ว่า

"ไม่เอาหรอก แม่ชอบนัดแต่คนแก่ๆ"

เหตุผลเพียงแค่นั้นแหละที่ทำให้ฉันต้องมาตกเป็นแพะไปในตอนนี้

"ก็ได้ค่ะ แต่โรสขอแค่ครั้งนี้อีกครั้งเดียวนะคะพ่อ"

"อืม ฉันจะพยายามไปบอกแม่แกให้เลิกนัดอะไรแบบนี้สักที ฉันก็เบื่อแล้วเนี่ย"

ประมุขของบ้านบ่นอุบอิบก่อนจะหันไปสนใจกับเอกสารกองโตบนโต๊ะทำงาน

"แล้วจะให้โรสไปที่ไหนคะ"

"โรงแรมแคนวาร์"

"โอเคค่ะ แค่ทานอาหารเย็นแล้วกลับก็พอใช่ไหมคะ"

คงไม่ใช่จะมาขอนัดดูตัวหรอกนะ ถ้าเป็นแบบนั้นเธอยิ่งไม่มีทางไปเด็ดขาด

ฉันที่ตอนนี้กำลังเดินกลับเข้ามาในห้องนอน เพื่อชำระล้างร่างกายให้สะอาดก่อนจะออกไปทานอาหารเย็น วันนี้เธอค่อนข้างเหนื่อยนิดหน่อยเพราะที่ทำงานในแผนกวันนี้มีคนเข้ามาฝากครรภ์กันเยอะมาก เยอะจนเธอแปลกใจ จากที่งานในแผนกสูตินรีเวชมากว่าสามปีวันนี้คนมาเยอะกว่าทุกครั้งเลย

"เฮ้อ จะใส่ชุดไหนดีละเนี่ย"

ทั้งตู้เสื้อผ้า เท่าที่แหวกดูก็เห็นจะมีแต่ชุดกาวน์และชุดทำงานนี้แหละ ครั้นจะหาเวลาว่างไปซื้อเสื้อผ้าก็ต้องหาวันว่างแล้วหาวันว่างอีก เพราะฉันทำงานหามรุ่งหามค่ำ ใครขอสับเวรมาฉันไม่เคยปฏิเสธ ทำงานเหมือนร้อนเงิน

"ถ้างั้นเอาชุดนี้แล้วกัน ดูสุภาพหน่อยเผื่อคนที่เราเจอจะอายุเยอะแล้ว"

เธอหยิบชุดกระโปรงลายเรียบๆ ออกมาเตรียมไว้ เห็นว่าเป็นถึงเจ้าของธุรกิจอสังหาคงจะแก่หงำเหงือกน่าดู

...บทที่ 1 ...

...นัดทานอาหาร...

โรงแรมแคนวาร์

"นี่เรามาถึงก่อนเวลานัดเกือบยี่สิบนาทีเลยแฮะ"

ทีแรกก็คิดว่าจะไกล แต่พอลงจากรถได้ก็อ๋อ อยู่แค่เนี๊ยะ เคยได้แต่ขับรถผ่านไม่เคยเข้ามาสักที

"ได้จองไว้ไหมคะ"

"อ๋อค่ะ ชื่อโจเซฟ"

"เดี๋ยวเชิญตามมาทางนี้ได้เลยค่ะ"

เดินตามพนักงานผู้หญิงเข้ามานังที่โต๊ะแบบงงๆ ทีแรกไม่รู้ว่าห้องอาหารอยู่ที่ไหนด้วยซ้ำ โชคดีที่โลกเรามันมีอินเทอร์เน็ต

"สั่งอาหารเลยไหมครับเลดี้"

พนักงานชายเดินมารับออเดอร์อย่างสุภาพ ก่อนจะหยิบเมนูอาหารมาให้ดู แต่ก็ต้องตาเหลือกเมื่อเห็นราคา ความคิดตอนนี้คือเดินออกไปตอนนี้ทันไหมวะ ค่าอาหารนี่แค่จานเดียวพอๆ กับค่าแรงเธอทั้งวันเลยนะ

"เอ่อ ขอโทษนะคะคือ ขอสั่งเป็นสเต๊กหมูบาบีคิวแล้วกันค่ะ ส่วนเครื่องดื่มรับน้ำเปล่า"

"ครับเลดี้ กรุณารออาหารสักครู่"

อาหารบ้าอะไรจะแพงหูฉีกขนาดนี้เนี่ย แต่ว่าถ้ามองจากบรรยากาศก็ถือว่าคงสมราคาแหละนะ ทานอาหารได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศภายในตัวเมืองที่มีแสงไฟยามค่ำคืน จุดนี้ยังมองเห็นชิงช้าสวรรค์และมีแม่น้ำคั่นกลางดูสวยแปลกตาดี

ครืดดด.. เสียงคนเดินมาลากเก้าอี้ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้าม แต่เดี๋ยวก่อนนะที่แม่เธอนัดไว้ไม่ใช่คนที่ออกแนวเสี่ยๆ หรอกเหรอ

ถ้าหน้าตาฟ้าประธานขนาดนี้น้องสาวเธอไม่มีทางปฏิเสธแน่ๆ

"ขอโทษนะคะ คุณนั่งผิดที่หรือเปล่า"

"ฮะ?"

เขาทำหน้าตาเหมือนไม่เข้าใจที่ฉันพูด หรือว่าฉันต้องพูดภาษาอังกฤษไหม เพราะหน้าตาเขานี่ออกฝรั่งดองมากเลย

"Did you sit at the wrong table?"

"ไม่ครับ ไม่ผิด"

อ่าว หรือว่าฉันผิดเองวะ ตายแล้วขายขี้หน้ามาก แล้วแถมเขาก็พูดไทยได้คล่องปรื๋อ

"สงสัยฉันผิด ขอโทษด้วยนะคะ"

"คุณเป็นลูกสาวนายกรัฐมนตรี?"

"เอ่อคือ ใช่ค่ะ แต่ว่าเป็นลูกสาวบุญธรรมนะคะ"

"ครับ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่น่าจะผิด คุณสั่งอาหารหรือยัง"

"สั่งไปแล้วนิดหน่อยค่ะ"

พอบอกเขาเสร็จเขาก็ยกมือขึ้นเรียกพนักงาน ก่อนจะสั่งอาหารมาเพิ่ม

"กินอะไรเพิ่มสั่งได้นะครับ มื้อนี้ผมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง"

โห ก็ถ้ารู้ว่าเขาจะเลี้ยงฉันจะสั่งของที่แพงที่สุดเลย ปกติเธอเป็นตัวแทนของน้องสาวก็มาทานอาหารตามห้างสรรพสินค้าธรรมดา ไม่มีหรอกที่มานั่งทานอาหารค่ำดื่มด่ำบรรยากาศภายในตึกสูงเกือบร้อยชั้นที่มองเห็นวิวทิวทัศน์สวยขนาดนี้

"เอาแค่นั้นแหละค่ะ รีบกิน รีบกลับ"

ไม่ได้หยิ่งนะคะแต่แค่ทำตัวไม่ถูกเพราะวางตัวมาเรียบร้อยมากนึกว่าจะเจอคนแก่ ไม่คิดว่าคนที่เป็นเจ้าของอสังหาจะดูเด็กขนาดนี้

"..."

"ไม่คิดว่าคุณจะดูเด็กกว่าที่คิดนะคะ"

"ครับ?"

"ก็คิดว่าเจ้าของธุรกิจอสังหาคงจะมีอายุมากกว่านี้หน่อย"

"ผมพึ่งจะอายุยี่สิบแปด"

"อ๋อค่ะ แถมยังอายุน้อยด้วย"

"แล้วคุณละครับ"

"คะ ตอนนี้ยี่สิบหกค่ะ"

"ครับ ตามสบายนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ"

"..."

"ขออนุญาตเสิร์ฟอาหารนะครับเลดี้"

พนักงานที่รับออเดอร์เธอไปก่อนหน้า เขาก็เอาอาหารที่สั่งมาเสิร์ฟก่อนจะเดินออกไป

"เมนูนั้นเป็นเมนูที่ถูกที่สุดของเรา คุณไม่คิดว่าผมจะให้จ่ายค่าอาหารมื้อนี้เองหรอกใช่ไหมครับ"

"เอ่อ ทีแรกก็คิดแบบนั้นแหละค่ะ"

เมื่อกี้เขาพูดว่าเมนูที่ถูกที่สุดของเราเหรอ งั้นแสดงว่าที่นี่ก็...

"ฮ่าๆ คุณนี่ทำเอาผมแปลกใจหลายอย่างเลยนะครับ"

"ยังไงคะ"

"ก็หลายๆ อย่างครับ ว่าแต่ชื่ออะไรสาวน้อย"

สาวน้อยเหรอ? ให้ตายสิอายุอนาขนาดนี้แล้วแท้ๆ ยังจะมาเรียกฉันสาวน้อย คำว่าสาวน้อยนี่ใช้เรียกคนอายุยี่สิบหกหรือไง

"โรสค่ะ"

"ครับ ผมโจเซฟ"

"พอรู้มาบ้างคระ"

"ทานอาหารเสร็จแล้วจะไปไหนต่อครับ"

"ไม่น่าจะได้ไปไหนคะ อาจจะกลับบ้านเลย"

"งั้นเหรอครับ แล้วมายังไงครับ"

"ก็…มาแท็กซี่ค่ะ"

"เดี๋ยวผมไปส่งที่บ้าน"

"ไม่ขอรบกวนดีกว่าค่ะ"

“ผมเต็มใจครับ อย่าปฏิเสธล่ะ เพราะผมไม่ใช่ผูู้ชายประเภทที่ปล่อยให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ กลับแท็กซี่เองหรอกนะครับ”

“งั้นก็ขอรบกวนด้วยนะคะ”

แปลกใจละสิ เป็นถึงลูกสาวท่านนายกทั้งทีแต่ต้องมากนั่งแท็กซี่ ไม่ต้องแปลกใจหรอกว่าทำไมถึงต้องนั่งแท็กซี่ เพราะว่าฉันเป็นคนขอเอง จริงๆ ฉันก็มีสิทธิ์มีเสียงเทียบเท่าทุกคนภายในบ้าน แต่บางครั้งฉันก็รู้ตัวเองดีว่าควรอยู่ในจุดไหน

เพียงแต่ฉันไม่อยากถูกมองว่าเกาะพวกท่านกินไปวันๆ ส่วนที่ต้องนั่งรถมาเองเพราะว่าเธอเกรงใจคนขับรถ ถึงแม้จะรู้ว่าเขามาทำงานเพื่อแลกเงินกับเรา แต่ฉันไม่ได้มีส่วนช่วยจ่ายในส่วนนี้

ความคิดฉันในตอนนี้คือ ถึงจะเป็นลูกสาวบุญธรรมแต่ก็ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ฉันถูกรับไปเลี้ยงก็ตอนอายุสิบสองปีจำได้ว่าก่อนที่ครอบครัวจะประสบอุบัติเหตุฉันใช้ชีวิตกินหรูอยู่สบาย แต่พอเกิดเรื่องขึ้นชีวิตของฉันเหมือนพลิกกลับจากหน้ามือเป็นหลังเท้าไปเลย

จากที่เคยกินหรูอยู่สบายกลับต้องมากินนอนอยู่ในบ้านเด็กกำพร้าเกือบสองปี นั่นทำให้เธอรู้ซึ้งแล้วว่าชีวิตคนเรามันไม่แน่นอนเลยจริงๆ

ตั้งแต่นั้นมาฉันก็ใช้ชีวิตอย่างประหยัดและเรียบง่ายมาตลอด ถึงแม้ว่าในตอนนี้เธอจะมีงานทำ มีบ้านอยู่ มีรถใช้ มีอาหารกิน แต่ก็ไม่ลืมเรื่องราวชีวิตในสองปีที่ผ่านมาเลย

ถ้าถามว่าเคยกินหรูอยู่สบายแล้วทำไมครอบครัวถึงไม่มีมรดกให้ เพราะว่าในวัยสิบปีฉันไม่สามารถตัดสินใจด้วยตัวเองได้ ทนายเลยรอให้ฉันบรรลุนิติภาวะก่อนจึงจะสามารถจัดการทรัพย์สินในส่วนนั้นได้ แต่พอเวลาผ่านไปนานเข้าตอนนี้ฉันอายุยี่สิบหกแล้วแต่ก็ยังไม่ได้คุยอะไรเพิ่มเติมกับทนายคนนั้น

ส่วนญาติทางฝ่ายพ่อและฝ่ายแม่ พอตัวเองไม่ได้รับในสิ่งที่ต้องการต่างก็พากันแยกย้ายหนีหายกันหมด แต่ฉันไม่ได้สนใจหรอก และตอนนี้ก็พยายามใช้ชีวิตให้มีความสุขให้มากที่สุด...

"อาหารไม่ถูกปากเหรอครับ"

"ไม่ค่ะ อาหารรสชาติดีนะคะ แต่แค่มีเรื่องให้ต้องคิดนิดหน่อย"

"ครับ"

"..."

"..."

ต่างคนต่างเงียบไม่มีอะไรจะพูดกันต่อ ที่แม่เลี้ยงเธอนัดทานอาหารค่ำวันนี้เธอก็ไม่มั่นใจว่าท่านนัดดูตัว หรือว่านัดเพื่อทำความรู้จักกัน

"คุณโจเซฟใช่ไหมคะ ไม่ทราบว่าการนัดทานอาหารในวันนี้มีจุดประสงค์อะไรเป็นพิเศษเหรอคะ"

"ไม่รู้สิครับ ผมก็มาตามคำสั่งของมัม"

"อ๋อค่ะ งั้นก็ไม่น่ามีอะไรเป็นพิเศษสินะคะ"

"คงงั้นครับ"

ถ้าหากว่าไม่มีอะไรเป็นพิเศษค่อยน่าโล่งใจหน่อย จะว่าไปเขาคนนี้ดูดีมากเลยนะ ปกติเธอไม่ค่อยได้มองอาหารตาที่ดูดีขนาดนี้เลย ถือว่าเป็นการชดเชยที่ผ่านมาเจอแต่คนไข้แล้วกัน

เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 1

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!